บทที่ 523 ในที่สุดก็รอดแล้ว
บทที่ 523 ในที่สุดก็รอดแล้ว
ฉินเย่จือนั่งพิงกับผนังถ้ำ ก่อนปิดตาและผล็อยหลับไปครู่หนึ่ง
เขาถูกเขย่าให้ตื่นโดยกู้เสี่ยวหวาน กู้เสี่ยวหวานถือเนื้องูไว้อย่างมีความสุข และพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ข้าย่างมันเอง เจ้าลองกินดูสิ!”
ฉินเย่จือพยักหน้า ปลายจมูกของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นที่คุ้นเคย
แต่ท้องของเขารู้สึกหิวนิดหน่อยและไม่อาจเรื่องมาก เขาจึงทำได้แค่กินอะไรเพื่อบรรเทาความหิว และเพื่อให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้นโดยเร็วที่สุด
ฉินเย่จือหยิบเนื้องูจากมือของกู้เสี่ยวหวาน ซึ่งมันมีสีดำและมีกลิ่นแปลก ๆ
“สิ่งนี้ดูน่าอร่อยนัก!” ฉินเย่จือรับสิ่งนั้นในมือของกู้เสี่ยวหวานมา โดยเมื่อมองไปยังวัตถุสีดำในมือ เขาก็ชะงักไปเล็กน้อย
หลังจากลองกัดไปหนึ่งคำ คิ้วของฉินเย่จือก็ขมวดรวมกันเป็นก้อนเดียว เมื่อเห็นใบหน้าน่าเกลียดของฉินเย่จือ กู้เสี่ยวหวานก็พูดด้วยความตื่นตระหนก “เกิดอะไรขึ้น? กินไม่ได้หรือ?”
ฉินเย่จือส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ไม่ ไม่มีอะไร อร่อยมาก!”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็กลืนเนื้องูในมือเข้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กัดคำที่สอง
เมื่อเห็นท่าทางการกินอย่างมีความสุขของฉินเย่จือ กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกมีความสุขมากขึ้น ดูเหมือนว่านางมีพรสวรรค์ในการย่างของกินด้วย!
ฉินเย่จือกินเนื้องูไปหลายไม้ติดต่อกัน และยังมีเนื้องูเหลืออยู่สองสามไม้ในมือ เขาจึงถามว่า “เสี่ยวหวาน เจ้าไม่อยากกินหรือ?”
เมื่อเห็นฉินเย่จือรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย กู้เสี่ยวหวานก็ชั่งใจคิดว่านางควรจะกินสิ่งนี้หรือไม่!
หากกิน ในใจนางก็รู้สึกต่อต้าน ซึ่งนางไม่อาจข้ามผ่านอุปสรรคในใจไปได้
หากไม่กินก็เท่ากับปล่อยให้ท้องว่าง และจะมีเสียงเตือนตัวเองเป็นระยะว่าถึงเวลาต้องกินแล้ว
กู้เสี่ยวหวานคิดครั้งแล้วครั้งเล่า และในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะกินลงไปให้อิ่มท้อง
กู้เสี่ยวหวานหยิบงูย่างหนึ่งส่วนจากมือของฉินเย่จือมากัด ก่อนสัมผัสถึงรสชาติแปลก ๆ จะกระจายเต็มปากของนางในทันที
“ถุ้ย มันไม่อร่อยเลย!” กู้เสี่ยวหวานถ่มน้ำลายและทุกอย่างในปากของนางทิ้ง แต่เมื่อเห็นฉินเย่จือกินอย่างเอร็ดอร่อย นางก็รู้สึกเขินอาย
เมื่อครู่นางเห็นฉินเย่จือกินเนื้องูย่างอย่างเอร็ดอร่อย กู้เสี่ยวหวานจึงคิดว่ามันอร่อย!
“สิ่งนี้ไม่อร่อย แต่เจ้าก็ยังกินมันอย่างเอร็ดอร่อย!” กู้เสี่ยวหวานรู้สึกอายเล็กน้อย
“แน่นอนว่ามันอร่อย ตราบใดที่มันเป็นของที่เสี่ยวหวานทำ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็อร่อยทั้งนั้น!” ฉินเย่จื่อกล่าวด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าเขาจะอ่อนแอมาก แต่เขาก็ยังต้องแกล้งทำเป็นว่าไม่เป็นอะไร เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กู้เสี่ยวหวานเศร้า!
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกแปลก เกิดอะไรขึ้นกับฉินเย่จือในวันนี้ เหตุใดเขาถึงยกย่องนางตลอดเวลา
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกว่าใบหน้าของนางแดงเล็กน้อย
แม้ว่าอาหารจะไม่อร่อย และรูปร่างหน้าของมันก็ค่อนข้างน่ากลัว แต่เพื่อรักษาความแข็งแกร่งของร่างกายและป้อนอาหารให้ท้องของนาง กู้เสี่ยวหวานยังคงอดทนและกลืนเนื้องูย่างเข้าไป
กู้เสี่ยวหวานกินเพียงชิ้นเดียวและไม่สามารถกินได้อีก
ฉินเย่จือไม่ได้บังคับนาง เมื่อเห็นว่านางว่าถึงขีดจำกัดและไม่เต็มใจที่จะกิน เขาก็ยอมแพ้
มีของกินลงท้องแล้วเลยไม่หิวมาก
หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานกินเสร็จแล้ว นางก็เอนกายพิงผนังถ้ำและหลับตาลงเพื่อพักผ่อน
ฉินเย่จือไม่ได้รบกวนกู้เสี่ยวหวาน หลังจากรับประทานอาหารแล้วเขาก็เอนกายพักผ่อนเช่นกัน
ทั้งสองแนบชิดกันมาก ในคืนนี้ กู้เสี่ยวหวานได้รับความตกใจมากและนางได้ใช้กำลังกายไปมาก เพียงเวลาไม่นานทั้งสองคนจึงหลับสนิทไป
เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าสดใส กู้เสี่ยวหวานเป็นคนแรกที่ตื่นขึ้น
นางพบว่าตนตื่นขึ้นในอ้อมแขนของฉินเย่จือ!
กู้เสี่ยวหวานนอนหลับสบายในอ้อมแขนของฉินเย่จือเหมือนกับแมวตัวน้อย
เมื่อเห็นว่านางนอนอยู่บนตักของฉินเย่จือ กู้เสี่ยวหวานพลันกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อคิดได้ว่ายังมีบาดแผลที่ขาของฉินเย่จือ
การเคลื่อนไหวที่รุนแรงนั้นได้ปลุกฉินเย่จือให้ตื่นขึ้น
ฉินเย่จือค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เขาเหลือบมองกู้เสี่ยวหวานและพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “เช้าแล้ว ลงไปกันเถอะ!”
น้ำเสียงของฉินเย่จือแหบแห้งแต่หนักแน่น ซึ่งเมื่อเห็นใบหน้าที่อ่อนล้าและซีดเซียวของเขา กู้เสี่ยวหวานก็ตกใจ ก่อนเอามือแนบหน้าผากของฉินเย่จืออย่างรวดเร็ว
ความร้อนพลันแผดเผามือของกู้เสี่ยวหวาน
“เจ้ามีไข้!” กู้เสี่ยวหวานอุทาน ก่อนดึงฉินเย่จือเพื่อให้เขาลุกขึ้น “ไป ลงเขาไปหาหมอกัน”
ฉินเย่จือยืนขึ้นด้วยความช่วยเหลือของกู้เสี่ยวหวาน
แม้ว่าร่างกายของฉินเย่จือจะร้อนผ่าว แต่เขาเตือนตัวเองเสมอว่าห้ามหมดสติ ดังนั้นเขาจึงพยายามฝืนรั้งตัวเองไว้ ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้ เขาต้องไม่ยอมให้ตัวเองเกิดเรื่อง มิฉะนั้นกู้เสี่ยวหวานจะเหลือตัวคนเดียว…
ฉินเย่จือไม่กล้าคิดเกี่ยวกับผลที่ตามมา
กู้เสี่ยวหวานประคองฉินเย่จือออกจากถ้ำในป่าทึบแล้วตรงมายังตีนเขา!
ร่างกายของฉินเย่จือร้อนผ่าวและอ่อนแอยิ่งนัก แต่สติของเขายังค่อนข้างแจ่มชัด
เมื่อกู้เสี่ยวหวานกึ่งพยุงกึ่งเดิน ฉินเย่จือก็พยายามที่จะตื่นตัวและคอยให้คำแนะนำกู้เสี่ยวหวาน
ในที่สุด ด้วยความพยายามร่วมกันของทั้งสอง พวกเขาก็เห็นหมู่บ้านอู๋ซี แม้ว่าจะยังห่างไกล แต่ก็แค่ต้องเดินตรงไปเท่านั้น!
กู้เสี่ยวหวานใช้กำลังทั้งหมดของนางเพื่อช่วยฉินเย่จือลงจากภูเขา ในที่สุดทั้งสองก็เดินตามภูเขาลึกและแม่น้ำสายเล็กในภูเขาตื้นลงมาเพื่อค้นหาเส้นทางที่พวกเขาคุ้นเคย
“เสี่ยวหวาน เสี่ยวหวาน…”
“อาจารย์ พี่สาว…”
ทันใดนั้น มีเสียงเรียกร้องจากด้านหน้าดังขึ้นสองครั้ง เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินก็ดีใจมาก “พี่ใหญ่ฉิน เป็นพี่ฉือโถวกับหนิงผิง! พวกเขามาตามหาพวกเรา พวกเรารอดแล้ว”
“หนิงผิง พี่ฉือโถว พวกเราอยู่นี่!” กู้เสี่ยวหวานรีบตอบเสียงดังจนทำให้ฝูงนกบนภูเขาตกใจจนกระพือปีกบินหนีไป
“พี่ฉือโถว ได้ยินหรือไม่ นั่นเสียงพี่สาวของข้า พี่สาวของข้า!” กู้หนิงผิงได้ยินเสียงที่คุ้นเคยหลังจากที่หวาดกลัวมาทั้งคืน ในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงพี่สาวของเขา
เมื่อได้ยินเสียงตอบรับ ฉือโถวกับกู้หนิงผิงก็รีบตามเสียงนั้นไป พวกเขาวิ่งไปทางที่พวกกู้เสี่ยวหวานอยู่