บทที่ 234 ข่งฟางนายหน้าขายที่ดิน
บทที่ 234 ข่งฟางนายหน้าขายที่ดิน
“นี่” ข่งฟางพูดไม่ออกเมื่ออยู่ต่อหน้ากู้เสี่ยวหวานและป้าจาง เขาทำงานเป็นนายหน้าขายที่ดินมาครึ่งชีวิตแล้ว และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับผู้ซื้อที่อายุน้อยเช่นนี้ “ขออภัย ข้ามีตาหามีแววไม่ แม่นางดูนี่ ที่ผืนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
พูดจบก็โบกมือให้กู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ ขยับมาข้างหน้าเพื่อดูใกล้ ๆ เขาชี้แล้วกล่าวว่า “ที่ดินผืนนี้คือผืนที่พวกเขาต้องการขาย จากตรงนี้ถึงตรงนี้รวมแล้วกว่าห้าสิบหมู่ ตอนนี้ถ้าซื้อหมดในคราวเดียวจะนับเป็นห้าสิบหมู่ ที่นี่ทำเลดีเพราะติดแม่น้ำ ทำให้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี”
ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานเป็นประกาย มีแม่น้ำอย่างนั้นหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นจะสะดวกกว่ามากในการเพาะปลูก และถึงแม้จะให้เช่าก็จะปล่อยเช่าได้ง่ายมาก
ยุคนี้พึ่งฟ้ากินข้าว*[1]เป็นสิ่งที่ดี เมื่อมีน้ำก็ไม่ต้องกังวลเรื่องภัยแล้ง
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ใบหน้าของนางยังคงเหมือนเดิม และกล่าวว่า “ไม่ทราบว่าที่ดินผืนนี้มีราคาเท่าใด? และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการซื้อที่ดินคือเท่าใดหรือเจ้าคะ?”
ข่งฟางกล่าวด้วยรอยยิ้ม น่าเหลือเชื่อจริง ๆ
ผู้ใหญ่ที่เพิ่งเข้ามาเมื่อสักครู่ ตนเองไม่อยากเชื่อเลยว่านางจะมาซื้อที่ดิน แต่คราวนี้กลับกลายเป็นเด็กหญิงอายุแปดเก้าขวบที่ต้องการซื้อที่ดิน ซึ่งนี่มันเปิดหูเปิดตาเขาจริง ๆ
ดังนั้นข่งฟางไม่กล้าที่จะประมาทและอธิบายอย่างรวดเร็ว “แม่นางกู้เป็นคนมีเหตุผล ถามคำถามเฉพาะเช่นนี้คงจะรู้อะไรอยู่แล้วใช่หรือไม่ คนที่ซื่อตรงเช่นนี้ ข้าที่เป็นนายหน้าขายที่ดินมาครึ่งชีวิตแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามีลูกค้าอายุน้อยเช่นนี้ ข้าจะพูดความจริง ผู้ขายต้องการห้าตำลึงเงินต่อหนึ่งหมู่”
“แพงขนาดนั้นเลยหรือ?” กู้เสี่ยวหวานเข้าใจว่าที่ดินเปล่าธรรมดา ๆ มีราคาเพียงสามหรือสี่ตำลึงเงินต่อหมู่เท่านั้น แต่นี่มีราคาถึงห้าตำลึงเงิน และที่ดินห้าสิบหมู่นี้จะเป็นเงินสองร้อยห้าสิบตำลึงเงิน
“แม่นางกู้ ถึงแม้ว่าผืนดินนี้จะเป็นที่ดินเปล่าแห้งแล้ง แต่ก็ดีกว่าดินแห้งแล้งธรรมดามาก อย่างแรกคือมีน้ำ ถ้าเกิดภัยแล้งขึ้นมาก็สามารถประโยชน์จากน้ำในแม่น้ำนี้ได้ สองคือพื้นที่ตรงนี้เป็นที่ราบและทั้งหมดเชื่อมต่อกันเป็นผืนใหญ่ ถ้าแม่นางต้องการที่จะรวมเป็นแผ่นเดียวกัน สามารถกลบคูน้ำและเนินเขาได้ สามคือที่ดินนี้อยู่ใกล้กับเมือง การเดินทางสะดวกมาก และข้าเชื่อว่าต้องมีคนจำนวนมากที่ต้องการเช่ามัน”
กู้เสี่ยวหวานก้มศีรษะลงเล็กน้อยและคำนวณในใจว่าหากที่ดินห้าสิบหมู่ราคาสองร้อยห้าสิบตำลึงเงิน ซึ่งเกินงบประมาณของนางไปห้าสิบตำลึงเงิน กู้เสี่ยวหวานลังเลและสงสัยว่าจะมีช่องว่างสำหรับการเจรจาหรือไม่
เมื่อข่งฟางเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานเงียบไป เขาจึงคิดว่าคงราคาแพงเกินไปสำหรับกู้เสี่ยวหวาน และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกิจการนี้ เขายิ้มและกล่าวว่า “แม่นางกู้ ถ้าต้องการซื้อจริง ๆ ข้าสามารถพูดคุยกับผู้ขายได้อีกครั้ง เพราะเขาต้องย้ายอย่างกะทันหันจึงต้องการเงินโดยเร็วที่สุด และที่ดินห้าสิบหมู่นี้ไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย เมื่อก่อนมีผู้ที่ต้องการซื้อมาที่นี่ แต่เขาต้องการซื้อที่ดินผืนเล็กเท่านั้น ไม่รู้ว่าเมื่อใดถึงจะขายได้ ดังนั้นคนขายก็ไม่เห็นด้วย ถ้าต้องการซื้อที่ดินทั้งหมดห้าสิบหมู่ไปในคราวเดียว ข้าจะคุยกับคนขายให้เพื่อดูว่าลดราคาได้อีกหรือเปล่า”
กู้เสี่ยวหวานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า ถ้ามันถูกกว่านี้ก็สามารถนำมาพิจารณาได้ แต่แค่ไม่รู้ว่าสถานการณ์จริงคืออะไร ข่งฟางผู้นี้แนะนำได้ดี แต่ถ้าไม่ไปดูที่นั่นจริง ๆ ก็จะไม่รู้เลย
กู้เสี่ยวหวานและป้าจางมองหน้ากันและกล่าวกับข่งฟาง “ที่ผืนนี้ ข้าต้องการซื้อจริง ๆ แต่แค่พูดคุยกันที่นี่ พวกเราจึงไม่รู้ว่าสถานการณ์จริงเป็นอย่างไร สามารถไปดูได้หรือไม่?”
“แน่นอนว่าไปได้ แม่นางกู้ ถ้าเจ้าอยากซื้อจริง ๆ ข้างจะพาไปดู” ข่งฟางกล่าวอย่างมีความสุข “ที่ดินผืนนี้ดีมาก คนอื่นต้องการซื้อ แต่พวกเขาซื้อไม่ไหว ถ้าจะแบ่งขาย ผู้ขายก็ไม่เห็นด้วย มันจึงยังว่างเปล่าอยู่เช่นนั้น”
กู้เสี่ยวหวานยิ้มและกล่าวว่า “พวกเราต้องการซื้อมันจริง ๆ ถ้ามันเหมาะสมและสามารถต่อรองราคาได้ วันนี้ก็สามารถตกลงกันได้เลย!”
“ตกลง ข้าจะพาพวกท่านไปที่นั่น แม้ว่าแม่นางกู้ยังอายุน้อย แต่ก็ดูเป็นคนร่าเริง ข้าชอบทำการค้ากับคนเช่นแม่นาง สะดวกและมีความสุข!” ข่งฟางตบที่ต้นขาของเขาแล้วหัวเราะ
ฉือโถวจอดเกวียนวัวไว้นอกเมือง ครอบครัวของข่งฟางมีเกวียนลาจึงพาพวกกู้เสี่ยวหวานทั้งสามคนออกจากเมือง ไม่นานพวกเขาก็มาถึงผืนดินที่ต้องการซื้อ ที่ดินผืนนี้อยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณหนึ่งลี้ มีถนนเล็ก ๆ อยู่ข้างใน ซึ่งสะดวกมาก นอกจากนี้อยู่ห่างจากถนนใหญ่ไม่มาก เช่นนี้ก็ง่ายต่อการจัดการ
ที่ดินผืนนี้มีประมาณห้าสิบหมู่ กู้เสี่ยวหวานเดินตามข่งฟางไปรอบ ๆ และเขาก็อธิบายให้นางฟังตามหน้าที่ กู้เสี่ยวหวานถามคำถามสองสามข้อเป็นครั้งคราว หลังจากเดินไปหนึ่งรอบ กู้เสี่ยวหวานก็พอใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ในใจของนางรอที่จะต่อรองราคาและจ่ายเงินเพื่อซื้อที่ดินผืนนี้
เดิมข่งฟางต้องการอวดประโยชน์ของที่ดินเกินจริง เดิมทีที่ดินผืนนี้นั้นดีมาก แต่เพราะคนขายอยากย้ายเขาจึงรีบขายทีเดียว แล้วคนจะซื้อที่ดินผืนใหญ่ขนาดนี้ในคราวเดียวได้อย่างไร ?
ถ้ากู้เสี่ยวหวานซื้อที่ดินห้าสิบหมู่จริง ถ้าสองร้อยห้าสิบตำลึงเงิน เขาจะได้ส่วนต่างเท่ากับสิบสามตำลึงเงิน แหล่งรายได้ของเขามาจากส่วนหนึ่งของราคาที่เขาขายที่ดินได้ ยิ่งขายได้มาก เขาก็ยิ่งมีรายได้มาก!
หลังจากที่เดินไปรอบ ๆ ข่งฟางรู้สึกว่าเขาไม่สามารถหลอกลวงได้
คำถามของกู้เสี่ยวหวานนั้นแม่นยำ และทุกคำถามถูกถามตรงประเด็น
กู้เสี่ยวหวานที่ศึกษาการเกษตรในชาติที่แล้ว และนางจบปริญญาเอกด้านการเกษตร ดังนั้น นางจึงมีความรู้เกี่ยวกับคุณภาพ ธาตุอาหาร และการเพาะปลูกที่เหมาะสมของผืนดินแห่งนี้ ไม่ว่าข่งฟางจะโอ้อวดเพียงใด เขาก็ไม่สามารถหลอกกู้เสี่ยวหวานได้
ในตอนท้าย ข่งฟางรู้สึกอายเล็กน้อยและแก้ไขความคิดของเขาอย่างรวดเร็ว แม่นางกู้ผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ดูเหมือนว่าตนเองจะหลอกนางไม่ได้เลย เขาจึงแค่หวังว่าพูดความจริงและตอบอย่างจริงใจ
จากการเป็นนายหน้าขายที่ดินมาครึ่งชีวิต ข่งฟางจึงสามารถสังเกตการแสดงออกที่พึงพอใจของกู้เสี่ยวหวานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ข่งฟางโล่งใจ ดูเหมือนว่าธุรกิจคราวนี้จะสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ทำเงินได้เล็กน้อยก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย ที่ดินผืนใหญ่ขนาดนี้ ถ้าไม่มีใครมาซื้อทั้งหมดในคราวเดียว เกรงว่าไม่รู้จะอยู่ในมืออีกนานแค่ไหน
เขาต้องขายที่ดินผืนนี้ออกไปให้เร็วที่สุด
*[1] แปลว่า อาศัยสภาพธรรมชาติในการดำรงชีวิต
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เสี่ยวหวานเริ่มคิดซื้อที่ดินแล้ว ครานี้จะสามารถต่อรองราคาลงมาได้หรือไม่
ไหหม่า(海馬)