ตอนที่ 487 หัวใจมังกรในวังผลึกแก้ว! (3)
ทันใดนั้น ทหารยามเต่าสองสามตัวก็วิ่งเข้ามาจากนอกห้องโถง
ในขณะนั้น ราชามังกรได้ออกบัญชาไป จากนั้น ในวังมังกรทะเลบูรพา ทั้งพระมารดามังกร องค์ชายมังกร และเหล่าผู้อาวุโสหลายสิบคนที่มีอำนาจอย่างแท้จริงในเผ่ามังกร ต่างก็มารวมตัวกันในห้องโถงใหญ่ของวังผลึกแก้ว
ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ฝ่ามือของหลงจี๋มีเหงื่อออก…
หลี่ฉางโซ่วยังคงท่าทางสงบและสำรวม ครั้นเมื่อเหล่าคนระดับสูงของวังมังกรทะเลบูรพาได้มารวมตัวกัน เขาลุกขึ้นยืนและโค้งคำนับให้ก่อน
จากนั้นเขาคุยกับอ๋าวอี่ถึงข้อความสั้นๆ ที่เขาเขียนเอาไว้ล่วงหน้า และในที่สุด เขาก็เปลี่ยนหัวข้อไปสู่เรื่องการเข้าสู่สวรรค์ของเผ่ามังกรได้สำเร็จ …
“ทุกท่าน!”
หลี่ฉางโซ่วยืนอยู่หน้าแท่นและทำการคารวะเต๋าให้เหล่ามังกรเล็กน้อย
“ตอนนี้โอกาสของเผ่ามังกรรออยู่ตรงหน้าแล้ว ศาลสวรรค์ได้มอบตำแหน่งเทพแห่งท้องทะเลแห่งสี่คาบสมุทรแก่ข้า ข้ามาที่นี่เพื่อโน้มน้าวพวกท่าน ข้ารู้ว่าพวกท่านทุกคนล้วนกังวล และยังรู้ด้วยว่าเผ่ามังกรไม่เต็มใจที่จะภักดีต่อฝ่ายใด”
“ครั้งหนึ่งในสมัยโบราณ เผ่ามังกรเคยเป็นผู้ปกครองโลก พวกเขามีความเย่อหยิ่งทะนงตน แม้จนกระทั่งทุกวันนี้ พวกเขาก็ยังคงเป็นกองกำลังที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ในสามอาณาจักรและโลกบรรพกาล!”
“วันนี้ ข้าจะไม่กล่าวถึงเหล่าผู้ทรงพลังที่แทรกซึมอยู่ในเผ่าพันธุ์มังกร และจะไม่พูดถึงสิ่งที่เรียกว่าโชคและพลังมหาศาล ข้าจะบอกว่ามันเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์มังกร!”
“เผ่ามังกรจะได้รับผลประโยชน์สามอย่างจากการเป็นส่วนหนึ่งของศาลสวรรค์ อย่างแรกคือ บุญ อย่างที่สองคือ กรรมร้าย เดิมทีทั้งสองล้วนเป็นหนึ่งเดียว แต่ไม่เหมือนกัน ทุกคนลองดูที่องค์ชายอ๋าวอี่”
อ๋าวอี่เริ่มจะยืนขึ้นและกระตุ้นเรียกพลังบุญของเขา เผยให้เห็นบุญเครื่องสักการะแทบหลั่งล้นและบุญบริสุทธิ์แห่งสวรรค์ล้วนเกื้อกูลซึ่งกันและกัน…
จากนั้นหลี่ฉางโซ่วก็กล่าวต่อ “ข้าจะไม่อธิบายผลประโยชน์ทั้งสองอย่างนี้เพิ่มเติม ส่วนอย่างที่สามคือ ศาลสวรรค์จะช่วยปกป้องเผ่ามังกรจากสำนักบำเพ็ญประจิมได้”
“เทพแห่งท้องทะเล!”
แม่ทัพมังกรขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ผลประโยชน์ข้อแรกและข้อสองนั้นสำคัญ แล้วเหตุใดท่านถึงจะข้ามมันไปเล่า?”
ผู้อาวุโสมังกรอีกคนกล่าวว่า “ในเมื่อเทพแห่งท้องทะเลนั้นตรงไปตรงมายิ่ง พวกเราจึงไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมอีก เช่นนั้น ข้ามีคำถาม! ศาลสวรรค์สามารถมอบตำแหน่งเทพให้กับเผ่ามังกรได้กี่ตำแหน่งเพื่อให้เรารอดพ้นจากสถานการณ์ในยามนี้ เทพแห่งท้องทะเล ท่านคำนวณมาแล้วหรือไม่?”
“สองสามร้อยคงไม่เพียงพออย่างแน่นอน” หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างสงบ “ทว่าเนื่องจากทุกคนต้องการใช้ตำแหน่งเทพเพื่อปัดเป่ากรรมร้ายของพวกท่าน เช่นนั้น ไยจึงไม่สับเปลี่ยนกัน แทนที่ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งทุกๆ หนึ่งพันปีหรือหลายร้อยปีเล่า? หากเหล่ามังกรผลัดเปลี่ยนกัน เช่นนั้น เหตุใดพวกท่านยังต้องกังวลในเรื่องกรรมร้ายด้วย?”
เหล่ามังกรตะลึงงัน
ตำแหน่งเทพแห่งศาลสวรรค์จะถูกสับเปลี่ยน แทนที่กันได้อย่างนั้นหรือ?
“ศาลสวรรค์มีกฎที่เข้มงวด แต่ก็สามารถใช้ได้อย่างยืดหยุ่นเช่นกัน” หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวอว่า “เต๋าสวรรค์เป็นนิรันดร์และเป็นกลาง แต่มีกฎมากมายที่เราสามารถใช้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตำแหน่งเทพแห่งศาลสวรรค์หาได้เป็นนิรันดร์ไม่ ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งเทพระดับล่าง จะถูกสับเปลี่ยนแทนที่และสังเกตการทำงานอยู่ตลอดเวลา นั่นเป็นสิ่งที่ข้ากำลังจะรายงานต่อองค์เง็กเซียน ท่านพอใจกับคำตอบของข้าหรือไม่”
ในขณะนั้น เหล่าเผ่ามังกรชั้นสูงของหลายคนต่างรู้สึกพอใจและเริ่มเคลื่อนไหวเล็กน้อยแล้วในขณะที่ผู้อาวุโสของเผ่ามังกรที่ถามคำถามก็โค้งคำนับให้หลี่ฉางโซ่วอย่างสุดซึ้งด้วยท่าทีดูละอายใจ
“ข้าไร้ประสบการณ์และความรู้ตื้นเขินนัก ขอเทพแห่งท้องทะเลโปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิด!”
“นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด!”
หลี่ฉางโซ่วหัวเราะลั่น และกล่าวว่า “เพื่อจัดการเรื่องอันตรายที่เผ่ามังกรต้องเผชิญ ก่อนหน้านี้ องค์เง็กเซียนจึงได้มีบัญชาให้ข้าไปที่ถ้ำมฆไฟเพื่อพบกับเหล่าบรรพชนเผ่าพันธุ์มนุษย์และนำสมบัตินี้กลับมา ทุกคนโปรดดู!”
หลังจากกล่าวเช่นนั้นแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็หยิบแผนภาพอุทกศาสตร์ควบคุมน้ำต้าอวี่ที่เปล่งประกายแสงสีทองออกมา
เมื่อเขาโบกมือซ้าย ทันใดนั้นแผนภาพก็กางออกทันที และในวังผลึกแก้ว มันก็ฉายภาพทิวทัศน์ทั้งหมดของดินแดนเทวะทักษิณ และแม่น้ำที่เอ่อล้นออกมา
“วันนี้ข้าอาจแจ้งให้ทุกคนได้รู้ด้วยว่า ฝ่าบาทองค์เง็กเซียนทรงมีรับสั่งให้ข้าออกสำรวจแม่น้ำ ทะเลสาบ และสระน้ำของดินแดนเทวะทักษิณ อีกไม่กี่วัน ข้าก็จะสามารถรับตำแหน่งเทพแห่งน้ำทั้งหมดได้!
และในเมื่อเผ่ามังกรดูแลทั่วทั้งสี่คาบสมุทรมาช้านาน พวกท่านย่อมเชี่ยวชาญในการรบทางน้ำและเข้าถึงน้ำ เช่นนั้นแล้ว ยังจะมีผู้สมัครคนใดที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งเทพแห่งน้ำในดินแดนเทวะทักษิณได้มากไปกว่าเผ่ามังกรอีกหรือ?”
ทันทีที่เขากล่าวเช่นนั้น บรรดามังกรทั้งหมดต่างก็รู้สึกสะเทือนใจ และมีแม้กระทั่งมังกรอาวุโสหลายตัวที่ดวงตาเป็นสีแดง…
หลี่ฉางโซ่ว ฉวยโอกาสไล่ตามและกล่าวต่อ “เผ่ามังกรขึ้นสู่สวรรค์เพื่อติดตามเต๋าสวรรค์และรับหัวใจที่ชอบธรรมของโลก วันนี้ข้ายังได้นำเสนองานเขียนของศิษย์สองคนของเหล่าจอมปราชญ์ผู้รับผิดชอบดูแลกิจการสำนักบำเพ็ญเต๋า สำนักบำเพ็ญเต๋าฉาน และสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยมาเป็นพิเศษ!”
กล่าวจบ หลี่ฉางโซ่วก็หยิบม้วนจดหมายที่เขาเขียนไว้แล้วส่งให้อ๋าวอี่
อ๋าวอี่ค่อยๆ คลี่ม้วนกระดาษ คำว่า ‘ดักจับมังกรและปล่อยให้พวกมันขึ้นสู่ศาลสวรรค์’ เผยให้เห็นอักขระเต๋าสองแบบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำให้เหล่ามังกรที่อยู่ตรงหน้าล้วนตื่นตกใจ ประโยชน์ของศาลสวรรค์และพลังของสำนักบำเพ็ญเต๋า!
ผู้อาวุโสมังกรกระซิบว่า “พวกมันคือ อักขระเต๋าของนักพรตเต๋าตั๋วเป่าและกวงเฉิงจื่อจริงๆ”
อ๋าวอี่ถือม้วนกระดาษและนำเสนอต่อราชามังกร ราชามังกรแห่งทะเลบูรพาก็รับมันมาด้วยมือทั้งสองข้างแล้วถอนหายใจ
พระมารดามังกรที่งดงาม และดูสูงส่งสง่างาม ซึ่งอยู่ด้านข้างพลันกล่าวว่า “หากเป็นอย่างที่เทพแห่งท้องทะเลกล่าวจริงๆ เช่นนั้น เหตุใดเผ่าของเราถึงจะบูชาองค์เง็กเซียนไม่ได้? ทว่าต่อให้เทพแห่งท้องทะเลจะให้ปฏิญญาต้าเต๋า แล้วจะรับรองถึงเจตจำนงขององค์เง็กเซียน… ได้อย่างไร?”
“เหตุใดจะไม่ได้เล่า?”
ทันใดนั้นก็มีเสียงชัดเจนดังขึ้นในขณะที่หลงจี๋ได้ลุกขึ้นยืนและโค้งคำนับให้ทุกคน
“หากเผ่ามังกรเข้าสู่ศาลสวรรค์เพื่อช่วยศาลสวรรค์ปกครองสามอาณาจักร องค์เง็กเซียนย่อมจะปฏิบัติต่อเผ่ามังกรอย่างยุติธรรมแน่นอน
เวลานี้ ความจริงแล้ว ศาลสวรรค์ก็มีปัญหามากมาย แต่องค์เง็กเซียนจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยทุกคนในศาลสวรรค์ทั้งหมดให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ด้วยความช่วยเหลือจากเทพแห่งท้องทะเล ดังนั้น เหล่าผู้ที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดนั้น ย่อมจะประสบความสำเร็จก้าวหน้าในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน! หากทุกท่านขึ้นสู่ศาลสวรรค์ในขณะนี้ ย่อมจะเป็นโอกาสที่พวกท่านจะได้ทำประโยชน์ และได้รับบุญ ย่อมจะเป็นเรื่องดีมิใช่หรือ?”
“ฝ่าบาท” หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “โปรดนั่งลงเถิด”
“ได้” หลงจี๋ตอบรับอย่างเชื่อฟัง นางรีบนั่งลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เหล่าลูกหลานมังกรหันมามองนาง
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “พระมารดามังกร วันนี้ที่ข้ามาที่นี่เพื่อแสดงจุดยืนของข้าในวังมังกรทะเลบูรพาเท่านั้น กล่าวตามตรง นอกจากวังมังกรทะเลบูรพาแล้ว ข้ายังกังวลถึงวังมังกรอีกสามแห่งด้วย ข้าเกรงว่าจะมีพวกตัวสอดแนมจากสำนักบำเพ็ญประจิมที่แทรกซึมและซ่อนตัวอยู่จะเข้ามาสร้างปัญหา และนี่เป็นไพ่ตายใบสุดท้ายของข้าแล้ว… ได้โปรดดูที่นี่!”
ขณะกล่าว หลี่ฉางโซ่วก็หยิบม้วนกระดาษสีทองออกมาจากแขนเสื้อของเขาและชูมันขึ้นสูง มันส่องแสงสีทองที่สูงนับพันจั้ง และพลังแห่งเต๋าสวรรค์ที่เข้มข้นก็แผ่กระเพื่อมออกมาเป็นระลอก
มือของหลี่ฉางโซ่วสั่น ในขณะที่ม้วนกระดาษถูกคลี่ออกอย่างรวดเร็ว แต่มันกลับว่างเปล่า!
“ตราบใดที่ราชามังกรและผู้อาวุโสเห็นด้วยกับเรื่องนี้ในวันนี้และสาบานว่าจะไม่คืนคำ หากผู้ใดมีความกังวลใด ก็ขอให้พูดออกมาอย่าได้ลังเล แน่นอนว่า ข้าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ต่อหน้าทุกคน ข้าต้องเขียนคำรับรองของศาลสวรรค์ในพระราชโองการนี้ และนำเสนอต่อองค์เง็กเซียน หากมันถูกผนึกด้วยตราประทับขององค์เง็กเซียน มันย่อมจะได้รับการยินยอมจากเต๋าสวรรค์ เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกท่านจะไว้ใจข้าและศาลสวรรค์ได้หรือไม่?”
………………………………………………………………..