ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 653 ใครใช้ให้นางคลอดเด็กไม่มีประโยชน์มาล่ะ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 653 ใครใช้ให้นางคลอดเด็กไม่มีประโยชน์มาล่ะ

บทที่ 653 ใครใช้ให้นางคลอดเด็กไม่มีประโยชน์มาล่ะ

ก่อนที่คำพูดจะจบลง และยังมีคำพูดมากมายที่นางอยากจะเอ่ยออกมา พลันใดนั้นก็ได้ยินเสียงและแถบไม้ไผ่ก็ตบปากของเหมียวซื่อ

เหมียวซื่อจะทนได้อย่างไร นางรู้สึกว่าหลังจากตีสองครั้ง แก้มทั้งหมดไม่ใช่ของตนเองอีกต่อไป เลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก และหลังจากนั้นนางก็หมดสติไป

เมื่อเด็กสองคนที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้น พวกเขาร้องไห้และคร่ำครวญว่าจะไปหาเหมียวซื่อ แต่คราวนี้ เหมียวเอ้อร์กลับมารู้สึกตัว และกอดทั้งสองคนแน่นไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป

“การดูถูกเจ้าหน้าที่ศาล การตบหน้าเพียงไม่กี่ครั้งถือว่าเป็นโทษสถานเบาสำหรับความผิดทางอาญา!” ลวี่เทาดูเหมือนจะอธิบายให้ทุกคนฟัง ราวกับว่าการลงมือของเขาเป็นประโยชน์อย่างมากต่อเหมียวซื่อ

ก่อนที่นางจะหมดสติไป เหมียวซื่อไม่เคยนึกเลยว่าลวี่เทาที่ไล่ตามนางมาตลอด จู่ ๆ ก็สั่งให้คนมาทำร้ายนางอย่างโหดร้ายเช่นนี้

นางมองเห็นความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวอันผิดปกติบางอย่างจากดวงตาของลวี่เทา ซึ่งเป็นความรู้สึกระหว่างชายและหญิงเท่านั้น

นางคิดว่าลวี่เทากำลัง…

แต่เหมียวซื่อไม่รู้ว่าตนเองที่เป็นผู้หญิงที่ให้กำเนิดลูกสองคนแล้วจะสามารถเทียบกับหมวกอูซาบนหัวของลวี่เทาได้อย่างไร

เมื่อต้องเผชิญกับชื่อเสียงและโชคลาภ ความงามมักเป็นทางเลือกที่สองของมนุษย์

เหมียวซื่อหมดสติไปทันที นั่นทำให้ทุกคนอ้าปากค้าง

เมื่อซูหมางเห็นเช่นนั้น เขาไม่ได้มีท่าทีอะไรและเอ่ยว่า “ข้าได้มอบบุคคลนี้ให้ใต้เท้าลวี่แล้ว ดังนั้นข้าขอตัว!”

หลังจากที่ซูหมางพูดจบก็หมุนกายจากไป แต่ลวี่เทายังมีเรื่องมากมายที่ต้องการพูดออกมา แต่ยังไม่ทันปริปาก แผ่นหลังของชายผู้นั้นก็หายลับไปจากสายตา

นี่… นี่… นี่…

ครั้นมองไปยังเหมียวซื่อและเหมียวเอ้อร์ ลวี่เทาพลันรู้สึกเป็นกังวล เขากลับมานั่งลงประจำตำแหน่งอีกครั้ง ทุบโต๊ะเสียงดังและเอ่ยอย่างเฉียบขาด “เหมียวเอ้อร์… เจ้าจงพูดความผิดทั้งหมดของเจ้าออกมาเสีย!”

ซูหมางบอกว่าเหมียวเอ้อร์เคยก่อคดีฆาตกรรม ดังนั้นเขาจะต้องแสดงท่าทีเพื่อปกปิดความผิดของตนเอง

“เหมียวเอ้อร์ เจ้าสมควรตาย คืนชีวิตของลูกสาวข้ามา!” เมื่อเห็นว่าในที่สุดลวี่เทาก็เอ่ยปาก เซี่ยเหอซื่อก็พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับคำรามเสียงดัง ราวกับต้องการฉีกเนื้อเหมียวเอ้อร์

อย่างไรก็ตาม เหมียวเอ้อร์ปล่อยให้เซี่ยเหอซื่อทำร้ายตัวเองโดยไม่ขยับเขยื้อน

เขาเพียงแค่กอดเด็กสองคนไว้ในอ้อมแขนของเขาแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้เซี่ยเหอซื่อทำร้ายพวกเขา!

ลูกคือชีวิตของเขา!

เมื่อเซี่ยเหอซื่อเห็นว่าเหมียวเอ้อร์ไม่แยแสนางและปกป้องเด็กสองคนในอ้อมแขนของเขาอย่างสิ้นหวัง ครั้นคิดถึงความตายอันน่าเศร้าของลูกสาวและหลานสาวที่ถูกสัตว์ร้ายตัวนี้ฆ่าโดยยังไม่ทันได้ลืมตา เซี่ยเหอซื่อก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก

นางดึงเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนของเหมียวเอ้อร์ออกมาอย่างไม่คาดคิด

เด็กที่ถูกเหมียวเอ้อร์กอด ถูกเซี่ยเหอซื่อดึงแขนไว้แน่นและร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว

เมื่อเห็นท่าทางของลูกชาย เหมียวเอ้อร์ก็รีบสะบัดแขนเสื้ออย่างรุนแรง “เซี่ยเหอซื่อ เจ้าปล่อยมือเสีย! อย่าแตะต้องลูกชายของข้า!”

มือของเซี่ยเหอซื่อได้รับบาดเจ็บจากแรงสะบัดของเหมียวเอ้อร์ เมื่อเห็นว่าในที่สุดเขาก็เอ่ยปากนางจึงหัวเราะและพูดว่า “เหมียวเอ้อร์ เจ้าก็รู้ว่าความรักอย่างสุดซึ้งเป็นเช่นไร! แล้วในตอนที่เจ้าฆ่าลูกสาวของข้า เจ้าเคยคิดเรื่องนี้หรือไม่ว่านางก็ถูกเลี้ยงดูมาโดยพ่อแม่ของนางเช่นกัน? และเด็กน้อยคนนั้นนางก็เป็นลูกแท้ ๆ ของเจ้า เจ้ายังกล้าทำพวกนางได้ลงคอ!”

“ใครใช้ให้นางคลอดเด็กไม่มีประโยชน์ออกมาล่ะ!”

ทันทีที่สิ้นเสียงของเหมียวเอ้อร์ เรื่องนี้ราวกับว่าเขาสารภาพออกมาเอง

ทุกคนส่งเสียงร้องฮือฮา หากแต่มันเกิดขึ้นแล้ว และความคับข้องใจก็สิ้นสุดลง

เหมียวเอ้อร์ประหม่าเกินไป เมื่อกลับมาได้สติอีกครั้ง เขาก็ตระหนักได้ว่าตนเองพูดอะไรออกไป

ใบหน้าดุร้ายน่ากลัวเห็นเพียงเซี่ยเหอซื่อพุ่งเข้ามาทำร้ายตนเอง ทั้งเตะ ทั้งต่อย “ไอ้สารเลว ข้าจะฆ่าเจ้า ไอ้สารเลว!”

เมื่อลวี่เทาเห็นว่าเรื่องนี้จบลงแล้ว เขาก็ไม่มีสิ่งใดจะพูดอีก เมื่อน้ำลดตอก็ผุด ความจริงก็เปิดเผยออกมา เหมียวเอ้อร์ยังไม่ตายและถูกส่งไปเขตหมินซานเพราะเรื่องยักยอกเงินจากร้านจิ่นฝู และเมื่อห้าปีที่แล้วเขาก็ฆ่าภรรยาและลูกสาวของเขาเองอีก

เรื่องราวเหล่านี้จบลงแล้ว และไม่จำเป็นต้องปกป้องเหมียวเอ้อร์อีกต่อไป

เขาทำได้เพียงนั่งอยู่บนนั้น มองดูเซี่ยเหอซื่อที่กำลังทุบตีเหมียวเอ้อร์อย่างเย็นชา

เซี่ยเหอซื่อที่สูญเสียลูกสาวและหลานสาวไป ความเกลียดชังในใจแปรเปลี่ยนเป็นโทสะอันยิ่งใหญ่ และใครก็ตามที่อยู่ข้าง ๆ นางก็ไม่สามารถหลบหนีได้

อย่ามองเพียงเซี่ยเหอซื่อเป็นคนผอมบาง คนที่เคยทำไร่ลงนาล้วนแข็งแกร่ง นางต้องทนอยู่กับความทุกข์ระทมมานานหลายปี เพราะลูกสาวของนางเสียชีวิตอย่างอธิบายไม่ได้ อีกทั้งยังเสียหลานสาวที่ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า เซี่ยเหอซื่อพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อฆ่าเหมียวเอ้อร์

เด็กสองคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเหมียวเอ้อร์ก็ไม่สามารถหลบหนีได้ไม่ว่าจะเป็นหมัดหรือฝีเท้า

ทุกคนมองดูอย่างเย็นชา และไม่มีผู้ใดกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหมียวเอ้อร์

และคนที่ตะโกนว่าพวกเขาต้องการคว่ำบาตรร้านจิ่นฝูเมื่อครู่ก็เพิ่งเดินจากไปด้วยความละอายแก่ใจ

ภายในห้องพิจารณาคดีเมื่อครู่เนืองแน่นด้วยฝูงชน ตอนนี้กลับเบาบางลง และเหลือเพียงแค่คนที่มารอชมความสุขเท่านั้น

เมื่อเห็นเซี่ยเหอซื่อดูเศร้าและโกรธ พวกเขาก็ส่งเสียงตะโกน

“ตบได้ดี ตบไอ้เวรนี่ให้ตายไปเสีย! หัวใจช่างโหดร้าย! แม้แต่ภรรยาและลูกสาวของเขาก็ไม่เว้น!”

“และยังมีเหมียวซื่อ ไม่รู้ว่านางรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นหรือไม่”

หนึ่งในนั้นชี้ไปที่เหมียวซื่อที่หมดสติ และออกความเห็น

เซี่ยเหอซื่อที่บังเอิญด้ยิน นางหันหลังกลับ ยกเท้าขึ้น และเหยียบหน้าอกของเหมียวซื่อ

“อ้าก…” เหมียวซื่อรู้สึกได้ถึงความเจ็บบริเวณหน้าอก นางพลันฟื้นขึ้นมาและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด นางขดตัวงอเหมือนกุ้งต้มพลางกรีดร้องอย่างทรมาน

ครั้นเห็นเซี่ยเหอซื่อเสียสติไปแล้ว และเอาแต่เตะตนเองด้วยความโกรธเคือง เหมียวซื่ออยู่ในอาการเจ็บปวดจึงคิดได้เพียงว่าจะต้องหลบหลีกไปให้พ้นเท่านั้น แต่ตอนนี้นางได้รับบาดเจ็บ นางจะหลบเลี่ยงเซี่ยเหอซื่อกำลังโกรธแค้นได้อย่างไร เสื้อผ้าบนร่างกายของนางถูกฉีกขาดเผยให้เห็นเสื้อชั้นใน

เหมียวซื่อรู้สึกหนาวเหน็บ เมื่อเห็นว่าร่างกายส่วนบนของนางตอนนี้มีเหลือเพียงแค่เสื้อชั้นในเท่านั้น นางจึงกรีดร้องออกมา

ลวี่เทาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป จึงทุบค้อนเสียงดัง “พอแล้ว เซี่ยเหอซื่อ!”

เซี่ยเหอซื่อรู้สึกเหนื่อยล้าเช่นกัน การต่อสู้เมื่อครู่ทำให้นางโล่งใจจริง ๆ!

แค่นางยังคงต้องเฝ้าดูคนเหล่านี้ได้รับผลกรรม เช่นนั้นนางก็จะสามารถล้างแค้นให้ลูกสาวของนางได้สักที!

หมวกอูซา 乌纱帽

https://zh.wikipedia.org/wiki/%E4%B9%8C%E5%B8%BD

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท