พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า – บทที่ 2175 จุดไฟสงคราม

บทที่ 2175 จุดไฟสงคราม
คนกลุ่มหนึ่งที่ปลอมตัวแล้วขึ้นมาบนพื้นดิน แล้วเหาะไปยังจุดลึกของดาราจักรอย่างรวดเร็ว
คิดจะลงมือกับหนิวโหย่วเต๋อมีแม่ทัพจำนวนไม่น้อยที่บอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกเครียดีหรือรู้สึกตื่นเต้น หนิวโหย่วเต๋อก็มีพื้นเพมาจากกองทัพองครักษ์เหมือนกัน เคยเป็นความภาคภูมิใจของกองทัพองครักษ์ มีคาสรรเสริญว่ารบไม่แพ้ จนป่านี้นได้ไต่เต้าทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งอ๋องสวรรค์คุมทัพใต้แล้ว คนภายในกองทัพองครักษ์ไม่หยุดยั้งความเลื่อมใสแบบนี้เพราะหนิวโหย่วเต๋อออกไปแล้ว กองทัพองครักษ์ส่งเสริมความเลื่อมใสศรัทธานี้ ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือค้นของตัวเองหากทาศึกได้ก็แสดงว่าเป็นวีรบุรุษ ต่อให้เป็นศัตรูก็ควรค่าแก่การนับถือ!
แน่นอน นับถือก็ไม่ได้แปลว่าหวาดกลัว และต้องเอาชนะเขาให้ได้ด้วย ตองอยู่เหนือกว่าเขาให้ได้
กำลังจะประมือกลับขุนพลเลื่องชื่อที่มีพื้นเพจากกองทัพองครักษ์ กำลังจะท้ารบขุนนพลเลื่องชื่อที่สร้างผลงานรบไม่แพ้ไว้ที่กองทัพองครักษ์ มีคนไม่น้อยรู้สึกเครียดกังวลจริง ๆ รู้สึกตื่นเต้นก็มี ถึงขั้นเฝ้าคอยศึกนี้ด้วย บางคนก็ยิ่งเลือดร้อน หวังว่าจะได้ใช้ดาบสังหารหนิวโหย่วเต๋อด้วยมือตัวเองที่ำให้นำมอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเปล่งประกายอยู่ในกองทัพองครักษ์ !
สำหรับนามอันยิ่งใหญ่ของหนิวโหย่วเต๋อพวกเขาชื่นชมมานานแล้ว แต่ในบรรดาคนที่อยู่ตรงนี้ยังไม่มีใครเคยประมือกับเขา ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะได้เห็นท่วงท่าอันสง่างามของท่านขุนพลหรือเปล่า!
ตรงจุดซ่อนตัวนี้อยู่ไม่ไกลจากอาณาเขตดาวของดาวอ๋องสวรรค์หนิว พวกฉวี่ฉางเทียนซ่อนตัวอยู่ตรงนี้เพื่อรอฟังคำสั่งบุกโจมตีมาตลอด ทำแบบนี้ก็เพื่อให้ปฏิบัติภารกิจได้ทันเวลาตามคำสั่ง
หลังจากนั้นสักพัก ประตูดวงดาวทางเข้าอาณาเขตดาวของจุดหมายปลายทางก็ปรากฏสู่สายตา ทว่าตรงทางเข้าประตูดวงดาวมีกำลังพลหลายล้านเฝ้าอย่างเข้มงวด จำนวนของกำลังพลไม่ใช้น่อย ๆ
เมื่อเห็นว่ามีคนแปลูกหนาเข้ามาใกล้ กำลังพลที่เฝ้าอยู่ก็แบ่งกลุ่มเล็ก ๆ หนึ่งพันคนเหาะเข้ามาทันที่ก้าวเข้ามาดักไว้ แม่ทัพที่นาหน้ามาตะโกนถาม “เป็นใครกัน ?”
