ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 155 จะเป็นหรือตายก็ไม่รู้

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 155 จะเป็นหรือตายก็ไม่รู้

บทที่ 155 จะเป็นหรือตายก็ไม่รู้

“ฮือ…” เหลียงต้าเปากรีดร้องด้วยความตกใจ น้ำตาไหลพรากอาบใบหน้า “ท่านย่า ท่านย่า!”

“กู้เสี่ยวหวาน ออกไป ถ้าเจ้าทำให้หลานชายของข้าตกใจ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!” เหลียงซื่อรีบปลอบเหลียงต้าเปาในอ้อมแขนของนางด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แล้วขู่ว่าจะสอนบทเรียนให้กู้เสี่ยวหวาน

“ต้าเปา คิดดูอีกที เจ้าพาเสี่ยวอี้ไปไหน!” ชายหนุ่มดูไม่สะทกสะท้าน และถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ข้าบอกเจ้าแล้ว…” เมื่อเหลียงซื่อเห็นว่าชายคนนั้นกำลังเกลี้ยกล่อมต้าเปา ก็รีบร้อนเตรียมตำหนิเขา แต่เหลียงต้าเปาที่อยู่ข้างหลังกลับร้องไห้กระจองอแงและเอ่ยขึ้น “ข้าพากู้เสี่ยวอี้ไปที่ภูเขาด้านหลัง!”

ก่อนที่เหลียงซื่อจะปิดปากต้าเปา เขาก็ได้โพล่งออกไปเสียแล้ว

เมื่อเห็นว่าหลานชายของพวกเขายอมรับแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงและเหลียงซื่อก็ถอนหายใจอย่างไม่เต็มใจ ดูเหมือนว่ากู้เสี่ยวหวานจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปจริง ๆ

ทำได้แค่ภาวนาให้กู้เสี่ยวอี้ไม่เป็นอะไร!

กู้เสี่ยวหวานพึมพำในใจ ภูเขาด้านหลัง!

“ภูเขาด้านหลังไม่มี วันนี้ข้ากับเสี่ยวหวานหามาทั้งวันแล้วก็ไม่เจอ!” ฉือโถวพูดอย่างรวดเร็ว

“ฮือ…ข้าไม่รู้!” อันที่จริงเหลียงต้าเปาไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้กู้เสี่ยวหวานออกมาตามหาคน แต่วันนี้เมื่อเขาออกไปเล่นข้างนอก เรื่องการหายตัวไปของกู้เสี่ยวอี้จึงมาถึงหูของเขา

เมื่อเขาได้ยินว่ากู้เสี่ยวอี้ไม่ได้กลับบ้านเป็นเวลาสองวันสองคืน เขาก็ตกใจทันที เขาไม่สนใจที่จะอยู่ข้างนอก ดังนั้นเขาจึงวิ่งกลับบ้านอย่างรวดเร็วและไม่รู้จะบอกใครดี เขากลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับกู้เสี่ยวอี้ เขาก็กังวลและหวาดกลัว ต่อให้เย็นวันนี้จะมีไก่ผัดที่เขาชอบ เขาก็ไม่ได้ออกมากินและวิ่งกลับไปที่ห้องของเขา

“เจ้าบอกข้าหน่อย วันนั้นเจ้าพาเสี่ยวอี้ไปทำอะไรบนภูเขา!” เด็กหนุ่มนั่งลงและถามเสียงแผ่วเบา

“ในวันนั้น กู้ซินเถามาพบข้าและบอกว่านางกำลังจะกลับเมืองวันนี้ และต้องการให้ข้าพากู้เสี่ยวอี้ไปพบนาง!” เหลียงต้าเปาละล่ำละลัก “นางบอกว่าถ้าข้าพากู้เสี่ยวอี้ไปเจอนางที่ภูเขา นางจะจูบข้า! ต่อมาข้าพากู้เสี่ยวอี้ไปที่ภูเขา กู้ซินเถาก็ขอให้ข้ากลับไป นอกนั้นข้าก็ไม่รู้แล้ว!”

กู้ซินเถา! กู้ซินเถา! กู้ซินเถาอีกแล้ว!

เมื่อได้ยินชื่อของบุคคลนี้ ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานก็เริ่มมืดครึ้มลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งดูน่ากลัว

“กู้เสี่ยวหวาน ได้ยินหรือไม่ ตอนที่ต้าเปาของข้าแยกกับกู้เสี่ยวอี้ กู้เสี่ยวอี้ก็ยังสบายดี ถ้าเจ้าจะไปหาน้องสาวก็ไปหากู้ซินเถา! อย่ารบกวนหลานชายของข้าอีก!” เหลียงซื่อออกคำสั่งอย่างเย็นชา “เร็วเข้า พวกเจ้ารีบไล่คนเหล่านี้ออกไป!”

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้โดยไม่พูดอะไรเลย และมองไปที่กู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ อย่างเย็นชา เมื่อเห็นว่าภรรยาของเขาต้องการขับไล่คนพวกนี้ออกไป หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็ไม่สามารถปฏิเสธได้

คำพูดของภรรยาเสียดแทงเข้าไปในหัวใจของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง อย่างไรก็ตาม เมื่อกู้เสี่ยวอี้และต้าเปาอยู่ด้วยกัน นางยังมีชีวิตอยู่ หากมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้นก็จะไม่เกี่ยวกับต้าเปาแล้ว

ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานเป็นประกายคมกริบ และไล่มองทุกคนในห้องอย่างชัดเจน

มีคนบอกว่าเวลามองหน้าคนจะเลือนรางก็ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญที่สุดคือใจคน

เมื่อนางต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด นางจะมองเห็นได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

กู้เสี่ยวหวานเหลือบมองคนในห้องอย่างเย็นชา ไม่ว่าดวงตาดุร้ายเหล่านั้นมองไปที่ไหน ทุกคนก็ก้มหัวอย่างสำนึกผิด โดยเฉพาะหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงที่ก้มศีรษะลงและไม่มองกู้เสี่ยวหวานแม้แต่น้อย

และไม่พูดถึงเรื่องของกู้เสี่ยวอี้เลยแม้แต่คำเดียว

กู้เสี่ยวหวานมองอย่าลึกซึ้ง จากนั้นหันหลังกลับและออกจากบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ทุกคนออกมาจากบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว

“เสี่ยวหวาน รอข้าที่นี่ก่อน แล้วข้าจะกลับไปเอาคบไฟมาสองอัน ท่านแม่ ดูเสี่ยวหวานที!” หลังจากฉือโถวพูดจบ เขาก็วิ่งกลับไปที่บ้าน

แต่กู้เสี่ยวหวานไม่สามารถรอได้อีกต่อไป ไม่สำคัญว่านางจะมีคบไฟหรือไม่ แม้ว่านางจะอยู่ในความมืดก็ต้องหากู้เสี่ยวหวานให้พบ

กู้เสี่ยวหวานไม่ได้รอฉือโถว มองไปที่ทิวทัศน์และรีบวิ่งไปที่ภูเขา วันนี้ทั้งวันนางกับฉือโถวหากู้เสี่ยวอี้ทั่วทั้งภูเขา แต่แล้วก็ไม่พบแม้แต่เงาของกู้เสี่ยวอี้จึงทำได้เพียงไปหาที่อื่น

กู้เสี่ยวอี้จะไม่ไปที่ที่ลึกที่สุดในภูเขา แม้ว่ากู้ซินเถาอยากจะพาไป แต่นางก็คงจะกลัวเช่นกัน มีสัตว์ร้ายที่กินคนอยู่ในภูเขาลึกและกู้เสี่ยวอี้ก็รู้ วันนี้ที่ยังไม่ได้หาก็เหลือเพียงเชิงเขา

“เสี่ยวหวาน เจ้าช้าลงหน่อย มืดขนาดนี้เจ้ามองไม่เห็นหรอก เจ้ารอข้าหน่อย!” ท่านป้าจางรีบตามกู้เสี่ยวหวานไปเมื่อเห็นว่านางไม่สนใจเลย

เด็กหนุ่มก็เดินตามไป “ท่านป้า ข้าจะไปตามหากับท่านด้วย คนมากขึ้นก็มีแรงมากขึ้น!”

ท่านป้าจางไม่มีเวลาพูดอะไร ทำได้แค่พยักหน้าและตอบรับหนึ่งคำ และทั้งสามคนก็คลำหาทางที่เชิงเขาในความมืดมิด

“เสี่ยวอี้ เสี่ยวอี้…” กู้เสี่ยวหวานตะโกนขณะมองหา บริเวณเชิงเขามีเพียงลมหนาวที่พัดผ่าน

อีกด้านหนึ่ง ฉือโถวรีบวิ่งไปพร้อมกับคบไฟ เมื่อมีคบไฟ การมองเห็นของเขาก็ดีขึ้นมาก

พวกเขาทั้งสี่ค้นหาตามเชิงเขาเป็นเวลานาน และในที่สุด พวกเขาก็เจอกู้เสี่ยวอี้ที่เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดที่ริมลำธาร

“เสี่ยวอี้…” กู้เสี่ยวหวานตะโกนเสียงโหยหวน กอดกู้เสี่ยวอี้แล้วมองดู ร่างกายกู้เสี่ยวอี้ที่เย็นไปทั้งตัวและไร้ชีวิตชีวา เหมือนตุ๊กตาเศษผ้าที่ถูกทิ้งไว้ข้างถนนโดยไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย

กู้เสี่ยวอี้ที่มีชีวิตชีวาและร่าเริงเมื่อวันก่อนกลายเป็นแบบนี้ในวันนี้ น้ำตาที่กู้เสี่ยวหวานกลั้นไว้สองวันก็ได้ไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตกในคราวนี้จนมันไหลอาบแก้มของนาง

“เสี่ยวอี้ เสี่ยวอี้ยังมีลมหายใจ พวกเรารีบกลับไปเรียกหมอกันเถอะ!” ท่านป้าจางลูบปลายจมูกของกู้เสี่ยวอี้ที่ยังคงมีลมหายใจรวยริน และร้องออกมาอย่างตื่นเต้น

เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นและแบะปาก และนางพูดกับกู้เสี่ยวอี้ในอ้อมแขนของนางว่า “เสี่ยวอี้ กลับบ้านกับข้านะ!”

กู้เสี่ยวอี้ที่อยู่ในอ้อมแขนของนางยังคงนอนแน่นิ่งอยู่ ปล่อยให้ฉือโถวอุ้มขึ้นมา กอดไว้ในอ้อมแขน แล้ววิ่งไปที่บ้านของท่านหมอหม่า!

กู้เสี่ยวหวานและคนที่เหลือก็ตามไปที่บ้านของท่านหมอหม่าเช่นกัน

เมื่อท่านหมอหม่าเห็นว่ากู้เสี่ยวอี้ที่อยู่ในอ้อมแขนของฉือโถวนั้นไม่ขยับตัว เขาก็มีท่าทีเคร่งขรึม

เขารีบขอให้ฉือโถววางกู้เสี่ยวอี้ลงบนเตียง เมื่อพลิกเปลือกตาของกู้เสี่ยวอี้ดูก็พบว่าไม่สามารถจับภาพได้ ท่านหมอหม่าพิจารณาดูร่างกายของนางอีกครั้ง พบว่ามีบาดแผลทั่วร่างกาย คาดว่านางคงได้รับบาดเจ็บเป็นเวลานานจนบาดแผลตกสะเก็ดไปแล้ว

ท่านหมอหม่าจับชีพจร เขาไม่กล้าสรุปเกี่ยวกับชีพจรหรืออะไรทั้งนั้น และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจ “อาการบาดเจ็บรุนแรงเกินไป ข้า…”

…………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

จำไว้เลยนะหัวหน้าหมู่บ้าน หากต่อไปมีเรื่องอะไรให้เสี่ยวหวานช่วยก็จะไม่มีวันได้รับอะไรแล้ว

นังซินเถาเดนตาย ขอให้แกเป็นผีอายุสั้นและตายโหง

เสี่ยวอี้น่าสงสารจังค่ะ หาทางรักษาน้องให้ได้นะคะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท