ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 245 วายร้ายหลี่ซื่อ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 245 วายร้ายหลี่ซื่อ

บทที่ 245 วายร้ายหลี่ซื่อ

ฉินเย่จือออกมาจากเงามืด บทสนทนาเมื่อสักครู่ของทั้งสองคน เขาได้ยินอย่างชัดเจน เมื่อมองไปที่ร่างผอมบางและหลังที่ตั้งตรงของกู้เสี่ยวหวานที่อยู่ข้างหน้า ฉินเย่จือสัมผัสได้ว่าแม่นางผู้นี้ไม่ธรรมดา นางน่าทึ่งยิ่งนัก จนเขาอยากจะแง้มความคิดของนางเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน

กู้เสี่ยวหวานตื่นเต้นมากกับโฉนดในอ้อมแขนของนาง ขณะที่เดินอยู่บนถนนสายนี้ ทุกสิ่งล้วนดูน่ามอง

เมื่อลูบไปที่โฉดในอ้อมแขนก็ราวกับว่ามีความรู้สึกปลอดภัยอยู่ที่นั่น

กู้เสี่ยวหวานคิดในใจ และได้ยินเสียงการต่อสู้ดังมาจากด้านหน้า กู้เสี่ยวหวานเห็นผู้คนมากมายวิ่งไปทางนั้น กู้เสี่ยวหวานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อฝูงชนแห่วิ่งไปทางนั้น นางจึงถูเบียดให้ไปทางนั้นอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อฉินเย่จือเห็นกู้เสี่ยวหวานถูกฝูงชนผลักให้เดินไป เขากลัวว่านางอาจจะเกิดอันตราย เขาติดตามอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลและคอยสังเกตกู้เสี่ยวหวานอย่างระมัดระวัง หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับนาง เขาจะรีบออกไปทันที

ท่ามกลางฝูงชน ชายร่างสูงใหญ่ที่มีท่าทางโกรธเกรี้ยว เขาจ้องเขม็งไปที่ชายคนหนึ่งที่นอนอยู่บนพื้น

“หลี่ซื่อ เจ้าเป็นหนี้พวกเรา แล้วเมื่อไรจะจ่ายคืน?” ชายที่มีใบหน้าดุร้ายเอ่ยถามอย่างชั่วร้าย

กู้เสี่ยวหวานมองไม่เห็นใบหน้าของชายผู้นั้นที่นอนอยู่บนพื้น แต่มองเห็นได้ชัดเจนว่าชายผู้นี้น่าจะยังเด็กมากและร่างกายผอมบาง

“พี่ชาย ข้าไม่มีเงินแล้วจริง ๆ” ชายผู้นั้นนอนกับพื้น เอามือปิดหน้า เมื่อคนรอบข้างเห็นเขาเช่นนี้ จึงรีบก้าวไปข้างหน้าและเตะไปที่หลังมือของเขา เขาเงยศีรษะขึ้น คุกเข่าลงบนพื้น เงยศีรษะขึ้นและมองไปยังบุคคลด้านบนด้วยใบหน้าประจบสอพลอ “พี่ชาย ข้าไม่มีเงินเลยจริง ๆ ให้เวลาข้าอีกสักสองสามวันได้หรือไม่?”

“ให้เวลาอย่างนั้นหรือ?” ชายผู้นั้นโกรธและเตะไปอีกครั้ง คนที่ชื่อหลี่ซื่อนั้นผอมและอ่อนแออยู่แล้ว เมื่อเขาถูกชายร่างสูงเตะที่ไหล่ขวา พลันได้ยินเสียงเหมือนกระดูกหัก หลี่ซื่อจึงนอนลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวด และกรีดร้องด้วยเสียงแหบแห้ง

“พี่ชาย ไว้ชีวิตข้าด้วย ไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าไม่มีเงินแล้วจริง ๆ…” ตอนนี้หลี่ซื่อเสียใจมาก เขารู้ว่าเขาไม่ควรมาเล่นการพนันที่บ่อนเลย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะพบคนเหล่านี้ที่นี่ นี่เป็นโชคร้ายจริง ๆ

ชายผู้นั้นไม่เชื่อคำพูดของหลี่ซื่อ เขาเหล่มองไปที่หลี่ซื่อและชี้ไปทางบ่อนที่อยู่ข้างหลังเขา “ไม่มีเงินหรือ เจ้ากำลังโกหกใครกัน? มาที่บ่อนโดยไม่มีเงินเนี่ยนะ?”

“พี่ชาย ข้า…ข้าแค่มาดู” หลี่ซื่อกล่าวพลางไหล่ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเตะของชายผู้นั้น ชายผู้นี้คือราชาแห่งนรก และตอนนี้ยังถูกเตะเบา ๆ ถ้าเกิด…

ความคิดของเขาฟุ้งซ่าน คิดหาวิธีที่จะออกไปจากที่นี่

“แค่มาดูอย่างนั้นหรือ?” ชายผู้นั้นคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม จากนั้นจึงยกเท้าขึ้นและเหยียบหน้าอกของหลี่ซื่อ

หลี่ซื่อกรีดร้องอย่างน่าสังเวช

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกว่าเคยได้ยินเสียงของคนที่ชื่อหลี่ซื่อมาจากที่ไหนสักแห่ง เสียงนี้นุ่มและละเอียด แต่นางจำไม่ได้ คราวนี้เมื่อนางเห็นหน้าของหลี่ซื่อในที่สุดนางก็จำได้

หลี่ซื่อผู้นี้เป็นเด็กหนุ่มที่ใจดีที่บอกนางว่ากู้เสี่ยวอี้ถูกเหลียงต้าเปาพาตัวไป จากนั้นจึงติดตามพวกเขาเพื่อค้นหา และใช้รถม้าพาพวกเขาไปส่งที่โรงหมอ

กู้เสี่ยวหวานก็เริ่มคิด เกิดอะไรขึ้นกับหลี่ซื่อผู้นี้? ไปที่บ่อนเพื่อเล่นการพนัน? แล้วไปทำให้คนเหล่านี้ขุ่นเคืองได้อย่างไร

“ไม่มีเงินอย่างนั้นหรือ?” ชายผู้ชั่วร้ายดูเหมือนจะไม่เชื่อ และใช้เท้าของเขาเหยียบกดลงไปอีก หลี่ซื่อนอนอยู่บนพื้น เขาหายใจอย่างยากลำบาก ราวกับว่าหน้าอกของเขากำลังจะโดนคนผู้นี้บดขยี้

เขารีบพูดว่า “ข้ามีเงิน ข้ามีเงิน ข้าจะไปขอเงินจากใครสักคนเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”

ชีวิตสำคัญหรือเงินสำคัญ หลี่ซื่อสามารถบอกได้อย่างชัดเจน

“เจ้ามีเงินอยู่ที่ไหน? พี่ใหญ่ เมื่อสักครู่พวกเราไปบ้านเขาแล้วไม่พบอะไรเลย!” ลูกน้องผู้หนึ่งกล่าวอย่างรวดเร็วหลังจากได้ยินสิ่งที่หลี่ซื่อพูด

ทันทีที่ชายผู้นั้นได้ยินคำพูดของลูกน้อง เขาก็กดเท้าเหยียบหลี่ซื่อลงอย่างรุนแรง “เจ้าโกหกอย่างนั้นหรือ?”

“ไม่ แค่ก ๆ ไม่…” หลี่ซื่อทนต่อความเจ็บปวด และกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ข้าจะไปขอเงินจากใครสักคน ข้าจะไปขอเงินจากใครสักคน!”

“เจ้าจะไปขอเงินมาจากผู้ใด?” ชายผู้นั้นถ่มน้ำลาย และหลี่ซื่อที่ไม่รู้ว่าจะหลบอย่างไร น้ำลายที่ถ่มออกมาจึงโดนหน้าเขา

“นี่ไม่มีกฎอย่างนั้นหรือ ถึงได้มาทุบตีคนโดยไม่สนใจเช่นนี้?” มีคนข้าง ๆ กล่าวอย่างสงสาร

“สนใจ? จะสนใจได้อย่างไร? คนที่ทุบตีคนอยู่นั้นเป็นอันธพาลแถวนี้ เก็บค่าคุ้มครองพิเศษ แถมยังให้ยืมเงินอีกด้วย! ผู้ที่นอนอยู่บนพื้น ดูน่าสงสารอย่างนั้นหรือ?” ผู้ที่อยู่ด้านข้างพ่นลมอย่างเย็นชา “น่าสงสารอะไรกัน เขาเป็นเพียงคนโกหก!”

ผู้พูดเป็นชายชรา ท่าทีของเขาดูเหมือนจะเกลียดหลี่ซื่ออย่างที่สุด กู้เสี่ยวหวานงุนงงเล็กน้อย และได้ยินคนด้านข้างถามอีกครั้งว่า “เด็กหนุ่มผู้นี้เป็นคนโกหกอย่างนั้นหรือ?”

“ไม่ใช่หรอกหรือ!” ชายชรากล่าว “กิน ดื่ม เมานารี เล่นการพนัน เลวทรามเกินกว่าใครจะนึกถึง!”

เพียงเห็นหลี่ซื่อลุกขึ้นจากพื้นและกล่าวว่า “พี่ชาย ข้าจะไปหาใครสักคนและขอให้เขาเอาเงินให้ข้ามาคืนท่าน”

“แล้วถ้าเจ้าหนีไปล่ะ?” ชายผู้นั้นไม่เชื่อเพราะกลัวว่าหลี่ซื่อจะหลอกตนเอง

“ถ้าเจ้าไม่เชื่อ ก็ไปกับข้า” หลี่ซื่อทนต่อความเจ็บปวด และตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้น หน้าอกของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส ชายผู้นี้โหดเหี้ยมจริง ๆ

หลี่ซื่อมองไปที่ฝูงชนที่หนาแน่นรอบตัวเขา เขากวาดสายตาอย่างรวดเร็ว และคิดหาวิธีที่จะออกไป

ชายผู้นั้นอยู่ข้างหลังหลี่ซื่อ และไม่รู้ว่าเขาหันไปพูดอะไรกับคนที่อยู่ข้างหลังเขา จากนั้นเมื่อหลี่ซื่อเห็นจังหวะจึงรีบวิ่งหนีไป ผู้คนรอบข้างไม่ต้องการที่จะขัดแย้งกับกลุ่มคนพวกนี้ พวกเขาจึงรีบหลีกทางอย่างรวดเร็ว

เมื่อชายผู้นั้นเห็นหลี่ซื่อวิ่งหนีไป หน้าผากของเขาก็สั่น และเขาพูดอย่างโกรธเคืองว่า “บ้าเอ๊ย ตามมันไป”

ลูกน้องที่ได้รับคำสั่งจึงรีบไล่ตามหลี่ซื่อที่ได้รับบาดเจ็บและวิ่งหนีไปโดยจับหน้าอกของตน เขาจะวิ่งหนีกลุ่มของพวกอันธพาลที่ตามมาจากด้านหลังได้อย่างไร เขาวิ่งไปไม่ถึงครึ่งถนนก็ถูกกลุ่มลูกน้องไล่ตามทัน และถูกกดจนขยับร่างกายไม่ได้

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท