ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – ตอนที่ 586 สามขั้นตอนและหนึ่งหลักสูตรการรักษา (2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

บทที่ 586 สามขั้นตอนและหนึ่งหลักสูตรการรักษา (2)

ในขณะนั้นโหย่วฉินเสวียนหย่าผงะงันไปเล็กน้อย แล้วหันไปมองใบหน้าด้านข้างของหลี่ฉางโซ่ว พลางยิ้มและพึมพำว่า “ศิษย์พี่…”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มพลางถอนหายใจเบาๆ และมองไปที่ขอบฟ้ายามค่ำคืน เสียงของเขาก็ยิ่งฟังห่างไกลออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกล่าวว่า “ศิษย์น้องโหย่วฉิน ลักษณะนิสัยของเจ้าก็เหมือนกับข้าทุกประการในยามที่ข้าไร้สติยั้งคิดและไม่มีเหตุผล”

โหย่วฉินเสวียนหย่าก็กะพริบตา และจับจ้องมองใบหน้าด้านข้างที่ไม่คุ้นเคยนี้ พร้อมกับตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและอธิบายอย่างช้าๆ “ทว่าศิษย์น้องโหย่วฉินก็แตกต่างจากข้า แม้เจ้าจะเผชิญกับความพ่ายแพ้ผิดหวังและการโจมตี แต่เจ้าก็ไม่ท้อถอยและไม่ละทิ้งปณิธานที่เจ้าตั้งใจทำอย่างแน่วแน่

ในขณะที่ข้าก็เป็นเช่นคนส่วนใหญ่ เมื่อข้าพบปัญหายากลำบากสักหนึ่งหรือสองเรื่อง ข้าก็จะเริ่มระย่อท้อถอยความแข็งกร้าวลง และวางชั้นเชิงให้ดูสงบเสงี่ยมราบเรียบมีกาลเทศะ ข้าจะปล่อยให้ตัวเองคิดถึงเรื่องสถานการณ์แวดล้อมรอบๆ ตัว และค่อยๆ หลอมรวมเข้าไปกับมัน…”

ขณะกล่าว ภาพชีวิตในอดีตชาติก่อนหน้านี้ก็วาบขึ้นมาในความคิดของเขา และเขาก็ไม่ใส่ใจความคิดเหล่านั้น

“ศิษย์น้องโหย่วฉิน ความจริงแล้ว ในตอนนี้ข้าเพียงคิดถึงว่าจะสอนเจ้าอย่างไร ข้าควรบอกให้เจ้ารู้ถึงอันตรายต่างๆ ในโลกบรรพกาล ข้าควรบอกให้เจ้ารู้ว่า ในเวลานี้ หากเจ้าไปยั่วยุผู้ทรงพลังเช่นนั้น ก็เท่ากับตายเปล่าไปเพียงเท่านั้น ไม่ว่าเจ้าจะส่งเสียงตะโกนเรียกร้องดังมากเพียงใด มันก็จะไม่มีอะไรสามารถพลิกกลับเปลี่ยนแปลงได้ และเจ้าอาจยังพาดพิงไปเกี่ยวพันถึงชีวิตของผู้อาวุโสเหล่านั้นอีกด้วย

ข้าจึงอยากเตือนเจ้าถึงเรื่องกฎแห่งการอยู่รอดของผู้อ่อนแอ และอยากเตือนเจ้าว่า เจ้าต้องใส่ใจระมัดระวังในวิธีการที่เจ้าใช้ไม่ว่าจะกระทำการเรื่องใดๆ ก็ตาม

ทว่าจู่ๆ ข้าก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่า… ข้าเพียงแค่ไม่อยากยอมรับว่า ข้าพ่ายแพ้ต่อสถานการณ์แวดล้อมและบอกคนที่กล้าท้าทายต่อสถานการณ์แวดล้อมนั้นให้ต้องยอมรับต่อความพ่ายแพ้เฉกเช่นข้า ทั้งหมดก็มีเพียงเท่านั้น เฮ้อ… เจ้าเข้าใจหรือไม่?”

โหย่วฉินเสวียนหย่าก้มศีรษะลงขณะครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ และในไม่ช้า นางก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “เจ้าค่ะ!”

“ข้าชื่นชมเจ้านัก”

โหย่วฉินเสวียนหย่าหน้าแดงเล็กน้อยและเอ่ยถามเบาๆ ว่า “ศิษย์พี่ ท่านกำลังบอกว่าข้าดื้อรั้นดันทุรังมากหรือเจ้าคะ?”

“ไม่ ไม่ใช่ เจ้าหาได้ดื้อรั้นไม่ เจ้าเพียงออกจะหัวแข็งไปสักหน่อยเท่านั้น” หลี่ฉางโซ่วส่ายศีรษะและกล่าวว่า “ข้าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจของเจ้าในเรื่องนี้ และในทำนองเดียวกันนั้น ข้าก็จะไม่แบกรับกรรมที่เกิดจากเจ้า

ทว่าศิษย์น้องหญิง แม้จะมีบางสิ่งที่ไม่ผิดตามหลักการ แต่เจ้าก็ควรคำนึงถึงสภาพแวดล้อม และสถานการณ์โดยรอบที่เจ้าอยู่ด้วยเช่นกัน

ข้ามาที่นี่ในรูปแบบของร่างจำแลง หากข้าตายไปก็ไม่เป็นไร ทว่าเหล่าผู้อาวุโส แม่ทัพ และแม้กระทั่งการดำรงอยู่ของอาณาจักรหงหลินนี้ ทั้งหมดก็ล้วนอยู่ในมือของผู้อาวุโสคนนั้นเมื่อครู่ก่อนนี้แล้ว! ศิษย์น้องโหย่วฉิน เจ้าดูนี่สิ”

ตัดเข้าสู่ขั้นตอนที่สองของการรักษาพิษนี้เลย นั่นคือ การแจกเกาลัด[1]

หลี่ฉางโซ่วโบกมือของเขาและตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็ใช้หลีกลี้ปฐพีซ่อนกายมาปรากฏตัวขึ้น และถือตะกร้าใส่… ไข่มาด้วย

โหย่วฉินเสวียนหย่าขมวดคิ้วและเฝ้าดูในขณะที่หลี่ฉางโซ่วหยิบก้อนหินขนาดใหญ่ขึ้นมาวางไว้ตรงหน้าเขาแล้ว จากนั้นเขาก็โยนไข่ใส่มัน

โพละ!

ไข่แตกทันที ทั้งไข่แดงกับไข่ขาวกระเด็นออกมา

“ดูสิ นี่คือผลที่ตามมาจากการกระทำของเจ้าเมื่อครู่ก่อนนี้”

โหย่วฉินเสวียนหย่าพึมพำว่า “ไข่แตกแล้ว…”

“ยิ่งไปกว่านั้น มันยังแตกเป็นเสี่ยงๆ อีกด้วย” จากนั้นหลี่ฉางโซ่วก็หยิบไข่อีกฟองขึ้นมา แล้วค่อยๆ ดันมันออกไป เขาค่อยๆ ผลักก้อนหินใหญ่ให้ขยับไปเบาๆ แต่ไข่ก็ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดเลย

ดูเหมือนว่า โหย่วฉินเสวียนหย่าจะครุ่นคิดลึกซึ้ง

หลี่ฉางโซ่วรู้สึกได้ในทันทีว่า ดูเหมือนว่า บัดนี้จะเขากลายเป็น “อาจารย์” ของเรื่องตลกบางเรื่องจากชีวิตในชาติก่อนของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจเสียแล้ว

แต่เขาก็จริงจังกับการสั่งสอนและจัดการแก้ไขศิษย์น้องหญิงจอมพิษตัวอันตรายของเขาอย่างมืออาชีพ เขาต้องฉวยประโยชน์จากเหตุการณ์ในวันนี้เพื่อทำให้โหย่วฉินเสวียนหย่าหยุดพฤติกรรมหัวแข็งของนางให้ได้

“เจ้าคิดอันใดอยู่หรือ?”

“ข้าต้องให้ความใส่ใจระวังในเรื่องวิธีการ…”

หลี่ฉางโซ่วยิ้ม และยื่นไข่สองฟองให้โหย่วฉินเสวียนหย่า แล้วกล่าวว่า “ข้าจะให้คำถามทดสอบกับเจ้า ลองนึกภาพดูว่า เจ้ายังคงอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดิมเมื่อก่อนหน้านี้ แล้วเจ้ายังคงเลือกที่จะลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อจะลงโทษเด็กสาวนกยูงผู้นั้น และยืนหยัดที่จะผดุงความยุติธรรมในใจตามที่เจ้าเห็นควร เจ้าควรแสดงออกอย่างไรเพื่อไม่ให้ไข่แตกในขณะที่ก้อนหินจะเคลื่อนขยับไปเบาๆ ?”

โหย่วฉินเสวียนหย่าเม้มปาก พลางถือไข่เอาไว้ในมือเรียวงามแต่ละข้างแล้วหลับตาลงช้าๆ

จากนั้นหลี่ฉางโซ่วก็ร่ายคาถาผนึกจิตและเสียงที่ไร้ตัวตนของเขาก็ดังขึ้นที่ข้างๆ หูของโหย่วฉินเสวียนหย่า และตราตรึงอยู่ในทะเลแห่งใจของนาง

“ศิษย์น้องโหย่วฉิน จิตใจกล้าหาญของเจ้าล้ำค่ายิ่งกว่าผลเต๋าอายุยืน แต่เจ้าก็ต้องจำเอาไว้ว่าเจ้าต้องใช้มันให้ถูกกาลเทศะในสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อให้ทรงพลังมากพอจะปกป้องมันให้แข็งแกร่ง เพียงเท่านั้น มันก็จะสามารถเบ่งบานและเปล่งแสงสว่างเจิดจ้ามากขึ้นได้

ดังนั้นอย่าให้ถูกผู้อื่นเอาเปรียบและใช้ประโยชน์ได้ จงเรียนรู้ที่จะตัดสินสถานการณ์ และอย่าอวดเก่งกล้าในช่วงเวลานั้น ต้องรู้ว่าเมื่อใดควรรุกหน้าและถอยหลัง

การทำสิ่งที่ถูกต้องอย่างบริสุทธิ์แท้จริงนั้น เพียงเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่สงบสุขของการฝึกบำเพ็ญในภูเขาเท่านั้น ในโลกบรรพกาลนั้น ความถูกผิดล้วนเกี่ยวพันกันซ้ำๆ ไม่มีสิ่งใดถูกหรือผิดอย่างจริงแท้แน่นอน…

พี่ชายหวังว่า เจ้าจะได้เรียนรู้วิธีป้องกันตัวเองและผู้คนรอบตัวเจ้าได้ และยังหวังว่าเจ้าจะรักษาหัวใจที่ล้ำค่าและสูงส่งนี้เอาไว้ได้

ส่วนพี่ชายได้รับมลพิษแปดเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมแล้ว และยังกลัวว่าสักวันหนึ่ง จะสูญเสียความรู้สึกความสามารถในการตัดสินความถูกผิด ความดีความชั่วที่มีแต่เดิมของข้าไปเช่นกัน ด้วยมีเพียงผู้ดำรงอยู่เช่นเจ้าเท่านั้น ศิษย์น้องหญิง ข้าก็จะได้รับการเตือนจากเจ้าและส่องแสงสว่างได้ตลอดเวลา … ”

ขั้นตอนที่สามในการรักษาพิษคือ ให้การยอมรับและมอบหมายภารกิจ

ในเวลานั้น โหย่วฉินเสวียนหย่าก็ถือไข่สองใบขณะที่ค่อยๆ เข้าสู่ห้วงแห่งการตรัสรู้…

หลี่ฉางโซ่วยังคงสงบเยือกเย็นยิ่งและสำรวมตน เขาวางแผ่นหยกที่เขาเตรียมมาเป็นเวลานานหลายปีเอาไว้ในมือซ้ายและใส่กลับเข้าไปในกระเป๋าสมบัติ พลางสัมผัสถึงสายลมยามราตรี

คราวนี้ มันน่าจะได้ผล

หากไม่ได้ผลจริงๆ ข้าก็ทำได้เพียงเก็บจอมพิษ ศิษย์น้องโหย่วฉินให้ฝึกบำเพ็ญอยู่ในสำนักและไม่ปล่อยให้นางเที่ยววิ่งไปมา

สองชั่วยามต่อมา…

“ศิษย์พี่ฉางโซ่ว ข้าจะชี้ให้เห็นมรดกเต๋าของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินก่อนแล้วจึงค่อยพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วยเหตุผล…”

โหย่วฉินเสวียนหย่าลืมตาและหยุดไปชั่วขณะ

ข่ายอาคมรอบตัวนางยังคงอยู่ และแผ่นหยกที่ห้อยอยู่บนกำไลหยกที่เอวของนางก็เปล่งประกายแสงนุ่มนวล ทว่าบัดนี้ เบาะนั่งสมาธิที่อยู่ข้างๆ นางก็ว่างเปล่าแล้ว และร่างนั้นก็จากไปแล้ว

………………………………………………………………..

[1] เป็นแสลงในอินเทอร์เน็ต หมายถึงการยกตัวอย่าง เนื่องจากคำว่า เกาลัด 栗子 และคำว่า ตัวอย่าง 例子 นั้น มีคำอ่านพ้องเสียงกัน ว่า ลี่จื่อ

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท