พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า – บทที่ 2173 ฆ่าเขาซะ!

บทที่ 2173 ฆ่าเขาซะ!
เขาเองก็คิดไม่ตกว่าทำไมเหมียวอี้ต้องเปิดเผยเรื่องนี้ให้เขารู้ จึงถามด้วยสีหน้าเยียบเย็นว่า “น้องชายอยากจะใช้วิธีการสุดแผนที่ปรากฏมีดสั้น [1] เหรอ ?”
เหมียวอี้โบกมือ”ท่านอ๋องเฉิงเข้าใจผิดแล้ว ที่พูดสิ่งเหล่านี้ก็เพราะอยากบอกท่านอ๋องเฉิง การที่ข้าทาอย่างนี้ก็เพราะถูกบีบให้จนตรอกเหมือนกัน ไม่ใช้แค่กำลังพลดักซุ่มที่แดนมรณะดึกดำบรรพ์เท่านั้น เรื่องที่ประมุขชิงแอบสั่งให้องค์รักษ์ลอบสังหารข้าก็เป็นเรื่องจริงเหมือนกัน ก็แค่อยากให้ท่านอ๋องเฉิงรู้เอาไว้เท่านั้น ประมุขชิงจะเล่นงานข้าให้ถึงตายให้ได้ ในเมือเปืนเช่นนี้ แล้วข้าจะนั่งรอความตายได้ยังไง!”
เฉิงไที่เจ๋อบอกว่า “แล้วเกี่ยวอะไรกับที่เจ้าบีบให้ข้ามาที่นี่ ? เจ้าคงไม่ได้คิดว่าอาศัยกำลังพลอนั้นอยนิดของข้าแล้วจะแตกหักกับประมุขชิงได้หรอกนะ ?”
” ทัพใหญ่แดนรัตติกาลก็เป็นคนของข้าเหมือนกัน!” เหมียวอี้กล่าว
“ที่เจ้าปราบทัพกบฏเป็นแค่การแสดงละครเหรอ ?” เฉิงไที่เจ๋อระแวงสงสัย
เหมียวอี้ยิ้มโดยไม่ตอบอะไร นับว่ายอมรับแล้ว
เฉิงไที่เจ๋อจึงบอกว่า “แล้วยังไงล่ะ ? ต่อให้ทัพกบฏจะเก่งกาจแค่ไหน แต่ก็เป็นแค่กำลังพลสิบล้าน เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติจะมาแต่กหักกับประมุขชิง แล้วทำไมต้องวางกับดักข้า ?”
เหมียวอี้ตอบว่า “อย่าบอกน่ะว่าจนป่านี้นแล้ว ท่านอ๋องเฉิงยังไม่รู้ชัดอกว่าตระกูลเซี่ยโห้วกำลังสนับสนุนใคร ?”
เฉิงไที่เจ๋อจ้องเขาเงียบ ๆ หลังจากเงียบไปนานมาก ก็กล่าวช้า ๆ ว่า “ภายใต้สถานการณ์ที่กำลังของประมุขชิงยังนับว่ามีเสถียรภาพ ต่อให้ตระกูลเซี่ยโห้วสนับสนุนเจ้า แต่เจ้าก็ไม่ได้เปรียบมากสักเท่าไหร่หรอก อย่างน้อยก็ไม่มีศักยภาพที่จะปะทะกันซึ่ง ๆ หน้า”
“ไม่แน่! ถ้าประมุขชิงยังไม่ทำอะไรซี้ซั้ว ข้าก็อาจจะทำอะไรเขาไม่ได้จริง ๆ แต่ถ้าเขาดึงดันจะแตกหักกับข้าให้ได้อำนาจจะตกอยู่ในมือใครก็ยังไม่แน่ เจ้าคิดว่าประมุขชิงเลิกสนับสนุนเจ้า เช่นั้นนกองทัพองครักษ์ห้าร้อยล้านจะเอามาไว้ทำอะไรล่ะ ? มีความเป็นไปได้สูงว่าจะพุ่งเป้ามาที่ข้า…” เหมียวอี้บอกแผ่นการโจมตีของประมุขชิงเหมือนที่คุยกับหยางชิ่งก่อนหน้านี้ให้เขาฟัง
เฉิงไที่เจ๋อได้ยินแล้วอกสั่นขวัญแขวน ตอนที่ยังมองไม่ออกก็ไม่รู้ แต่หลังจากถูกเปิดเผยแล้ว ถึงได้พบว่ามีความเป็นไปได้จริง ๆ
เมื่อเห็นเขาตกอยู่ในอาการครุ่นคิด ก็รออยู่ครูหนึ่ง เหมียวอี้บอกอกว่า “ถ้ากำลังพลหนึ่งพันห้าร้อยล้านของท่านอ๋องเฉิงกำจัดกองทัพองครักษ์สามร้อยล้านของฮวาอี้เทียนได้ แล้วข้าใช้กำลังพลอีกสองพันล้านกำจัดกองทัพองครักษ์ห้าร้อยล้านที่จู่โจมอีก ท่านอ๋องเฉิง
รู้สึกว่าจะเกิดสถานการณ์อย่างไรขึ้น ? หลังจากทาเรื่องนี้เสร็จกองทัพองครักษ์สี่ร้อยล้านที่กดดันอยู่ในอาณาเขตข้าก็จะกระจัดกระจายและกาจัดง่าย ๆ! ถึงตอนั้นนประมุขชิงก็สูญเสียกำลังไปเกินครั้ง เจ้าคิดว่าฝ่ายอื่นจะพลาดโอกาสในการโค่นล้มประมุขชิงเหรอ ?”
เฉิงไที่เจ๋อตาเป็นประกาย “เจ้าอย่าลืมฝั่งแดนสุขาวดีนะ ประมุขพุทธะไม่มีทางนิ่งดูดาย!”
เหมียวอี้บอกเขาว่า “ในเมือข้ากล้าประลองกับประมุขชิง มีหรือที่จะมองไม่เหน็จุดนี้ ข้าวางแผนสำหรับสิ่งนี้ไว้นานแล้ว ถึงตอนั้นนข้ารับรองว่าประมุขพุทธะจะต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน! ตอนนี้ถามแค่คาเดียว ท่านอ๋องเฉิงยินดีจะช่วยข้าอีกแรงหรือไม่ ?”
เฉิงไที่เจ๋อเอามือลูบเคราครุ่นคิด ในใจเขาเข้าใจ ว่าในเมืออีกฝ่ายกล้าเปิดเผยแผนี้นออกมาก็แสดงว่าเขาไม่มีทางถอยแล้ว ถ้าเขาไม่ตอบตกลง ก็ไม่มีทางรอดชีวิตออกไปได้ สาเหตุก็ไม่ได้ซับซ้อน กำลังพลในมือเขาตอนนี้กลายเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้อีกฝ่ายได้รับชัยชนะแล้ว ถ้าเขาไม่ตอบตกลง ก็มีความเป็นไปได้เก้าในสิบว่าอีกฝ่ายจะแพ้ ในเมือเปืนเช่นนี้แล้ว อีกฝ่ายยังจำเป็นต้องเกรงใจเจ้าอยู่อีกเหรอ ? ศักยภาพของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าเถิงเฟยตั้งเยอะ!
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ว่าตั้งแต่ตัวเองเหยียบเข้ามาในอาณาเขตทัพใต้ ก็ไม่มีทางให้ถอยกลับแล้ว อีกฝ่ายต้องการบีบเจ้าทีละก้าวให้จนมุม บีบจนเจ้าทำได้เพียงยอมจานน เพียงแต่ตอนนี้กว่าจะรู้ตัวก็
สายเกินไปแล้ว อดไม่ได้ที่จะถามด้วยรอยยิ้มืเจื่อน “แล้วข้าจะได้ประโยชน์อะไร ?”
” อ๋องผู้นี้มีปณิธานต่อใต้หล้า!” เหมียวอี้กล่าวเสียงเรียบ
นี่ก็คือคำต่อบที่ให้กับอีกฝ่าย! นี่ก็คือผลประโยชน์ที่ให้กับอีกฝ่าย!
เฉิงไที่เจ๋อสั่นสะท้านไปทั้งตัวและหัวใจ พลันเงย่อหน้ามองเขา เมื่อครูนี้ยังนึกเพียงว่าเหมียวอี้ต้องสู้กับประมุขชิงเพื่อปกป้องตัวเองด้ท่าแล้ว ตัวเองคงประเมินจิตใจอันทะเยอทะยานของเจ้าเด็กนี่ต่าไป ไม่น่าเชื่อว่าอีกฝ่ายจะต้องการทั้งใต้หล้า ! หรือพูดได้อีกอย่างว่า เมื่อประมุขชิงล้มเมื่อไหร่ การที่เถิงเฟยจะแย่งชิงอาณาเขตทัพตะวันออกอีก็กกลายเป็นเรื่องนาขาแล้ว หนิวโหย่วเต๋อยังต้องการจะลงมือกับอ๋องคนอื่นอีก!
เหมียวอี้เหล่ตามองปฏิกิริยาของเขา
เฉิงไที่เจ๋อขยับปาก อึกอักอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็กุมหมัดคารวะ “เฉิงไที่เจ๋อยินดีช่วยท่านอ๋องอีกแรง!”
เหมียวอี้หันตัวมาหาเขา แล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “พูดแต่ปากไม่ได้หรอก ต้องแสดงความจริงใจออกมา!”
เฉิงไที่เจ๋อจึงบอกว่า “ข้ายินดีเอาตัวเองกับครอบครัวเป็นตัวประกันทานอ๋องพอใจหรือยัง ?”
” ดีหลังจากจบเรื่องแล้ว จะไม่ปฏิบัติต่อท่านอ๋องเฉิงอย่างไร้ความยุติธรรมแน่นอน!” เหมียวอี้พยักหน้าอย่างยินดี แล้วยื่นฝ่ามือข้างหนึ่งออกมา
เฉิงไที่เจ๋อยกมือขึ้น แปะฝ่ามือกันร่วมเป็นพันธมิตร
“ฮ่า ๆ…” จากนั้นทั้งสองก็สบตากันแล้วหัวเราะลั่น
ตรงจุดที่ไม่ไกล กำลังพลของเฉิงไที่เจ๋อเห็นว่าทั้งสองแปะมือกัน แล้วก็มีท่าทางดีใจมาก ก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่รู้ว่ามเรื่องอะไรทำให้ท่านอ๋องดีใจขนาดนี้ ทุกคนต่างดูออก เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องดี ทำให้พวกเขาสงบใจลงไม่น้อย!
จากนั้นเหมียวอี้ก็ปรึกษากับเฉิงไที่เจ๋ออีก ให้เฉิงไที่เจ๋อหลบอยู่ที่นี่ชั่วคราวแล้วรอฟังคำสั่งเพื่อบัญชาการกำลังพลของตัวเอง เหมียวอี้จะส่งทัพตรวจตรามาจับตาดูรอจนศึกใหญ่เริ่มต้นขึ้นแล้วจริง ๆ เป็ิดเผยแล้วว่าทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน เฉิงไที่เจ๋อก็จะปรากฏตัวข้างกายเหมียวอี้อย่างเปิดเผยอีกครั้ง ตอนนี้ยังต้องรักษาความลับก่อน จะให้ประมุขชิงสังเกตเห็นไม่ได้
ขณะมองคล้อยหลังเหมียวอี้จะไป เฉิงไที่เจ๋อก็พ่นลมหายใจออกมาช้า ๆ พอนึกถึงหมากที่ฝ่ายวางไว้ก่อนหน้านี้ ก็ยังตกใจไม่หาย พึมพาอย่างสะท้อนใจมากกว่า “ฮ่าวเต๋อฟางแพ้อย่างยุติธรรมแล้ว…”
จากนั้นก็รีบเรียกให้คนที่อยู่ทางซ้ายทางขวาหาที่พัก จัดตั้งศูนย์บัญชาการเริ่มระดมพลเพื่อวางกำลังตามแผนของเหมียวอี้อย่าง
เร่งด่วน เหมียวอี้กำหนดเวลาให้กำลังพลของเขาเข้าประจำที่ยามถึงเวลาจำเป็นแล้ว นี่คือกลยทธุ์ตรงหน้าเขาที่ต้องปฏิบัติโดยเร็วที่สุด…
หลายวันผ่านไป ไม่เห็นว่าเรื่องที่คาดการณ์ไว้เกิดขึ้นเสียที่
จวนอ๋องสวรรค์หนิว เหมียวอี้เดินไปเดินมาอยู่ในตาหนัก แล้วถาม “หรือว่าพวกเราจะคาดการณ์ผิดพลาด ประมุขชิงไม่ได้เตรียมจะโจมตีข้าเลย ?”
หยางชิ่งขมวดคิ้วครุ่นคิด
หยางเจาชิงบอกว่า “ถ้าไม่คาดการณ์ผิดพลาด ก็แสดงว่าการหายตัวไปของเฉิงไที่เจ๋อทำให้ประมุขชิงตื่นตัว กำลังพลหลายพันล้านหายไปกับเฉิงไที่เจ๋ออย่างประหลาด เกรงว่าจะไม่ให้ระแวงก็คงยาก”
เหมียวอี้พยักหน้า มองไปที่หยางชิ่ง “ท่านบุรุษคิดว่ายังไง ?”
หยางชิ่งกล่าวอย่างไม่แน่ใจ “อาจจะสันนิษฐานผิดพลาด แต่ดูจากเบาะแสต่าง ๆ ข้าน้อยยังเชื่อว่าประมุขชิงมีโอกาสลงมือมากกว่า ลองคิดไปในทิศทางนี้อักษรกำลังพลผ่านด่านอย่างไม่ค่อยราบรื่น ยังไม่ถึงจุดโจมตีที่กำหนดไว้ หรือไม่ก็มีความเป็นไปได้อย่างที่พ่อบ้านบอก ทำให้ประมุขชิงตื่นตัวแล้ว ประมุขชิงกำลังดูอยู่ ไม่กล้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า!”
เหมียวอี้กอดอกคิดทบทวน
หยางชิ่งบอกอกว่า “สามารถให้ทัพใหญ่แดนรัตติกาลร่วมมือสักหน่อย ให้ทัพใหญ่ที่ล้อมปราบเร่งความเร็ว สร้างเบาะแสว่าทัพกบฏกำลังจะถูกปราบอย่างรวดเร็ว กดดันประมุขชิง หยั่งเชิงสักหน่อย!”
“อืม!” เหมียวอี้พยักหน้า “ถ่ายทอดคำสั่งลงไป จัดการตามนี้!”
วังสวรรค์ ตาหนักดาราจักร ประมุขชิงเอนกายพิงเก้าอี้ ดวงตาฉายแววจดจ่อ
อู๋ฉวี่เดินก้าวยาวเข้ามาจากนอกตาหนัก หลังจากทาความเคารพแล้วก็ขอคำชี้แนะ “ฝ่าบาท กำลังไปถึงจุดหมายแล้ว รออยู่หลายวันแล้ว ไม่ทราบว่าจะให้บุกโจมตีเมื่อไหร่ ?”
ประมุขชิงกล่าวช้า ๆ ว่า “เฉิงไที่เจ๋อพากำลังพลหายไปเยอะขนาดนั้น มีอะไรในกอไผ่แน่นอน”
อู๋ฉวี่กุมหมัดคารวะ “ฝ่าบาท ทัพใต้โจมตีทัพกบฏโหดีกว่าเดิม ทัพกบฏคงทนได้อีกไม่นานแล้ว ถ้าทัพกบฏถูกปราบ หนิวโหย่วเต๋อไม่มีอะไรมาพัวพันแล้ว กำลังพลในมือก็จะว่างงานหมดแล้ว การตายของพี่น้องเบื้องล่างจะเพิ่มขึ้นมาก ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นมากด้วย! ฝ่าบาท ถ้าจะโจมตีก็ทาแต่เนิ่น ๆ ถ้าไม่โจมตีก็หยุด!”
ประมุขชิงปรายตามองซือหม่ำเวิ่นเทียน “ฝั่งหนิวโหย่วเต๋อมีความเคลื่อนไหวผิดปกติอะไรหรือเปล่า ?”
” ตอนนี้ยังไม่มีขอรับ!” ซือหม่ำเวิ่นเทียนตอบ
“ในบรรดาอนุภรรยาของหนิวโหย่วเต๋อมีคนของหน่วยตรวจการซ้ายแล้วใช้ไหม ?” ประมุขชิงถาม
ซือหม่ำเวิ่นเทียนมองซ้ายมองขวา ประมุขชิงถามออกมาตรงนี้เลย เขาเองก็ทำได้เพียงตอบกลับัตรงนี้ “มีสามคนขอรับ แต่ไม่เคยได้เข้าห้องกับหนิวโหย่วเต๋อเลย ไม่มีแม้แต่โอกาสพบหน้าหนิวโหย่วเต๋อ”
ประมุขชิงถามว่า “เจ้ากำลังจะบอกว่า หนิวโหย่วเต๋อรู้ตัวตนของพวกนางแล้วสินะ ?”
พอเกิดเรื่องของเฟยหงขึ้น ซือหม่ำเวิ่นเทียนก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร ได้แต่กล่าวอย่างไม่มี่นใจว่า “ตามหลักแล้วน่าจะยังขอรับ แต่หนิวโหย่วเต๋อก็ไม่ได้ตั้งใจเย็นชากับพวกนาง แต่คลุกคลีกับอนุภรรยาส่วนใหญ่น้อยมาก ส่วนใหญ่ไม่เคยุคยกับหนิวโหย่วเต๋อด้วยซ้ำ” เขากำลังจะสื่อว่า ไม่ใช้เพราะหน่วยตรวจการซ้ายไร้ความสามารถ
ประมุขชิงยกมือนวดหน้าผาก “ให้พวกนางหาทางเข้าใกล้หนิวโหย่วเต๋อฆ่าเขาซะ!”
ซ่างกวนชิงกับอู๋ฉวี่มองไปที่ประมุขชิงพร้อมกัน ไม่ค่อยเข้าใจนิดหน่อย หนิวโหย่วเต๋อจะลอบสังหารได้ง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร
“…” ซือหม่ำเวิ่นเทียนพูดไม่ออก สุดท้ายก็กล่าวด้วยใบหน้าขื่นขม “ฝ่าบาท เอ่อ…ทาสำเร็จได้ยากมาก ยามปกติพวกนางไม่มีโอกาสเข้าใกล้หนิวโหย่วเต๋อด้วยซ้ำ ถ้าฝืนเข้าใกล้จะต้องทำให้หนิว
โหย่วเต๋อสงสัยแน่นอน ไม่ง่ายเลยกว่าจะแทรกสายลับเข้าไปได้ ถ้าทำให้เกิดความเสียหายเปล่า ๆ ก็อาจจะน่าเสียดายขอรับ”
ประมุขชิงมองตาขวาง “เขาไม่สนใจว่าพวกนางจะใช้วิธีการู้อะไร เอาเป็นว่าให้เข้าใกล้หนิวโหย่วเต๋อฆ่าเขาซะ ทำให้เร็วที่สุด ภายในสามวันข้าต้องเห็นผลลัพธ์ !”
“เอ่อ…”
“หืม ?”
” ขอรับ!” ซือหม่ำเวิ่นเทียนเอ่ยรับด้วยสีหน้าลำบากใจ
ในอาณาเขตทัพตะวันออก กองหนุนของทัพตะวันตกกับทัพเหนือเริ่มถอนกำลังกลับแล้ว
จวนอ๋องสวรรค์เถิง เถิงเฟยที่ได้อาณาเขตทัพตะวันออกไปแล้วกำลังชื่นชมระบา ดื่มสุราชันดี แต่กลับใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หวังเฟยจูโหยวเหม่ยที่มาหาหลายครั้งถูกเขากันออกไปแล้ว
แม้สุราจะรสชาติดี แม้สาวงามจะเย้ายวนใจ เถิงเฟยที่ถือถังสุรากลับไม่สนุกเลยสักนิด การหายตัวไปของเฉิงไที่เจ๋อกลายเป็นปัญหาใหญ่ในใจเขา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะโผล่ออกมาก่อกวนอีก ยังมีอีกจุดหนึ่ง ทั้งทัพตะวันออกมีกำลังพลที่ใช้งานได้หายไปรวดเดียวหลายพันล้านคน ขาดกำลังพลที่ยอมแพ้เพื่อนามาชดเชย แล้วเขาจะเอากำลังพลมากขึ้นาดนั้นจากไหนมาชดเชย ด้วยเหตุนี้แม้จะได้อาณา
เขตมาแล้ว แต่กำลังกลับไม่ได้เพิ่มขึ้น เฉิงไที่เจ๋อกลับยังรักษากำลังเอาไว้สู้กับเขาได้ แล้วจะไม่กังวลได้อย่างไร…
จวนอ๋องสวรรค์หนิว ในตาหนัก เหมียวอี้เฝ้าครุ่นคิดอยู่หน้าแผนที่ดาว หยางชิ่งก็ขมวดคิ้วเงียบ ๆ อยู่ข้างกัน
ประมุขชิงชักช้าไม่เคลื่อนไหวเสียที่ทำเอาฝั่งนี้กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำให้คนปวดหัวมาก กำลังพลฝั่งนี้มีแต่ต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำเท่านั้น ไม่มีทางเป็นฝ่ายรุกโจมตีประมุขชิงก่อนได้
นอกตาหนัก หยางเจาชิงถือถาดอาหารเดินเข้ามา มาวางตรงหน้าเหมียวอี้ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มเจื่อื่น ๆ “ท่านอ๋อง ข้าน้อยเพิ่งถูกฉางฮูหยินดักไว้ระหว่างทาง ดึงดันจะให้ข้าน้อยนาของว่างนี้มาให้ท่านอ๋องลองชิมให้ได้ บอกว่านางลงมือทาด้วยตัวเอง”
เหมียวอี้ขมวดคิ้ว “เป็นนางอีกแล้วเหรอ ? ไม่รู้จักจบจักสิ้น หรือว่าประมุขชิงอยากจะให้นำงลอบสังหารข้า ?”
หยางเจาชิงตอบว่า “ตรวจสอบของว่างชามนี้แล้ว ให้คนตรวจสอบแล้วเช่นกัน ไม่มียาพิษขอรับ”
หยางชิ่งกลับหันมามอง ถูกดึงดูดด้วยคำพูดก่อนหน้านี้ของเหมียวอี้ ถามว่า “ฉางฮูหยิน ? ฉางเซียงเอ๋อร์หรือ ? นางเป็นคนของวังสวรรค์หรือเปล่า ?”
เหมียวอี้แสยะยิ้ม “ข้ารู้กาพืดนางตั้งนานแล้ว เป็นสายลับของหน่วยตรวจการซ้าย อยากจะเจอข้าตั้งแต่เช้า ข้าเลยให้หวังเฟยไปรับมือนึกไม่ถึงว่าจะมาอีกแล้ว” ขณะที่พูดก็บุ้ยปากไปทางทหาร
…………………………
[1] สุดแผนที่ปรากฏมีดสั้น 图穷匕见 เมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาจนถึงจุดสิ้นสุด ข้อเท็จจริงย่อมปรากฏออกมา
พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

เหมียวอี้ เด็กหนุ่มธรรมดาแต่มีโชคชะตาที่ไม่ธรรมดา!

เขาคือเด็กกำพร้าที่ถูกเพื่อนบ้านตราหน้าว่าเป็น ‘ตัวหายนะ’

เพราะพ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงเขาล้วนมีจุดจบอยู่ในกองเพลิงทั้งสิ้น

เขาจึงต้องเติบโตมากับน้องๆ ต่างสายเลือดอีกสองคนตามลำพัง

ไร้เงิน ไร้อำนาจ ไร้ความสามารถ ซ้ำยังเป็นตัวซวย โลกนี้มันช่างอยู่ยากเสียจริง!

หนทางที่จะลบคำครหาของชาวบ้านและก้าวพ้นชีวิตที่ยากไร้ไปได้ก็คือการสำเร็จเป็นเซียน

แม้ความปรารถนาจะอยู่สูงเกินเอื้อม แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น

ถึงจะลำบากและอันตรายเพียงใด

ก็ขอทะยานไปให้สุดขอบฟ้า!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท