บทที่ 84 แผนการร้ายของแม่ลูก
บทที่ 84 แผนการร้ายของแม่ลูก
ท่านป้าจางพอได้ยินกู้เสี่ยวหวานพูดอย่างเกรงใจแบบนั้น นางก็พูดกับเด็กหญิงด้วยสีหน้าอ่อนโยน “ยังจะเกรงใจอะไรท่านป้าจางของเจ้าอยู่อีก ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ท่านป้าคนนี้จะหาเงินมาได้เยอะขนาดนี้หรือ! เจ้าคงจะไม่รู้ที่พวกเราไปขายกลับมารอบนี้น่ะ ขายได้ตั้งเกือบสามสิบตำลึงเชียวนะ!”
ว้าว เยอะขนาดนั้นเลยหรือ!
พอเห็นหน้าที่สดใสของท่านป้าจางและเสี่ยวฉือโถว กู้เสี่ยวหวานก็ดีใจกับพวกเขาไปด้วยเช่นกัน “แค่ขายได้ข้าก็ดีใจแล้วเจ้าค่ะ!”
สามสิบตำลึงเชียวนะ นี่เป็นจำนวนเงินของครอบครัวหนึ่งในชนบทที่ต้องใช้เวลาหามันมาหลายปีทีเดียว แต่พวกเขาแค่ขุดหน่อไม้ไม่เท่าไรก็ได้เงินมาเยอะขนาดนี้แล้ว มิน่าพี่ฉือโถวกับท่านป้าจางถึงได้ดูดีใจขนาดนี้
“เฮ้อ แต่ว่าน่าเสียดาย ถ้าข้าสามารถไปขุดกับฉือโถวได้ก็คงดี ไม่แน่พวกเราอาจจะขุดและเอาไปขายได้มากกว่านี้ก็ได้” ท่านป้าจางพูดด้วยความรู้สึกเสียใจเล็กน้อย หนึ่งร้อยเหรียญต่อหน่อไม้หนึ่งชั่ง นี่ถ้านางขุดได้เยอะกว่านี้อีกหน่อย ก็น่าจะได้เงินเยอะกว่านี้แล้วเชียว!
“ท่านป้าจางอย่าเสียใจไปเลยเจ้าค่ะ” กู้เสี่ยวหวานเข้าใจความรู้สึกของท่านป้าจาง ถ้าเปลี่ยนให้ตัวเองเป็นคนทำกู้เสี่ยวหวานก็คงจะมีความคิดแบบนี้เช่นเดียวกัน เพียงแค่นางคิดไม่ถึงก็เท่านั้นว่าหน่อไม้นี้จะขายดีเช่นนี้ “ท่านป้าจางเจ้าคะ ตอนนี้ข้างนอกหิมะตกลงมาแล้ว หน่อไม้นั่นก็ขุดไม่ไหวแล้วล่ะ พวกเรารอฤดูใบไม้ผลิแล้วค่อยไปขุดหน่อไม้หน้าฤดูใบไม้ผลิด้วยกันดีกว่า พวกนั้นก็ขายได้เหมือนกัน”
“จริงหรือ?” ท่านป้าจางพูดถามอย่างยินดี
“เจ้าค่ะ!” กู้เสี่ยวหวานตอบกลับไป “จริงเจ้าค่ะท่านป้า แต่ว่าการที่เราไปขายหน่อไม้ที่เมืองครั้งนี้ บางทีถ้าหลาย ๆ คนอาจรู้ว่าหน่อไม้นั่นสามารถขายได้ พวกเขาคงพากันมาขุดหน่อไม้บนเขากันหมด ถึงตอนนั้นราคาก็คงจะไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้นแล้ว อีกทั้งหน่อไม้ฤดูหนาวยังอร่อยกว่าฤดูใบไม้ผลิด้วย ราคาก็จะสูงกว่าฤดูใบไม้ผลิเล็กน้อย”
กู้เสี่ยวหวานนำเรื่องจริงขึ้นมาพูด
“ไม่เป็นไร ขอเพียงให้ได้เงิน มากหรือน้อยก็ไม่เป็นไรหรอก ท่านแม่อย่าเสียใจเลย ไว้ให้แดดออกแล้ว ข้าค่อยไปขุดหน่อไม้ในป่าก็ได้” ฉือโถวที่ยืนอยู่ด้านข้างรีบพูดปลอบใจมารดาของตน
“อืม พี่ฉือโถวไว้ข้าจะไปกับท่านด้วย!” กู้หนิงผิงพูดอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“ข้าก็จะไปเหมือนกัน!” กู้หนิงอันเองก็พูดขึ้นมาบ้างเหมือนกัน
“เสี่ยวอี้ก็จะไปเหมือนกันเจ้าค่ะ!” กู้เสี่ยวอี้เห็นพวกพี่ชายจะไปขุดหน่อไม้กัน ดังนั้นเรื่องนี้จะขาดตัวเองไปได้อย่างไร จึงรีบพูดขึ้นมาบ้างเหมือนกัน เพราะกลัวว่าพวกเขาจะไปขุดหน่อไม้โดยไม่พาตนเองไปด้วย
“เสี่ยวอี้เด็กดี ข้าต้องพาเจ้าไปอยู่แล้วล่ะ” ฉือโถวหิ้วปีกสองข้างกู้เสี่ยวอี้แล้วยกนางขึ้นอุ้ม และหมุนกู้เสี่ยวอี้เป็นวงกลมสองรอบ จนกู้เสี่ยวอี้หัวเราะเอิ๊กอ๊ากไม่หยุด
เพราะเมื่อครู่นี้แม่ซุนโผล่มา ไหนจะหยอกล้อกับท่านป้าจางอยู่หน้าประตูตั้งนานสองนาน กู้เสี่ยวหวานยืนข้างนอกนานขนาดนี้ก็เริ่มรู้สึกทนไม่ไหวแล้ว จึงชวนท่านป้าจางเข้าไปนั่งด้านในบ้าน แต่กลับได้ยินท่านป้าจางพูดว่า “เสี่ยวหวาน ข้าขอตัวกลับก่อน ท่านลุงอยู่บ้านคนเดียว พอกลับมาข้าก็พาลูกชายมาหาเจ้าเลย ตอนนี้ป้าเลยไม่รู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
“เจ้าค่ะ ท่านป้าจางรีบกลับไปเถอะ” กู้เสี่ยวหวานเห็นท่าทางเร่งรีบของท่านป้าจางก็ไม่ได้รั้งให้นางอยู่ต่อ ตอนนั้นเองฉือโถวก็หยิบถุงใบหนึ่งมาจากเกวียนมาวางไว้ด้านหน้าเท้าของกู้เสี่ยวหวาน พอเห็นกู้เสี่ยวหวานยืนนิ่งไป ฉือโถวก็รีบอธิบายว่า “นี่เป็นของที่แม่ข้าซื้อมา บอกว่าซื้อให้พวกเจ้าไว้กินกัน”
ทันใดนั้นกู้เสี่ยวหวานก็เข้าใจ ท่านป้าจางคงกลัวว่าพวกนางจะกินไม่อิ่มถึงได้ให้ข้าวสารมาแบบนี้ แต่กู้เสี่ยวหวานไม่มีทางรับของพวกนี้ได้แล้ว จึงรีบส่งถุงใบนี้กลับไปให้ท่านป้าจาง เพียงแต่กู้เสี่ยวหวานประเมินกำลังของตัวเองผิด หิ้วถุงขึ้นมาข้างหนึ่งกลับไม่ขยับเลยสักนิดเดียว กระทั่งกู้หนิงผิงกับกู้หนิงอันเข้ามาช่วย
ท่านป้าจางเห็นกู้เสี่ยวหวานไม่รับพลันรู้สึกเคืองขึ้นมาเล็กน้อย “เจ้ารับไว้เถอะ เจ้าให้ลาภก้อนโตกับท่านป้าคนนี้ได้ซื้อขายของขนาดนี้ ข้าวสารนี้มันก็ควรต้องเป็นของเจ้า”
เดิมทีในถุงนี้คือข้าวสารที่บรรจุอยู่เต็มถุง ถุงนี้เกรงว่าจะหนักสักยี่สิบชั่งได้
กู้เสี่ยวหวานพลันรู้สึกซาบซึ้ง แต่รอบนี้อย่างไรเสียนางก็ไม่อาจรับไว้ได้แล้วพูด “ท่านป้าจางข้าวสารนี้ท่านนำกลับไปเถอะเจ้าค่ะ ความตั้งใจของท่านป้า ข้ากับน้องชาย น้องสาวต่างก็เข้าใจดีแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้ข้าก็มีเงินบ้างแล้วเหมือนกัน เงินพวกนี้ก็เป็นเพราะน้ำพักน้ำแรงที่พี่ฉือโถวหามาเองทั้งนั้น ข้าไม่กล้ารับไว้หรอกเจ้าค่ะ”
“เด็กโง่ พ่อกับแม่ของเจ้าก็ไม่อยู่แล้วข้าต้องรับผิดชอบดูแลพวกเจ้า ไม่ว่าพวกเจ้าจะหาเงินเองได้แล้วหรือไม่ได้ ของเหล่านี้เจ้ารับแล้วเก็บเงินเอาไว้ก็พอ ต่อไปต้องมีเรื่องให้ต้องใช้เงินอีกเยอะ”
กู้เสี่ยวหวานได้ยินในใจก็ยิ่งรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก นี่อาจจะเรียกว่าเป็นความรู้สึกของญาติที่แท้จริงก็ได้ ไม่ว่าจะมีสายเลือดเหมือนกันหรือไม่ แค่ใจนางคิดเช่นนั้นก็พอ
ท่านป้าจางยังพูดเตือนเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่กี่ประโยค จึงค่อยขึ้นเกวียนไปกับฉือโถว ด้านนอกอากาศหนาวเย็น กลัวว่าวัวของที่บ้านจะหนาวตายก่อน จึงรีบพากันกลับบ้านพาวัวเข้าคอกเพื่อให้ความอบอุ่น อีกทั้งลุงจางยังอยู่บ้านคนเดียว เคลื่อนไหวก็ไม่สะดวกต้องคอยดูแล กู้เสี่ยวหวานก็ไม่อาจรั้งนางไว้ได้อีก
หลังจากส่งท่านป้าจางกลับบ้านแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็กลับเข้ามาในบ้าน และมัดปากถุงข้าวเก็บเป็นอย่างดี กู้เสี่ยวหวานยังคงรู้สึกไม่สบายใจ ในใจยังคงคิดถึงเรื่องที่แม่ซุนมาหานาง ในวันที่หิมะตกหนักเช่นนี้ คนที่รักความสบายอย่างแม่ซุนและกู้ซินเถาเหตุใดถึงมาที่นี่โดยไม่มีเหตุผล พวกนางจะต้องมีแผนการอะไรบางอย่างเป็นแน่
ทางด้านแม่ซุนรีบพากู้ซินเถากลับไป ยังพูดไปเดินไปด้วยว่า “ซินเถา พ่อของเจ้าพูดไว้ไม่ผิดเลยจริง ๆ ด้วย นังกู้เสี่ยวหวานนั่นต้องโชคหล่นทับอะไรบางอย่างแน่ จู่ ๆ ถึงได้ รวยขึ้นมาแบบนี้”
“ท่านแม่ พวกเขาแค่ใส่เสื้อใหม่ก็เท่านั้นเอง ไม่เห็นมีอะไรเลย วัสดุก็เป็นของคุณภาพต่ำสุด ให้ข้า ข้ายังไม่อยากได้เลย” กู้ซินเถาหน้าบูด เสื้อผ้าบนตัวของกู้เสี่ยวหวานมันก็แค่ของราคาต่ำก็เท่านั้นไม่ใช่หรือ ให้เปรียบกับอย่างไรก็ยังต่างกันหมื่นแปดพันเท่า
“เจ้าไม่เคยเห็นสภาพเสื้อผ้าที่พวกนั้นสวมเมื่อก่อนอย่างนั้นหรือ!” แม่ซุนเห็นลูกสาวยังไม่รู้ตัวก็อดรู้สึกขัดใจนิด ๆ ไม่ได้ ลูกสาวของนางเพิ่งจะอายุไม่กี่ปี โตมาหน้าตาสะสวย แม่ซุนเห็นว่านับวันลูกสาวของตัวเองก็ยิ่งสวยวันสวยคืน นางก็ยิ่งรู้สึกพอใจ
ชีวิตของนางแต่งงานให้กับกู้ฉวนลู่ไปแล้วทั้งชีวิต แต่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย มีชุดมีอาหารดี ๆ กินเลย ดังนั้นนางจึงหวังว่าเมื่อลูกสาวตัวเองโตขึ้นแล้วจะสามารถแต่งงานกับครอบครัวรวย ๆ ได้ ชีวิตของนางจะได้นั่งเป็นฮูหยินสบาย ๆ ไปทั้งชาติ
ดังนั้นแม่ซุนถึงได้ตามใจกู้ซินเถามาโดยตลอด ไม่ว่าอะไรนางก็จะหามาให้กู้ซินเถา ทั้งอาหารดี ๆ เสื้อผ้าเครื่องประดับสวย ๆ แม่ซุนก็หามาให้กู้ซินเถา ทุกวันนางจะให้กู้ซินเถาแต่งหน้าสวย ๆ ประหนึ่งว่าลูกสาวตัวเองเป็นหยกงามล้ำค่า ขอแค่คนที่เคยไปโรงเตี๊ยมชุนซินใคร ๆ ต่างก็รู้ดี
………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เสี่ยวหวานต้องคิดหาวิธีกันท่าสองแม่ลูกนี้แล้วล่ะค่ะ ท่าทางจะเกาะเป็นปลิงเลยทีเดียว
ไหหม่า(海馬)