บทที่ 94 กินฉลองขึ้นปีใหม่
บทที่ 94 กินฉลองขึ้นปีใหม่
ดังนั้นกู้เสี่ยวหวานจึงตั้งใจเก็บของที่ไม่ค่อยได้กินในเวลาปกติให้พ้นสายตา ด้วยกลัวว่าท่านป้าจางจะสงสัย ส่วนพวกน้อง ๆ สามคนยังเด็กนัก ต่อให้พวกเขารู้ว่านางเปลี่ยนไป พวกเขาก็รู้เช่นกันว่านางจะไม่ทำลายพวกเขา
แต่ท่านป้าจางไม่เหมือนกับพวกเขา แม้ท่านป้าจางจะทำดีต่อครอบครัวกู้เสี่ยวหวาน แต่ก็ยังไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน หากพวกท่านป้าจางล่วงรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานไม่เหมือนเดิม พวกท่านป้าจางก็อาจจะไม่มีเจตนาร้ายอะไร แต่ถ้าคนที่มีเจตนาไม่ดีรู้เข้าแล้ว ก็กลัวว่ามันจะไม่เป็นผลดี
แม้อาหารเย็นวันนี้จะมีแค่กับข้าวสองอย่าง น้ำแกงหนึ่งอย่าง แต่กู้เสี่ยวหวานก็กะปริมาณให้มีมากพอ กินกันเจ็ดคนก็น่าจะไม่มีปัญหา เพราะมีกับข้าวล้นเหลือ
กู้เสี่ยวหวานกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ภายในห้องครัว กู้หนิงอันกับกู้หนิงผิงทั้งสองก็เดินทางไปยังบ้านของท่านป้าจาง คิดไม่ถึงว่าระหว่างทางจะเจอเข้ากับฉือโถวพอดี พอทั้งสามเห็นกันก็ดีใจมาก
“พี่ฉือโถว ท่านมาที่นี่ทำไมหรือ” กู้หนิงผิงพูดอย่างสดใส
“แล้วพวกเจ้าสองคนมาทำอะไรที่นี่ล่ะ” ฉือโถวเองก็แปลกใจ ถามไปด้วยตอบไปด้วยว่า “ท่านแม่ให้ข้ามาถามว่าพวกเจ้าจะไปกินฉลองปีใหม่ด้วยกันที่บ้านข้าไหมน่ะ!”
“บังเอิญจริง!” กู้หนิงอันคิดไม่ถึงว่าจะยังมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ “พี่สาวข้าก็ให้ข้ามาเรียกพวกท่านไปกินฉลองปีใหม่เหมือนกัน!”
ได้ยินคำตอบ คนทั้งสามก็หัวเราะร่วน ต่างคนต่างดึง ๆ รั้ง ๆ ให้ไปกินข้าวบ้านตัวเอง! แต่ฉือโถวพูดสู้กู้หนิงอันไม่ได้ ทำได้เพียงเดินตามพี่น้องกู้หนิงอันไปบ้านของตัวเอง
ทั้งสามคนประคองกันมาถึงบ้านท่านป้าจาง ท่านป้าจางกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวทำอาหารสำหรับเย็นนี้อยู่เชียว
“ท่านแม่….” ฉือโถวเข้ามาในบ้านแล้วเรียกนางหนึ่งคำ
พอได้ยินเสียงของฉือโถว ท่านป้าจางที่ทำกับข้าวอยู่ในครัวก็ชะโงกหน้าออกมา ตะโกนพูดว่า “ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ?” รอจนหันไปเห็นสองพี่น้องด้านหลังของฉือโถว นางก็พูดด้วยรอยยิ้มใจดี “มาแล้วหรือ มา ๆๆ เข้านั่งข้างในก่อน ในห้องจุดฟืนแล้วอุ่นกำลังดีเชียวล่ะ!”
ฉือโถวรู้สึกเขินเล็กน้อยเขาเกาหัวตัวเองแล้วพูดว่า “ท่านแม่ พวกเขามาเรียกเราไปกินฉลองปีใหม่กับพวกเขาขอรับ!”
“หา?” ท่านป้าจางพอได้ยินก็ตะลึงไปสักพัก ราวกับได้ยินเรื่องไม่น่าเชื่อ
“ท่านป้าจาง พี่สาวข้าบอกให้ท่านป้ากับท่านลุง แล้วก็พี่ฉือโถวไปกินข้าวด้วยกันที่บ้านพวกเราขอรับ!” กู้หนิงอันพูดอย่างนอบน้อม
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ท่านป้าจางคล้ายสติยังไม่กลับมา นางถามฉือโถวอีกครั้ง “ไม่ใช่ว่าข้าให้เจ้าไปตามพี่น้องกู้มาหรือ ทำไมกลายเป็นมาเชิญพวกเราล่ะ?”
“ท่านป้าจาง ข้ากับพี่ฉือโถวเจอกันระหว่างทางพอดีน่ะขอรับ” กู้หนิงอันพูด แล้วพูดตามที่พี่สาวสอน พูดอย่างจริงจังว่า “ท่านป้าจางขอรับ พี่ข้าบอกว่า หลังพ่อกับแม่ด่วนจากไป ที่พวกเรายังมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะได้ความเมตตาจากท่านป้าจาง”
ท่านป้าจางได้ยินกู้หนิงอันพูดแบบนั้นก็เหมือนถูกสะกิดเรื่องราวเก่า ๆ นางจำได้ว่าเมื่อสองปีก่อน นางกับเถียนซื่อยังเคยพูดคุยกันในทุกเรื่องราวกับสหายสนิท ช่างโชคร้ายนักที่เถียนซื่อประสบกับเรื่องราวไม่คาดฝันจนด่วนจากไปเสียก่อน นางจึงเอาความเจ็บปวดเสียใจทั้งหมดมาดูแลเด็ก ๆ ที่นางทิ้งไม่ลงแทนเถียนซื่อก็เท่านั้น
“หนิงอัน เจ้าพูดแบบนี้ออกมา ข้าก็ถือว่าทุกอย่างที่ทำมาล้วนคุ้มค่าแล้ว!” ท่านป้าจางตื้นตันใจมาก ยกมือปิดปากแสดงอาการตื้นตันใจ
“ท่านแม่…” ฉือโถวเห็นแม่ตัวเองน้ำตาไหล ก็รีบไปประคองหลังผู้เป็นมารดา ตบหลังปลอบนางเบา ๆ
“ท่านป้าจาง ไปกันเถอะขอรับ ท่านพี่ของข้าเตรียมกับข้าวไว้เยอะมากเลย พวกเรารีบไปกันเถอะ!” กู้หนิงผิงดึงมือของท่านป้าจาง รีบเปลี่ยนเรื่องพูดตอนที่ท่านป้าจางยังตกอยู่ในห้วงอารมณ์
“ได้ ๆๆ พวกเราไปกันเถอะ!” ท่านป้าจางรีบเช็ดน้ำตา วันที่เป็นวันขึ้นปีใหม่ หมายถึงในทุก ๆ วันนั้นขึ้นอยู่กับวันปีใหม่ ดังนั้นการร้องไห้วันนี้จึงดูไม่เป็นมงคลนัก อีกอย่างนี่ก็เป็นความตั้งใจของพวกเด็ก ๆ และท่านป้าจางก็รู้สึกว่าความตั้งใจของตัวเองได้รับการยืนยันแล้ว ต่อให้ลำบากหรือเหนื่อยยากมากกว่านี้มันก็คุ้มค่าแล้ว เด็ก ๆ เหล่านี้เป็นเด็กดีและรู้ความ ท่านป้าจางจะไม่ดีใจ จะไม่มีความสุขได้อย่างไร
ท่านป้าจางกลับมาที่ห้องครัว แอบเอาเนื้อใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อตัวเอง เพราะท่านลุงจางก็ต้องไปด้วยเหมือนกัน จึงเคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวกนัก แต่โชคดีที่พวกเขายังไม่ได้แกะเชือกวัวกับเกวียนออก ทุกคนจึงได้นั่งเกวียนกลับบ้าน
รอจนครอบครัวท่านป้าจางมาถึงภายในบ้าน กู้หนิงผิงก็กระโดดลงจากเกวียนวัวราวกับลูกธนู พูดอย่างดีใจว่า “ท่านพี่ ท่านป้าจางกับท่านลุงจางมาแล้ว พี่ฉือโถวก็มาด้วยเหมือนกัน”
ได้ยินเสียงของน้องชาย กู้เสี่ยวหวานก็ออกมาจากห้องครัว รอจนกระทั่งท่านป้าจางกับท่านลุงจางค่อย ๆ ลงมาจากเกวียนวัว ก็รีบเดินไปต้อนรับพวกเขาทันที “ท่านลุงจาง ท่านป้าจาง พวกท่านมาแล้ว!”
“เสี่ยวหวานเชิญข้าทั้งที พวกเราจะไม่มาได้หรือ!” ท่านป้าจางว่าอย่างขำ ๆ
“ใช่ เสี่ยวหวานเชิญลุงกับป้าแบบนี้ พวกเราดีใจจริง ๆ!” ท่านลุงจางพูด
กู้เสี่ยวหวานหัวเราะ ต้อนรับพวกเขาอย่างกระตือรือร้นเข้ามาในบ้าน พอเข้าห้องครัวท่านป้าจางก็ตามมาด้วย เพื่อมาดูอาหารที่จะกินกันเย็นนี้
ปกติกู้เสี่ยวหวานจะคิดว่าน้อง ๆ สามคนของตัวเองยังเด็กมาก คงจำคำพูดที่พ่อกับแม่เคยว่าไว้ไม่ได้เช่นกัน รวมทั้งเรื่องที่เคยทำ ดังนั้นตอนที่นางอยู่ต่อหน้าน้องชายและน้องสาว ก็จะไม่ค่อยแสร้งเป็นตัวเอง นางรู้จักตัวอักษร รู้การทำอาหาร กู้เสี่ยวหวานก็จะบอกว่าเป็นเพราะบิดามารดาสอนนางมา น้องชายน้องสาวก็เชื่อนางแล้ว
เพราะนางรู้ว่านางจำเป็นต้องใช้ความสามารถของตัวเองทำให้ครอบครัวดีขึ้น นางจำเป็นต้องไม่เหมือนกับตัวเองเมื่อก่อน และก็เพราะนางรู้ว่าน้องชายน้องสาวของนางจะไม่ทำร้ายนางอยู่แล้ว
แต่ตอนที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น กู้เสี่ยวหวานจะแสร้งทำเป็นตัวเอง ไม่ให้รู้ว่านางนั้นแตกต่างไปจากนางคนเก่า
อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน แม้ท่านป้าจางจะดีต่อนาง แต่ครอบครัวของนางทั้งหมดเป็นเด็ก ถ้ามีหนึ่งเปิดสิบ มีสิบเปิดร้อย มีร้อยเปิดพัน ให้คนอื่นรู้หมดแล้ว นางไม่เหมือนกับคนก่อนหน้าหลายอย่าง ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะคิดว่านางถูกปีศาจสิงหรือไม่
ตอนนี้กู้เสี่ยวหวานปฏิบัติต่อท่านป้าจางเหมือนครอบครัวเดียวกัน แม้จะบอกว่าสนิทสนมมาก และท่านป้าจางเองก็ช่วยเหลือพวกนางหลายอย่างเช่นกัน แต่กู้เสี่ยวหวานกลับคิดได้ว่าถ้าตนเปลี่ยนแปลงมากจนเกินไป ท่านป้าจางย่อมต้องรู้สึกได้ นางจึงคิดว่าควรเลือกทางที่ปลอดภัยที่สุดดีกว่า
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ถือว่ารอบคอบอยู่นะคะ เปลี่ยนได้แต่อย่าให้คนอื่นจับโป๊ะได้เช่นกัน
ไหหม่า(海馬)