ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 323 ให้เช่าที่ดินอีกครั้ง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 323 ให้เช่าที่ดินอีกครั้ง

บทที่ 323 ให้เช่าที่ดินอีกครั้ง

หลังจากวิ่งวุ่นมาหนึ่งเดือนกว่า เมื่อถึงเดือนเก้า ในที่สุดก็ได้ยินข่าวคราวมาว่ามีคนอยากจะขายที่ดิน

ที่ดินเหล่านั้นมีทั้งที่อยู่ในเมืองหลิวเจีย และบางส่วนที่อยู่นอกเมืองหลิวเจีย แม้จะอยู่นอกเมือง แต่ก็ยังอยู่กับใกล้เมืองหลิวเจีย และที่ดินทั้งหมดก็อยู่ไม่ไกลกันมากนัก

เมื่อกู้เสี่ยวหวานไปดูที่ดิน นางก็รู้สึกพึงพอใจมาก นางลงนามในโฉนดส่วนตัวทั้งหมดในทันที และข่งฟางก็นำโฉนดส่วนตัวนั้นไปที่ที่ว่าการอำเภอ และโฉนดทางการก็ถูกออกในวันถัดไป

กู้เสี่ยวหวานมองดูโฉนดทางการของที่ดินหนึ่งร้อยหมู่ในมือ นางรู้สึกดียินดีเป็นอย่างมาก เมื่อรวมกับที่ดินที่ซื้อไว้ก่อนหน้าอีกห้าสิบหมู่ก็เท่ากับว่าตอนนี้นางมีที่ดินทั้งหมดร้อยห้าสิบหมู่อยู่ในมือแล้ว

กู้เสี่ยวหวานมีความสุขมากและขอให้ข่งฟางไปป่าวประกาศในเมืองหลิวเจียว่านางมีที่ดินเก้าสิบหมู่ให้เช่า

ข่งฟางกล่าวทันทีว่า “สาวน้อยกู้ ที่ดินของเจ้าคงจะต้องมีคนเช่าเยอะแน่นอน ตอนนี้ในเมืองหลิวเจียเจ้าก็เป็นผู้มีคุณธรรมคนหนึ่ง ตราบใดที่ข้ากระจายข่าวนี้ออกไป พรุ่งนี้จะต้องมีคนมาเยือนถึงประตูแน่นอน”

กู้เสี่ยวหวานยิ้มและกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดีเจ้าค่ะ แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ข้าอยากจะขอร้องท่านลุงข่ง”

“เนื่องจากข้าไม่รู้จักคนเหล่านั้นในเมืองหลิวเจีย หากมีคนมาเช่าที่ดินจริง ๆ ข้าจึงไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นเป็นคนดีหรือไม่ดี เป็นคนขยันหรือขี้เกียจ เช่นนั้น ท่านลุงข่ง ข้าอยากจะขอให้ท่านเป็นคนกลาง หากมีคนที่ท่านไว้วางใจต้องการเช่าที่ดิน โปรดพาพวกเขามาที่นี่ด้วยนะเจ้าคะ”

กู้เสี่ยวหวานไม่อยากให้คนที่ไม่มีศีลธรรมหรือคนขี้เกียจมาเช่าที่ดินของนาง มีบางคนที่เห็นว่ากู้เสี่ยวหวานเก็บค่าเช่าที่ถูกและมาเช่าที่ดิน แต่พวกเขาไม่ได้จัดการที่ดินให้ดีหรือไม่ก็จัดการแบบขอไปที ในหนึ่งปีพวกเขาก็ไม่ปลูกอะไร นั่นทำให้ที่ดินของกู้เสี่ยวหวานเสียเปล่าและทำให้คนที่ต้องการเช่าที่ดินจริง ๆ ไม่สามารถเช่าได้ และมีบางคนที่ไม่รักษาสัญญา พวกเขาเก็บเกี่ยวผลผลิตมา แต่กลับไม่จ่ายค่าเช่า คนที่มีนิสัยคดโกงเช่นนี้ต้องมีอยู่แล้วแน่นอน

ข่งฟางเห็นว่ากูเสี่ยวหวานกำลังครุ่นคิดอย่างรอบคอบ เมื่อได้ยินการวิเคราะห์ของกู้เสี่ยวหวาน แม้แต่ฉินเย่จือที่อยู่ด้านข้างยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าสาวน้อยผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ

แม้นางจะอายุยังน้อย แต่ก็เป็นคนช่างคิดและมีวิสัยทัศน์ที่ไม่เหมือนผู้ใด นางแบกรับภาระของครอบครัวด้วยร่างกายที่อ่อนแอของตนเอง ความกล้าหาญเช่นนี้ช่างน่าชื่นชมเสียจริง

ข่งฟางก็ยังชื่นชมกู้เสี่ยวหวานมาจากก้นบึ้งของหัวใจ และเมื่อเขาได้ยินกู้เสี่ยวหวานกล่าวเช่นนั้น จึงตบเข่าฉาดใหญ่อย่างเห็นด้วย “สาวน้อยพูดได้ดี มันควรเป็นเช่นนั้น ตกลง! เรื่องนี้ข้าจะช่วยเจ้าเอง ข้าจะเปิดตาให้กว้างและช่วยเจ้าเลือกคนที่จะมาเช่าที่ดิน หากเจอคนที่ดี ข้าก็จะพามาหาเจ้าที่นี่ เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว

เมื่อข่งฟางกลับไปได้ไม่นาน เขาก็กระจายข่าวที่กู้เสี่ยวหวานต้องการให้เช่าที่ดินออกไป ผู้ที่อยากเช่าแต่เช่าไม่ได้และพวกที่ต้องการเช่าเพิ่มจงรีบมารวมตัวกันที่บ้านของข่งฟางทันที

ข่งฟางอาศัยอยู่ในเมืองหลิวเจียมานานกว่ายี่สิบปี และคุ้นเคยกับคนในเมืองนี้เกือบทั้งหมด สถานการณ์ในครอบครัวไม่ว่าจะดีหรือร้าย เกียจคร้านหรือขยัน ข่งฟางยังเข้าใจอยู่บ้าง หากมีครอบครัวใดที่รู้ไม่ชัดเจนเขาก็จะไปถามให้รู้แจ้ง เช่นนี้ก็เกือบจะรู้ชัดเจนแล้ว ถ้าคนที่เกียจคร้าน ประพฤติไม่ดี หรือคนปากไม่ดีมาเช่าที่ดิน ข่งฟางจะกรองพวกเขาออกทันที

ด้วยวิธีการเช่นนี้ จากครอบครัวที่มามากกว่าสิบครัวเรือน ข่งฟางจึงเลือกครอบครัวที่ซื่อสัตย์ทั้งหมดที่เขารู้จัก และที่ดินกว่าหนึ่งร้อยหมู่ก็เกือบจะให้เช่าหมดแล้ว ดังนั้นจึงนัดเวลากับพวกเขาว่าจะไปที่บ้านของกู้เสี่ยวหวานเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันรุ่งขึ้น

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หลังจากครอบครัวกู้เสี่ยวหวานทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็มีเกวียนสองเล่มจอดอยู่ที่ประตู ข่งฟางเป็นคนนำทาง ตามมาด้วยคนมากกว่าสิบคน ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ได้รับการคัดเลือกจากข่งฟาง

ไม่ได้คาดคิดว่าข่งฟางจะทำอะไรได้เร็วเช่นนี้ ใช้เวลาเพียงสองวันก็จัดการเรียบร้อยแล้ว

ค่าเช่าที่ดินของกู้เสี่ยวหวานยังคงเหมือนกับครั้งที่แล้ว ชาวนาผู้เช่าต่างก็มีความสุข และทุกคนต่างแสดงท่าทีว่าต้องการเช่าที่ดินของกู้เสี่ยวหวานจริง ๆ

เมื่อวานนี้ กู้เสี่ยวหวานได้เตรียมสัญญาไว้เรียบร้อยแล้ว และมันก็เหมือนกับสัญญาที่เคยลงนามกับหลิวต้าจ้วง เพียงแค่รอให้ผู้เช่ารายใหม่มาลงนามเท่านั้น

ชาวนาผู้เช่าเหล่านี้บางคนรู้หนังสือ ดังนั้นพวกเขาจึงอ่านสัญญาทั้งหมดทันที ยืนยันจำนวนค่าเช่า และหลังจากที่พวกเขาเห็นว่าถูกต้องแล้ว พวกเขาก็ลงนามในชื่อของพวกเขาทันที

เมื่อเห็นคนแรกลงนาม คนที่สอง คนที่สาม และคนถัด ๆ ไปก็ลงนามเช่นกัน เพียงชั่วพริบตา ชาวนาผู้เช่ามากกว่าสิบคนที่มาที่นี่ก็ลงนามเสร็จ และแต่ละคนก็รับสำเนาไปคนละฉบับ

กู้เสี่ยวหวานมองไปที่ฉินเย่จือที่ยืนอยู่ด้านข้าง และยิ้มให้เขาด้วยความขอบคุณ

ด้วยสัญญามากกว่าฉบับ เมื่อคืนนี้นางกับฉินเย่จือยุ่งจนถึงกลางดึก เพราะกลัวว่าถ้ามีผู้ใดมาในวันนี้ เมื่อถึงเวลาพวกเขาจะรีบร้อนเกินไป

เมื่อเห็นว่าทุกคนลงนามเสร็จแล้ว ที่ดินหนึ่งร้อยหมู่ก็ถูกเช่าไปหมดพอดี

คนเหล่านั้นก็จากไปอย่างรู้สึกขอบคุณและบอกว่าจะส่งมอบค่าเช่าให้ทันเวลา คนเหล่านี้ได้รับการคัดเลือกจากข่งฟางมาแล้ว และแน่นอนว่าพวกเขาเป็นคนที่ข่งฟางรู้สึกว่าซื่อสัตย์ ดังนั้นกู้เสี่ยวหวานจึงหมดกังวล

ลานบ้านที่เมื่อสักครู่ดูมีชีวิตชีวากลับเงียบสงบอีกครั้ง และข่งฟางก็อยู่พูดคุยกับกู้เสี่ยวหวานต่ออีกสักครู่ และเตรียมตัวที่จะเดินทางกลับบ้านของเขา

แต่กู้เสี่ยวหวานรีบดึงเขาไว้ก่อน นางหยิบถุงเงินออกมาจากเสื้อและยัดใส่ในมือเขาทันที

ด้านในถุงคือเงินจำนวนสิบตำลึงเงินที่กู้เสี่ยวหวานเตรียมไว้เพื่อเป็นการขอบคุณข่งฟาง

ข่งฟางลองเขย่าเงินในมือและรู้สึกว่าในนั้นคงมีเงินอยู่จำนวนไม่น้อยแน่ แต่ข่งฟางกลับรีบยัดถุงเงินนั้นคืนกู้เสี่ยวหวานอย่างรวดเร็วและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สาวน้อย ข้ารับเงินนี้ไม่ได้!”

“ท่านลุงข่ง ช่วงนี้ลำบากท่านแล้ว เพราะเรื่องการให้เช่าที่ดินของข้า เกรงว่าท่านจะลำบากเพราะเรื่องนี้มากเกินไป เงินนี้แทนความซาบซึ้งใจจากข้า แม้มันจะไม่มาก แต่ก็เป็นตัวแทนของความจริงใจของข้า ดังนั้นท่านควรรับไว้เถิด”

“สาวน้อย ข้ารับเงินนี้ไม่ได้จริง ๆ!” ข่งฟางปฏิเสธและดันมันกลับไปอีกครั้งพลางกล่าวอย่างเกรงใจ “สาวน้อย ที่ดินห้าสิบหมู่ที่เจ้าซื้อครั้งก่อน และทำให้เจ้าต้องมีคดีความในภายหลัง ข้าขอโทษจริง ๆ ข้าแค่คิดว่า หากข้าสามารถชดเชยได้ ในใจข้าคงจะรู้สึกดีขึ้น”

“ท่านลุงข่ง สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อนไม่ใช่ความผิดของท่านเลย!” กู้เสี่ยวหวานอธิบายอย่างรวดเร็ว “ไม่มีใครคิดว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้น และแน่นอนว่าท่านก็ไม่ได้คิดเช่นกัน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องโทษตัวท่านเอง และท่านก็ไม่ต้องแบกรับมันเอาไว้”

“สาวน้อย ข้า…” เมื่อข่งฟางเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้โทษตนเองและยังมาซื้อที่ดินกับเขาอีก ในใจเขาก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้งจนกล่าวไม่ออก

“ท่านรับเงินนี่ไปเถอะ ในอนาคต ข้าอาจจะต้องซื้อที่ดินอีก ถึงตอนนั้นข้าเกรงว่าท่านลุงข่งคงจะต้องทำงานหนักอีกครั้ง” กู้เสี่ยวหวานยัดเงินใส่มือเขาอีกครั้ง และข่งฟางรู้สึกเกรงใจที่จะปฏิเสธในครั้งนี้

หลังจากรับเงินแล้ว ข่งฟางางก็สัญญากับนางว่า “สาวน้อยไม่ต้องห่วง ตราบใดที่เจ้าซื้อที่ดินกับข้า ข้าจะให้บริการแก่เจ้าด้วยใจจริง!”

หลังจากส่งข่งฟางกลับไปแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็กลับมามีเวลาว่างที่หาได้ยากอีกครั้ง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท