ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – ตอนที่ 521 ข้าอยากได้ที่ดินในศาลสวรรค์แล้วไป

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 521 ข้าอยากได้ที่ดินในศาลสวรรค์แล้วไปเป็นเพื่อนบ้านของเหล่าจื้อ (1)

หลิงเอ๋อร์ ดูท่าแล้ว สำนักนี้จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป …

ยามรุ่งอรุณ หลิงเอ๋อร์ขี่เมฆสีขาว ล่องลอยไปทางด้านหลังภูเขา นางมองดูแสงยามเช้าบนท้องฟ้าทางทิศตะวันออก แล้วจมอยู่ในภวังค์แห่งความคิด

คำพูดของศิษย์พี่ของนางเมื่อคืนนี้ยังคงดังก้องอยู่ในหูของนาง ทำให้นางไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานาน ‘หลิงเอ๋อร์ ดูท่าแล้ว สำนักนี้จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป…’

ศิษย์พี่กล่าวว่า “สถานการณ์ในโลกบรรพกาลนั้น คาดเดาไม่ได้ โอกาสที่สำนักใหญ่ของข้าจะถูกเปิดโปงก็มีสูงขึ้นเรื่อยๆ

ผู้ยิ่งใหญ่บางคนที่เราไม่อาจรับมือได้นั้นไร้ยางอายเป็นที่สุด หากข้าอยู่ที่นี่ต่อไป ข้าก็อาจทำให้ทั่วทั้งสำนักตู้เซียน ต้องพลอยเกี่ยวข้องไปด้วย

โชคดีที่ข้าได้คาดการณ์ถึงสถานการณ์เช่นนี้เอาไว้ตั้งแต่เมื่อร้อยปีก่อนแล้ว และได้วางแผนนี้ออกมา ข้าต้องการย้ายยอดเขาหยกน้อยออกจากสำนักตู้เซียนไปยังบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงของวังดุสิตในศาลสวรรค์

แผนการนี้คาดว่าจะใช้เวลาสิบปี ข้าเรียกมันว่า… แผนพเนจรของยอดเขาหยกน้อย!”

แม้หลิงเอ๋อร์อยากจะบ่นในเวลานั้น แต่ดวงตาของพี่ชายของนางก็เปล่งประกายเจิดจ้าขณะที่เขากล่าวออกมาเช่นนั้น เขาก็แสดงท่าทางและเผยความรู้สึกที่จริงจัง มั่นคง และมุ่งมั่นออกมา ซึ่งทำให้นางหลงใหลยิ่งนัก…

นางจึงพยักหน้าตกลงโดยไม่ต้องคิดทันทีในขณะที่นางก็รู้สึกเช่นกันว่า ศิษย์พี่ของนางมีเหตุผล

หลิงเอ๋อร์ก็อดจะคร่ำครวญและถอนหายใจในใจไม่ได้

ข้าสิ้นหวังแล้ว

ตามแผนของศิษย์ เขาจะย้ายยอดเขาหยกน้อยออกไปในห้าขั้นตอน

ขั้นตอนแรกนั้น เป็นสิ่งที่หลิงเอ๋อร์ต้องทำในขณะนั้นเช่นกัน นางต้องใช้ผลึกบันทึกเหตุการณ์ ทำการบันทึกภูมิประเทศของยอดเขาหยกน้อยอย่างละเอียด และนางยังต้องนับจำนวนต้นไม้ วัตถุวิญญาณ และอื่นๆ ให้ครบถ้วนและละเอียดที่สุดอีกด้วย

ส่วนขั้นตอนที่สองนั้น หลี่ฉางโซ่วจะเลือกภูเขาลูกเล็กที่คล้ายกับยอดเขาหยกน้อยและเปลี่ยนให้เป็นรูปร่างเหมือนยอดเขาหยกน้อย นอกจากนี้ เขายังจะปลูกถ่ายที่ดิน หญ้า เปิดทะเลสาบวิญญาณ จำลองสิ่งปลูกสร้างต่างๆ และทำการอำพรางที่สมบูรณ์

ขั้นตอนที่สามคือ การขออนุญาตจากเจ้าสำนักเพื่อสร้างค่ายกลขนาดใหญ่ป้องกันการตรวจจับจากภายนอกยอดเขาหยกน้อย

ขั้นตอนที่สี่คือ การสับเปลี่ยน สลับจริงเป็นเท็จ เท็จเป็นจริง!

ขั้นตอนที่ห้าคือ ย้ายยอดเขาหยกน้อยไปยังศาลสวรรค์ ยอดเขาหยกน้อยปลอมจะอยู่ในสำนัก ซึ่งหลี่ฉางโซ่วจะใช้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์คอยป้องกัน

ความจริงแล้ว หลังจากอ่านแผนการของศิษย์พี่อย่างละเอียดแล้ว หลิงเอ๋อร์ก็ส่งคำถามจากจิตวิญญาณของนางออกไปถาม

“แต่ศิษย์พี่ เหตุใดเราเพียงย้ายไปอยู่ภูเขาลูกอื่นไม่ได้? เราต้องย้ายบ้านเลยหรือเจ้าคะ?”

หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจและตอบว่า… “ศิษย์น้องหญิง เจ้ารู้หรือไม่ว่า ข้าทุ่มเทความพยายามลงไปกับยอดเขาหยกน้อยแห่งนี้มากมายเพียงใด”

“ตอนนี้ การก่อสร้างภูเขาทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ไปกว่าแปดในสิบส่วนแล้ว และมีการใส่รากฐานค่ายกลเรียงกัน หกร้อยเจ็ดสิบสองค่ายกลอยู่ในนั้น”

“มีค่ายกลไม่กี่ค่ายกลที่มีค่ายกลสังหารอยู่ในแกนกลาง ซึ่งมีฐานรากสามสิบหกฐาน ค่ายกลกับดักที่มีรากฐานค่ายกลมากพอๆ กับวัฏจักรสวรรค์เล็ก หนึ่งร้อยแปด และยังมีค่ายกลป้องกันขนาดใหญ่ที่มีรากฐานค่ายกลมากพอๆ กับวัฏจักรสวรรค์ใหญ่ สามร้อยหกสิบห้า”

“รากฐานของค่ายกลนั้นแตกต่างกัน แต่มีค่ายกลที่เปลี่ยนแปลงไปได้มากกว่าร้อยค่ายกล ข้าได้วางชุดไข่มุกวิญญาณห้าธาตุซึ่งเปรียบเทียบได้กับสมบัติวิญญาณเซียนเทียนเอาไว้ที่ใจกลางภูเขาแล้ว

นี่เป็นเพียงการสร้างค่ายกลเวท… หากข้ายอมละทิ้งยอดเขาหยกน้อยไปก็เท่ากับยอมละทิ้งเผ่ามังกร แค่กๆ สรุปแล้วก็คือ ยอดเขาหยกน้อยคือ สถานที่ซึ่งมีความมั่งคั่งของเราอยู่ ทั้งยังเป็นถ้ำที่พำนักที่จะให้ความปลอดภัยแก่พวกเราและตั้งรกรากในภายภาคหน้า ในอีกสิบปีข้างหน้านี้ ข้าจะยังคงสร้างค่ายกลและปรับแต่งยอดเขาหยกน้อยให้เสร็จสมบูรณ์ในเบื้องต้น…”

ศิษย์พี่ทำอะไรลับหลังข้าตลอดเวลา!

ค่ายกลเวท…

หลิงเอ๋อร์ก้มศีรษะลงแล้วมองไปยังป่าที่เงียบสงบเบื้องล่าง นางพยายามปล่อยสัมผัสเซียนรับรู้ของนางออกไปสำรวจภูเขาด้วย แต่นางก็ไม่พบอะไรเลยในคราแรก สัมผัสเซียนรับรู้ของนางราบรื่น

นางค้นหาอย่างระมัดระวังอยู่สักพักหนึ่ง และในที่สุด นางก็พบรากฐานค่ายกลขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ในลวดลายหิน

หรือว่า ศิษย์พี่มีศัตรูที่แข็งแกร่งมากมาย?

ทันใดนั้น หลิงเอ๋อร์ก็ตบหน้าผากของนางและกำหมัดแน่น

ข้าไม่อาจลากศิษย์พี่ลงมาได้ ข้าต้องเป็นผู้ช่วยเหลือเขาและทำสิ่งต่างๆ เท่าที่ทำได้…

เมื่อเอ่ยถึงความช่วยเหลือ หลิงเอ๋อร์ก็นึกถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ศิษย์พี่ของนางพูดถึงเมื่อคืนนี้

เทพธิดาอวิ๋นเซียว!

สิ่งมีชีวิตเซียนเทียน ศิษย์ของจอมปราชญ์ ผู้ทรงพลังแกร่งกล้าโบราณ งดงาม ทรงเสน่ห์ สุภาพอ่อนโยนและทรงคุณธรรม…

ข้าควรทำอย่างไรดี?

ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนางแน่นอน!

หลิงเอ๋อร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพึมพำกับตัวเองเป็นระยะๆ บัดนี้ นางมาถึงชายป่านานแล้ว และกำลังจะเริ่มการสำรวจแล้ว แต่นางลืมที่จะร่อนเมฆลงไป

“ใช่!”

เขาต้องมองการณ์ไกลและพิจารณาเรื่องนี้ให้ละเอียดรอบคอบ

งานเลี้ยงผลท้อเซียนดำเนินไปเป็นเวลาสามวัน

งานเลี้ยงผลท้อเซียนนั้นใช้เวลาสั้นกว่างานเลี้ยงในวังมังกรที่ใช้เวลาอย่างน้อยสองสามเดือน

ทว่างานเลี้ยงผลท้อเซียน ก็ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ผลไม้วิญญาณและผลท้อเซียนได้ถูกส่งมอบให้เหล่าเทพเซียนได้ลิ้มลองทั้งหมด จะเก็บพวกมันไว้นานเกินไปก็ไร้ประโยชน์

เมื่อสามวันก่อน พวกเผ่ามังกรมาโดยทั้งหมดล้วนถือว่าตัวเองเป็นแขก และเมื่อเผ่ามังกรจากไปในอีกสามวันต่อมา พวกเขาก็อ้างตัวเองว่าเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาแล้ว พวกเขาทำความเคารพอย่างราบรื่นเป็นธรรมชาติและไม่มีตะขิดตะขวงใจใดๆ

พวกเขายอมรับชะตากรรมอย่างรวดเร็วและออกตามหาราชามังกรแห่งวังมังกรทั้งสี่คาบสมุทร!

เมื่องานเลี้ยงผลท้อเซียนสิ้นสุดลง และบรรดาเทพเซียนก็แยกย้ายกันไป ส่วนองค์เง็กเซียนก็กลับไปที่หอสมบัติหลิงเซียวในขณะที่หลี่ฉางโซ่วได้ใช้โอกาสนี้พาจ้าวกงหมิงไปที่ตำหนักครองคู่

ในขณะนั้น จ้าวกงหมิงกำลังเดินสบายๆ อยู่ในศาลสวรรค์ เพราะเขาได้รับอนุญาตอย่างลับๆ จากจักรพรรดิหยก

แต่จริงๆ แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดกล้าหยุดเขาอยู่ดี…

เขามองผ่านเหมู่เมฆทั้งขึ้นและลง แล้วที่พำนักของเทพจันทราก็ปรากฏอยู่ในสายตา

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “พี่ชาย ท่านดูสิ นั่นคือ ตำหนักครองคู่ที่เทพจันทราได้กลับมารอแล้ว พวกเราเข้าไปหาเขากันเถิด”

“ได้!”

ในขณะนั้นจ้าวกงหมิงก็หยิบไหสุราผลไม้ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วถือสุราเอาไว้ในมือ จากนั้นเขาก็เดินเคียงข้างหลี่ฉางโซ่ว แล้วบินไปที่ด้านหน้าของตำหนักครองคู่บนก้อนเมฆ

เทพจันทราซึ่งสวมชุดคลุมแต่งงานสีแดงรีบต้อนรับพวกเขาพร้อมกับเด็กสองคน เขาทักทายทั้งสองคนที่หน้าโถงตำหนักก่อนจะนำแขกผู้ทรงเกียรติทั้งสองเข้าไปในโถงด้านข้าง

เมื่อทั้งเจ้าภาพและแขกต่างนั่งลง เด็กชายก็รินชาให้

เมื่อจ้าวกงหมิงมอบของขวัญแล้ว เขาก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่รู้สึกว่าใบหน้าของเขาร้อนผ่าว จึงขยิบตาให้หลี่ฉางโซ่วอย่างรวดเร็ว

“แค่กๆ!”

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่ว ซึ่งดูเหมือนเซียนชรา กระแอมไอในลำคอและแย้มยิ้ม

“เทพจันทรา พี่กงหมิงมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะถามท่าน เทพจันทรารับผิดชอบเรื่องการแต่งงานและจัดการเรื่องการแต่งงานในสามอาณาจักรอยู่ทุกวัน ข้าเชื่อว่าไม่มีใครรู้เรื่องการแต่งงานมากไปกว่าท่าน”

เทพจันทราพูดไม่ออก

เขาคือ เทพจันทรา ผู้ที่องค์เง็กเซียนไว้วางพระทัยแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาตำหนักครองคู่!

เขาเป็นเซียนเทียนหยางบริสุทธิ์ที่มีอายุหลายหมื่นปี!

เขาเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง?!

ทว่าแม้เทพเฒ่าจันทราจะรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย แต่เขาก็เผยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างสงบ

“ความจริงแล้ว ข้ารู้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เล็กน้อยจริงๆ”

ดวงตาของจ้าวกงหมิงเปล่งประกาย เขารู้สึกว่าเทพเฒ่าจันทรามีความน่าเชื่อถือมากกว่า

หลี่ฉางโซ่วกล่าวต่อว่า “เทพจันทรา ขอท่านจงอย่าได้พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้กับผู้ใดอีก”

“เทพน้อยเข้าใจกฎของท่านแล้ว สหายเต๋ากงหมิง และสหายเต๋าเทพวารี”

เทพเฒ่าจันทรายกมือซ้ายขึ้นและกล่าวอย่างสงบ

“เต๋าสวรรค์เบื้องบน เทพน้อยขอให้สัตย์ปฏิญญาต้าเต๋า…”

ในที่สุด จ้าวกงหมิงก็ได้ใส่หัวใจกลับเข้าไปในท้องของเขา[1] แม้เขาจะรู้สึกเหมือนว่า เขาถูกทำร้าย แต่เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก

หลังจากที่เทพเฒ่าจันทรากล่าวคำสาบาน หลี่ฉางโซ่วก็กล่าวในนามของจ้าวกงหมิง

เขาชี้แจงเรื่องราวต่อไป

เทพเฒ่าจันทรายิ้มเมื่อได้ยินเรื่องราวแล้วกล่าว…

“เข้าใจแล้ว เทพธิดาจินกวงผู้นี้ได้มาถึงขอบเขตรุ่มร้อนของความรู้สึกที่นางมีต่อสหายเต๋ากงหมิงแล้ว ทว่า สหายเต๋ากงหมิงก็มีเพียงความประทับใจที่ดีต่อเทพธิดาจินกวงเท่านั้น”

เทพเฒ่าจันทราใช้สัมผัสเซียนรับรู้แอบดูยันต์หยกในแขนเสื้อของเขา เขากลัวว่าเขาจะพูดอะไรผิดไปเกี่ยวกับขอบเขตเหล่านั้น

จากนั้น เทพเฒ่าจันทรากล่าวช้าๆ “นี่คือความแตกต่างในการฝึกฝนเต๋าใหญ่แห่งความรู้สึก มันเป็นเรื่องธรรมดามากในความสัมพันธ์ระหว่างการแต่งงาน

การใช้การปฏิบัติตามปกติของตำหนักครองคู่ของข้า เป็นที่รู้กันว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ความรู้สึก แน่นอนว่า หากพูดง่ายๆ ก็คือ ความรักข้างเดียวไม่สมหวังในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งไร้เยื่อใยผูกพันกัน”

อาจารย์ลุงจ้าวพยักหน้าช้าๆ

แม้เขาจะไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เขาก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผล

ในขณะนั้น เทพเฒ่าจันทราก็ทำตามคำที่เขียนบนยันต์หยกแล้วเริ่มสร้างเรื่องราว

ดวงตาของจ้าวกงหมิงค่อยๆ สว่างวาบขึ้นเมื่อได้ฟัง ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วอยากจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่จ้าวกงหมิงก็หยุดเขาเอาไว้ก่อนและขอเขาไม่ให้ขัดจังหวะในขณะนี้

เด็กชายคนหนึ่งมอบยันต์หยกนั้นให้เขาเมื่อเทพเฒ่าจันทรากลับไปที่ตำหนักครองคู่ เขากล่าวว่า แม่ทัพสวรรค์ที่ไม่คุ้นเคยนัด ได้ส่งมอบมาให้เมื่อวานนี้

เทพเฒ่าจันทราเปิดดูมัน เขารู้ว่านั่นคือ “คำตอบ” ที่เทพวารีได้เตรียมไว้ให้เขา

………………………………………………………………..

[1] โล่งใจมาก สบายใจมาก

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท