ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – ตอนที่ 367 การเลือกสถานที่ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 367 การเลือกสถานที่ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ (1)

ไม่รู้ว่าการกลับชาติมาเกิดของอาจารย์ป้าเป็นอย่างไรบ้าง

ในกระท่อมมุงจากริมทะเลสาบบนยอดเขาหยกน้อย หลิงเอ๋อร์ สวมชุดฝึกฝนสีขาวเรียบๆ ลืมตาขึ้นบนฟูก และนิ่งงันไปเล็กน้อย

ผ่านไปเดือนกว่าแล้วนับตั้งแต่ศิษย์พี่กับอาจารย์อาไปแดนยมโลกจนบัดนี้ก็ยังไม่มีข่าวคราวมาเลย

แน่นอนว่า หลิงเอ๋อร์ ไม่ได้กังวลเรื่องที่ศิษย์พี่และอาจารย์อาออกไปอย่างกะทันหัน เพราะอย่างไรเสียก็มีเพียงตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของศิษย์พี่เท่านั้นที่ออกไป ในเวลานี้ ร่างหลักของศิษย์พี่น่าจะซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งของหอโอสถ

ไม่ ไม่ถูกต้อง…

หากพิจารณาจากมุมมองเท่าที่นางคิดได้ ‘หากนางคิดได้เช่นนี้ แล้วศิษย์พี่จะไม่คิดเช่นนี้ได้อย่างไร’ เช่นนั้น ก็เป็นไปได้ว่าร่างหลักของศิษย์พี่จะไม่ได้อยู่ในหอโอสถ!

ทุกอย่างล้วนเป็นภาพมายาและความลึกลับเท่านั้น!

“เหอะๆ” หลิงเอ๋อร์หยักโค้งมุมปากขึ้นเล็กน้อย และรู้สึกภูมิใจในตัวเองเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ได้

ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งก็เข้ามาในหูของนาง

“มาที่หอโอสถ ข้ามีบางอย่างจะบอกเจ้า”

“โอ้ เจ้าค่ะ” หลิงเอ๋อร์ลดแรงลงทันทีและกระซิบว่า “ศิษย์พี่ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ ข้าเพิ่งฝึกบำเพ็ญเสร็จเจ้าค่ะ…”

“อืม” หลี่ฉางโซ่วตอบกลับ และเสี้ยวสัมผัสซียนรับรู้นั้นก็หายไป

หลิงเอ๋อร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกและลุกยืนขึ้นจากเบาะนั่งสมาธิ แม้ชุดฝึกที่สวมใส่จะหลวม แต่ก็ไม่อาจปกปิดเรือนร่างเพรียวบางของนางได้

นางไปที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อดูการแต่งกายของนางก่อน จากนั้นก็วางถุงเก็บสมบัติที่บรรจุตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของศิษย์พี่ไว้หน้ากระจก แล้ววางหวีไม้ไว้บนนั้น

หลังจากนั้น นางก็ไปเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงยาวอย่างที่นางชอบสวมเป็นปกติที่ด้านหลังฉากกั้น แล้วขี่เมฆไปที่หอโอสถ

ทันทีที่นางเห็นศิษย์พี่ หลิงเอ๋อร์ก็รู้สึกว่าวันนี้มีบางอย่างผิดปกติกับศิษย์พี่…

นางรีบถามว่า “ศิษย์พี่ อาจารย์อาจิ่วมีปัญหาหรือไม่?”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “ไม่หรอก ไม่ต้องห่วง

อาจารย์อาและร่างจำแลงของข้ากำลังเดินทางกลับแล้ว จะไปถึงประตูสำนักในอีกครึ่งชั่วยาม อาจารย์อากำลังทะลวงด่านเซียนเทียน จึงต้องล่าช้าออกไปพักหนึ่ง ส่วนเรื่องการกลับชาติมาเกิดของอาจารย์ป้าว่านเจียงอวี่ก็ได้เตรียมการเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ครั้งนี้ อาจารย์อายังทะลวงด่านไม่เสร็จสิ้น เมื่อกลับมาถึงสำนักแล้ว นางจะเข้าปิดด่านเพื่อรวมขอบเขตพลังของนาง และช่วงเวลาต่อจากนี้ไป เจ้าก็ฝึกบำเพ็ญได้อย่างสงบสุข”

หลิงเอ๋อร์กะพริบตาและถามเบาๆ ว่า “ศิษย์พี่… มีอันใดผิดปกติหรือไม่?”

หลี่ฉางโซ่วมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าเขา และเห็นความกังวลและไม่สบายใจในดวงตาของนาง จึงกล่าวอย่างอบอุ่นว่า

“ข้าต้องเสี่ยงทำเรื่องบางอย่าง ซึ่งมีโอกาสจะทำมันได้มากกว่าเก้าส่วน เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก แต่เพื่อความปลอดภัย ไว้ข้าค่อยอธิบายบางอย่างให้เจ้าฟัง จะได้ไม่กลับล่าช้าไปอีก…”

หลิงเอ๋อร์กัดริมฝีปากเล็กน้อย ความกังวลในดวงตาของนางกลับยิ่งดูทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อกล่าวว่า “ศิษย์พี่ หากมีอันตราย เช่นนั้น ก็ไม่ต้องไปทำมันได้หรือไม่?”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “หลิงเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่า เรามีปรมาจารย์ในสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินของเราซึ่งก็คือปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตู?”

หลิงเอ๋อร์กะพริบตา

นางไม่รู้ว่าเหตุใดพี่ถึงกล่าวเช่นนี้ แต่ก็ยังรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า

“แน่นอนว่า ข้าย่อมรู้เรื่องนี้แล้ว เขาเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของท่านปรมาจารย์จอมปราชญ์แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินเท่านั้น ทุกวันนี้ เขาก็เป็นหนึ่งในปรมาจารย์ไม่กี่คนที่อยู่ภายใต้ท่านปรมาจารย์จอมปราชญ์ด้วย และเขายังเป็นที่รู้จักกันในนามศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋า … ”

“คราวนี้ ข้าจะทำร่วมกับปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่”

หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “ถึงแม้จะยังมีอันตรายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่สูงมากเกินไปเมื่อมีปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่อยู่ข้างๆ ข้า ไว้ข้าจะเรียกเจ้ามาเพื่อสั่งงานบางอย่างเพื่อความปลอดภัย บางที ครั้งนี้อาจจะต้องใช้เวลาอยู่ข้างนอกมากขึ้นสักหน่อย ข้าเกรงว่าจะไม่อาจทำให้เสร็จได้ทันเวลาที่เจ้าจะข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์และกลายเป็นเซียน เจ้าไม่ต้องคิดถึงเรื่องนี้ให้มากนัก”

หลิงเอ๋อร์ถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งอก บัดนี้ ความกังวลในดวงตาของนางส่วนใหญ่ได้หายไปแล้ว…

หลี่ฉางโซ่วไม่ได้ปดนางอย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่า สุดท้ายแล้ว เรื่องเฉกเช่นการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์นี้ ก็ยังต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น ไม่ว่าปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่จะแข็งแกร่งปานใด ก็ไม่อาจช่วยให้เขาผ่านพ้นทัณฑ์สวรรค์ได้…

อืม หากดูจากทั่วไปแล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้

ยิ่งกว่านั้น หลี่ฉางโซ่วก็ยังกังวลว่าหลังจากที่เขาผ่านพ้นทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ เหตุการณ์ที่คล้ายกับการขึ้นสู่เซียนก็จะเกิดขึ้น หากเขาไม่อาจจัดการเรื่องครอบครัวให้เหมาะสม เขาย่อมจะต้องเสียสมาธิในเวลานั้น

จากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็พลิกมือ หยิบกล่องผ้าปักสองกล่องออกมา

เขากล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้าเตรียมสองกล่องนี้เอาไว้ให้เจ้าเพื่อให้ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ของเจ้าได้สำเร็จ ภายในนั้น มีถุงเก็บสมบัติสองใบ ซึ่งแต่ละถุงก็จะมีถุงเก็บสมบัติอีกหลายสิบถุง รวมทั้งคู่มือแนะนำการใช้งานโดยละเอียด เมื่อเจ้าเข้าสู่คืนกลับเต๋าวิถีขั้นที่เจ็ดแล้ว หากข้ายังไม่กลับมา ก็จงเปิดกล่องทั้งสองนี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์”

หลายสิบ…

หลิงเอ๋อร์หยิบกล่องผ้าสองกล่องและอดจะบ่นพึมพำออกมาไม่ได้

ศิษย์พี่เตรียมของทุกอย่างสำหรับการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ให้นาง ตามความจริงที่ว่า ทุกทัณฑ์สวรรค์ที่ข้าจะเผชิญคือ สายฟ้าเทพสวรรค์ม่วงหรือ?

เมื่อมองดูกล่องผ้าที่มีคำว่า ‘ผิง’ และ ‘อัน’ ลงสลักเอาไว้ด้วยพลังเซียน หลิงเอ๋อร์ก็รู้สึกมีความสุขและอบอุ่นในใจยิ่งนัก จากนั้นก็โอบอุ้มกล่องผ้าสองใบเอาไว้ในอ้อมแขนของนางแล้วกล่าวกระซิบว่า “ขอบคุณศิษย์พี่เจ้าค่ะ”

“อืม” หลี่ฉางโซ่วยิ้มพลางพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “จำไว้ว่า ห้ามละเลยเรื่องนี้”

หลิงเอ๋อร์พยักหน้ารับปากพร้อมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม

เมื่อหลิงเอ๋อร์กลับไปที่กระท่อมมุงจากริมทะเลสาบ หลี่ฉางโซ่วก็เรียกสงหลิงลี่มาอีกครั้งเพื่อมอบหมายให้นางดูแลกรงสัตว์วิญญาณ ต้นไม้วิญญาณ และฐานปลูกถั่วเซียนในช่วงนี้ชั่วคราว

เมื่อหลี่ฉางโซ่วข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์และได้รับการรู้แจ้ง เขาก็อยากจะมีสมาธิอย่างเต็มที่ เขาไม่อาจวอกแวกได้

หลังจากนั้น เมื่อตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์และจิ่วจิ่วกลับมาที่ประตูสำนักแล้ว เขาก็ส่งจิ่วจิ่วกลับไปเข้าปิดด่านที่ยอดเขาพิชิตสวรรค์ จากนั้นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็แวะไปเยี่ยมอาจารย์ลุงจิ่วอู่

หลังจากกลับมาจากยอดเขาพิชิตสวรรค์แล้ว หลี่ฉางโซ่วก็เก็บตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ และไปพบอาจารย์ด้วยร่างหลักของเขา จากนั้นก็ไปยังสถานที่พำนักของผู้อาวุโสว่านหลินหยุนและนั่งคุยกับเขาพักหนึ่ง

จากนี้ เขาก็มีอะไรให้ต้องกังวลในใจอีกต่อไปแล้ว

หลี่ฉางโซ่วใช้กลวิธีเดิมอีกครั้ง ร่างหลักของเขาใช้วิชาแปลงร่างแล้วเข้าไปในพื้นที่ด้านหลังตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ จากนั้นก็ให้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์อีกตัวหยิบตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ขึ้นมาแล้วใส่ไว้ในแขนเสื้อของเขา…

หากพบศัตรูที่แข็งแกร่งก่อนที่จะได้พบกับปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ เขาก็ยังมีโอกาสที่จะหลบหนีไปได้มากกว่า

หลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็เดินไปใต้ดินเงียบ ๆ แล้วออกจากสำนักตู้เซียนไปโดยผ่านทางค่ายกลเคลื่อนย้ายชีพจรปฐพีทางเดียวขนาดเล็ก และรีบพุ่งไปยังสถานที่สำหรับการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ที่เขาเลือกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

เมื่อข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ขึ้นสู่เซียน หลี่ฉางโซ่วก็เลือกจะข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ที่ขอบแดนโลกมนุษย์

เพราะเขาพิจารณาแล้วว่า หากเผชิญหน้ากับศัตรูทั้งก่อนและหลังการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ เขาก็สามารถซ่อนตัวในโลกมนุษย์ได้ทันที ยิ่งกว่านั้น ยังมีผู้ฝึกบำเพ็ญอยู่ที่ขอบโลกค่อนข้างน้อย

ทว่าบัดนี้ เมื่อเขามีปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่คอยช่วยปกป้องเขาเพื่อข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เซียนจิน ดังนั้น ดัชนีความปลอดภัยภายนอกจึงสูง ยิ่งกว่านั้น พลังแห่งทัณฑ์สวรรค์เซียนจินก็ไม่อาจคาดเดาได้ ในครั้งนี้ เขาจึงไม่อาจไปที่ขอบโลกได้อีกต่อไปด้วยเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อมนุษย์ และเพิ่มกรรมร้ายของเขา ดังนั้นเขาจึงหาและค้นพบสถานที่ที่ค่อนข้างห่างไกลในดินแดนเทวะบูรพา

สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากสำนักตู้เซียนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือหกหมื่นลี้ มันค่อนข้างกันดารและไม่มีสิ่งมีชีวิต ดังนั้น ภายในรัศมีหมื่นลี้ จึงไม่มีสำนักเซียน มีเพียงเทือกเขารกร้างขนาดใหญ่ และปีศาจน้อยบางตัวที่ตั้งรกรากอยู่ในที่แห่งนี้

เป็นสถานที่ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ชั้นเยี่ยม

เมื่อสิบปีก่อน หลี่ฉางโซ่วจัดให้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์แอบมาจัดเตรียมวางกับดักที่นี่ และสำรวจเผ่าปีศาจในที่แห่งนี้ด้วย

จุดที่ใกล้กับภูเขารกร้างที่สุดที่เขาเลือกจะข้ามผ่านข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์นั้น มีฝูงเสือดาวดำอยู่ห่างออกไปหลายร้อยลี้ และตัวที่แข็งแกร่งที่สุดยังไม่ได้แปลงร่างและไม่ส่งผลกระทบต่อเขาเลย…

เมื่อร่างหลักของเขามาถึงที่นี่ หลี่ฉางโซ่วก็เริ่มเตรียมการขั้นสุดท้ายก่อนที่ทัณฑ์สวรรค์จะมาถึง

อย่างแรก เขาได้ไปที่ยอดเขาถัดจากภูเขารกร้างนี้ และเข้าไปในป่าทึบ จากนั้นก็ขุดกรงฟาราเดย์ซึ่งเขาใช้วัสดุล้ำค่าไปมากมายเพื่อสร้างมันขึ้นมา

เป็นรุ่นที่หนากว่าและใหญ่กว่ามาก!

จากนั้น เขาก็ย้ายกรงนกสูงสิบจั้งขึ้นไปบนยอดเขานี้เพื่อจะเชื่อมต่อกับเส้นชีพจรปฐพี

หากเขาต้านทานทัณฑ์สวรรค์ไม่ได้ ก็ยังมีโอกาสสูงที่จะใช้มันช่วยลดพลังของสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ลงได้

ทว่าทัณฑ์สวรรค์นั้น ไม่ใช่มีเพียงสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์เท่านั้น แต่ทัณฑ์สวรรค์นี้จะวิวัฒน์เป็นธาตุทั้งห้า ซึ่งจะจำกัด ทำให้เขาทำอะไรได้ไม่มากนัก…

จากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็กระจายตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์บางส่วนออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงจากพื้นที่ของทัณฑ์สวรรค์ และรออยู่บนขอบของพื้นที่ทัณฑ์สวรรค์ที่คาดเอาไว้

นี่คือไพ่ไม้ตายใบสำคัญเพื่อข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ของหลี่ฉางโซ่ว สมบัติตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์บรรจุพลังเซียน!

………………………………………………………………..

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท