ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 564 ตามหาสุดชีวิต

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 564 ตามหาสุดชีวิต

บทที่ 564 ตามหาสุดชีวิต

ฝ่ามือของฉือโถวสั่นเทา หัวสมองของเขาว่างเปล่า ตอนนี้ไม่อาจคิดสิ่งใดออกได้

“ยังไม่รีบไปตามหานางอีก!” ฉินเย่จือคำรามเสียงดัง ในที่สุดฉือโถวก็หลุดจากภวังค์ หันไปมองฉินเย่จืออย่างสับสัน พยักหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมตอบรับหนึ่งเสียงและเตรียมวิ่งออกไป!

หากแต่ฉินเย่จือรีบขวางเขาเอาไว้ “เจ้ากลับบ้านไปก่อน นำเรื่องนี้ไปบอกแก่พ่อและแม่ของเจ้า และดูแลพวกเขาเอาไว้ หากกู้เสี่ยวหวานกลับมาก็ให้รีบมาบอกข้า!

“แล้วเจ้าจะไปที่ใด?” ฉือโถวถามโดยสัญชาตญาณ

“ข้าจะไปตามหานางบนภูเขา!” ฉินเย่จือกลัว กลัวจะเกิดเรื่องขึ้นเหมือนค่ำคืนวันนั้น หรือหากกู้เสี่ยวหวานเป็นกังวล คงจะซ่อนตัวสักแห่ง หากคาดไม่ถึง นางอาจจะเกิดหลงทาง เรื่องราวเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้!

ครั้นเห็นฉินเย่จือเอ่ยเช่นนี้ ฉือโถวจึงรีบพยักหน้าตอบรับ หลังจากนั้นก็วิ่งลงจากภูเขาทันที

ฉินเย่จือหรี่ตาลงและมองเข้าไปในหุบเขาขนาดใหญ่ด้วยความกังวล ความหวาดกลัวฉายชัดในแววตาของเขา

เสี่ยวหวาน เจ้าอยู่ที่ใดกัน?

ฉินเย่จืออกสั่นขวัญแขวน เขาสำรวจทั่วหุบเขาแห่งนี้อย่างกระวนกระวายใจ แม้แต่ชุ่นเดียวก็ไม่อาจะปล่อยไปได้ และเฝ้ามองอย่างระมัดระวังด้วยดวงตาเบิกกว้าง

หลังจากค้นหาเป็นเวลานาน หาทุกทั่วทุกซอกมุมของหุบเขา ตราบใดที่มันเป็นสถานที่ที่กู้เสี่ยวหวานสามารถซ่อนตัวได้ แม้แต่พุ่มไม้ ฉือเย่จือก็หามันทั้งหมด หากก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของกู้เสี่ยวหวาน

ฉินเย่จือกำหมัดแน่น หัวใจของเขาราวกับถูกกระชากเข้าไปในห้วงอากาศ หากไม่ใช่เพราะเขาพยายามควบคุมตนเอง เกรงว่าเขาจะกังวลจนร่างกายสั่นเทา

พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก ความมืดมิดมาเยือนหุบเขาแห่งนี้เร็วกว่าที่อื่น

ฉินเย่จือค้นหาทุกหนทุกแห่งบนหนทางขรุขระยากลำบากบนภูเขา ในหุบเขาแห่งนี้ นอกจากภูเขาสูงตระหง่านแล้ว ยังมีหน้าผาบางแห่ง และมีสัตว์ป่าบางชนิดที่ปรากฏตัวออกมา

ท้องฟ้ามืดสนิท แต่ว่ากู้เสี่ยวหวานยังไม่ปรากฏตัว

นางไปอยู่ที่ใดกัน?

อยู่ที่ใดกัน?

“กู้เสี่ยวหวาน… กู้เสี่ยวหวาน” ฉินเย่จืออยู่ท่ามกลางหุบเขารกร้าง พึมพำอย่างกระวนกระวาย แต่นอกจากเสียงสะท้อนจากอีกฟากหนึ่งของภูเขาที่สะท้อนกลับมา เสียงที่เขาตั้งตารอด้วยความหวังก็ไม่ได้ยินแม้แต่น้อย

ฉินเย่จือไม่เคยกังวลมากเท่านี้มาก่อน

เมื่อพบเจอกับหมาป่าคราที่แล้ว ฉินเย่จือกลัวกู้เสี่ยวหวานจะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องให้นางพ้นภัยอันตราย

เพียงแต่ครั้งนี้ แม้ว่าเขาอยากจะใช้ชีวิตเพื่อปกป้องความปลอดภัยของนาง หากแต่นางก็ไม่อยู่ให้ตนได้ปกป้อง แล้วเขาจะหานางได้ที่ไหน?

กู้เสี่ยวหวานหายไปไหนกันนะ?

หากนางเผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย หากนางตกหน้าผาได้รับบาดเจ็บ จะมีอะไรเกิดขึ้นกับนางหรือไม่?

ยิ่งฉินเย่จือคิดมากเท่าไรพลันยิ่งเป็นกังลวลมากขึ้นเท่านั้น เขาไม่เคยเป็นกังวลเกี่ยวกับใครมากเท่านี้มาก่อน

“เสี่ยวหวาน…” ฉินเย่จือกลับมายืนที่เดิม เดิมทีเขาหวังว่าจะเห็นร่างกายของกู้เสี่ยวหวานในที่เดียวกัน แต่นอกจากความมืดสนิทแล้วก็ไม่มีเงาผู้ใดเลย

ฉือโถววิ่งกลับบ้านอย่างรวดเร็ว และป้าจางก็ตำหนิว่า เหตุใดเขาถึงวิ่งด้วยความรวดเร็วเช่นนั้น และเกือบจะทำให้ป้าจางตกอกตกใจ

“ท่านพ่อ ท่านแม่ เสี่ยวหวาน … เสี่ยวหวานหายไปแล้ว” ฉือโถวหายหอบหายใจและพูดอย่างลำบาก นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวลอย่างมาก

ป้าจางเหลือบมองฉือโถวอย่างไม่เชื่อ “เจ้าว่าอย่างไรนะ?”

“ท่านแม่ เสี่ยวหวานไปแล้ว” ฉือโถวพูดอย่างกังวลอีกครั้ง

ลุงจางที่อยู่ข้าง ๆ หยุดงานในมือ และถามอย่างเป็นกังวลว่า “เจ้าเด็กคนนี้กำลังพูดอะไร เสี่ยวหวานหายตัวไปได้อย่างไร! เจ้าไม่ได้พานางขึนภูเขาไปหรอกหรือ?”

ฉือโถวก้มศีรษะเมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นพ่อ ดวงตาของเขาแดงก่ำ และกำลังจะร้องไห้ออกมา “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้า…”

“เจ้าอย่างเพิ่งโทษเขา” ป้าจางตระหนักถึงความจริงจังของเรื่องนี้ในเวลานี้ เมื่อป้าจางได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานหายตัวไป มือของนางก็สั่นเทา

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาโทษฉินเย่จือ และต้องหานางให้เจอโดยเร็วที่สุด!

“ฉือโถว ทำไมเสี่ยวหวานถึงหายไป เจ้าหานางเจอหรือไม่?” ป้าจางเทน้ำอุ่นหนึ่งแก้วให้ฉือโถว ครั้นนางเห็นฉือโถวดื่มมันเรียบร้อย จึงถามอย่างร้อนรน

“ข้าไปตักน้ำจากลำธารเล็ก ๆ ไม่ไกลนัก เมื่อกลับมาก็ไม่เห็นเสี่ยวหวานแล้ว ข้าคิดว่านางไปซ่อนตัวสักที่ หากแต่มองซ้ายมองขวาอยู่นานก็ไม่เห็นนางสักที!” ฉือโถวพูดด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย “ตอนแรกข้าคิดว่าเสี่ยวหวานคงกลับบ้านไปแล้ว เมื่อข้ากำลังจะออกจากเขาก็เห็นฉินเย่จือ เขาก็บอกว่านางไม่ได้กลับบ้าน…”

เมื่อฉือโถวพูดออกมา เขาก็ปิดหน้าและแทบจะร้องไห้ออกมา

เป็นเพราะเขาเอง ถ้าเขาไม่ได้อ้อยอิ่งอยู่ที่ลำธารนานขนาดนั้น เสี่ยวหวานก็คงไม่เป็นไร และเมื่อเขากลับไปก็จะต้องหานางเจออย่างแน่นอน

ฉือโถวหงุดหงิด เขาร้องไห้และทำหน้าบูดบึ้ง อยากจะตบตัวเองสักสองสามครั้ง

“ไม่ต้องห่วง เสี่ยวฉินอยู่ที่ไหน?” ลุงจางสงบลง ตอนนี้การตามหากู้เสี่ยวหวานให้พบโดยเร็วที่สุดคือสิ่งสำคัญที่สุด

“ฉินเย่จือบอกว่า เขากำลังจะไปตามหานางในหุบเขา เขาบอกว่าเขากลัวว่าถ้ากู้เสี่ยวหวานกลับมาในเวลานั้นแล้วจะเกิดความกลัวหากต้องอยู่คนเดียว จึงสั่งให้ข้ามาบอกพวกท่าน!” ฉือโถวเป็นกังวลมาก ไม่รู้ว่าฉินเย่จือหากู้เสี่ยวหวานเจอแล้วหรือยัง

“ไม่เป็นไร แยกย้ายกันไปตามหาเถอะ” ลุงจางพูดในขณะนั้น “ฉือโถว รีบไปที่หุบเขาแล้วช่วยเสี่ยวฉินตามหา ส่วนเจ้ารีบไปดูที่บ้านของเสี่ยวหวาน อย่ารบกวนเด็กทั้งสอง ถ้าพวกเขารู้ ข้าเกรงว่าพวกเขาจะร้องไห้และเป็นกังวล!”

ป้าจางตอบรับอย่างเป็นกังวล “ตกลง ข้าจะไปเดี๋ยวนี้!”

ป้าจางกำลังจะวิ่งออกไปข้างนอก แต่ลุงจางรีบหยุดนางไว้ และพูดด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง “ถ้าเจ้าไม่เห็นเสี่ยวหวานที่บ้านกู้ ให้เข้าไปที่เมืองและถามอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการหายตัวไปของเสี่ยวหวาน อย่าให้เรื่องกระจายไปเด็ดขาด”

หลังจากที่ลุงจางพูดจบ ป้าจางก็พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ข้ารู้ ไม่ต้องกังวล ข้าจะระวัง! ข้าจะไม่ให้คนอื่นรู้แน่นอน!”

หลังจากพูดจบ นางก็วิ่งไปทางหมู่บ้านทันที

ฉือโถวไม่กล้ารอช้าอีกต่อไป และรีบกลับไปที่เส้นทางเดิมและไปที่หุบเขาทันที

ณ หุบเขาแห่งนี้ แทบมองไม่เห็นสิ่งต่าง ๆ ฉือโถววิ่งเข้าไปในหุบเขาและตะโกนลั่นหุบเขาว่า “ฉินเย่จือ ฉินเย่จือ…”

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท