ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 465 ไปบ้านเก่าตระกูลกู้

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 465 ไปบ้านเก่าตระกูลกู้

บทที่ 465 ไปบ้านเก่าตระกูลกู้

เช้าตรู่วันต่อมา กู้ซินเถาลุกขึ้นแต่งตัว แต่งหน้า จากนั้นจึงหาชุดสีแดงลูกท้อมาใส่ หลังจากตระเตียมทุกอย่างจนพร้อม นางก็เดินออกจากประตูปีกตะวันตก แม้แต่เฉาซื่อเองก็ยังประหลาดใจ

กู้ซินเถาสวมกระโปรงยาวผ้าสีแดงลูกท้อ ปักด้วยดอกเหมยสีขาว มีผ้าผูกเอวสีขาว และชั้นนอกของชุดก็มีผ้ามัสลินคลุมอีกชั้น นางราวกับเป็นนางฟ้าบนสวรรค์

นางลงแป้งบาง ๆ ให้ทั่วใบหน้า เรือนผมสีดำสนิทถูกมวยขึ้นไปและปักด้วยปิ่นปักผมสีขาวรูปดอกเหมย และตรงปลายของดอกเหมยก็ประดับด้วยลูกปัดเส้นเล็ก ๆ ขณะที่นางเดิน ลูกปัดบนศีรษะก็กระทบกันเบา ๆ ดูสง่างามและมีชีวิตชีวา

นี่คือเสื้อผ้าที่ดีที่สุดในกล่องของกู้ซินเถา ในเวลานั้นที่ร้านหรูอี้ ชุดนี้ราคามากกว่ายี่สิบตำลึงเงิน เพราะชุดปักด้วยลายดอกเหมยสีขาว กู้ซินเถาจึงจงใจดึงเจียงหย่วนไปที่ร้านขายเครื่องประดับที่อยู่ห่างไกล และปิ่นปักผมหยกขาวที่ประดับด้วยดอกเหมย ในเวลานั้น ทำให้เจียงหย่วนต้องเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก

เฉาซินเหลียนถึงกับตะลึงเมื่อเห็นมัน ผู้หญิงคนนี้อย่ามองแค่ว่านางอายุน้อย เพราะเมื่อแต่งตัวขึ้นมาแล้ว นางมีเสน่ห์จริง ๆ!

เฉาซื่อบ่นในใจและพูดอย่างประจบสอพลอว่า “โอ้ ซินเถา เจ้าแต่งตัวราวกับนางฟ้าบนสวรรค์ เพราะข้ารู้จักเจ้า ข้าจึงรู้ว่านี่คือกู้ซินเถาจากครอบครัวของข้า ถ้าไม่รู้จักล่ะก็ เกรงว่าจะคิดว่าเจ้าเป็นนางฟ้าจากสวรรค์!”

เมื่อกู้ซินเถาได้ยินคำชมของเฉาซื่อ จึงแอบภูมิใจและยิ้มอย่างมีชัย

ราวกับนางฟ้าบนสวรรค์หรือ? พี่ฉินผู้นั้นก็ราวกับเทพเซียนบนสวรรค์ ช่างคู่ควรอะไรเช่นนี้!

ที่นางแต่งตัวแบบนี้เพื่อให้พี่ฉินได้เห็นด้านที่สวยงามที่สุดของตน สวยที่สุด อ่อนโยนที่สุด และละเอียดอ่อนที่สุด เมื่ออยู่ต่อหน้ากู้เสี่ยวหวาน นางจะต้องกดกู้เสี่ยวหวานให้จมโคลนลงไป และไม่สามารถปล่อยให้นางประสบความสำเร็จได้

กู้ซินเถายิ้มอย่างภาคภูมิใจในใจ แต่นางไม่เห็นแม้แต่รอยยิ้มที่ชั่วร้ายในดวงตาของเฉาซื่อ

เฉาซื่อไม่กล้าละเลย การชักช้าของกู้ซินเถาทำให้เรื่องของตัวเองล่าช้าไปด้วย เอาล่ะ เรื่องนี้จะได้รับการคลี่คลายโดยเร็ว เกรงว่ากลางคืนจะฝันร้ายมากเกินไป เมื่อถึงเวลาก็จะวุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ

หลังจากกู้ซินเถาทานอาหารเช้าแล้ว นางรออยู่ในห้องหลัก เหลียวซ้ายแลขวาเพื่อรออย่างกระวนกระวายใจราวกับมดบนกระทะร้อน

แต่ไม่รู้ว่าเพราะความตื่นเต้นของนางหรือไม่ นางจึงตื่นเร็วกว่าปกติมากกว่าครึ่งชั่วยาม

เช่นเดียวกับเฉาซื่อที่ตื่นเต้นมากจนไม่ได้พักผ่อนทั้งคืน นางนอนไม่หลับจนจะรุ่งเช้า แต่ก็ลุกขึ้นทันทีเพราะอยากเห็นด้วยตาตนเองว่ากู้ซินเถาจะเกลี้ยกล่อมและยั่วยวนฉินเย่จืออย่างไร

เมื่อคนส่งข่าวของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงมาถึงบ้านของกู้เสี่ยวหวาน กู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ ยังคงทานอาหารเช้ากันอยู่ ทันทีที่ได้ยินเจตนาของคนผู้นั้น เขาบอกว่าพวกเขาต้องเชิญกู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือไปเยี่ยมบ้านเก่าของตระกูลกู้

กู้เสี่ยวหวานเดาได้ทันทีว่า นี่จะต้องเป็นผีมือของกู้ซินเถา!

นางต้องจงใจยั่วยุต่อหน้าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง เพราะต้องการใช้มันเพื่อกล่าวหาพวกเขา!

ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานเย็นชา ฉินเย่จือที่มองจากด้านข้าง เมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ใบหน้าของเขาก็น่าเกลียดมาก

“เสี่ยวหวาน พวกเราไม่ต้องไปหรอก!” ฉินเย่จือกล่าว เขาไม่ต้องการให้เสี่ยวหวานต้องทนทุกข์ทรมานจากกู้ซินเถาเช่นในอดีต และปล่อยให้นางดั้นด้นต่อไป ในหมู่บ้านอู๋ซีแห่งนี้ เขาลงมือมากไม่ได้ แต่ถ้านางออกไปจากหมู่บ้านอู๋ซีล่ะก็!

วันหนึ่งเขาจะทำให้นางอยากจะอยู่ก็อยู่ไม่ได้ และอยากตายก็ตายไม่ได้

ภายใต้เปลือกตาของฉินเย่จือแสดงเจตนาฆ่าอย่างรุนแรง

แต่กู้เสี่ยวหวานไม่คิดอย่างนั้น กู้ซินเถาบอกหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงแล้ว! เช่นนั้นก็ดี พวกเขาจะได้ไปตัดสินเพื่อดูว่ากู้ซินเถาไร้ยางอาย หรือเป็นกู้เสี่ยวหวานตระหนี่เกินไป!

กู้เสี่ยวหวานไม่ได้ปฏิเสธ แต่พูดกับผู้ส่งข่าวว่า “ตกลง กลับไปบอกหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง เราจะไปที่นั่นทันที!”

เมื่อคนผู้นั้นได้รับข้อความจึงรีบกลับไปในทันที

เมื่อกู้หนิงผิงเห็นว่าพี่สาวตกลงจะไป เขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมา ไม่รู้ว่ากู้ซินเถาไปพูดอะไรกับหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง เขาถึงออกหน้าให้กู้ซินเถาเช่นนี้

กู้เสี่ยวอี้เงยหน้าขึ้นมองพี่สาวอย่างกังวล เมื่อกู้เสี่ยวหวานเห็นว่ากู้เสี่ยวอี้และกู้หนิงผิงกังวลเกี่ยวกับตนเอง นางก็รีบทำให้พวกเขาดูสบายใจและพูดสบาย ๆ ว่า “ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง วันนี้ข้าจะทำให้กู้ซินเถายอมแพ้และไม่กล้ามาที่นี่อีก”

กลางวันแสก ๆ แต่อยากแย่งของของคนอื่นไป ทำไมไม่มีเหตุผลเช่นนี้!

แย่งไม่ได้ก็ใช้กำลัง

ความสวย เงิน ความยั่วยวน ใช้ทุกสิ่งจนถึงขีดสุด สิ่งที่อยู่ในหัวของนางผู้นี้คือความไร้ยางอาย ไร้ยางอาย!

โชคดีที่ฉินเย่จือไม่ใช่คนธรรมดา และเขาไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้เลย

เมื่อคืนหลังจากฟังคำพูดของฉินเย่จือ กู้เสี่ยวหวานก็ไม่กังวลว่าฉินเย่จือจะละทิ้งพวกเขาแล้วไปเลือกกู้ซินเถา

แม้ว่าฉินเย่จือจะมีคนที่ดีกว่า แต่มันจะไม่ใช่ครอบครัวกู้ซินเถา

กู้เสี่ยวหวานสูดอากาศเย็น แล้วพาฉินเย่จือไปที่บ้านเก่าของตระกูลกู้

เมื่อพวกเขามาถึงบ้านเก่าของตระกูลกู้ หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็เพิ่งมาถึงเช่นกัน เขานั่งบนเก้าอี้แปดเซียน หลับตาและดื่มชาที่กู้ซินเถานำมาให้

เฉาซื่อก็อยู่ด้วยเช่นกัน นางนั่งอยู่ข้าง ๆ หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง กู้ซินเถายืนอยู่ที่ประตู นางรออย่างใจจดใจจ่อ และในที่สุดคนที่คอยก็มากันแล้ว

วันนี้ฉินเย่จือแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีฟ้าคราม ด้วยรูปร่างผอมเพรียว สามารถเรียกได้ว่าเป็นผู้สูงศักดิ์

ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับถูกแกะสลักด้วยมีด แสดงถึงความเป็นชาย แต่ไม่แข็งกระด้าง ทั่วร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความสูงส่ง เขาเดินตามกู้เสี่ยวหวานที่หน้านิ่วคิ้วขมวด เขามีเสน่ห์จนหัวใจของกู้ซินเถาเต้นแรง

“พี่ฉิน…” กู้ซินเถาเรียกชื่อนี้อย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเห็นพวกเขาเข้ามา เขาก็เฝ้าดูอยู่ เมื่อเห็นท่าทางที่โง่เขลาของกู้ซินเถา เขาก็เข้าใจบางอย่างในทันใด

เป็นเช่นนี้นี่เอง!

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงมีความดูถูกและเสียดสีในสายตาของเขา แต่การที่ต้องออกหน้าเพื่อกู้ซินเถาก็คือการไว้หน้ากู้ฉวนลู่

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท