พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า – บทที่ 2170 การวางหมากที่สมบูรณ์แบบ

บทที่ 2170 การวางหมากที่สมบูรณ์แบบ
เฉิงไที่เจ๋อจับทางไม่ได้นิดหน่อย หันกลับมาบอกสิ่งที่เหมียวอี้พูดให้เชี่ยเซิงที่อยู่ข้างกายฟัง ให้เขาช่วยออกความคิดว่าหนิวโหย่วเต๋อหมายความว่าอย่างไรกันแน่
เชี่ยเซิงก็จับจุดไม่ได้เช่นกันกล่าวอย่างสงสัยว่า “ตามหลักแล้ว หนิวโหย่วเต๋อไม่มีทางรับกำลังพลของท่านอ๋องไว้ได้อย่าว่าแต่ประมุขชิงจะไม่ยอมให้เขายิ่งใหญ่ขึ้น หลังจากเขายิ่งใหญ่ขึ้น ก็จะกลายเป็นภัยคุกคามต่ออีกสามทัพได้ง่ายเช่นกัน อีกสามทัพก็เก็บเขาไว้ไม่ได้ ถ้าหนิวโหย่วเต๋อทาอย่างนี้จริง จะไม่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวหรอกเหรอ ?”
เฉิงไที่เจ๋อบอกว่า “แต่คำพูดของเขาก็ไม่เหมือนพูดเล่น หรือว่าตั้งใจจะเอากำลังพลของข้าไปฆ่า ? เรื่องนี้มีเถิงเฟยแก้ปัญหาอยู่ตรงหน้าแล้ว ถ้าเขาเข้ามาสอดก็ถือว่าหาเรื่องใส่ตัวเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องแบบนี้มาหาความสำราญใจ”
ทั้งสองปรึกษากันอยู่พักหนึ่ง แต่ยังหาที่มาที่ไปไม่เจอสุดท้ายเฉิงไที่เจ๋อก็ถามเหมียวอี้ตรง ๆ เสียเลย : น้องชาย เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ ?
เหมียวอี้ : ข้าคิดจะทำอะไรนะไม่สำคัญ ที่สำคัญก็คือ…ตอนนี้มีเพียงข้าที่ยินดีช่วยท่านอ๋อง ท่านอ๋องไม่มีทางเลือก!
เฉิงไที่เจ๋อ : หลังจากมอบกำลังพลให้เจ้าแล้ว ข้าจะเชื่อได้ยังไงว่าเจ้าจะไม่กลับคา ข้ามแม่น้ำแล้วหรือสะพานทิ้ง ?
เหมียวอี้ : ท่านอ๋องมาพึ่งพาข้า แต่อำนาจทางทหารยังอยู่ในมือท่านอ๋องสามารถควบคุมกำลังพลต่อไปได้ ไม่ทราบว่าท่านอ๋องวางใจหรือยัง ?
เงื่อนไขนี้ทำให้เฉิงไที่เจ๋อไม่มีทางปฏิเสธได้จริง ๆ ที่สำคัญก็คือทาใจเชื่อได้ยาก : มเรื่องดี ๆ อย่างนี้ด้วยเหรอ ?
เหมียวอี้ : จะตกลงหรือไม่ตกลงก็บอกมาคาเดียว ถ้าทาขนาดนี้แล้วยังไม่เชื่อพวกเราก็เหมือนไม่จำเป็นต้องเจรจาต้อแล้ว แต่ข้าต้องเตือนท่านอ๋องไว้สักคา ถ้าจะตัดสินใจก็เร็ว ๆ หน่อย ถอนทัพหนีตอนนี้ยังทัน ถ้าช้ากว่านี้ โดนเถิงเฟยกัดไม่ปล่อยแล้ว ข้าก็ไม่กล้าเก็บเจ้าไว้นะ หลักการไม่ได้ซับซ้อนเลย ตอนนี้ข้ายังไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเจ้ามาพึ่งพาข้า ไม่อยากสร้างปัญหา
เฉิงไที่เจ๋อกัดฟันถามว่า : ไม่ทราบว่าท่านอ๋องเตรียมจะรับกำลังพลของข้ายังไง ?
เหมียวอี้ : เจ้ากับข้าอยู่เขตติดต่อกัน ถ้าอยากจะหนีเข้ามาในอาณาเขตของข้า ก็ไม่ใช้เรื่องง่ายหรอกเหรอ ? ตอนนี้ทัพเหนือกับทัพตะวันตกเข้ามาประจำในเขตทัพตะวันออกแล้ว มีเพียงทัพของข้าที่เป็นทัพใหญ่ปิดกั้นด่านทางออกของกำลังพลของเจ้าไว้ เจ้าสามารถสั่งให้ลูกนองค์นสนิทแสร้งนากำลังพลหนี้ไปยังอาณาเขตดาวนิรนาม ส่วนฝั่งข้าก็จะปล่อยให้เจ้าผ่านด่านมาเงียบ ๆ จากนั้น
เถิงเฟยกระป๋องคนอื่นจะต้องตามหากำลังพลของเจ้าไปทั่วแน่นอน และข้าก็จะบอกว่าข้าไม่เห็นว่ากำลังพลของข้าหนี้ไปแล้ว พวกเขาย่อมเชื่อเถิงเฟยย่อมสนใจทิศทางที่ลูกนองค์นสนิทคนั้นนของเจ้าหนี้ไป จะเข้าใจผิดว่าเจ้าหนี้ไปทางนั้น หลังจากเจ้าเข้ามาในอาณาเขตของข้าแล้ว อยู่กับกำลังพลของตัวเองแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลวาข้าจะข้ามแม่น้ำแล้วหรือสะพานทิ้ง ไม่อย่างนั้นเจ้าก็สามารถบอกให้แต่ละฝ่ายรู้ถึงสิ่งที่ข้าทำได้เลย ทำให้ข้ากลายเป็นเป้าหมายที่ทุกคนโจมตี
เฉิงไที่เจ๋อปวดหัวแล้ว จะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ ถ้าทาอย่างนี้แล้วได้รับการสนับสนุนจากอีกฝ่ายจริง ๆ ก็จะแก้ไขวิกฤตตรงหน้าได้ พวกเถิงเฟยเองก็ไม่มีความกล้าที่จะบุกโจมตีเข้ามาในอาณาเขตทัพใต้ง่าย ๆ แต่เขาก็รู้สึกอกว่าการที่เหมียวอี้ทาอย่างนี้จะต้องมีอะไรในกอไผ่ ไม่มีทางทาเรื่องดี ๆ โดยไร้เหตุผล จึงอดไม่ได้ที่จะถามอีกครั้ง : เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ ?
ต่อให้เขานอนฝันก็คิดไม่ถึงว่าเหมียวอี้อยากก่อกบฏ เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีทางสำเร็จได้เลย ด้วยเหตุนี้เอง เขายิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ
เหมียวอี้ : ดูท่าแล้ว ท่านอ๋องคงไม่ตัดสินใจเรื่องง่าย ๆ เช่นั้นนก็ไม่สู้ช่างมันเถอะ!
เฉิงไที่เจ๋อร้อนใจแล้ว ตอนนี้เขาเสียเวลาต่อไปไม่ได้ รีบตอบว่า : ก็ได้ ต้องพึ่งน้องชายแล้ว ข้าตกลง!
เหมียวอี้ : ดี ท่านอ๋องรีบเตรียมตัวโดยเร็วที่สุด ฉวยโอกาสตอนที่กองทัพองครักษ์ยังไม่ถอนกำลังออกไปจนหมด กอปรกับเถิงเฟยเป็นคนระมัดระวังตัวมาก ถ้าไม่เห็นกองทัพองครักษ์ถอนกำลังออกไปหมด ก็ไม่กล้าเเคลื่อนทัพง่าย ๆ ช่องว่างนี้คือโอกาสให้ท่านอ๋องปลีกตัวออกไป้ถ้าช้ากว่านี้จะไม่ทันแล้ว! ถ้าเจ้าเตรียมตัวเสร็จแล้วก็บอกให้ข้ารู้ทันที่ข้าจะเตรียมคนส่งไปบัตรงด่านทางเข้าอาณาเขตทัพใต้! ต้องรักษาความลับทิศทางการเคลื่อนไหวของกำลังพล สิ่งนี้ควรทายังไง ก็คงไม่ต้องให้ข้าสอนท่านอ๋อง…
หลังจากทั้งสองฝ่ายติดต่อกันเสร็จแล้ว เหมียวอี้ก็พยักหน้าให้หยางชิ่ง บอกใบ้ว่าเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังหวาดระแวงอยู่บ้าง “หวังว่าเฉิงไที่เจ๋อจะไม่กลับคา”
หยางชิ่งส่าย่อหน้า “น่าจะไม่กลับคา ตอนนี้เขาไม่มีทางหนีที่ไล่แล้ว การจะนำกำลังพลมากขึ้นาดนั้นหนีเข้าอาณาเขตดาวนิรนามก็เป็นเรื่องเพ้อฝันเกินไป และไม่มีทางจะซ่อนตัวได้นานด้วย ถ้าคนเบื้องล่างไม่มีทางออกแล้ว ดีไม่ดีอาจจะเด็ดหัวเขาไปให้เถิงเฟยเพื่อแลกกับหนทางรอดชีวิต นอกเสียจากเขาจะทิ้งกำลังพลแล้วหนี้ไป อีกทั้งตอนนี้ท่านอ๋องก็เป็นเพียงทางออกเดียวของเขา ตราบใดที่เขายังอยู่กับกำลังพลของตัวเองต่อไป ต่อให้พบความไม่ชอบมาพากลอะไร เดียวเขาค่อยทิ้งกำลังพลตัวเองแล้วหนีเข้าอาณาเขตดาวนิรนามไปก็ยังทัน อย่างน้อยพอมาหาท่านอ๋อง เขาก็ยังมีทางเลือกเพิ่มอีกทาง หลักการนี้ไม่มีทางที่เขาจะไม่เข้าใจดงนั้นไม่ว่ายังไงเขาก็จะต้องลองมาที่นี่ก่อน”
“อืม!” เหมียวอี้พยักนา เดินไปเดินมาแล้วบอกว่า “ใช้เรื่องกำลังพลดักซุ่มแดนมรณะดึกดำบรรพ์มาเกริ่นนา บีบให้สามอ๋องร่วมมือกันกดดันให้ประมุขชิงเลิกสนับสนุนเฉิงไที่เจ๋อบีบให้เฉิงไที่เจ๋อไม่มีทางออกจนมาขอพึ่งพาฝั่งนี้ ดูจากตอนนี้แล้ว แผนการขั้นต้นของพวกเราคงสำเร็จแล้ว ปัญหาในตอนนี้ก็คือประมุขชิงจะลงมือกับข้าจริงเหรอ ? ถ้าเขาไม่ลงมือการเรียกเฉิงไที่เจ๋อมมาที่นี่ก็ถือว่าสร้างปัญหาใหญ่ให้ตัวเองจริง ๆ”
หยางชิ่งกล่าวเสนอแนะ “ธนูฝ่าอิทธิฤทธ์สิ่บล้านคันของแดนมรณะดึกดำบรรพ์ ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ห้าสิบล้านคันของทัพใหญ่แดนรัตติกาล ประมุขชิงจะยอมยกให้ท่านอ๋องง่าย ๆ ได้ยังไง ? ตอนเจรจาก่อนหน้านี้ ถ้าเขายืนกรานจะให้กองทัพองครักษ์มาปราบทัพใหญ่แดนรัตติกาล ข้าน้อยก็ยังเชื่อว่าเขาไม่มีความคิดนี้ แต่เขาตอบตกลงให้ท่านอ๋องปราบทัพกบฏง่ายขนาดนั้น แสดงว่าในนั้นต้องมีอะไรในกอไผ่แน่ ไหนจะแผนลอบสังหารของกองทัพองครักษ์ แผนดักซุ่มสังหารที่แดนมรณะดึกดำบรรพ์อีก ทุกเรื่องพิสูจน์แล้วว่าประมุขชิงคิดจะฆ่าท่านอ๋อง ย้อนดูเรื่องที่กำลังพลห้าร้อยล้านแอบอยู่ในทัพตะวันออกและชี้กระบี่มาที่ท่านอ๋องสิ ก็พิสูจน์แล้วว่าประมุขชิงมีกลยทธุ์และอุบายนี้แน่นอน! ที่เขาเจตน่าสงหารนี้แล้ว เป็นเพราะไม่อาจปล่อยให้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์หกสิบล้านคันตกอยู่ในมือคนอื่นง่าย ๆ บวกกับกลยทธุ์นี้อีก ก็ถือว่ามีปัจจัยที่จะลงมือกับนายท่านโดยสมบูรณ์แล้ว ถ้าสิ่งที่ข้าน้อยคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้ไม่ผิดพลาด เขาจะต้องถอยเพื่อรุกแน่นอน เขาเลิกสนับสนุนเฉิงไที่เจ๋อถอนกำลังออกจากทัพตะวันออก ให้เฉิงไที่เจ๋อกับเถิงเฟยเข่นฆ่ากันเอง พอเปืนแบบนี้ ที่
จริงทัพตะวันออกก็ยังถูกเขากดไว้อยู่ แล้วท่านอ๋องก็ใช้กำลังทหารไปกับการปราบทัพกบฏอีก ทางด้านอ๋องสวรรค์โค่วและอ่องสวรรค์ก่วง ก็สามารถให้ประมุขพุทธะควบคุมไว้ได้
ถึงตอนั้นนเขาสามารถใช้กำลังทั้งหมดสู้กับท่านอ๋องได้เลย โอกาสดีขนาดนี้มีหรือที่เขาจะพลาด ? ในเมือเจรจาเงื่อนไขกันลงตัวแล้ว ทุกคนก็สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขแล้ว แต่ทำไมแดนสุขาวดียังไม่ถอนกองทัพพระห้าร้อยล้านกลับไปอีกล่ะ ? พูดในกรณีที่เลวร้ายที่สุด สมมุติว่าพวกเราสันนิษฐานผิดพลาด สมมุติว่าเขาไม่ได้มีความคิดจะทาร้ายท่านอ๋อง ท่านอ๋องค่อยผลักกำลังพลของเฉิงไที่เจ๋อออกไปเพื่อชี้แจงกับอำนาจฝ่ายต่าง ๆ ก็ยังไม่สาย ประเด็นสำคัญในตอนนี้ก็คือท่านอ๋องต้องป้องกันไว้ว่าประมุขชิงอาจจะมีเจตนาชั่วร้ายนี้ ถ้าไม่ป้องกันตอนนี้ ถ้าไม่เตรียมตัวป้องกันล่วงหน้า พอเกิดเรื่องขนแล้วค่อยฉุกละหุกรับมือก็จะสายไป ถ้าประมุขชิงลงมือจริง ๆ เช่นั้นนก็แสดงว่าเขาบีบให้ท่านอ๋องกบฏ!”
“ที่พูดก็มีเหตุผล จะไม่ป้องกันก็ไม่ได้!” เหมียวอี้พยักหน้าอย่างเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เขาโยนแผนที่ดาวแผ่นหนึ่งลงบนพื้น จ้องมันพร้อมถามว่า “จะว่าเขาจะลงมือจากตรงไหนก่อน ?”
หยางชิ่งกล่าวอย่างไม่แน่ใจ”กองทัพองครักษ์หรืออีกชื่อก็คือทัพใหญ่สี่พันล้าน ที่จริงทุกคนต่างร้อยู่แก่ใจว่านั่นคือสิ่งที่แสดงให้เห็นภายนอกเท่านั้น เป็นสิ่งที่ประมุขชิงเอาไว้ขู่ให้คนกลัว ระบบพวกนี้ทุกคนก็แค่เคยได้ยินว่ามันมีอยู่ เพียงแต่ปฏิบัติสิ่งที่เรียกว่าภารกิจอยู่ตลอด ไม่มีใครเคยเห็นทั้งนั้น บรรดาท่านอ๋องทาสถิติการเก็บภาษี
ของใต้หล้า ร้อยู่แก่ใจว่าประมุขชิงสามารถเลี้ยงกำลังพลได้เท่าไหร่ ที่จริงก็แค่เผยคนเหล่านั้นให้เห็นภายนอก สองพันห้าร้อยล้านถือว่ามากสุดแล้ว ส่วนพวกท่านอ๋องทั้งหลาย แม้จะต่างคนต่างเรียกตัวเองว่าทัพใหญ่สองร้อยล้าน แต่เป็นโครงสร้างที่มีสมาชิกที่อยู่ระดับต่ำสุดเป็นส่วนใหญ่ คนที่วรยุทธ์ยังไม่ถึงระดับทะยานสวรรค์ ถ้าใครได้ยึดครองอาณาเขต พวกเขาก็เทไปอยู่ฝั่งคนั้นน สามารถมองข้ามโดยไม่นับได้เลย กำลังพลของสี่ทัพที่สามารถออกรบได้อย่างมากก็แค่สามพันล้าน รวมกำลังพลของสี่อ๋องสวรรค์ที่สามารถออกรบได้ก็เป็นหน่งหมื่นสองพันล้าน แต่ไม่ว่าใครก็รู้ทั้งนั้น ถ้าพูดถึงระดับความเก่งกาจ ถ้าเทียบกับกำลังพลหนึ่งพันห้าร้อยล้านของกองทัพองครักษ์ก็ถือว่าคนละระดับเลย ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนของกองทัพองครักษ์ก็มีธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ เพียงพอที่จะขู่พวกอ๋องได้ ประมุขชิงไม่จำเป็นต้องเฝ้าอาณาเขต แต่สามารถรวบรวมทรัพยากรมาเลี้ยงทหารเก่ง ๆ ได้ ในจุดนี้พวกอ๋องสวรรค์เทียบไม่ติด”
“จุดนี้ข้าย่อมร้อยู่แก่ใจ ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่รีบเอาธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ชุดนี้มา โอกาสชนะเพียงอย่างเดียวของพวกเราก็คือรวบรวมทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ แล้วอาศัยจำนวนมากไปโจมตีจำนวนน้อย นอกจากทาสิ่งนี้ก็ไม่มีโอกาสชนะแล้ว! แต่ประเด็นของปัญหาก็คือถ้าประมุขชิงต้องการรุกโจมตี คงไม่ให้พวกเรารู้เรื่องการวางกำลังโจมตีง่าย ๆ ไม่ให้โอกาสพวกเราใช้จำนวนมากกว่าโจมตีจำนวนน้อยกว่า” เหมียวอี้กล่าว
หยางชิ่งบอกว่า “กำลังพลกองทัพองครักษ์เคลื่อนไหวมาตลอด แต่มีกำลังพลอยู่ที่หนึ่งที่สามารถแน่ใจได้ ต่อให้จะเคลื่อนไหววางกำลังยังไง แต่กำลังพลที่เฝ้าพิทักษ์บริเวณวังสวรรค์ ทั้งข้างนอกข้างใน ทั้งใกล้และไกลก็รักษาจำนวนทัพใหญ่แปดร้อยล้านไว้ตลอด เฝ้ารักษาความปลอดภัยของวังสวรรค์อย่างเข้มงวด เขาจะยังไม่เคลื่อนไหวกำลังพลที่นี่ ถ้าเคลื่อนไหวเมื่อไหร่ก็ทำให้บรรดาท่านอ๋องตื่นตัวได้ง่ายมาก”
เหมียวอี้เอามือลูบคางครุ่นคิด “ก็แสดงว่ากำลังพลแปดร้อยล้านี้น สามารถตัดออกจากจำนวนกำลังพลที่โจมตีได้”
“ถูกต้อง!” หยางชิ่งพยักหน้า แล้วยื่นมือวาดท่าทาง “ส่วนกำลังพลที่เหลือถ้าอยู่ภายใต้สถานการณ์ปกติ กองทัพองครักษ์สี่ร้อยล้านที่อยู่ในอาณาเขตสี่ทัพนั้นหมุนเวียนเฝ้ารักษาการณ์ในระยะยาวยงมีอีกหนึ่งร้อยล้านที่เดินทางไปตามที่ต่าง ๆเพื่อปฏิบัติภารกิจชั่วคราว เพราะเรื่องที่ทัพตะวันออกครั้งนี้ นอกจากกำลังพลสี่ร้อยล้านที่รวมตัวอยู่ในทัพตะวันออก กำลังพลหนึ่งร้อยล้านที่ปฏิบัติภารกิจก็รวมตัวไปที่นั่นแล้วเช่นกัน รวมเป็นทัพใหญ่ห้าร้อยล้าน ตอนนี้รวมตัวกันถอนกำลังออกไปแล้ว เกรงว่าคงเอามาใช้รับมือกับท่านอ๋อง ทัพใหญ่สามร้อยล้านที่รวมมาจากจุดต่าง ๆและนาโดยฮวาอี้เทียนั้นนใช้เพื่อปราบกบฏ แต่ถูกท่านอ๋องกักไว้แล้ว พอเกิดเรื่องขน คนพวกนี้ต้องลงมือกับท่านอ๋องแน่นอน ทั้งยังมีกำลังพลสี่ร้อยล้านในอาณาเขตทัพใต้อีก ใช้ข้ออ้างว่าปราบกบฏ แม้จะถูกท่านอ๋องถ่วงเวลาไว้จนไม่ได้ระดมพลครั้งใหญ่ แต่กำลังพลที่รวมตัวกันอยู่ตามแต่ละจุดแถวนี้ก็มี
ขนาดสิบล้านขึ้นไปทั้งนั้น กำลังพลกองทัพองครักษ์ที่อยู่ในอาณาเขตอ๋องสวรรค์โค่วและอ๋องสวรรค์ก่วงก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน พูดแค่ในอาณาเขตทัพใต้ของท่านอ๋องอย่างเดียว
พอเกิดเรื่องขน ทหารที่เฝ้าอยู่ตามด่านพวกนั้นก็คงต้านการบุกโจมตีของกองทัพองครักษ์สิบล้านลำบาก หรือพูดอีกอย่างว่า กำลังพลกองทัพองครักษ์ที่สามารถพุ่งเป้ามาเล่นงานท่านอ๋องได้โดยตรงมีถึงแปดร้อยล้าน ในอาณาเขตยังมีอีกสี่ร้อยล้านที่กระจายตัวกันตามจุดต่างๆ จุดละสิบล้าน อาศัยพลังรบของพวกเขา ก็สามารถบุกโจมตี โจมตีสกัด ช่วยเหลือสกัดกองหนุนที่จะมาช่วยท่านอ๋องแบบทั่วทิศได้ทุกเมื่อ ทำให้ทัพใหญ่แปดร้อยล้านั่นนสังหารท่านอ๋องอย่างไร้กังวลได้เลย! ตอนนี้ท่านอ๋องลองมองจากสถานการณ์ภาพรวมก็จะรู้ว่าประมุขชิงจะใช้ข้ออ้างเรื่องปราบกบฏกับทัพตะวันออก ความเงียบ เชียบที่อยู่ใต้หนังตาทุกคนกลายเป็นการวางหมากที่สมบูรณ์แบบ ตอนไม่ลงมือดูเหมือนไม่อันตราย แต่ลงมือเมื่อไรก็ถึงแก่ชีวิตทันที่วิธีการของคนคนนี้ช่างร้ายกาจ! ถ้าข้าน้อยเดาไม่ผิด ตอนที่ทัพใหญ่ของแดนสุขาวดีเข้าสู่ตาหนักสวรรค์ ก็จะเป็นเวลาที่ประมุขชิงลงมือสังหาร!”
พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

เหมียวอี้ เด็กหนุ่มธรรมดาแต่มีโชคชะตาที่ไม่ธรรมดา!

เขาคือเด็กกำพร้าที่ถูกเพื่อนบ้านตราหน้าว่าเป็น ‘ตัวหายนะ’

เพราะพ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงเขาล้วนมีจุดจบอยู่ในกองเพลิงทั้งสิ้น

เขาจึงต้องเติบโตมากับน้องๆ ต่างสายเลือดอีกสองคนตามลำพัง

ไร้เงิน ไร้อำนาจ ไร้ความสามารถ ซ้ำยังเป็นตัวซวย โลกนี้มันช่างอยู่ยากเสียจริง!

หนทางที่จะลบคำครหาของชาวบ้านและก้าวพ้นชีวิตที่ยากไร้ไปได้ก็คือการสำเร็จเป็นเซียน

แม้ความปรารถนาจะอยู่สูงเกินเอื้อม แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น

ถึงจะลำบากและอันตรายเพียงใด

ก็ขอทะยานไปให้สุดขอบฟ้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน