ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 623 ความสงสัยของป้าจาง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 623 ความสงสัยของป้าจาง

บทที่ 623 ความสงสัยของป้าจาง

ไม่น่าแปลกใจ พวกเขาทั้งหมดต่างบอกว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงบ้าไปแล้ว ซึ่งฮูหยินเหลียงบอกว่าอีกฝ่ายตกใจกลัวเพราะกู้เสี่ยวหวาน

เมื่อคนอื่นได้ยินเช่นนี้ พวกเขาจึงเชื่อในสิ่งที่ฮูหยินเหลียงกล่าว

ฮูหยินเหลียงพูดเรื่องเลวร้ายมากมายก็เพื่อให้คนเหล่านี้เกรงกลัวกู้เสี่ยวหวานของเขา

กู้หนิงผิงพูดถูก หลังจากที่ฮูหยินเหลียงขังพวกเขาไว้แล้ว นางก็กลับบ้านด้วยใบหน้าที่มีความสุข

กลับมาที่บ้าน หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงนั่งอยู่หลังโต๊ะกินข้าว

แม้ว่าจะยังมีสภาพยุงเหยิง แต่ก็ไม่มีความบ้าคลั่งเช่นเมื่อคืนนี้อยู่ ตัวคนดูปกติยิ่ง

เมื่อเห็นฮูหยินเหลียงกลับมา เขาก็เช็ดคราบน้ำมันออกจากปากแล้วพูดอย่างมีความสุขว่า “เสร็จแล้วหรือ”

“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ข้าได้ทำตามที่ท่านบอกทุกอย่างแน่นอน!” ฮูหยินเหลียงก็นั่งลง เพราะตอนเช้าพูดไปมาก ตอนนี้นางจึงคอแห้งผากเพราะกระหายน้ำ

หลังจากที่ฮูหยินเหลียงเทน้ำหนึ่งแก้วแล้วดื่ม นางรู้สึกว่าคอของนางเปียกชุ่ม

“เป็นอย่างไรบ้าง?” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงถามอย่างกระตือรือร้นเมื่อเห็นว่านางดื่มน้ำเสร็จแล้ว

“ข้าได้นำกู้เสี่ยวหวานไปขังไว้ในหอบรรพบุรุษแล้ว และบอกพวกเขาว่าอย่าส่งน้ำหรือข้าวเข้าไป ข้าจะดูว่าถ้าไม่ได้กินหรือดื่ม นางจะยังอวดเก่งได้หรือไม่” ฮูหยินเหลียงพูดอย่างภูมิใจ “ทางกู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้ ข้ายังสั่งคนให้ดูแลพวกเขาอย่างดี ไม่ให้กระหายน้ำและหิวโหย เด็กสองคนนี้เป็นทารกทองคำ ถ้าพวกเราอยากได้ทุ่งเหล่านั้น ในอนาคตเราต้องดูแลทารกทองคำสองคนนี้ให้ดี”

“เจ้าทำได้ดีมาก!” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงชมด้วยรอยยิ้ม ก่อนเอ่ยว่า “ทังป้านเซียนจะมาถึงเมื่อไร?”

ฮูหยินเหลียงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้าเป็นไปตามที่ข้าคาดเดาไว้ เขาก็น่าจะมาถึงอย่างเร็วที่สุดก็พรุ่งนี้เช้า”

“ก็ดี กู้ฉวนลู่จะกลับมาวันพรุ่งนี้ มาจัดการกับกู้เสี่ยวหวานให้เสร็จสิ้น ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างน่ากลัว!” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดอย่างกังวล

ต้องระวังผู้หญิงคนนี้ให้ดี!

“ทำตามที่ท่านว่า ถ้าไม่ใช่เพราะท่านบอก ข้าก็คงไม่รู้ ผู้หญิงคนนี้ช่างซ่อนตัวได้ลึกนัก” ฮูหยินเหลียงก็ทำหน้าไม่พอใจเช่นกัน

“รอให้ทังป้านเซียนมาพรุ่งนี้ มาดูกันว่าทังป้านเซียนจะว่าอย่างไร!”

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงตักข้าวต้มมาอีกคำหนึ่ง

เมื่อกู้เสี่ยวหวานตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนงงอีกครั้ง ข้างนอกก็มืดแล้ว

ยามค่ำคืน

กู้เสี่ยวหวานกำลังนอนอยู่บนพื้นเย็น นางรู้สึกร้อนไปทั่วตัว แต่กลับขยาดความหนาวเย็น

เลือดของสุนัขที่หกบนตัวของนางได้แห้งไปแล้ว มันมีกลิ่นเหม็น และผมก็ติดกันเป็นกระจุก แบบนี้ต่อให้ไม่ใช่ผีก็ต้องเป็นผีแล้ว

กู้เสี่ยวหวานแค่นหัวเราะอย่างจนใจ นางขดตัวและกอดตัวเองไว้แน่น

ร่างกายของนางร้อนอย่างน่ากลัว แต่นางกลับสั่นเทาจากความหนาวเย็น นางพยายามลืมตาขึ้น แต่เปลือกตากลับหนักอึ้งจนเปิดไม่ขึ้นเลย

ถ้าร่างกายของนางยังคงร้อนดั่งไฟไหม้แบบนี้ เกรงว่าสมองจะถูกเผาจนโง่

มันร้อนราวกับมีไฟออกมาจากลำคอของนาง นางรู้สึกอึดอัดนัก!

ไม่มีใครมาหานาง ไม่มีใครรู้ว่านางมีไข้สูงขนาดนี้

ถ้านางถูกไฟสุมอีกวัน นางคงไม่ได้ตายเพราะความกระหายและความอดอยาก แต่นางคงตายด้วยอาการป่วยเสียก่อน

กู้เสี่ยวหวานไร้เรี่ยวแรง สมองของนางวุ่นวายและนางก็คิดอะไรไม่ออกอีก

สัญชาตญาณเป็นเพียงอย่างเดียวทำให้นางตื่น แต่พิษไข้ที่แผดเผาได้พรากสติของนางออกไปแล้ว

หลังจากฝืนอยู่สองรอบ กู้เสี่ยวหวานก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป และคราวนี้นางหมดสติไปทันที

เมื่อทังป้านเซียนมาถึงหมู่บ้านอู๋ซีก็ถึงเวลาทานมื้อเช้าแล้ว

เมื่อได้ยินว่าทังป้านเซียนอยู่ที่นี่ ทุกคนที่รู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้จึงเข้ามาในบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง

ทังป้านเซียนมองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก่อนกลอกตา จากนั้นท่ามกลางความคาดหวังของทุกคนก็พูดว่า “เขาตกอยู่ในคุณไสย เกรงว่าจะเจอกับสิ่งที่ไม่สะอาดเข้า!”

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ ขนของพวกเขาก็ลุกชัน

ดูเหมือนว่ากู้เสี่ยวหวานจะเป็นปีศาจจริง ๆ!

ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร นางถูกขังไว้แล้ว

“ทังป้านเซียน เจ้าปีศาจตัวนี้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านของข้ามาปีกว่าแล้ว ช่วยกำจัดมันออกไปได้หรือไม่!” ฮูหยินเหลียงถามอย่างกังวลใจ ซึ่งดูชาวบ้านดูอยู่ก็เป็นห่วง ในใจก็มีคำถามเดียวกัน

ทังป้านเซียนลูบเคราของเขา คิดเกี่ยวกับมันและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ข้าอยู่ที่นี่ ทุกคนจะปลอดภัย!”

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ขับหนีไปได้ก็ดี ขับออกไปได้ก็ดี!” ฮูหยินเหลียงตบหน้าอกราวกับสบายใจในที่สุด

“การไล่ผีจะเริ่มเมื่อใด” ชาวบ้านข้าง ๆ เขาถาม

ทังป้านเซียนคำนวณแล้วกล่าวว่า “ในตอนกลางคืน เมื่อพลังของผีแรงกล้าที่สุด ข้าจะกลับมาร่ายคาถาและขับไล่ผีไป!”

“แล้วเราต้องเตรียมอะไรอีกหรือไม่” ฮูหยินเหลียงถาม

ทังป้านเซียนพยักหน้าและกระซิบบางคำ ขณะที่ฮูหยินเหลียงยังคงพยักหน้า

ทังป้านเซียนมองไปที่กลุ่มคนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

ทางป้าจางรู้สึกว่าสองวันนี้แปลกมาก

นางมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ ในหมู่บ้านในสองวันนี้

เมื่อนางไปที่บ้านของกู้เสี่ยวหวานเมื่อวานนี้ ประตูถูกปิดไว้และไม่มีใครอยู่บ้าน นางจึงคิดว่าพวกกู้เสี่ยวหวานเข้าไปในเมืองกัน

ป้าจางกลับบ้านไปโดยไม่คิดอะไรมาก แต่เมื่อนางกลับมาในวันรุ่งขึ้น ประตูบ้านของกู้เสี่ยวหวานยังคงปิดแน่น!

ในเวลานี้ ป้าจางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

นางเข้าไปในหมู่บ้านและถามคนบางคน แต่เมื่อคนเหล่านั้นได้ยินชื่อกู้เสี่ยวหวาน พวกเขาดูตกใจ ก่อนจะพึมพำและปฏิเสธที่จะพูดอะไรสักคำ

ป้าจางรู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับกู้เสี่ยวหวาน แต่นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ตอนนี้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากู้เสี่ยวหวานอยู่ที่ไหน

นางไปที่ร้านจิ่นฝูเพื่อทำบัญชีงั้นหรือ?

ป้าจางรีบกลับบ้านและเอ่ยความคิดของนางอีกครั้ง แต่ลุงจางยิ้มและบอกว่านางกังวลเกินไป

ป้าจางรู้สึกว่าสัญชาตญาณของนางไม่ผิด

แต่นางไม่สามารถบอกได้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน

ดังนั้นนางจึงได้แต่บอกให้ฉือโถวไปเยี่ยมที่บ้านของกู้เสี่ยวหวานเป็นครั้งคราวเท่านั้น

หลังจากพบฉือโถวไปดูหลายครั้งก็พบว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้กลับบ้าน

แต่เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลง เขาก็พบบางสิ่งที่แปลกประหลาด

ดังนั้นเขาจึงรีบกลับบ้านเพื่อบอกป้าจางถึงสิ่งที่เขาเห็นในหมู่บ้าน

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท