ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 365 เอาคืนเฉาซื่อ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 365 เอาคืนเฉาซื่อ

บทที่ 365 เอาคืนเฉาซื่อ

กู้ฉวนโซ่วราวกับคนเสียสติ เขาฉีกเสื้อผ้าของเฉาซื่อเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ผ้าห่มข้าง ๆ ห่างออกไปเพียงเอื้อมมือ เฉาซื่อต้องการดึงมันขึ้นมาคลุมไว้ แต่กู้ฉวนโซ่วรวบมือของนางไว้ทั้งสองข้าง

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เฉาซินเหลียนคิดว่าเป็นการเกี้ยวพาราสีกันระหว่างทั้งคู่ กู้ฉวนโซ่วไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เมื่อตอนนั้นที่สามีภรรยาทะเลาะกันทั้งคู่ก็ต่างยอมกัน วันเวลาแห่งความรักนั้น ไม่รู้ว่ามันดีเพียงใด เมื่อคิดถึงก็รู็สึกว่ามันหอมหวาน

แต่ตอนนี้เฉาซินเหลียนจ้องที่กู้ฉวนโซ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ ไม่รู้ว่ากู้ฉวนโซ่วมีแผนอะไรในช่วงเวลาต่อไป

ในเวลานี้ กู้ฉวนโซ่วไม่มีสติหลงเหลืออยู่แล้ว เมื่อมองไปที่เฉาซินเหลียน ดวงตาของเขาก็แดงขึ้น และหอบหายใจหนักขึ้นเรื่อย ๆ

เขาทำไม่ได้แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำไม่เป็น

กู้ฉวนโซ่วแสยะยิ้ม แต่เฉาซินเหลียนรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นเหมือนกับอสุรกายจากนรก ร่างกายของนางสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว “ฉวนโซ่ว เจ้า… เจ้ากำลังทำอะไร?”

เฉาซินเหลียนเอามือปิดหน้าอกเพื่อป้องกันสายตาของกู้ฉวนโซ่วที่มองมา เสียงของนางสั่นเครือเล็กน้อย

“เจ้าถามว่ากำลังทำอะไรอย่างนั้นหรือ? เฉาซินเหลียน เจ้ายังเป็นภรรยาของข้าอยู่ เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรล่ะ! ฮ่า ๆ…” ใบหน้าของกู้ฉวนโซ่วเผยใบหน้าน่ากลัว

ทันทีที่เขากล่าวจบ กู้ฉวนโซ่วก็ก้มศีรษะลง และเฉาซินเหลียนก็อุทานออกมา

ปรากฏว่ากู้ฉวนโซ่วขบกัดไปที่ร่างกายของเฉาซินเหลียนอย่างทารุณ เฉาซินเหลียนรู้สึกเพียงว่าร่างกายส่วนบนของนางกำลังจะถูกบดขยี้ และทำได้เพียงยิ้มด้วยความเจ็บปวด

กู้ฉวนโซ่วไม่ได้ใช้ริมฝีปาก หากแต่ใช้ฟันแหลมคมของเขาแทน เฉาซินเหลียนรู้สึกเพียงว่าเนื้อบนร่างกายของนางกำลังจะโดนเขากัดจนหลุดออกมา เขาไม่ได้แสดงความรักใด ๆ ออกมา และใช้ฟันที่แหลมคมของเขาขบกัดบนร่างกายเปลือยเปล่าของเฉาซื่ออย่างรุนแรง

ส่วนบนของร่างกายนางเกิดความรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงตามรอยกัดของกู้ฉวนโซ่ว และร่างกายส่วนล่างก็สั่นสะท้าน กู้ฉวนโซ่วใช้มือทั้งสองข้างแยกขาของเฉาซื่อออก อาการหนาวเย็นทำให้ร่างกายของเฉาซื่อสั่นสะท้าน

เฉาซินเหลียนรู้สึกเพียงว่ามีบางสิ่งกำลังคืบคลานเข้ามาในร่างกายส่วนล่างที่ถูกแยกออก มันเจ็บจนนางแทบทนไม่ไหว

“อ๊า อ๊า…” เฉาซินเหลียนส่งเสียงครวญคราง ซึ่งดูเหมือนจะกะทันหันไปในวันส่งท้ายปีเก่าเช่นนี้

กู้ถิงถิงและกู้ซุ่นสีอยู่ในอีกห้องหนึ่ง เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของแม่จากห้องถัดไป พวกเขากอดกันตัวสั่น

เฉาซินเหลียนรู้สึกได้เพียงว่าร่างของนางราวกับถูกใบมีดคมแทงเข้ามา ร่างทั้งร่างของนางราวกับถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ น้ำตาหลั่งรินออกมา และมองดูกู้ฉวนโซ่วอย่างอ้อนวอน “ฉวนโซ่ว ฉวนโซ่ว ได้โปรด ได้โปรด…”

ความเจ็บปวดนี้ เจ็บปวดยิ่งกว่าการคลอดบุตรเสียอีก

เมื่อเห็นเฉาซินเหลียนร้องขอความเมตตา กู้ฉวนโซ่วก็ยิ้มอย่างป่าเถื่อน “ซินเหลียน เจ้าเพิ่งพูดว่าข้าไม่ใช่ผู้ชายไม่ใช่หรือ? เกรงว่าข้าคงไม่ได้ให้ความรักกับเจ้ามานานแล้ว เป็นอย่างไร รู้สึกดีหรือไม่? รู้สึกดีก็ครางออกมา อ๊า…” ก่อนที่เขาจะกล่าวจบ มือของเขาก็กระแทกเข้ามาอีกครั้ง

“อ๊า…” เฉาซินเหลียนส่งเสียงร้องที่น่าสังเวชยิ่งขึ้นไปอีก นางโบกมือไปมาและกระชากผมของกู้ฉวนโซ่ว “อ๊า…อ๊า.…อ๊า…”

ดวงตาของเฉาซินเหลียนพร่ามัว ไม่รู้ว่ามันคือเหงื่อหรือหยาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวดที่ไหลออกมา

นางมองไปที่กู้ฉวนโซ่วอย่างโกรธแค้นและแสดงท่าทางอ้อนวอน นางจับผมของกู้ฉวนโซ่วไว้ “ฉวนโซ่ว ได้…ได้โปรด…ได้โปรด ข้า ข้ากลัว…ข้าเจ็บเหลือเกิน มันเจ็บมาก! ได้โปรด ปล่อยข้า ปล่อยข้าไป!”

“ปล่อยเจ้าไป?” กู้ฉวนโซ่วหัวเราะเบา ๆ ราวกับว่าเขากำลังได้ยินเรื่องตลก “ซินเหลียน เจ้าไม่รู้หรอกว่าในใจของข้า เจ้าสวยแค่ไหน ข้ารักท่าทางเช่นนี้ของเจ้าจริง ๆ ตอนที่เจ้าคราง มันช่างไพเราะเสียจริง จะให้ข้าปล่อยเจ้าไปอย่างนั้นหรือ อ๊า…”

มือซ้ายเคลื่อนลงมาจากร่างกายของเฉาซินเหลียน และฟาดลงที่บั้นท้ายของนางอย่างสุดกำลัง

“คราง คราง ครางออกมา ครางชื่อข้าออกมาสิ! ” กู้ฉวนโซ่วมีรอยยิ้มที่น่าสยดสยองปรากฏบนใบหน้าของเขา และมันดูน่าขยะแขยงยิ่งขึ้นภายใต้แสงสลัวของตะเกียงน้ำมัน

ราวกับกู้ฉวนโซ่วจะได้ยินเสียงนี้ มือของเขาตบลงไปที่บั้นท้ายของเฉาซินเหลียนอย่างแรงอีกครั้ง เมื่อสักครู่บั้นท้ายที่เคยขาวเนียนราวกับหิมะ หลังจากโดนตีไปไม่กี่ทีก็แดงระเรื่อไปหมด

“ฉวนโซ่ว ปล่อยข้า ปล่อยข้า” เฉาซินเหลียนร้องไห้และตะโกนออกไป ความเจ็บปวดบนร่างกายของนางราวกับจะฉีกนางออก มันเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

กู้ฉวนโซ่วมองไปที่เฉาซินเหลียนที่กำลังอ้อนวอนด้วยดวงตาที่เย็นชา เขามองดูเฉาซินเหลียนอย่างเฉยเมยราวกับมองดูร่างกายที่ไม่มีชีวิตพลางขยับส่วนล่างอย่างไม่หยุดหย่อน

ในห้องเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง

ร่างกายของเฉาซินเหลียนเกร็งอยู่ครู่หนึ่งราวกับว่านางกำลังจะหมดสติ ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีขาว จากนั้นนางก็ตกอยู่ในอาการเวียนศีรษะ

เสียงตะโกนที่บีบหัวใจของเฉาซินเหลียนดังมาจากห้องหลัก และในห้องปีกตะวันตกซุนซื่อก็แอบฟังด้วยความสงสัย

ใบหน้าของกู้ฉวนลู่มืดมนลง เมื่อเขาได้ยินเสียงร้องของเฉาซินเหลียนดังมาจากห้องหลักและด่าว่า “ช่างน่าไม่อาย!”

แต่ซุนซื่อไม่คิดเช่นนั้น นางรู้สึกว่าเฉาซินเหลียนไม่ได้ครวญคราง แต่กำลังกรีดร้อง

“สามี เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือ?” ซุนซื่อเอ่ยถาม

“แปลกอะไร?” กู้ฉวนลู่กล่าวอย่างโกรธเคือง “ผู้หญิงไร้ยางอาย เสียงดังมากเช่นนี้ นางทำให้ตระกูลกู้ต้องอับอาย”

โชคดีที่ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนและเป็นวันส่งท้ายปีเก่า เสียงประทัดที่ดังหนวกหู กลบเสียงร้องของเฉาซินเหลียนได้อย่างสมบูรณ์

แต่กู้ฉวนโซ่วไม่สนใจว่า ขณะนี้เฉาซินเหลียนยังมีสติอยู่หรือไม่ เขาจำได้เพียงสิ่งเดียวในใจคือ เขาไม่ใช่ผู้ชาย ไม่ใช่ผู้ชาย ไม่ใช่ผู้ชาย!

วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่าข้าเป็นผู้ชายจริงหรือไม่!

มือของเขาไม่ขยับหยุด การกระทำของเขาทำให้ร่างกายของเฉาซินเหลียนสั่นสะท้าน

ร่างกายของนางไม่รับรู้ความเจ็บปวดอีกต่อไป เฉาซินเหลียนเป็นเหมือนตุ๊กตาเศษผ้าของกู้ฉวนโซ่ว

เฉาซินเหลียนไม่รู้ว่าตนเองสลบไปนานเท่าไร และเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่ากู้ฉวนโซ่วจากไปแล้ว

เฉาซินเหลียนถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยความหนาวเย็น เพราะนอนข้างนอกทั้งคืน ร่างกายของนางจึงเย็นเฉียบไปทั่วทั้งตัว

เมื่อเฉาซินเหลียนขยับร่างกาย ความเจ็บปวดจากร่างกายส่วนล่างก็ทำให้นางไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย

“อ๊า…” เฉาซินเหลียนกัดฟันด้วยความเจ็บปวดเมื่อนางไปสัมผัสจุดที่เจ็บปวดโดยไม่ได้ตั้งใจ

นางมองไปที่บนเตียง แต่ไม่พบแม้แต่เงาของกู้ฉวนโซ่ว และผ้าปูที่นอนก็ยังไม่ได้เปิดออก แสดงว่ากู้ฉวนโซ่วออกไปอีกแล้ว

เฉาซินเหลียนหนาวจนตัวสั่น นางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายด้วยมือที่สั่นเทา

เมื่อคืนราวกับฝันร้ายที่ทำให้เฉาซินเหลียนหวาดหวั่น

เมื่อคืนกู้ฉวนโซ่วราวกับอสูรจากนรก และไม่รู้ว่าอะไรเข้าสิ่งเขา

เฉาซินเหลียนไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือกลัว ร่างกายของนางก็สั่นสะท้านขึ้นอีกครั้ง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท