บทที่ 635 มาถึงร้านจิ่นฝู
บทที่ 635 มาถึงร้านจิ่นฝู
ฉินเย่จือยังคงเปลี่ยนผ้าเช็ดหน้าไม่หยุด เช็ดร่างกายของกู้เสี่ยวหวานแผ่วเบา เพื่อให้อุณหภูมิร่างกายของนางลดลง
อุณหภูมิร่างกายของกู้เสี่ยวหวานร้อนผ่าว
ตอนนี้นางสลบไสลไม่ได้สติ และไม่รู้ว่าป่วยมากี่วันแล้ว
นับตั้งแต่ฉินเย่จือช่วยกู้เสี่ยวหวานเอาไว้ ความกังวลในใจของเขาไม่เคยได้วางลง
ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าซีดเซียวของกู้เสี่ยวหวาน เขาขบริมฝีปากแน่นราวกับพยายามข่มอารมณ์โกรธที่คุกรุ่น
ถ้าไม่ใช่เพราะในตอนนี้กู้เสี่ยวหวานหมดสติ และกังวลเรื่องความปลอดภัยของนางจนไม่สามารถห่างนางไปได้แม้แต่ก้าว ไม่เช่นนั้น เขาจะต้องทำให้คนเหล่านั้นชดใช้ด้วยชีวิต!
หลี่ฝานมองดูด้วยความประหลาดใจ อ้าปากค้างจนสามารถใส่ยัดไข่เข้าไปทั้งใบได้ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง จนตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อเกินกว่าจะยอมรับ
เขามาอยู่ในหมู่บ้านอู๋ซีได้อย่างไร?
เขามักคิดอยู่เสมอว่า เหตุใดปีนี้นายน้อยถึงไม่มา ในปีที่แล้วเขาจะอยู่ที่ร้านจิ่นฝูในเมืองหลิวเจียเป็นเวลาสองวัน
ปีนี้เขาไม่มา จึงทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น หากแต่หาตัวเขาไม่พบจึงไม่ได้ถามไป ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่รอ
ครานี้ดีแล้ว ไม่ต้องตามหา ไม่ต้องเอ่ยถาม ไม่ต้องสืบหาข่าว คนที่คอยก็ได้มาปรากฏตัวถึงหน้าบ้าน
แต่ในสภาพแวดล้อมดังกล่าว
อุณหภูมิร่างกายของกู้เสี่ยวหวานสูงเกินไป เสียงคร่ำครวญบอกว่าไม่สบายตัว ฉินเย่จือราวกับเม่นที่มีหนามอยู่ทั่วร่างกาย ร่างกายของเขาแข็งเกร็ง จับมือนางอย่างประหม่าและจ้องมองอีกฝ่ายตาไม่กะพริบ
รถม้ามุ่งหน้ามาสู่เมืองหลิวเจียด้วยความรวดเร็ว หลังจากหยุดที่ทางเข้าร้านจิ่นฝูแล้ว หลี่ฝานก็กระโดดจากรถเป็นคนแรก
คืนนี้ เขาไม่ได้สั่งให้ร้านปิดก่อน เพราะกลัวว่าจะมีอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้น
ทันทีที่รถม้าหยุดลง คนรับใช้ที่ประตูร้านจิ่นฝูก็ออกมา เมื่อเห็นหลี่ฝานจึงตะโกนด้วยความเคารพทันทีว่า “ถ้าแก่…”
“เร็วเข้า เปิดประตูห้องรับรองชั้นสาม…” หลี่ฝานสั่งทันทีก่อนที่เขาจะพูดจบ
“ห้องไหนบนชั้นสาม?” คนรับใช้ตกตะลึงและเอ่ยถาม เมื่อเห็นใบหน้าที่ไม่พอใจของหลี่ฝาน ทันใดนั้นเขาก็จำได้และตบหัวของเขา “โอ้ โอ้ โอ้” หลังจากผ่านไปนาน เขาหันหลังกลับและวิ่งขึ้นไปชั้นบน
หลี่ฝานรออยู่ด้านล่างที่รถม้า เดิมทีเขาคิดว่าตนเองสามารถช่วยได้ หากแต่ฉินเย่จือกลับอุ้มกู้เสี่ยวหวานลงจากรถม้า โดยไม่ให้เขาแตะตัวกู้เสี่ยวหวานเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นพวกเขาเข้าไปข้างใน หลี่ฝานก็ตามหลังไปอย่างใกล้ชิด
คนรับใช้หน้าปประตูต่างตะลึงงันเมื่อเห็นฉินเย่จืออุ้มกู้เสี่ยวหวานเข้ามา
“หือ? แม่นางกู้ เกิดอะไรขึ้นกับแม่นางกู้?” คนรับใช้มักจะให้ความเคารพกู้เสี่ยวหวานอยู่เสมอ แต่เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดของนางเช่นนี้ เขาจึงตะโกนเสียงดัง
ฉินเย่จือตวัดสายตาคมกริบจ้องมองไปที่อีกฝ่าย สายตาของเขาเหมือนจะทำให้คนรับใช้ผู้นั้นตกลงไปในธารน้ำแข็ง เขาจึงรีบปิดปากสนิทและยืนตัวแข็งทื่อ
จากนั้นก็มองพวกเขาและวิ่งขึ้นไปชั้นบน
เมื่อพวกเขาไปถึงห้องรับรอง ฉินเย่จือก็วางกู้เสี่ยวหวานไว้บนเตียง ห้องนี้สะอาดสะอ้านไม่มีแม้แต่ไรฝุ่น
หลี่ฝานขอให้ผู้คนทำความสะอาดห้องนี้ทุกวัน เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน
ในที่สุดวันนี้ก็ได้ใช้แล้ว
เมื่อเห็นความสะอาดในห้องนี้ หลี่ฝานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หมอพานมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน
ร่างกายของกู้เสี่ยวหวานไม่ร้อนเหมือนเมื่อครู่ แต่อุณหภูมิก็ยังสูงจนน่าหวาดกลัว
หลังจากที่พบหมอพานแล้ว เขาก็พูดอย่างเร่งรีบว่า “เถ้าแก่หลี่ ข้าจะสั่งยาเดี๋ยวนี้ เจ้าสามารถส่งคนไปที่โรงหมอของข้าเพื่อรับยาได้ เมื่อกลับมาก็ให้ต้มน้ำ แล้วใส่ยาลงไปตอนที่น้ำยังร้อนอยู่
หลี่ฝานตอบรับฉับไว และสั่งให้คนรับใช้ที่อยู่ข้างนอกเข้ามา
หมอพานเขียนใบสั่งยา และคนรับใช้ก็รับไป
“แม่นางกู้มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป นางจะต้องเพิ่มน้ำให้ร่างกาย” หมอพานมองดูอย่างพึงพอใจ ขณะที่ฉินเย่จือหยิบน้ำอุ่นขึ้นมาหนึ่งถ้วยแล้วป้อนเข้าปากกู้เสี่ยวหวานอย่างระมัดระวัง
แม้ว่าเด็กคนนี้จะมีใบหน้าเย็นชา หากแต่หัวใจของเขาช่างละเอียดอ่อน
ผู้หญิงคนนี้ช่วยเขาอย่างไม่เปล่าประโยชน์
“หมอพาน เสี่ยวหวานจะฟื้นเมื่อไร?” หลี่ฝานเอ่ยถามอย่างกังวล
“มันยากที่จะพูด แม่นางกู้มีไข้สูงมาหลายวัน อีกทั้งวันนี้ยังถูกไฟคลอก ข้าวและน้ำก็ไม่ได้กิน ดังนั้นนางจึงอยู่ในอาการหมดสติ เกรงว่าต้องรออีกหลายวันกว่านางจะฟื้น ยิ่งกว่านั้น ต่อให้ฟื้นขึ้นมาก็ไม่อาจปฏิเสธความเป็นไปได้ที่สมองจะโดนเผาได้!” หมอพานถอนหายใจแผ่วเบา และพูดด้วยความรัก
สมองโดนเผา?
หัวใจของหลี่ฝานเต้นแรง ในเวลานี้ เขาและหมอพานต่างก็อยู่ข้างนอก มีม่านหนาทึบกั้นสายตาของพวกเขา พวกเขาจึงไม่สามารถมองเห็นผู้คนภายในได้ แต่ระหว่างทางจะเห็นได้ว่าฉินเย่จือปฏิบัติต่อกู้เสี่ยวหวานด้วยความระมัดระวังเพียงใด
ไม่ต้องกังวลไป เมื่อมีนายท่านอยู่ กู้เสี่ยวหวานจะปลอดภัย!
อย่างไรก็ตาม หากสมองโดนเผาจริง ๆ แม้ว่านายท่านจะสูงศักดิ์เพียงไหน มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของหลี่ฝานก็เต้นแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า และอธิษฐานให้กู้เสี่ยวหวานเป็นคนที่โชคดีและจะต้องดีขึ้นในไม่ช้า
ในเวลานี้ ฉินเย่จือไม่ต้องการคิดอะไร เขามีความคิดเดียวในใจคือ ขอให้กู้เสี่ยวหวานหายป่วยเร็ว ๆ
ร่างกายของนางยังคงร้อนจัด
หัวใจของเขายังคงเต้นแรง มันไม่สงบลงเลยสักนิด
เดิมทีคิดว่านางเพิ่งเจอเรื่องร้ายมา เขาจะต้องปกป้องความปลอดภัยของนางอย่างแน่นอน แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขายังคงทำร้ายนาง
เขาเกลียดมันมาก!
ฉินเย่จือต้องการฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นั่นเพื่อล้างแค้นให้กู้เสี่ยวหวาน
คนโง่เขลาเหล่านั้นบอกว่ากู้เสี่ยวหวานถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง!
มันไม่สมเหตุสมผลเลยจริง ๆ
เมื่อกู้เสี่ยวหวานตื่นขึ้นมา เขาจะพาทุกคนที่ทำร้ายกู้เสี่ยวหวานในเวลานั้นมาคิดบัญชีทีละคนอย่างแน่นอน
ฉินเย่จือกำหมัดแน่น แต่กลัวว่าท่าทางของเขาในขณะนี้จะทำให้กู้เสี่ยวหวานที่กำลังหลับใหลอยู่นั้นหวาดกลัว ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงสงบสติอารมณ์ และมองดูนางด้วยความอ่อนโยน
ใบหน้าซีดเซียวไร้เลือดฝาด
เนื่องจากเขาให้กู้เสี่ยวหวานกินน้ำตลอดเวลา ริมฝีที่ปากแห้งผากของนางจึงชุ่มชื้นขึ้นมาก ไม่น่ากลัวเหมือนเมื่อครู่
ริมฝีปากแห้งผากแตกระแหง เผยให้เห็นเลือดไหลซิบซึมออกมา
บ้าเอ้ย!