ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 81 ขายหน่อไม้กลับมา

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 81 ขายหน่อไม้กลับมา

บทที่ 81 ขายหน่อไม้กลับมา

กู้เสี่ยวหวานช่วยกู้เสี่ยวอี้แต่งตัวและถักเปียสองข้างยาวระหน้าอกเหมือนกับตนเอง ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าตนนั้นซื้อผ้าเช็ดหน้ากลับมา สองสามวันมานี้กู้เสี่ยวอี้มีน้ำมูก คาดว่านางคงจะหนาวอยู่ไม่น้อย และไม่รู้ว่าจะเช็ดอย่างไรเหมือนกัน ดีที่เสื้อบนร่างนั้นมีชายผ้าเล็ก ๆ จึงใช้เช็ดน้ำมูกตนเป็นครั้งคราว

กู้เสี่ยวหวานรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา ยัดลงไปบนช่องเล็ก ๆ บนเสื้อ บอกกู้เสี่ยวอี้ว่าหากมีน้ำมูกไหล เพียงแค่เช็ดด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ เสื้อผ้าจะได้ไม่ต้องสกปรก แต่กู้เสี่ยวอี้กลับไม่กล้าใช้ผ้าใหม่ ๆ เช่นนี้เช็ดอยู่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็เอาแต่ส่ายหัวบอกว่าไม่ได้

ด้านนั้นก็กู้หนิงอันกับกู้หนิงผิงหลังจากสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย กู้เสี่ยวหวานก็เดินมาด้านหน้าจัดปกเสื้อกับชายเสื้อให้เด็กชายทั้งสอง กู้หนิงอันกับกู้หนิงผิงสวมเสื้อคลุมผ้าฝ้ายสีเขียวเหมือนกัน กางเกงท่อนล่างก็เป็นสีเดียวกัน มองดูแล้วสบายตา

ส่วนด้านกู้เสี่ยวอี้สวมเสื้อคลุมตัวสั้นสีแดงปักลายดอกไม้ด้วยด้ายสีดำ กางเกงท่อนล่างมีสีเดียวกับเสื้อ สีแดงนั้นมองแล้วชวนให้นึกถึงวันเฉลิมฉลอง อีกทั้งด้านหน้ายังมีด้ายสีแดงที่ทำเป็นพู่ห้อยอยู่ด้านหน้าหน้าอก ดูน่ารักสดใสยิ่งนัก

กู้เสี่ยวหวานมองเสื้อผ้าใหม่ของน้องทั้งสามแล้วก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ

พันธุกรรมของตระกูลดูจะดีไม่น้อย น้องชายฝาแฝดทั้งสองถ้าไปอยู่ในยุคปัจจุบันล่ะก็ นางคิดว่าพวกเขาต้องกลายเป็นเนื้อสดน้อย[1] เป็นแน่! แล้วก็ยังมีกู้เสี่ยวอี้ที่มีหน้าตาคล้ายกับตุ๊กตาอวยพรที่ถูกติดไว้บนผนังช่วงวันปีใหม่ เพียงแต่ตอนนี้นางดูผอมกว่าเล็กน้อย ถ้าต่อไปดูแลให้อ้วนท้วนกว่านี้ กู้เสี่ยวอี้ก็น่าจะไม่ต่างกับเด็กน้อยในภาคสักเท่าไรเป็นแน่

กู้เสี่ยวหวานหยิบรองเท้าเด็กคู่ใหม่มาจากในตู้เสื้อผ้าส่งให้เด็กทั้งสาม กู้หนิงอันกับกู้หนิงผิงสวมด้วยตัวเองเรียบร้อย กู้เสี่ยวหวานจึงช่วยกู้เสี่ยวอี้สวมรองเท้า

กู้เสี่ยวอี้พอได้สวมรองเท้าใหม่ก็ดีใจจนเดินวนไปทั่วทั้งห้อง “ท่านพี่ รองเท้าข้าสวยจังเลย!”

“ท่านพี่รองเท้านี้ทั้งเบาทั้งใส่สบายจริง ๆ….” กู้หนิงผิงที่ปกติชอบก้าวเท้าเดินเร็ว ๆ ครั้งนี้ได้เปลี่ยนรองเท้าใหม่จังหวะก้าวกลับช้าลง แต่ละก้าวยังเต็มไปด้วยความระมัดระวัง ราวกับกลัวว่ามันจะสกปรกหรือไม่ก็พังไปเสียก่อนอย่างนั้นแหละ

กู้หนิงอันเองก็ได้สวมรองเท้าคู่ใหม่แล้วเช่นกัน มองน้องสาวกระโดดไปมา น้องชายที่ดูรักษาทะนุถนอมรองเท้าใหม่ ในใจก็รู้สึกพึงพอใจขึ้นมา

ช่วงนี้พอได้กินอาหารดี ๆ กินอิ่มนอนหลับ เด็ก ๆ เหล่านี้ต่างก็ฟันขาวปากแดง ใบหน้ามีเนื้อมีนวลขึ้นเล็กน้อย กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว

หลังจากทั้งสี่จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เสร็จ ก็นึกขึ้นมาได้ว่าต้องทำอาหารมื้อเช้าแล้ว

เมื่อผลักหน้าต่างออกไป ด้านนอกก็ปรากฏภาพหิมะสีขาวตกเต็มบ้านเรือนหลังนั้นหลังนี้ ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยสีขาวของหิมะ

หิมะนี้น่าจะไม่ละลายอีกสักพัก และคงไม่สะดวกหากมันยังขวางอยู่ภายในบริเวณบ้าน นางจึงให้เด็กชายสองคนขุดหิมะออกเพื่อเป็นทางเดิน หลังจากสั่งงานให้เสร็จแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็ให้กู้เสี่ยวอี้เข้ามาในห้องครัวและเริ่มทำอาหารมื้อเช้า

มื้อเช้ากู้เสี่ยวหวานคิดว่าจะทำอาหารอย่างง่าย ๆ แม้ว่ามื้อเช้าจะเรียบง่ายแต่นางก็ไม่ได้ทำอย่างขอไปที

กู้เสี่ยวหวานหั่นเนื้อชิ้นใหญ่ ตักน้ำมันหมูมาหนึ่งช้อนเตรียมที่จะต้มแป้งกวนหมู วันที่หิมะตกหนักอย่างนี้ ถ้าได้กินต้มแป้งกวนร้อน ๆ ร่างกายน่าจะสดชื่นและรู้สึกสบาย

รอจนอาหารมื้อเช้าเสร็จ กู้เหนิงผิงกับกู้หนิงอันก็ยังขุดหิมะไม่เสร็จ กู้เสี่ยวหวานจึงไปเรียกให้ทั้งสองมากินข้าวเช้าก่อน แล้วค่อยทำงานต่อ

เมื่อจัดการมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อย กู้เสี่ยวหวานก็ออกไปขุดหิมะในบริเวณบ้านพร้อมเด็ก ๆ เด็กสาวขุดเป็นสองทางเดินเล็ก ๆ ทางหนึ่งเป็นทางเดินไปยังห้องครัว ทางหนึ่งเป็นทางเดินออกไปข้างนอก พอทำเสร็จทั้งสี่ก็กลับเข้าบ้าน

หิมะหนาเช่นนี้ด้านนอกไม่ค่อยน่าออกไปเท่าไรนัก

พอมองออกไปด้านนอกกู้เสี่ยวหวานก็หัวใจเต้นตึกตัก ไม่รู้ว่าพวกท่านป้าจางที่อยู่ทางด้านนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว

กู้เสี่ยวหวานคิดอย่างกังวลใจได้ไม่เท่าไร หูพลันได้ยินเสียงของท่านป้าจางเรียกมาจากด้านนอกพอดี “สาวน้อยกู้ อยู่บ้านหรือไม่”

กู้เสี่ยวหวานเมื่อได้ยินเสียงเรียกของท่านป้าจางก็ราวกับได้ยินเสียงสรรค์อย่างไรอย่างนั้น รีบวิ่งไปเปิดประตูทันที “อยู่ อยู่ อยู่เจ้าค่ะท่านป้าจาง ข้าอยู่เจ้าค่ะ!”

เสียงตึงตังเกิดด้านหลังประตูก่อนประตูจะถูกเปิดออก นางก็เห็นท่านป้าจางกับเสี่ยวฉือโถวยืนอยู่หน้าประตู กู้เสี่ยวหวานวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปหาพูดว่า “ท่านป้าจาง ขายหมดแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

รออยู่ครู่หนึ่งหากแต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา กู้เสี่ยวหวานมองกลับไปกลับเห็นว่าท่านป้าจางกับเสี่ยวฉือโถวตกตะลึงมองตนเองตาค้าง กู้เสี่ยวหวานพลันกระจ่างว่าวันนี้ตนเปลี่ยนมาสวมชุดเฉลิมฉลอง

“ท่านป้า พี่ฉือโถว!” กู้เสี่ยวหวานนั้นหน้าค่อนข้างหนา เมื่อเช้าเห็นน้อง ๆ มองตนตาค้างก็รู้สึกประหม่าไม่น้อย ตอนนี้พอมีคนนอกมาจ้องมองนางเช่นนี้อีก จึงรู้สึกเหมือนมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น

“สาวน้อยกู้ นี่เจ้า…” ท่านป้าจางยืนมองคนที่เหมือนเทพสวรรค์ก็ไม่ปานตรงหน้า พูดได้เพียงครึ่งประโยคก็พูดไม่ออกแล้ว รอจนเห็นเด็ก ๆ วิ่งกรูกันเข้ามาหาตน พวกนางต่างก็ผลัดเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าตัวใหม่ ตอนนี้เองท่านป้าจางถึงพูดขึ้นว่า “สาวน้อยกู้ ไหนบอกข้าสิว่าเอาเงินที่ไหนมาซื้อเสื้อผ้าพวกนี้”

กู้เสี่ยวหวานยิ้ม “ก็ไม่ใช่ว่าเมื่อวานข้าเพิ่งเข้าไปในเมืองหรือเจ้าคะ ข้าไปทำอาหารให้ที่ร้านอาหาร เขาบอกว่าอาหารที่ข้าทำมีรสชาติดี เลยให้เงินข้ามาเล็กน้อย ข้าถึงได้เอามาซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้น้อง ๆ ได้สวมใส่เจ้าค่ะ”

ครั้นท่านป้าจางได้ยินก็พลันนึกขึ้นได้ “ว่าแล้วเชียว วันนี้ข้าไปส่งหน่อมาแล้ว เถ้าแก่ร้านจิ่นฝูออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง บอกว่าเจ้ากำชับเขาเอาไว้ว่าให้ซื้อหน่อไม้ของบ้านข้า ที่แท้เป็นเจ้าที่ไปพูดให้ข้า หนึ่งชั่งตั้งหนึ่งร้อยเหรียญเชียวนะ นี่มันราคาสวรรค์ชัด ๆ เนื้อหมูหนึ่งชิ้นก็ห้าสิบเหรียญ ข้าซื้อหมูได้หลายชิ้นเลย”

“เสี่ยวหวาน ขอบใจเจ้าจริง ๆ!” ท่านป้าจางนั้นไม่ใช่คนโง่ หน่อไม้หนึ่งชั่งหนึ่งร้อยเหรียญ วันนี้บ้านของพวกเขาขายหน่อไม้ได้สามร้อยชั่งได้เงินมาเป็นกอบเป็นกำ ในชนบทแบบนี้แค่คิดนางยังไม่กล้าที่จะคิดเลย นี่มันเป็นเงินแทบจะทั้งปีของคนอื่นด้วยซ้ำ แต่พวกเขาขุดหน่อไม้แค่สองวันก็ได้มันมาแล้ว ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับกู้เสี่ยวหวาน ถ้านางไม่เรียกให้เสี่ยวฉือโถวไปขุดหน่อไม้ด้วยกัน ถ้านางไม่ไปคุยเรื่องการค้ากับคนอื่นในเมือง ท่านป้าจางก็คงไม่ต้องนอนรับเงินมากมายเช่นนี้ได้

ท่านป้าจางรู้สึกตื้นตันใจ เด็กหญิงคนนี้จิตใจดี ไม่เสียแรงที่นางรักและเป็นห่วงมาหลายปี

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกเขินไม่น้อย “ท่านป้าจาง…”

ท่านป้าจางพอได้ยินเสียงกู้เสี่ยวหวานเรียกก็เช็ดน้ำตาแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร ข้าแค่ดีใจที่เสี่ยวหวานสามารถหาเงินเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว พ่อและแม่ที่จากไปแล้วของเจ้าก็รู้และคงจะดีใจไม่ต่างกัน”

นานมาแล้วกู้เสี่ยวหวานเพิ่งจะได้ยินคำว่าพ่อกับแม่สองคำนี้อีกครั้ง เพียงเรียกก็รู้สึกเจ็บปวดใจแล้ว นอกจากจะเป็นความรู้สึกของเจ้าของร่างเดิมนี้ ยังทำให้นางนึกถึงพ่อแม่ของตนเองอีกด้วย

…………………………………………………………………………

[1]เนื้อสดน้อย คำที่ใช้ในอินเทอร์เน็ต เปรียบเทียบหนุ่มอายุน้อยหน้าตาดีว่า ดูน่ากินเหมือนเนื้อ

สารจากผู้แปล

พอเปลี่ยนเสื้อผ้าชำระร่างกายดี ๆ ก็คือจำกันไม่ได้เลยทีเดียว

ต้องขอบคุณเสี่ยวหวานแหละค่ะที่มีหัวการค้า

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน