บทที่ 58 พบแม่เฉาอีกครั้ง
บทที่ 58 พบแม่เฉาอีกครั้ง
กู้เสี่ยวหวานยกนิ้วโป้งขึ้นมา “ทำได้ดีมาก ไปหามาอีก!”
กู้หนิงอันได้รับกำลังใจ ก็ไปหาอีกครั้งอย่างดีอกดีใจเป็นพิเศษ
เมื่อกู้หนิงผิงเห็นพี่ชายหาเจอแต่ตัวเองนั้นหาไม่เจอ ก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อย
เด็กชายเดินมาอยู่ข้าง ๆ กู้เสี่ยวหวาน พร้อมกับพูดออกมา “ท่านพี่ ท่านสอนข้าขุดหน่อไม้เถอะ? ข้าหาหน่อไม้ไม่เจอ!” หัวใจมีความรู้สึกท้อใจเล็กน้อย
กู้เสี่ยวหวานเอ่ยปลอบขึ้น “ไม่เป็นไร หน่อไม้ฤดูหนาวซ่อนอยู่ในดิน ไม่ง่ายนักที่จะหาเจอ”
คิดแบบนี้แล้วก็ดีเหมือนกัน นางขุดหน่อไม้เมื่อครู่รู้สึกเหนื่อยมาก เช่นนั้นก็ให้กู้หนิงผิงทำเถอะ “ก็ดีเหมือนกัน เจ้ามาขุดเถอะ!”
กู้เสี่ยวหวานสอนกู้หนิงผิงว่าขุดหน่อไม้อย่างไร จนกระทั่งเห็นกู้หนิงผิงขุดหน่อไม้ที่สมบูรณ์ออกมาต้นหนึ่งได้
กู้เสี่ยวหวานก็วางใจลง “ไม่เลวเลย การขุดหน่อไม้ชนิดนี้ หากหารากไผ่ไม่เจอ ก็จะทำให้หน่อไม้ฤดูหนาวเสียหายได้ง่าย”
เด็กที่หาหน่อไม้ก็มีประสบการณ์ ส่วนเด็กที่ขุดหน่อไม้ก็มีพละกำลัง เมื่อกู้หนิงผิงขุดจนเหนื่อยแล้ว ก็เปลี่ยนให้กู้หนิงอันมาขุดต่อ ภายใต้การสอนของกู้เสี่ยวหวาน กู้หนิงผิงก็สามารถหาหน่อไม้ฤดูหนาวของตัวเองได้ แม้แต่กู้เสี่ยวอี้ที่เด็กที่สุดก็สามารถหาเจอ และเด็กทั้งสองก็ตื่นเต้นดีใจราวกับฉลองปีใหม่ก็ไม่ปาน
ยิ่งมีคนมากกำลังยิ่งมีมาก สี่คนแบ่งกันหา แบ่งกันขุด ก็ยิ่งหาได้รวดเร็วมากขึ้น
เด็กทั้งสี่คนยุ่งอยู่กับงานมาครึ่งวัน และเก็บของมาได้ไม่น้อย หลังจากใส่หน่อไม้ลงในตะกร้าที่นำมาด้วยจนเต็มแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็ลองหิ้วสักครู่หนึ่ง และพบว่าน่าจะมีน้ำหนักราวสามสิบกว่าชั่ง
กู้เสี่ยวหวานเช็ดเหงื่อเม็ดเล็กที่อยู่บนหน้าผาก พร้อมกับจูงมือกู้เสี่ยวอี้ไว้ “ทุกคนคงจะเหนื่อยกันแล้ว พวกเรากลับบ้านกันเถอะ ตอนเย็นค่อยมาใหม่ดีหรือไม่?”
แม้พวกเด็ก ๆ จะเหนื่อย แต่ก็ดูเหมือนยังไม่หายอยาก จึงพากันพยักหน้า “ได้เลย!”
เด็กทั้งสี่คนได้ประสบการณ์กลับมามากมาย กู้หนิงผิงแบกตะกร้าที่มีน้ำหนักสามสิบกว่าชั่งโดยไม่มีสีหน้าเหนื่อยล้าเลยสักนิด พลางพูดจอกแจกจอแจกันไม่หยุดมาตลอดทาง
“ท่านพี่ ข้าพบว่าการขุดหน่อไม้นั้นช่างง่ายดายจริง ๆ เพียงแต่ต้องเสียพละกำลัง พี่ฉือโถวมีพละกำลังมาก ให้พี่ฉือโถวมาด้วยกันเถอะ ดีหรือไม่?” กู้หนิงผิงเอ่ยขึ้นมา
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินกู้หนิงผิงพูดเช่นนี้ ก็คิดชั่วครู่หนึ่งก่อนจะรู้สึกเห็นด้วย
ป่าไม้ที่กว้างใหญ่มีหน่อไม้มากเช่นนี้ แถมพวกชาวบ้านหลายคนยังไม่ชอบกินหน่อไม้ และบอกว่ารสชาติของหน่อไม้นั้นแปลก มีแค่คนในครอบครัวและคนที่ยากจนและไม่มีข้าวปลาอาหารกินเท่านั้นถึงจะไปขุดมาหน่อสองหน่อเพื่อให้อิ่มท้อง แต่หน่อไม้นี้ยิ่งหิวก็ยิ่งกินมาก ยิ่งกินก็ยิ่งหิวมาก กินของอะไรตามลงไปภายในท้องไม่หยุด จะทำให้เกิดอาการกระสับกระส่ายชั่วครู่หนึ่ง ซึ่งจะไม่สบายเป็นอย่างมาก ฉะนั้นหลายคนมักจะไม่ทานหน่อไม้
การกินหน่อไม้ทำให้กระเพาะรู้สึกไม่สบาย นั่นเป็นเพราะภายในท้องไม่มีน้ำมัน และหน่อไม้เป็นสิ่งที่ดูดซับน้ำมันมาก พูดได้ว่าครอบครัวยากจนกินหน่อไม้ และเกิดอาการไม่สบายท้องก็เป็นสาเหตุหนึ่ง แต่ว่าหากในตอนที่ผัดหน่อนั้น ใส่เนื้อลงไปเล็กน้อย รสชาตินั้นก็ไม่เหมือนกันเป็นอย่างมาก!
หากว่าหิมะตกและไม่สามารถไปขุดหน่อไม้ได้ เด็กตัวเล็ก ๆ ไม่กี่คนในตระกูลกู้นี้ก็คงขุดหน่อไม้ไม่ได้มากจริง ๆ หากรอไปถึงฤดูใบไม้ผลิ และไม่ขุดหน่อไม้ฤดูหนาวออกมา ทั้งหมดก็จะเน่าเปื่อยอยู่ในดิน ช่างน่าเสียดายมากจริง ๆ
หากบอกกับครอบครัวท่านป้าจาง ให้พวกเขามาขุดด้วยกัน ไม่เพียงแต่จะสามารถทำให้บ้านป้าจางตุนเสบียงอาหารไว้กินเล็กน้อย และไม่แน่ว่าหน่อไม้นี้ยังสามารถนำไปขายเป็นเงินได้อีก
คนในยุคนี้ไม่รู้ว่าทำอย่างไรถึงจะอร่อย แต่กู้เสี่ยวหวานเป็นคนรุ่นหลังหลายพันปีก่อนที่จะมาที่นี่ นางรู้ว่าจะทำหน่อไม้ให้มีประโยชน์มากที่สุดนี้อย่างไร และนางก็มีวิธีจัดการกับหน่อไม้เยอะมาก หากสามารถเรียนรู้ได้หนึ่งหรือสองวิธี หน่อไม้ก็จะเป็นผักประจำบ้านของคนในบ้านแล้ว
“ดี พวกเรารีบกลับไปทำข้าวกิน หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว พวกเราก็ไปบ้านป้าจางเรียกพี่ฉือโถวออกไปขุดด้วยกัน!” กู้เสี่ยวหวานเร่งฝีเท้าขึ้น
เพียงแต่ยังไม่ถึงบ้าน กู้เสี่ยวหวานก็เจอกับใครบางคนที่นางไม่อยากเจอมากที่สุด
“อ๊ะ แม่สาวน้อยตระกูลกู้ พวกเจ้าทั้งสี่คนมาจากไหนกัน? แล้วเจ้าใส่ของอะไรไว้ในตะกร้าหรือ? เหตุใดถึงหนักเช่นนี้ มา มา มา ให้อาสะใภ้คนนี้ดูหน่อย” กู้เสี่ยวหวานไม่ได้เงยหน้า เพียงแค่ได้ยินเสียงแหลมแสบหูก็รู้ว่าแท้จริงแล้วนั้นเจอใคร
กู้เสี่ยวหวานมองอาสะใภ้สามขยับเข้ามาใกล้อย่างเงียบ ๆ กลิ่นอายเข้มข้นของชาดที่ทาทั่วร่างเกือบจะทำให้กู้เสี่ยวหวานสำลักออกมาแล้ว
แม่เฉาก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนมาถึงด้านหลังกู้หนิงผิง และอยากจะยื่นหน้าไปมองในตะกร้าว่ามันคืออะไร
“เอ๋?” เมื่อแม่เฉาเห็นของในตะกร้าที่กู้หนิงผิงแบกไว้ว่าคืออะไรแล้ว ก็เอ่ยอย่างรังกียจขึ้นมา “เก็บของที่แม้แต่หมูก็ไม่กินมา!”
กู้เสี่ยวหวานกลอกตา หมูก็ไม่กิน? ก็ได้ รอหลังจากที่พวกเจ้ารู้ว่ากินอย่างไร แล้วค่อยไปแย่งอาหารกินกับหมูเถอะ!
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ กู้เสี่ยวหวานก็หัวเราะออกมา นางกำลังต่อสู้กับคำเปรียบเทียบนี้ ไม่ใช่ว่านางนำอาสะใภ้สามของตระกูลนางมาเปรียบเทียบสิ่งนั้นหรืออย่างไร?
เมื่อได้ยินกู้เสี่ยวหวานหัวเราะออกมาด้วยเจตนาที่ไม่ดี แม่เฉาก็แกว่งผ้าเช็ดหน้าไปมา กลิ่นแป้งทาหน้าฉุนลอยแตะปลายจมูก ยังดีที่กู้เสี่ยวหวานไม่แพ้แป้งทาหน้า ไม่เช่นนั้นล่ะก็กลิ่นที่เข้มข้นเช่นนี้ รับรองได้เลยว่านางจะต้องจามใส่หน้าแม่แม่เฉา
“เจ้าหัวเราะอะไร?” แม่เฉาจ้องมองกู้เสี่ยวหวานอย่างเกลียดชัง พร้อมกับถามขึ้นมา ครั้งก่อนกู้เสี่ยวหวานขู่นางด้วยขุมนรกสิบแปดขุม นางยังจำได้อย่างชัดเจน คำขู่ของนางทำให้แม่เฉารู้สึกไม่ปลอดภัยจนนอนไม่หลับไปหลายวันหลายคืน และก็ไม่รู้ว่ายัยเด็กคนนี้เคยตายแล้วฟื้นมาก่อน มนุษย์จะเปลี่ยนไปมีจิตใจที่เยือกเย็นเช่นนี้
“อาสะใภ้สาม ข้าชอบกินสิ่งนี้มาก!” กู้เสี่ยวหวานพูดตามความจริง
ที่จริงแล้วนางชอบกินหน่อไม้ฤดูหนาวมาก เมื่อชาติก่อนเพียงแค่หน่อไม้ฤดูหนาวเกิดขึ้นมา นางก็จะรีบวิ่งไปซื้อสักสิบกว่าหรือยี่สิบชั่งเอาไว้ในบ้าน จากนั้นก็หั่นให้ดี และแช่น้ำประปาเอาไว้ ในตอนที่อยากกินก็หยิบมาหนึ่งกำ ไม่ว่าจะผัดกับผักดองเค็ม หรือผัดกับเนื้อต่าง ๆ รสชาตินั้นอร่อยที่สุดในโลกจริง ๆ แค่คิดกู้เสี่ยวหวานก็น้ำลายไหลแล้ว
“คนจน!” แค่แม่เฉามองท่าทางที่ไม่เคยเปิดหูเปิดตามาก่อนของกู้เสี่ยวหวาน ในใจก็นึกดูถูกอย่างไม่มีสิ่งใดเปรียบเทียบได้
ภายในป่าไผ่นี้ หน่อไม้ฤดูหนาวเยอะมากแม้แต่หมูก็ไม่กินของสิ่งนี้ แต่เด็กพวกนี้กลับทำมันเหมือนเป็นของล้ำค่า และยังบอกว่าชอบกิน
แม่เฉาผลักกู้หนิงผิงอย่างรังเกียจ กู้หนิงผิงยืนแบกตะกร้าไว้อย่างมั่นคง แม่เฉาคนนั้นใช้แรงมากเกินไป ไม่คิดเลยว่ากู้หนิงผิงจะยังยืนอยู่และไม่ขยับไปไหน เท้าข้างหนึ่งยืนไม่มั่นคง สุดท้ายก็สะดุดลงไปทันทีราวกับถูกอะไรสักอย่างเกี่ยวไว้ และล้มลงไปตรงหน้า
กู้หนิงผิงหลบออกไปอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด มองแม่เฉาที่ล้มอย่างสับสนด้วยสายตาที่เย็นชา พลางผ้าเช็ดหน้าก็หลุดออกจากมือ
“โอ๊ย เจ้าเด็กเปรต” แม่เฉาล้มอย่างไม่จริงจังนัก นอนอยู่บนพื้นร้องโอดโอยออกมาไม่หยุด
……………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ผลักเองล้มเองนะป้า โทษเด็ก ๆ ไม่ได้นะ
ไหหม่า(海馬)