ฉวี่ฉางเทียนไม่สนใจเลย พอโบกมือส่งสัญญาณ แม่ทัพหลายคนที่อยู่ข้างกายก็ปล่อยกำลังพลห้าสิบล้านออกมา
“ฆ่า!” แม่ทัพโบกกระบี่ออกคำสั่ง
กำลังพลห้าสิบล้านตะโกนเสียงดัง ชั่วพริบตานั้นกำลังพลหนึ่งพันก็เหมือนถูกกระแสน้าไหลท่วมจนมิด
หลังจากกระแสน้าพัดผ่านไปแล้ว ในดาราจักรก็ทิ้งเศษซากเอาไว้เปลือก
“ข้าศึกบุก!” ทหารยามตรงประตูดวงดาวตะโกนบอกอย่างโมโหทางฝั่งนี้รีบรับมืออย่างเร่งด่วน เมื่อเห็นว่ามีกำลังพลมากขึ้นาดนี้พุ่งเข้ามาก็ตกใจแทบแย่แล้ว
“ยิงธนู!”
ชั่วพริบตาที่สองทัพปะทะกัน แม่ทัพใหญ่ฉวี่ก็ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ในมือกำลังพลกองทัพองครักษ์สิบล้านที่พุ่งมาตรงหน้าสุดกะพริบแสง ตามด้วยเสียงระเบิดดังเปรี้ยงปร้าง ลาแสงนับไม่ถ้วนยิงเข้ามาราวกับห่าฝน
ก่อนที่จะบุกโจมตี ฝั่งนี้คาดคะเนเหตุการณ์และวางแผนรบไม่รู้ตั้งกี่รอบแล้ว กำลังพลมากขึ้นาดนี้บุกโจมตียิงธนูแต่กลับราบรื่นราวกับเมฆเหินน้าไหล
บึ้ม!
เพียงชั่วพริบตานี้ ลาแสงนับไม่ถ้วนถล่มกองทัพหลายล้านตรงประตูดวงดาวแตกแล้ว
ทัพใหญ่ที่บุกโจมตีพุ่งเข้ามาในทัพที่กระจัดกระจายด้วยกระบวนทัพรูปลิ่ม ราวกับกระแสน้าที่ชะล้าง ทุกอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด และไม่พัวพันใด ๆ ด้วย บุกเข้าไปในประตูดวงดาวโดยตรง ไม่สนด้วยว่ากองทัพที่โดนถล่มจนวุ่นวายเมื่อครูนี้จะมีสภาพเป็นอย่างไร ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองด้วย ฝ่าด่านพุ่งเข้าไปเลย
ทัพใหญ่ที่บุกโจมตีเก็บงานแล้วเข้ามา โผล่มากะทันหันและหายเข้าไปในประตูดวงดาวอย่างกะทันหันแล้ว กองทัพที่วุ่นวายและบาดเจ็บล้มตายไปหลายแสนนอกประตูดวงดาวงงนิดหน่อย ทหารรีบหยิบระฆังดาราออกมารายงานด่วน
ส่วนฉวี่ฉางเทียนที่นาทัพบุกเข้าประตูดวงดาวมาก็รีบหันรอบ ๆ เพื่อสำรวจสถานการณ์ในดาราจักร พอเห็นว่าข้างในไม่มีการเตรียมป้องกันใด ๆ ในใจก็ดีใจมาก ดูท่าแล้ว ฝั่งนี้คงไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยจริง ๆ
แต่เขาก็ร้อย่างชัดเจน ว่าความเคลื่อนไหวอย่างนี้ปิดบังหนิวโหย่วเต๋อไม่ได้ ต่อให้เมื่อครูนี้จะล้างเลือดทหารยามข้างนอกจนสะอาดเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีประโยชน์ ยังคงมีข่าวหลุดออกไปได้เหมือนเดิม กำลังพลหลายล้านไม่ใช้กำลังพลหลายแสน ต่อให้เขาใช้ทัพใหญ่หลายร้อยล้านออกมาโจมตีทั้งหมด แต่ก็ไม่มีทางจะกำจัดทิ้งทั้งหมดได้
เมื่อตัดสินแล้วว่าตรงนี้ยังไม่มีภัยคุกคาม ฉวี่ฉางเทียนก็โบกมือชี้ทันที่”ปี่จัว เจ้านากำลังพลไปปิดทางออกประตูดวงดาวเดียวนี้อย่าปล่อยให้ใครหนี้ไปได้ ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาเรื่องเจ้า!”
“ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง!” แม่ทัพใหญ่ปี่จัวกุมหมัดเอ่ยรับคำสั่ง จากนั้นโบกมือนาแม่ทพอีกหลายสิบเหาะออกจากกลุ่มไป
ส่วนฉวี่ฉางเทียนก็นากำลังพลุ่มงหน้าไปยังจุดบุกโจมตีต่อขณะเดียวกันก็หยิบระฆังดาราขึ้นมารายงานสถานการณ์ต่อเบื้องบน
เขารู้ว่าเบื้องบนกำลังรอข่าวการบุกโจมตีจากฝั่งเขาอยู่ เพื่อที่จะบัญชาการการบุกโจมตีขั้นต่อไป
วังสวรรค์ ตาหนักดาราจักร เมื่อได้รับรายงานจากฉวี่ฉางเทียนที่ร่วมบัญชีาการและลงสนามรบด้วยตัวเอง อู๋ฉวี่ก็การะฆังดาราไว้ แล้วกุมหมัดคารวะ “ฝ่าบาท ฉวี่ฉางเทียนนากำลังพลบุกโจมตีฝ่าเข้ารังของข้าศึกได้อย่างราบรื่น ในนนยังไม่พบการเตรียมป้องกันใด ๆ!”
“ดี่” ประมุขชิงตบโต๊ะลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปเดินมาอย่างตื่นเต้น เขาชี้ซือหม่ำเวิ่นเทียน “ลองถามดูว่าสถานการณ์ในจวนอ๋องสวรรค์หนิวเป็นยังไงบาง!”
ซือหม่ำเวิ่นเทียนที่ได้ยินรายงานจากอู๋ฉวี่แล้วพี่ติดต่อตามคำสั่ง หลังจากได้คำตอบแล้วก็กุมหมัดคารวะ “ฝ่าบาท หนิวโหย่วเต๋อยังอยู่ในจวนท่านอ๋อง อวิ๋นจือชิวเพิ่งจะเรียกรวมกลุ่มอนุภรรยามาสั่งสอน เมื่อคืนี้นสายลับยังเห็นหนิวโหย่วเต๋อเอ้อระเหยลอยชายอยู่ในจวนท่านอ๋อง เหมือนคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์บุกโจมตี”
“ดี่” ประมุขชิงทาสีหน้าตื่นเต้นบนดุร้าย ชี้อู๋ฉวี่พร้อมบอกว่า “ให้ฉวี่ฉางเทียนมุ่งตรงสู่เป้าหมาย พยายามดักหนิวโหย่วเต๋อเอาไว้ พยายามอย่าให้เขาหนี้ไป ต่อให้สกัดไม่ได้แต่ก็ต้องโจมตีกำลังพลเดิมของเขาให้ย่อยยับ!”
“รับทราบ!” อู๋ฉวี่พยักหน้าเอ่ยรับ เข้าใจเจตนาของเขาแล้ว
ทางนั้นคือรังของหนิวโหย่วเต๋อถ้าหนิวโหย่วเต๋อหนี้ไปทันที่เกรงว่าจะจับตัวหนิวโหย่วเต๋อได้ยากแล้ว แต่ถ้าหนิวโหย่วเต๋อจะหนี ก็ต้องส่งกำลังพลมาโจมตีสกัดข้าศึกที่ไล่ตามแน่นอน ไม่มีทางให้โอกาสข้าศึกไล่กัดไม่ปล่อย เช่นั้นนก็มโอกาสโจมตีกำลังพลเดิมของหนิวโหย่วเต๋อให้ย่อยยับแล้ว ขอเพียงกำจัดกำลังพลของหนิวโหย่วเต๋อได้ ต่อให้หนิวโหย่วเต๋อหนี้ไปอาณาเขตดาวนิรนาม ขอเพียงฝั่งนี้ปิดล้อมทางออกไว้ ก็สามารถรับมือกับกำลังพลของหนิวโหย่วเต๋อที่อยู่ด้านนอกกกได้เต็มที่ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวหนิวโหย่วเต๋อรบแพ้ก็จะแพร่ออกไป้จะต้องทำให้ขวัญกำลังใจทหารสั่นคลอนแน่นอน เป็นประโยชน์ต่อทัพใหญ่ในการกวาดล้างทัพใต้ยิ่งขึ้น หลังจากนี้ต่อให้หนิวโหย่วเต๋อโชคดีรอดชีวิตไปได้ แต่ก็ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะกลับตัวแล้ว
ประมุขชิงกาชับอกว่า “ทางฮวาอี้เทียน ให้เริ่มได้แล้ว!”
อู๋ฉวี่เอ่ยรับคำสั่ง แล้วรีบถ่ายทอดคำสั่งลงไป
ประมุขชิงชี้ไปที่ซ่างกวนชิงอีก “แจ้งไปทางกำลังพลของพี่ใหญ่พุทธะ ให้ออกมาเสริมอานุภาพได้แล้ว ต้องให้พวกเขาควบคุมสถานการณ์ให้ได้!”
“ขอรับ!” ซ่างกวนชิงเอ่ยรับ แล้วหยิบระฆังดาราออกมาติดต่อ
ในจวนอ๋องสวรรค์หนิว เหมียวอี้นั่งอยู่ในศาลา ชิงเยว่ถลันตัวเข้ามา เหาะขึ้นตึกไปโดยตรง แล้วกุมหมัดรายงานด่วนว่า “ท่านอ๋องเป็นอย่างที่คาดไว้อีกฝ่ายลงมือแล้ว”
เหมียวอี้แสยะยิ้ม ถามว่า “มากันเท่าไหร่ ?”
” หลังจากกำลังพลประมาณห้าสิบล้านบุกฝ่าด่านเข้ามาก็มุ่งุตรงมาทางนี้” ชิงเยว่ตอบ
เหมียวอี้กล่าวเสียงเรียบว่า “กองทัพองครักษ์ไม่มีทางยอมแพ้อย่าเปลืองความพยายาม ไม่เอาทหารที่ยอมแพ้อย่าเก็บไว้แม้แต่คนเดียว รีบฆ่าให้หมด ข้าจะสังหารให้พวกเขาขวัญผวา! ชิงเยว่ ศึกนี้สำคัญยิ่ง ต้องทำลายขวัญกำลังใจทหารของประมุขชิงภายในศึกเดียว ต้องทำให้อำนาจฝ่ายอื่นเห็นด้วยว่าประมุขชิงมันก็เท่านี้เอง ถึงจะทำให้พวกเขามีความมั่นใจในการลงมือไปด้วย เข้าใจใช้มั้ย ?”
” ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!” หญิงแกร่งกุมหมัดคารวะอย่างองอาจห้าวหาญ
เหมียวอี้ปัดมือ”ไปเถอะ!”
ชิงเยว่ถลันตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
“บอกเฉิงไที่เจ๋อให้พวกเขามาร่วมมือกัยทำภารกิจสำคัญกับข้าที่นี่!” เหมียวอี้ยืนขึ้น เดินมาเอามือไขว้หลังพิงระเบี่ยง เปี่ยมด้วยพลังอันน่าเกรงขาม พลังแบบที่จะทาศึกตัดสินกับราชันแห่งใต้หล้า เขากวาดมองตึกรามบ้านช่องในจวนท่านอ๋องด้วยสีหน้าเรียบเฉย พลางกล่าวอย่างเยัอกเย็น “ตอนนี้จับตาดูสายลับทุกคนในจวนท่านอ๋องไว้ให้ดี จับตาดูให้ข้า อยากจะเห็นนักใช้มั้ยว่าข้ามีปฏิกิริยายังไง ได้ ข้า
จะให้พวกเขาได้เห็น! ข้าอยากจะเหน็จริง ๆ ว่าถ้าประมุขชิงรู้ว่าเฉิงไที่เจ๋อใครอยู่ข้างหลังฆ่าแล้วจะทาสีหน้ายังไ!”
“เกรงว่าคงนึกเสียใจทีหลังไม่หาย แต่ขี่หลังเสือแล้วก็คงยาก ทำได้เพียงประสาทเสีย อาจจะเจรจาสงบศึก” หยางชิ่งกล่าวอยู่ข้าง ๆ
“เจรจาสงบศึก ? ก็ได้ ขอเพียงเขาประกาศต่อใต้หล้า ประกาศยอมรับผิดต่อข้าให้คนรู้ทั้งใต้หล้ ข้าก็ยินดีเปลื่ยนอาวุธสงครามให้เป็นหยกแพรไหม!” เหมียวอี้เอ่ยเสียงเรียบ
ไม่เห็นเขาดูมีความมั่นใจเกินไป หยางชิ่งก็กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านอ๋อง พลังรบของกองทัพองครักษ์ไม่ธรรมดา ทุกคนล้วนมีธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ ประมาทศัตรูไม่ได้”
เหมียวอี้เอียงหนามิองเขาแวบหนึ่ง “เจ้าคิดว่าตอนแรกข้าตัดสินใจลงมือเพราะอะไรล่ะ ? ถ้าไม่มีความมั่นใจข้าจะกล้าบุ่มบ่ามลงมือได้ไง ? ประมุขชิงมีธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ แล้วข้าไม่มีเหรอ ? ถ้าข้าบอกว่าฉวี่ฉางเทียนจะต้องแพ้แน่นอน เจ้าเชื่อหรือเปล่าล่ะ ?”
หยางชิ่งขมวดคิ้ว คิดในใจว่าต่อให้เอาธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ทั้งทัพใต้มาร่วมกัน ก็อาจไม่เยอะเท่าฉวี่ฉางเทียนก็ได้ เขาไม่รู้ว่าเหมียวอี้ความมั่นใจมาจากไหน ถึงพูดเรื่องธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์อย่างนี้
“ให้เฮยทั่นมาพบข้า” เหมียวอี้กล่าวอย่างไม่แยแส
“ขอรับ!” หยางเจาชิงเอ่ยรับ
ในจวนท่านอ๋องตอนนี้ มีกำลังพลจำนวนมากปรากฏตัวออกมาเตรียมพร้อมป้องกันแล้ว ทุกที่ล้วนมีทหารสวมเราะรบลาดตระเวน ป้องกันไม่ให้มีคนฉวยโอกาสก่อกวน
ผ่านไปเพียงครูเดียว เฮยทั่นเดินก้าวยาวเข้ามากุมหมัดคารวะอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านอ๋อง ในจวนท่านอ๋องมีความเคลื่อนไหวไม่ใช้น่อย เริ่มต่อสู้กันแล้วหรือเปล่า ? ถึงคร่าวที่จะให้กำลังพลของขาลงสนามได้หรือยัง ?”
กำลังพลของเจ้า ? หยางชิ่งสงสัย ไม่รู้ว่าเขาเอากำลังพลมาจากไหน ให้คนประเภทนี้บัญชาการกองทัพ ไม่ใช้เรื่องล้อเล่นหรอก หรือ ?
เหมียวอี้หันตัวไปมองเขา “กำลังพลของเจ้าฝึกไปถึงไหนแล้วล่ะ ?”
เฮยทั่นตบนหน้าอกเสียงตุ้บ ๆ “ไม่มีปัญหา! ขอเพียงให้ขาลงสนาม ข้าคุณชายเฮยก็จะสังหารพวกเขาให้คนล้มมาพลิกเลย”
“กองทัพองครักษ์ห้าร้อยล้าน เจ้าแน่ใจน่ะว่าเจ้าจะนำกำลังพลหนึ่งแสนไปสังหารพวกเขาจนคนล้มมาพลิกได้ ?” เหมียวอี้พูดแขวะ
“เอ่อ…” เฮยทั่นรู้สึกเหมือนถูกบีบคอกองทัพองครักษ์ห้าร้อยล้านเหรอ ? คิดดูแล้วก็ตัวสั่น ยิ้มแห้งตอบว่า “แน่นอนว่าต้องให้กำลังพลของท่านอ๋องให้ความร่วมมือ…” เมื่อเห็นเหมียวอี้ทาสีหน้าแปลก ๆ ก็พูดเสริมด้วยน้ำเสียงอ่อนปวกเปียกว่า “พวกเราให้ความร่วมมือกับกำลังพลของท่านอ๋อง”
หยางเจาชิงที่อยู่ข้าง ๆ เตือนว่า “พี่เฮย ไม่มีกำลังพลของเจ้าหรอก ทั้งหมดเป็นกำลังพลของท่านอ๋อง เข้าใจใช้ไหม ?”
” เอ่อ…” เฮยทั่นรู้ตัวทันที่รู้ว่าตัวเองพูดผิดไปแล้ว จึงตบปากตัวเองหลายที่แล้วพยักหน้าซ้ำ ๆ “ใช้ ๆ ๆ ๆ ล้วนี้เป็นกำลังพลของท่านอ๋อง ทั้งหมดเป็นกำลังพลของท่านอ๋อง”
หยางชิ่งประหลาดใจสงสัยยิ่งกว่าเดิม ทัพใหญ่ขนาดนี้สู้รบกัน กำลังพล หนึ่งแสนนับเป็นก้นอะไร พอเข้าสนามรบแล้วก็อาจจะโผล่ออกมาไม่ได้แม้แต่ฟองด้วยซ้ำ แต่ทำไม่ทานอ๋องทาท่าเหมือนให้ความำคัญมาก อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ท่านอ๋อง กำลังพลหนึ่งแสนี้นคือ ?”
เหมียวอี้ยิ้มเรียบ ๆ “หลายปีมานี้ข้าทาธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์หนึ่งแสนคันที่สามารถใช้ไข่มุกวิญญาณจากวิญญาณชั่วร้ายมาเป็นพลังงานได้ ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การรบ ก็อาจแสดงประโยชน์ได้ไม่มาก แต่ถ้าสามารถทำให้สถานการณ์รบมั่นคงได้ ธนูหนึ่งแสนัคนนี้ก็แสดงอานุภาพได้ไม่น้อย!”
หยางชิ่งตกใจ เขาย่อมรู้ว่าเมื่อใช้ปราณชั่วร้ายที่ระเบิดออกจากไข่มุกวิญญาณมาเสริมฤทธิ์ในธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ จะทำให้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์มีอานุภาพเพิ่มขึ้นขนาดไหน แต่ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ที่ระดับต่ำสุดล้วนี้เป็นของวิเศษขั้นห้า ที่แดนมรณะดึกดำบรรพ์มีการกวาดล้างเป็นระยะ ไข่มุกวิญญาณของวิญญาณชั่วร้ายระดับต่ำพวกนี้ ต้องใช้เท่าไรถึงจะเติมีพลังงานให้ธนูคันหนึ่งใช้งานได้ ? หนึ่งแสนคัน
เชียวเชียวนะ นั่นต้องใช้ไข่มุกวิญญาณมากขึ้นาดไหนักน ? ถ้ารวบรวมปริมาณได้ง่ายขนาดนั้น เกรงว่าตาหนักสวรรค์ก็ทาไปนานแล้ว
พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

เหมียวอี้ เด็กหนุ่มธรรมดาแต่มีโชคชะตาที่ไม่ธรรมดา!

เขาคือเด็กกำพร้าที่ถูกเพื่อนบ้านตราหน้าว่าเป็น ‘ตัวหายนะ’

เพราะพ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงเขาล้วนมีจุดจบอยู่ในกองเพลิงทั้งสิ้น

เขาจึงต้องเติบโตมากับน้องๆ ต่างสายเลือดอีกสองคนตามลำพัง

ไร้เงิน ไร้อำนาจ ไร้ความสามารถ ซ้ำยังเป็นตัวซวย โลกนี้มันช่างอยู่ยากเสียจริง!

หนทางที่จะลบคำครหาของชาวบ้านและก้าวพ้นชีวิตที่ยากไร้ไปได้ก็คือการสำเร็จเป็นเซียน

แม้ความปรารถนาจะอยู่สูงเกินเอื้อม แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น

ถึงจะลำบากและอันตรายเพียงใด

ก็ขอทะยานไปให้สุดขอบฟ้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท