บทที่ 364 เอาคืนเจ้า
บทที่ 364 เอาคืนเจ้า
กล่าวจบนางก็วิ่งออกไปราวกับจะไม่หยุดจนกว่าจะถึงเป้าหมาย
เมื่อกู้ถิงถิงและกู้ซุ่นสีเห็นว่าพ่อและแม่ของพวกเขาออกไปแล้ว พวกเขาจึงตามไปอย่างรวดเร็ว
ห้องปีกฝั่งตะวันตกที่มีเสียงดังเมื่อสักครู่เงียบลงแล้ว
บนโต๊ะมีถ้วยจานเลอะเทอะ
ลมในคืนฤดูหนาวพัดผ่านเข้ามาทางประตูที่ถูกเปิดเอาไว้ พัดผ่านเสียดสีผิวกาย
กู้ฉวนลู่ร่างกายสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อซุนซื่อเห็นก็รีบเอาเสื้อคลุมไปสวมให้เขา แล้วกุลีกุจอไปปิดประตู
แม้ว่าประตูและหน้าต่างของบ้านจะปิดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถปิดกั้นเสียงกรีดร้องที่มาจากห้องหลักได้
“กู้ฉวนโซ่ว ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!” เสียงก่นด่าของเฉาซื่อดังเล็ดลอดเข้ามา “ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมาเจ้าไปตายที่ไหนมา? วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า เจ้ายังรู้อยู่หรือไม่ว่าเจ้าก็เป็นคนของตระกูลกู้ หากวันนี้ไม่ใช่วันส่งท้ายปีเก่า เจ้าก็คงจะไม่กลับมาใช่หรือไม่!”
กู้ฉวนโซ่วไม่สนใจเฉาซื่อ และปล่อยให้นางตะโกนอย่างเดือดดาลต่อไป “กู้ฉวนโซ่ว เจ้าพูดออกมาสิ!”
มีเสียงอันไม่พึงประสงค์ดังมาจากห้องข้าง ๆ คำพูดนั้นช่างไม่น่าฟังสักเท่าไร
“กู้ฉวนโซ่ว ผู้ชายเฮงซวย เจ้ายังต้องการบ้านนี้อยู่อีกหรือไม่?”
“ข้าไม่มีเงินแม้สักเหรียญเดียว และข้าจึงไม่ได้ซื้อสินค้าปีใหม่เข้าบ้านเลย ปีนี้เจ้ายังอยากจะฉลองปีใหม่อยู่หรือไม่”
“กู้ฉวนโซ่ว ในครั้งที่แล้วเจ้าเอาทองของข้าไปไว้ที่ไหน เจ้าคืนมันให้ข้าเถอะ มันเป็นของที่ข้าเก็บไว้นานกว่าสิบปี เจ้าคืนมันมาให้ข้า…”
เสียงของเฉาซื่ออ้อนวอนสลับกับก่นด่า แต่ไม่ได้ยินเสียงของกู้ฉวนโซ่วเลย
กู้ฉวนโซ่วกำลังนอนอยู่บนเตียงและปฏิบัติกับเฉาซื่อราวกับนางเป็นแมลงวันพูดได้ หากแต่เขาไม่สนใจและปล่อยให้นางก่นด่าต่อไป
เมื่อเห็นว่ากู้ฉวนโซ่วไม่แยแสต่อเสียงร้องไห้ของนาง
เฉาซื่อก็ชี้นิ้วไปที่กู้ฉวนโซ่วที่อยู่บนเตียง และตะโกนคำพูดที่ชั่วร้ายที่สุดออกมา “กู้ฉวนโซ่ว เจ้ามันไม่ใช่ผู้ชาย เจ้ามันคนไร้ยางอาย คืนของให้ข้าเดี๋ยวนี้ เจ้าขันทีเฮงซวย!”
เมื่อได้ยินคำพูดที่เลวร้ายเช่นนี้ ดวงตาของกู้ฉวนโซ่วก็เปิดขึ้นทันที ดวงตาของเขาคุกรุ่นไปด้วยความโกรธ และเขาก็สร่างเมาไปเกินครึ่ง
“พอแล้ว!” ก่อนที่เฉาซื่อจะกล่าวจบ กู้ฉวนโซ่วก็ลุกขึ้นและคำรามอย่างดุดัน
ขันที? ทันทีที่กู้ฉวนโซ่วได้ยินคำนี้ เขาก็นึกถึงความอัปยศของตนเองทันที
ขันทีอะไร ขันทีก็เป็นผู้ชายไม่ใช่หรือ!
เฉาซินเหลียน เจ้าใจร้ายยิ่งนัก!
กู้ฉวนโซ่วจ้องที่เฉาซื่ออย่างโกรธเคืองโดยไม่กล่าวอะไรสักคำ และเดินไปทางเฉาซินเหลียนทีละก้าว
เฉาซินเหลียนก่นด่าไปตามใจปาก จนกระทั่งกล่าวประโยคนี้ออกมา นางก็รู้สึกเสียใจในทันที เมื่อนางเห็นกู้ฉวนโซ่วเดินเข้ามาหานางราวกับสิงโตกระหายเหยื่อ
เฉาซินเหลียนรู้สึกตกใจเล็กน้อย “กู้ฉวนโซ่ว… เจ้า… เจ้าจะทำอะไร?”
กู้ฉวนโซ่วไม่ได้กล่าวอะไร และดูเหมือนจะมีรอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของเขา “เฉาซินเหลียน เจ้าบอกว่าข้าเป็นขันทีไม่ใช่หรือ?”
“สา…สามี ข้า… เมื่อครู่… ข้าล้อเล่น!” เฉาซินเหลียนผงะถอยหลังเล็กน้อย ท่าทางของกู้ฉวนโซ่วในตอนนี้ช่างน่ากลัวจริง ๆ ราวกับว่าเขากำลังจะกินตนเอง “เจ้า… อย่าจริงจังเช่นนั้นสิ!”
กู้ฉวนโซ่วได้ยินคำพูดเหล่านั้นที่ไหนกัน สมองของเขาไม่รับรู้สิ่งใดแล้ว เขาจำได้เพียงเฉาซินเหลียที่บอกว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย! ไม่ใช่ผู้ชาย! ไม่ใช่ผู้ชาย!
กู้ฉวนโซ่ว เจ้าเป็นขันที เจ้ามันไม่ใช่ผู้ชาย!
ทุกถ้อยคำเป็นเหมือนเข็มเหล็กที่ทิ่มแทงหัวใจของกู้ฉวนโซ่ว
“สามี … เจ้า… เจ้าจะทำอะไร?” เฉาซินเหลียนถอยจนแผ่นหลังของนางชนกำแพง และไม่มีทางให้ไปต่อ นางถูกต้อนไปที่มุมของกำแพง กู้ฉวนโซ่วตอนนี้ราวกับอสูรนรกค่อย ๆ ย่างก้าวมาอย่างช้า ๆ และใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
เฉาซินเหลียนรู้สึกถึงพายุที่รุนแรงกำลังจะเข้ามาโจมตี
เมื่อเขาอยู่ห่างจากเฉาซินเหลียนเพียงครึ่งก้าว กู้ฉวนโซ่วก็ยืนนิ่งพลางจ้องมองที่นางราวกับหมาป่าที่หิวโหย ก่อนที่เฉาซินเหลียนจะกรีดร้อง กู้ฉวนโซ่วก็คว้ามือของนางและลากนางไปที่เตียงอย่างรุนแรง และกล่าวอย่างโกรธเคืองกับเฉาซินเหลียน “วันนี้ข้าจะแสดงให้เจ้าดูว่าข้ายังเป็นผู้ชายอยู่หรือไม่!”
เฉาซินเหลียนลืมไปว่าที่กู้ฉวนโซ่วไม่ใช่ผู้ชายก็เพราะว่านางเป็นคนทำ
ในเวลานี้ นางมองไปที่กู้ฉวนโซ่วที่ราวกับอสูรนรกอย่างตื่นตกใจ เขาจับมือนางและลากไปที่เตียงอย่างรุนแรง จนข้อมือของนางขึ้นสีแดงจากแรงฉุดกระชาก นางรู้สึกเจ็บราวกับว่ากระดูกของนางกำลังจะแตก
เฉาซินเหลียนขัดขืนอย่างสุดชีวิต แต่มันก็ไม่ได้ผล กู้ฉวนโซ่วดื่มสุรามาและตอนนี้เขาเต็มไปด้วยโทสะ มือของกู้ฉวนโซ่วจึงมีเรี่ยวแรงราวกับวัว เขาจับแน่นเสียจนเฉาซินเหลียนไม่สามารถขยับได้เลย
เมื่อเห็นใบหน้าของกู้ฉวนโซ่วเต็มไปด้วยความโกรธ หัวใจของเฉาซินเหลียนก็เต้นแรง
เมื่อเข้าใกล้ข้างเตียง กู้ฉวนโซ่วก็ผลักเฉาซินเหลียนลงบนเตียงอย่างแรง จนมีเกิดเสียงดัง “ตึง”และเฉาซินเหลียนก็ล้มลงบนเตียง
“โอ้ย …” เฉาซินเหลียนเพียงรู้สึกว่ากระดูกทั้งหมดในร่างกายของนางกำลังจะแตกสลาย นางทำได้แค่กรีดร้องต่อไป
เมื่อเห็นเฉาซินเหลียนนอนอยู่บนเตียง ดวงตาของกู้ฉวนโซ่วแดงก่ำ สายตาที่เขามองลงมาที่เฉาซินเหลียนไม่รู้ว่าเป็นความหุนหันพลันแล่นหรือความโกรธ และกล่าวอย่างดุร้ายว่า “เฉาซินเหลียน วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่าข้าเป็นผู้ชายหรือไม่!”
หลังจากกล่าวจบ กู้ฉวนโซ่วก็ก้าวไปข้างหน้าและกอดเฉาซินเหลียนเอาไว้ เฉาซินเหลียนไม่ทันจะได้กรีดร้องอะไรก็ถูกกู้ฉวนโซ่วก็กดไว้ภายใต้ร่างของเขาไปแล้ว
“กู้ฉวนโซ่ว เจ้า… เจ้า… เจ้ากำลังจะทำอะไร?” เฉาซินเหลียนรู้สึกเพียงว่าแรงกดมันมหาศาลราวกับจะบดขยี้กระดูกของนางให้แหลก
เสื้อผ้าทั้งหมดบนร่างของเฉาซินเหลียนถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ในห้องยังไม่ทันได้อุ่นตียง เฉาซินเหลียนจึงตัวสั่นเทา
ในขณะนี้ดวงตาของกู้ฉวนโซ่วเป็นสีแดงก่ำ จ้องมองไปที่เรืองร่างขาวเนียนราวกับหิมะของเฉาซินเหลียนพลางหอบหายใจอย่างหนัก
ในอดีต ร่างกายของนางนี้ กู้ฉวนโซ่วรักและทะนุถนอมราวกับสมบัติ เขามาหานางไม่ต่ำกว่าสามครั้งต่อสัปดาห์ และกู้ฉวนโซ่วรู้สึกเพียงความเจ็บปวดและอาการคันด้านล่าง เพราะเรื่องบนเตียงของเฉาซื่อมีลีลาดี เสียงครางก็ช่างเย้ายวนใจ ถึงแม้จะคลอดลูกไปสองคนแล้ว แต่เพราะไม่ต้องทำงานตลอดทั้งปี นางจึงดูเด็กกว่าผู้หญิงในวัยเดียวกัน
ในอดีต กู้ฉวนโซ่วรักร่างกายนี้มาก การที่ไม่เจอนางหนึ่งวันก็ราวกับไม่เจอมาหลายฤดู
แต่เมื่อเขารู้ว่ามันถูกทำลายโดยเฉาซินเหลียน กู้ฉวนโซ่วก็รู้สึกว่าท้องฟ้าของเขากำลังจะถล่ม เขาไม่ใช่ผู้ชายอีกต่อไป เขาไม่ใช่ผู้ชายอีกต่อไป!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ กู้ฉวนโซ่วก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กู้ฉวนโซ่วก็เกลียดชังเฉาซินเหลียนเป็นอย่างมาก
เมื่อก่อนรักมากแค่ไหน ตอนนี้เกลียดก็มากเท่านั้น
เขาสูญเสียศักดิ์ศรีความเป็นผู้ชายไปอย่างสิ้นเชิง และตอนนี้เขาก็เป็นขันที!
เฉาซินเหลียนพูดถูก เขาเป็นขันที แต่ใครเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้กันล่ะ
คือเฉาซินเหลียน เฉาซินเหลียน!