ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 43 ห้าร้อยตำลึง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 43 ห้าร้อยตำลึง

บทที่ 43 ห้าร้อยตำลึง

“ท่านหมอพาน ในใบประกาศที่ติดอยู่ด้านนอกบอกว่ารับซื้อในราคาที่สูง และบนนั้นเขียนไว้ว่าโสมคนที่มีอายุสิบปีจะให้ราคาสามตำลึงต่อหนึ่งราก โสมคนอายุยี่สิบปีให้ราคาแปดตำลึงต่อหนึ่งราก ดูท่ายิ่งมีอายุยาวนาน โสมคนต้นนี้ก็ยิ่งมีมูลค่าสูง รากโสมคนของข้ารากนี้ เมื่อครู่ท่านก็พูดออกมาว่าน่าจะมีอายุหลายร้อยปีแล้ว ท่านว่ารากโสมคนของข้ารากนี้จะมีราคาขายเท่าไรหรือ?” นั่นคือสิ่งที่เขียนเอาไว้บนประกาศ กู้เสี่ยวหวานเห็นตอนที่อยู่ข้างนอกเมื่อครู่นี้ แต่แท้จริงแล้วนางก็ไม่รู้ว่าโสมคนที่นางเก็บมาด้วยตัวเองมีราคาเท่าไร ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีนักที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน

ชั่วพริบตาหนึ่งท่านหมอพานก็เข้าใจความหมายของกู้เสี่ยวหวาน และส่งเสียงหัวเราะดังก้อง “โสมคนรากนี้มีอายุยาวนาน คุณภาพก็ยิ่งไม่เลวเลย และเพิ่งถูกค้นพบได้ไม่นาน เรียกได้ว่าเป็นของล้ำค่าชั้นสูง ข้าเต็มใจรับซื้อเอาไว้ เงินจำนวนสองร้อยตำลึง เจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร?” สองร้อยตำลึง? กู้เสี่ยวหวานเอาแต่ครุ่นคิดอยู่ภายในใจไม่หยุด หากแต่สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด ราคาที่นางคิดไว้ในใจก็ต่างจากเงินเหล่านี้ไม่มากนัก แต่ท่านหมอพานคนนี้บอกราคาที่กู้เสี่ยวหวานประเมินล่วงหน้าไว้ในใจออกมาทันที กู้เสี่ยวหวานรู้สึกว่ายังมีช่องว่างให้เพิ่มราคาอย่างแน่นอน จึงแกล้งทำเป็นไม่เต็มใจและพูดขึ้นมา “ท่านหมอพาน ไม่ง่ายนักที่จะได้โสมคนอายุหลายร้อยปีรากนี้มา ราคาที่ท่านพูดมานี้ค่อนข้างต่ำ ท่านสามารถได้เงินกลับมาจากโสมคนรากนี้ได้หลายเท่าอย่างแน่นอน”

“สามร้อยตำลึง หากแม่สาวน้อยยังไม่พอใจแล้วละก็ เช่นนั้นคนแก่อย่างข้าคงจะซื้อไม่ไหวแล้ว” ท่านหมอพานก็กำลังลอบวางแผนอยู่ภายในใจ สิ่งที่พูดออกมาข้างต้น เป็นเพียงแค่ราคาโสมคนที่มีอายุสิบกว่าปี หากเป็นร้อยปี เกรงว่าจะหาโสมคนที่มีอายุหลายร้อยปีในเขตทุรกันดารของเมืองอู๋ซีไม่ได้ง่าย ๆ แต่เขาได้รับข่าวสารจากโรงหมอของเมืองอื่น ๆ แล้ว หากหาโสมล้ำค่าเจอจริง ๆ ไม่เพียงแต่จะได้ราคาพิเศษกว่าโสมทั่วไป อีกทั้งยังได้รับรางวัลอีกมากมาย ทางด้านเมืองอื่น แม้จะเก็บได้ของที่ดีที่สุดก็ยังเทียบไม่ได้สักครึ่งหนึ่งของสิ่งที่อยู่ตรงหน้า หากว่าเขาซื้อมันกลับไปล่ะ? ท่านหมอพานครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน กู้เสี่ยวหวานมองเห็นความลังเลของท่านหมอพาน ในใจก็เดาออกมาได้คร่าว ๆ ว่าคงจะเห็นพวกนางเป็นเด็กน้อยจึงตั้งใจจะกดราคาพวกเขาลง

แต่กู้เสี่ยวหวานไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองแต่อย่างใด และยื่นมือออกมาทำท่าทางประกอบ “ท่านหมอพาน ข้าจะไม่พูดอ้อมค้อมว่าต้องการเท่าไร ห้าร้อยตำลึงนี่นับว่าขายครึ่งหนึ่งแถมครึ่งหนึ่งแล้ว ท่านว่าอย่างไรเจ้าคะ?” ครั้นกู้เสี่ยวหวานบอกราคาห้าร้อยตำลึงออกมา ภายในห้องพลันมีเสียงสูดลมหายใจเข้าออกมาดังขึ้น กู้เสี่ยวหวานไม่จำเป็นต้องมองก็พอเดาออกว่าตอนนี้กู้หนิงผิงคงมีท่าทางตกตะลึง ท่านหมอพานเหลือบมองกู้เสี่ยวหวาน แม่สาวน้อยคนนี้แม้จะอายุยังน้อย แต่ความคิดกลับปราดเปรียว ราวกับมองออกว่าเขากำลังอยากได้โสมรากนี้ แต่เขาก็ยอมรับโสมคนที่แม่สาวน้อยคนนี้นำมา จริง ๆ แล้วราคาที่เสนอมานี้ก็ไม่ค่อยสูงมาก ถ้าเขาซื้อเอาไว้ ขอเพียงแต่เปลี่ยนมือเล็กน้อย เช่นนั้นคงจะได้เงินมาไม่น้อย หากนำไปขายที่เมืองหลวง ก็อาจจะได้เงินเป็นสองถึงสามเท่าจริง ๆ เพียงแต่ในใจกลับมีความกลัดกลุ้มอยู่ เดิมทีอยากจะจ่ายเงินซื้อของสิ่งนี้ในราคาที่ต่ำและขายออกไป ไม่คิดเลยว่าเขาที่ใช้ชีวิตมาครึ่งชีวิตจะมีความเฉลียวฉลาดเทียบไม่ได้กับเด็กน้อยคนนี้ ในใจจึงมองกู้เสี่ยวหวานต่างออกไปจากเดิม แม้จะรู้สึกเจ็บปวด แต่ท่านหมอพานกลับไม่อยากพลาดโอกาสดี ๆ นี้ไป จึงทำได้แค่พยักหน้า “ก็ได้ ห้าร้อยตำลึงก็ห้าร้อยตำลึง” ใบหน้ากู้เสี่ยวหวานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ตกลง ข้ารับข้อเสนอ!” “ดี เช่นนั้นแม่สาวน้อยเจ้านั่งลงก่อน ข้าจะไปนำเงินออกมาให้” หลังจากที่ท่านหมอพานออกไปหยิบเงิน ภายในห้องก็เหลือแค่เด็กน้อยทั้งสองคน กู้เสี่ยวหวานมองกู้หนิงผิงที่อยู่ข้าง ๆ เห็นกู้หนิงผิงเบิกตากว้าง ตกตะลึงจ้องตานางไม่กะพริบ กู้เสี่ยวหวานกะพริบตา ขณะกำลังจะพูดก็เห็นท่านหมอพานเดินเข้ามา ทั้งสองฝ่ายต่างแลกเงินและแลกสินค้ากัน สิ่งที่ท่านหมอพานนำมาคือตั๋วเงินราคาหนึ่งร้อยตำลึงจำนวนสี่ใบ ตั๋วเงินห้าสิบตำลึงจำนวนหนึ่งใบ และตั๋วเงินสิบตำลึงสี่ใบกับแท่งโลหะสองก้อน นอกเหนือจากนั้นคือเศษโลหะและพวงเหรียญทองแดงหนึ่งก้วน รวมกันแล้วได้ห้าร้อยตำลึงพอดี กู้เสี่ยวหวานเหลือบมอง ในใจเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ ท่านหมอพานพิถีพิถันและรอบคอบเช่นนี้ คาดว่าคงกลัวเด็กสองคนนี้ทำหายขณะใช้เงินซื้อของข้างนอก กู้เสี่ยวหวานจึงใส่เงินไว้ในอ้อมอกของตัวเองอย่างระมัดระวัง “ขอบคุณเจ้าค่ะท่านหมอพาน!” กู้เสี่ยวหวานไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน แต่ภายในใจนางกลับจดจำเอาไว้

“ไม่เป็นไรแม่สาวน้อย ถ้าหากในอนาคตยังมีสมุนไพรอะไรอีก เจ้าสามารถนำมันมาขายที่นี่ได้ คนแก่อย่างข้ารับซื้อในราคาที่สูงแน่นอน!” ท่านหมอพานยิ้มและพูดออกมา หลังจากนั้นก็ส่งเด็กทั้งสองคนกลับไป เมื่อใกล้จะกลับ ลูกจ้างคนนั้นก็เปลี่ยนท่าทางไปแล้ว เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานออกมาก็ยังมีความเกรงใจอยู่บ้าง เขาเกาศีรษะและส่งยิ้มให้กู้เสี่ยวหวาน กู้เสี่ยวหวานก็ไม่ใช่คนที่อาฆาตแค้นอะไร นอกจากพูดประโยคไม่น่าฟังเพียงไม่กี่ประโยคก็ถือว่าไม่ได้มีอะไรร้ายแรงมาก กู้เสี่ยวหวานก็ส่งยิ้มกลับไปให้ลูกจ้างคนนั้นตามมารยาท เพื่อแสดงว่าสุดสิ้นความแค้นต่อกันแล้ว

กู้เสี่ยวหวานจูงมือกู้หนิงผิงออกไปจากหอการแพทย์ อย่าว่าแต่กู้หนิงผิงเลย แม้แต่กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกเหมือนกับว่าฝันอยู่ กู้หนิงผิงตื่นเต้นจนดวงตาแดงไปหมด และไม่อยากจะเชื่อเรื่องทั้งหมดนี้ แต่กู้เสี่ยวหวานกลับฟื้นคืนสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น หลังจากนี้ไปยังจะได้เงินอีกมากมาย รอก่อนเถอะ! วันดี ๆ อยู่เบื้องหน้านี่แหละ “ท่านพี่ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย….” กู้หนิงผิงพูดพึมพำขึ้นมา จริง ๆ แล้วเขาไม่อยากจะเชื่อ หากว่าวันนี้เขาไม่ได้ตามพี่สาวไปด้วย เขาจะเชื่อได้อย่างไร ไม่คิดเลยว่าสมุนไพรเพียงหนึ่งต้นจะขายได้ในราคาถึงห้าร้อยตำลึง

ห้าร้อยตำลึงเชียวนะ เกรงว่าท่านพ่อกับท่านแม่คงจะไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนแน่! “ท่านพี่ นี่มันเหมือนกับความฝันเลย….” จนถึงตอนนี้อารมณ์ของกู้หนิงผิงก็ไม่มีท่าทีจะสงบลง นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว โสมคนหนึ่งรากขายได้ห้าร้อยตำลึง หากสามารถหาได้อีกสองสามรากแล้วล่ะก็ เช่นนั้นจะไม่ร่ำรวยเลยหรืออย่างไรกัน

กู้หนิงผิงตื่นเต้นจนใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ เขาแทบอยากจะรีบวิ่งเข้าไปในภูเขาแล้วหาโสมคนออกมาสักสองสามราก “ท่านพี่ ต่อจากนี้ไปข้าจะเข้าไปในภูเขาด้วย เพื่อไปลองหาโสมคนดู” หลังจากที่กู้หนิงผิงตื่นเต้น เขาจึงรีบพูดอย่างตั้งใจแน่วแน่ เขาเป็นลูกผู้ชายก็ต้องหาเงินให้กับทางบ้าน ในเมื่อท่านพี่ของเขาสามารถหาเงินได้ ลูกผู้ชายคนหนึ่งอย่างเขายิ่งต้องหาเงินได้แน่ กู้เสี่ยวหวานมองกู้หนิงผิงที่มีท่าทางกระตือรือร้นอยากลองทำ ก็พลันหัวเราะออกมา “เจ้าคิดว่าโสมคนเช่นนี้หาง่ายนักหรือ ข้ากับพี่ชายของเจ้าสองคนเตร็ดเตร่อยู่ในภูเขาลึกถึงครึ่งวันยังหาเจอเพียงหนึ่งราก จะเรียกว่าเป็นโอกาสหรือความบังเอิญก็ได้ หากไม่ใช่เพราะไก่ป่าคุ้ยพงหญ้ารก พวกข้าก็คงจะหาไม่เจอ”

“ท่านพี่ ท่านกับพี่หนิงอันเข้าไปในภูเขาลึกมาแล้วหรือ?” เมื่อกู้หนิงผิงได้ยินว่าพวกเขาไปภูเขาลึกมาแล้วก็ร้อนใจขึ้นมาทันที “ท่านพี่ ภูเขาลึกแห่งนั้นอันตรายมาก แม้แต่ชายหนุ่มที่มีกำลังแข็งแรงหลายคนก็ไม่มีใครได้ออกมา”

เมื่อนึกถึงอีกครั้ง พี่สือโถวใช้เวลานานขนาดนั้นถึงจับไก่ป่าได้แค่หนึ่งตัว แต่กู้เสี่ยวหวานจับสัตว์ป่ามาได้ติดต่อกันสองครั้ง หรือว่านางจะเข้าไปในภูเขาลึกแล้ว?

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ขายโสมทีรวยเลยทีเดียว เก่งมากเจ้าเสี่ยวหวาน

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน