บทที่ 610 ไปดูการแสดงหน้าบ้านครอบครัวกู้
บทที่ 610 ไปดูการแสดงหน้าบ้านครอบครัวกู้
ครั้นกู้ฉวนลู่ได้ยินคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้าน เขาแทบจะเป็นบ้าและคำรามออกมา “ท่านหมายความว่าอย่างไร? ท่านต้องการให้ข้าปฏิบัติตามเงื่อนไขอะไร?”
กู้ฉวนลู่โกรธจัด หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงผู้นี้เป็นคนโลภมาก
“ข้ามีเงื่อนไขเพียงข้อเดียว เมื่อกู้จือเหวินของเจ้ามีอนาคตที่ดีก็ต้องสัญญาว่าจะต้องช่วยดึงต้าเปาของครอบครัวข้าไปด้วย นั่นเป็นเงื่อนไข!” เมื่อเห็นท่าทางโกรธเคืองของกู้ฉวนลู่ หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็รู้ว่าตนไม่สามารถทำให้เขาโกรธได้
ท้ายที่สุดเขาก็ยังต้องขอร้องกู้ฉวนลู่!
ทันทีที่กู้ฉวนลู่ได้ยินหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็พูดประโยคนั้น เดิมทีมีความคิดบ้าคลั่ง แต่ต้องระงับไว้ในขณะนี้ เขาจ้องมองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงอย่างโกรธเคือง สีหน้าของเขาดีขึ้นเล็กน้อย
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงกล่าวว่ากู้จือเหวินจะมีอนาคตที่ดี หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่ากู้ฉวนลู่มีความสุขแค่ไหน
“ได้! หากจือเหวินของข้ามีอนาคตที่ดี ข้าจะตกลงตามเงื่อนไขของเจ้า!” กู้ฉวนลู่กล่าว ตอนนี้เขาคิดว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจะพูดอะไรที่โลภมากกว่านี้ แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว เขาจะยังยกย่องจือเหวินของตน
กู้ฉวนลู่จึงยอมรับคำขอของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงโดยธรรมชาติ
ถ้าเขาไม่เห็นด้วย แสดงว่ากู้จือเหวินจะไม่มีอนาคตใช่หรือไม่?
“หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ไม่ต้องกังวลไป ในเมื่อท่านเอ่ยปากแล้ว ท่านก็กำลังมองหาทางออกที่ดีสำหรับหลานชาย ข้ามาที่นี่เพื่อรับรองกับท่านว่า ในอนาคตครอบครัวของข้า จือเหวินจะมีอนาคตที่ดี และข้าจะไม่ปล่อยให้ต้าเปาต้องทนทุกข์ ท่านวางใจได้!” กู้ฉวนลู่สาบาน
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็ยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ และมีความสุข “เอาล่ะ ถ้าเจ้าพูดเช่นนี้ ข้าจะช่วยเจ้าจนถึงที่สุด!”
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงบรรลุเป้าหมายแล้ว เขาจะไม่ช่วยอย่างถึงที่สุดได้อย่างไร?
ไม่เพียงแต่ได้ช่วยกู้ฉวนลู่ แต่ยังเป็นการรับประกันชื่อเสียงของเขาด้วย
ประการที่สอง ยังได้ที่ดินเป็นของตอบแทน และประการที่สาม กู้ฉวนลู่ก็ยังสาบานแล้ว
ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสามตัว นี่เป็นเรื่องที่ดี ถ้าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงไม่พยายามช่วยอย่างถึงที่สุดก็เกรงว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่สมควร!
“ตกลง ถ้าอย่างนั้นท่านก็ทำตามที่ข้าพูดเมื่อครู่ แล้วข้าจะรอข่าวดีจากท่าน…” ก่อนจากไป กู้ฉวนลู่ก็เตือนว่า “เรื่องนี้ยิ่งเสร็จเร็วยิ่งดี และข้าหวังว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงตั้งใจทำเรื่องนี้อย่างดี ผลประโยชน์จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับท่าน!”
กู้ฉวนลู่เลิกคิ้วด้วยความดีใจและพูดถึงสิ่งล่อใจ เมื่อได้ยินเรื่องนี้หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็มีสีหน้าดีมาก เขาเดินไปส่งกู้ฉวนลู่ที่ประตูบ้าน รอจนขึ้นบนรถม้า และมองดูจนรถม้าหายลับไปจากสายตาของเขา และขณะที่กำลังจะไปหาภรรยาของเขาก็บังเอิญเห็นเหลียงต้าเปาออกมาจากบ้าน เขาจึงเรียกอย่างรีบร้อน “ต้าเปา รีบไปหาย่าของเจ้า รีบเรียกย่าของเจ้ามาและบอกว่าข้ามีเรื่องด่วน!”
เหลียงต้าเปาถอนหายใจและพูดอย่างไม่พอใจว่า “ท่านปู่ ท่านย่าอยู่ที่บ้านของกู้เสี่ยวหวาน ถ้าท่านอยากหาท่านย่า ท่านก็ไปหาเองสิ!”
“ทำไมย่าของเจ้าถึงยังอยู่ที่นั่น… เฮ้… ต้าเปา เจ้า…” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงต้องการพูดอย่างอื่น และในชั่วพริบตาหลานของเขาก็วิ่งหนีไปอย่างไร้เงา
เดิมทีหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงอยากจะถามว่าทำไมย่าของเหลียงต้าเป่าถึงยังอยู่ที่บ้านของกู้เสี่ยวหวาน แต่เด็กคนนี้ก็กังวลแต่จะออกไปเล่นเสียจนฟังประโยคหนึ่งยังไม่จบก็รีบวิ่งออกไปอย่างไร้เงา
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงถอนหายใจและออกจากบ้าน ลงกลอนประตู จากนั้นเดินไปที่บ้านของกู้เสี่ยวหวาน
ระหว่างทางก็คิดถึงเรื่องครอบครัวของกู้เสี่ยวหวาน และสิ่งที่กู้ฉวนลู่พูดเมื่อครู่ จิตใจของเขาก็ว้าวุ่น!
ในขณะนี้ที่หน้าประตูบ้านของกู้เสี่ยวหวานก็มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น!
เมื่อครู่ ผู้หญิงที่บอกว่าฉินเย่จือเป็นฆาตกร และผู้หญิงที่ปฏิเสธได้ทะเลาะกัน
ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงอยู่ที่บ้านของกู้เสี่ยวหวาน และนางรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ชมการแสดงเช่นนี้
ผู้หญิงสองคนนั้น เจ้าตบข้า และข้าหยิกเจ้า เจ้ากระชากผมข้า ข้าข่วนหน้าเจ้า เจ้าฉีกเสื้อผ้าข้า และข้าก็ฉีกเสื้อผ้าของเจ้าเช่นกัน
ผู้หญิงสองคนนั้นสูสีกัน เพื่อไม่ให้พ่ายแพ้ พวกนางพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อเอาชนะกันและกัน
สงครามระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงครั้งนี้จะแบ่งความเป็นและความตายที่ไหนกัน ก็แค่เห็นหน้าดูไม่ดีเท่านั้น เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงมาถึง ลูกสะใภ้ของตระกูลจ้าวและตระกูลเฉียนต่างก็ผมเผ้ายุ่งเหยิง และเสื้อผ้าของพวกนางก็ขาดรุ่งริ่ง
เสื้อผ้าของคนสองคนถูกฉีกขาดจนสามารถมองเห็นเสื้อชั้นในได้ และคนรอบข้างโดยไม่คำนึงถึงเพศ อายุ และเด็ก ได้เห็นเหตุการณ์ที่รุนแรงเช่นนี้ และเลือดของพวกเขาก็กำลังเดือดพล่าน
“ลูกสะใภ้ตระกูลจ้าว อย่าปล่อยมือ ตบเลย ตบเลย!”
“ลูกสะใภ้ตระกูลเฉียน เจ้าตบให้แรงกว่านี้สิ ใช่แล้ว ตบเช่นนั้นแหละ!”
ทุกคนรอบตัวต่างคนต่างพูดราวกับกำลังให้กำลังใจลูกสะใภ้ตระกูลจ้าวและลูกสะใภ้ตระกูลเฉียนในสนามต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เสื้อผ้าขาดหมดแล้ว แต่ก็พวกนางไม่ได้สนใจ
ผู้ชายหลายคนจ้องตากัน และแน่นอนว่าพวกเขาไม่พลาดโอกาสที่จะมีช่วงเวลาที่ดี
“ดูสิ ลูกสะใภ้ตระกูลจ้าวขาวจริง ๆ!”
“ลูกสะใภ้ของตระกูลเฉียนก็ไม่ได้แย่ ดูเจ้านั่นสิ ทั้งใหญ่ทั้งกลม ข้าไม่คาดคิดเลยว่าลูกสะใภ้ตระกูลเฉียนจะมีของดีขนาดนี้ ปกติแล้วเสื้อผ้าที่นางใส่มองไม่เห็นอะไรเลย ขาวจนตาแทบบอด และหุ่นก็ยังดีอีก!”
กลุ่มคนกำลังพูดคุยกันอย่างไม่เข้าท่า ชี้นิ้วและพูดคุยเกี่ยวกับลูกสะใภ้ตระกูลจ้าวและลูกสะใภ้ตระกูลเฉียนที่ดูเหมือนจะบ้าไปแล้ว
มีแววตาลามกในดวงตาของพวกเขา และมีคนที่น้ำลายไหลลงมา พวกเขามองไปยังผู้หญิงสองคนในสนามอย่างหมกมุ่น
เมื่อกู้ฉวนลู่มาถึง เขาบังเอิญเห็นอู๋เอ้อร์โก่วจ้องมองตรงไปที่คนในสนาม
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงมองดู และเมื่อเขาเห็นชัดเจนว่าผู้คนในสนามเป็นอย่างไรในตอนนี้ เขาก็โกรธจัดทันทีและตะโกนว่า “หยุดเดี๋ยวนี้! ”
พวกนางดึงเสื้อผ้าชั้นในออก เผยให้เนื้อหนังมังสาบริเวณหน้าอก
ทั้งสองคนอายุเพียงสามสิบกลาง ๆ เท่านั้น และพวกนางอยู่ในวัยที่มีเสน่ห์สมบูรณ์แบบ และการต่อสู้ระหว่างทั้งสองทำให้ผู้ชายที่มุงดูอยู่น้ำลายไหลลงมา
มันเป็นอย่างไร? น่าอับอายและเป็นการดูถูกประเพณีของหมู่บ้าน!
ไม่ว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจะมองอย่างไร เขาก็หยุดทั้งสองคนทันที
ทั้งสองต่อสู้กันอย่างเต็มกำลัง โดยไม่รู้ว่าเสื้อผ้าบนตัวของพวกนางถูกอีกฝ่ายฉีกขาดจนเห็นชุดชั้นใน
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ความคิดกู้ฉวนลู่กับหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงนี่สุดโต่งเหลือเกินนะเนี่ย
ไหหม่า(海馬)