ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 175 ขายหน่อไม้ฤดูใบไม้ผลิ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 175 ขายหน่อไม้ฤดูใบไม้ผลิ

บทที่ 175 ขายหน่อไม้ฤดูใบไม้ผลิ

ร่างกายของกู้เสี่ยวอี้หายดีแล้ว และตอนนี้ทั้งครอบครัวก็ไม่มีเงินเหลือแม้แต่อีแปะเดียว เพราะภายในเวลาเดือนกว่าที่ไปหาหมอ พักฟื้น ยังมีค่าใช้จ่ายของกู้หนิงอัน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เงินทั้งหมดของครอบครัวจึงถูกใช้ไปหมดแล้ว

มีคำกล่าวที่ว่า หลังจากทำงานหนักมาหลายสิบปี จู่ ๆ เงินก็หายไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูน้องสาวที่กลับมามีชีวิตชีวาของตนเอง กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกว่าถึงเงินหมดก็ให้หมดไป คิดเสียว่าใช้เงินเพื่อขจัดภัยพิบัติแล้วกัน

เนื่องจากช่วงนี้อากาศร้อนขึ้น และย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิอีกครั้ง กู้เสี่ยวหวานจึงวางแผนที่จะขึ้นภูเขาเพื่อดูว่าหน่อไม้ฤดูใบไม้ผลิเป็นอย่างไร เมื่อบอกฉือโถว เขาก็มีความคิดเช่นเดียวกัน ในเมื่อไม่ได้ดูหลายวันแล้วก็จะไปลองดู

ทันทีที่บอกว่าจะไป เด็กทั้งหมดก็หยิบเครื่องไม้เครื่องมือและวางแผนเข้าไปในป่าไผ่

คราวนี้โชคดี หลังจากขุดมาตลอดช่วงบ่าย ทุกคนก็ขุดหน่อไม้ได้หลายสิบชั่ง กู้เสี่ยวอี้ที่ตัวเล็กและเพิ่งหายดีมีหน้าที่ดึงหน่อไม้ออกมา ในขณะที่กู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวหวานรับผิดชอบในการขุด หลายคนทำงานร่วมกัน จนตะกร้าที่พวกเขานำมาล้วนอัดแน่นไปด้วยหน่อไม้

“พี่ฉือโถว อาทิตย์กำลังจะตกแล้ว พวกเราขุดเท่านี้ก็พอ พรุ่งนี้ท่านกับหนิงผิงก็เอาไปขายในเมือง!” กู้เสี่ยวหวานแนะนำ

เดิมทีนางไม่ต้องการให้กู้หนิงผิงตามไปด้วย ถ้าไปแล้ว ครอบครัวจะมีแรงงานน้อยลง คงขุดหน่อไม้ได้ไม่มากนัก แต่กู้เสี่ยวหวานอายที่จะพูด แม้ตอนนี้นางจะต้องการเงินอย่างเร่งด่วน แต่ก็ไม่สามารถเอาเปรียบคนอื่นได้

ฉือโถวรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานใช้เงินเก็บทั้งหมดในครอบครัวจนหมดไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ คราวที่เสี่ยวอี้ป่วยก็ใช้เงินไปหลายร้อยตำลึงเงิน หลังจากนั้นก็ต้องพักฟื้นที่บ้าน กินทั้งไก่ เนื้อ และไข่ เพราะกู้เสี่ยวอี้กลัวที่จะดื่มยารสขม กู้เสี่ยวหวานจึงไปซื้อยาที่หวานเป็นพิเศษกลับมา นางใช้เงินราวกับน้ำไหล ต่อให้มีเงินก้อนใหญ่แค่ไหนก็ไม่พอ!

เมื่อเสี่ยวอี้เพิ่งจะฟื้นตัวดีขึ้น กู้เสี่ยวหวานก็กระตือรือร้นที่จะขุดหน่อไม้เพื่อหาเงิน เห็นได้ชัดว่าครอบครัวไม่มีเงินแล้ว

ฉือโถวโบกมืออย่างรวดเร็วและพูดว่า “ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ข้าจะไปขายกับท่านแม่ พวกเจ้าขุดหน่อไม้ไปเถอะ!”

ฉือโถวต้องการให้พวกเขาขุดต่ออีกหน่อย หากขุดหน่อไม้ได้มาก เมื่อนำไปขายก็จะได้เงินมากตาม กู้เสี่ยวหวานรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร และตอนนี้นางก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตนเองต้องการเงินอย่างเร่งด่วน

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฉือโถวและท่านป้าจางก็ออกเดินทางเข้าเมือง กู้เสี่ยวหวานทำอาหารเช้าแบบง่าย ๆ นางกับกู้หนิงผิงทำข้าวต้ม ในขณะที่ปรุงข้าวต้มเนื้อสับให้กู้เสี่ยวอี้

กู้เสี่ยวหวานบอกกู้หนิงผิงว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้าน ในขณะที่กู้หนิงผิงก็ตกใจและประหม่ามาก พี่ชายกำลังเรียนอยู่ที่สำนักศึกษา เขาอ่านเขียนทุกวันก็ต้องใช้เงิน หากไม่มีเงิน การเรียนของพี่ชายจะทำอย่างไร?

กู้หนิงผิงจึงต้องการหาเงินอย่างยิ่ง ดังนั้นในการขุดหน่อไม้ กู้หนิงผิงจึงทำงานหนักมาก

ในตอนเช้า ทั้งสามคนขุดอีกสองตะกร้า ทันทีที่พวกเขากลับถึงบ้าน พวกเขาก็เห็นเกวียนวัวของฉือโถวและท่านป้าจางกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ กู้เสี่ยวหวานรีบทักทายและถามอย่างมีความสุข “ท่านป้าจาง การขายครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”

ท่านป้าจางและฉือโถวดูไม่มีความสุขอย่างที่คาด เมื่อพวกเขาได้ยินคำถามของกู้เสี่ยวหวาน ท่านป้าจางก็ถอนหายใจและชี้ไปที่ตะกร้า “เฮ้อ ขายไม่ได้เลย อีกทั้งยังต้องเอากลับมาทั้งหมด”

“ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ?” กู้เสี่ยวหวานไม่อยากเชื่อ นางมองไปที่ตะกร้าและเห็นว่าหน่อไม้ใหญ่ที่มีโคลนติดยังคงนอนอยู่ในตะกร้าเหมือนตอนเช้า

“สักอันก็ขายไม่ได้เลยหรือเจ้าคะ?”

“ใช่ ขายไม่ได้เลย!” ฉือโถวรู้สึกหดหู่เล็กน้อย “เราเพิ่งไปที่ร้านจิ่นฝู และคนหน้าประตูร้านจิ่นฝูก็ไม่ยอมให้ข้าและท่านแม่เข้าไป! ทันทีที่เราไปถึงประตูก็ถูกคนไล่ให้ออกไป”

“ว่าอย่างไรนะ แล้วเจ้าของร้านล่ะเจ้าคะ? ถ้าไม่พบเจ้าของร้าน แล้วเสี่ยวเซิ่งจื่อล่ะ?” กู้เสี่ยวหวานกังวลเล็กน้อย นางขุดหน่อไม้จำนวนมากและหวังว่าจะขายได้เงินเล็กน้อย เหตุใดมันถึงขายไม่ได้ล่ะ!

“เราไม่ได้เจอใครเลย!” ฉือโถวกล่าวต่อ “เรารีบไปที่ร้านจิ่นฝู ทันทีที่เรามาถึงทางเข้าก็มีคนมาขวาง เราอธิบายให้เขาฟังว่าเรามีนัดกับเจ้าของร้าน มาส่งหน่อไม้ คนนั้นไม่เชื่อ บอกว่าเราเป็นคนโกหก ด่าว่าเราเป็นขอทาน แล้วไล่พวกเราออกไป”

“เราไปร้านอาหารอื่นด้วย เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเรามาขายหน่อไม้ที่นี่ พวกเขาปฏิเสธที่จะรับ โดยบอกว่าหน่อไม้ไม่อร่อย!” ท่านป้าจางกล่าว

เป็นไปได้อย่างไร!

กู้เสี่ยวหวานมีคำถามในใจ หน่อไม้จำนวนไม่น้อยในหลายตะกร้าบนเกวียนทำให้นางปวดหัว! ร้านจิ่นฝูได้ลูกค้าใหม่จำนวนมากด้วยอาหารจานนี้ หากร้านอื่นไม่รู้เกี่ยวกับมันก็คงเป็นไปไม่ได้เลย

หน่อไม้อร่อยแค่ไหนทุกคนในเมืองนี้ล้วนรู้ดี เหตุใดเขาถึงบอกว่าหน่อไม้ไม่อร่อย?

“แม้ว่าพวกเขาบอกว่าไม่อร่อย แต่เรายังเห็นคนซื้อหน่อไม้อยู่!”

“ใช่แล้ว โดยเฉพาะร้านจิ่นฝู เมื่อเช้านี้ซื้อหน่อไม้มาตั้งหลายสิบตะกร้า!”

“ท่านป้าจางหมายความว่าร้านจิ่นฝูซื้อหน่อไม้ของคนอื่น ไม่ใช่ของเราใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

หลังจากได้ยินคำพูดของป้าจาง กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกสงสัยมาก เถ้าแก่หลี่เจ้าของร้านจิ่นฝูบอกกับนางอย่างชัดเจนว่าในอนาคตหน่อไม้ที่ขุดได้จะขายให้กับร้านจิ่นฝู ไม่ว่ามากเท่าไรพวกเขาจะรับซื้อ ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนปีใหม่ก็ได้พบกับเสี่ยวเซิ่งจื่ออีกครั้ง ตามความหมายของเสี่ยวเซิ่งจื่อ คือเถ้าแก่หลี่ขอให้พวกเขาขุดหน่อไม้และนำไปขายให้มากที่สุด!

เหตุใดพวกเขาไม่รับหน่อไม้ตอนที่พวกนางส่งไปจริง ๆ?

กู้เสี่ยวหวานสับสนงุนงง ดูเหมือนว่าในวันพรุ่งนี้นางจะต้องไปด้วยตนเอง

“ท่านป้าจาง พี่ฉือโถว ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเสียใจ หน่อไม้พวกนี้เก็บไว้ได้นานและจะไม่เสีย พรุ่งนี้ข้ากับพี่ฉือโถวจะเข้าเมืองอีกครั้งเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น!” กู้เสี่ยวหวานกล่าว

“ตกลง!” ฉือโถววางหน่อไม้อีกสองตะกร้าที่เพิ่งขุดไว้บนเกวียนวัวแล้วกลับไป

หลังจากขุดหน่อไม้มาหนึ่งวัน กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกเจ็บที่แขนและหลังของนางเล็กน้อย เมื่อนึกถึงหน่อไม้ที่ขุดขึ้นมาและร้านอาหารก็ไม่ยอมรับซื้อ กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าพี่สาวเงียบไป กู้หนิงผิงจึงเอ่ยปลอบอย่างรวดเร็ว “ท่านพี่อย่าท้อแท้ มันต้องมีวิธีแน่!”

กู้เสี่ยวหวานยิ้มให้กู้หนิงผิง นางไม่ได้กังวลจริง ๆ ว่าจะขายไม่ได้ นางคิดว่าเถ้าแก่หลี่เป็นคนที่ใจดีมาก จึงแค่สงสัยว่าหลี่ฝานจะเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอกไปได้อย่างไร

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

มีใครไปยุยงหรือเปล่านะ ว่าไม่ให้รับหน่อไม้ของเสี่ยวหวาน เจอตัวเมื่อไหร่จะเอาหน่อไม้ไปฟาดปากมัน

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท