ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 654 อดีตของเหมียวซื่อ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 654 อดีตของเหมียวซื่อ

บทที่ 654 อดีตของเหมียวซื่อ

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เซี่ยเหอซื่อก็ทรุดตัวลงกับพื้น “ใต้เท้า ท่านต้องตัดสินเพื่อลูกสาวของข้า!”

ลวี่เทาเหลือบมองเหมียวซื่อที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง จึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

“เหมียวเอ้อร์ เจ้าทำสิ่งนี้คนเดียวหรือว่าเจ้ามีผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่นอีก!”

เหมียวเอ้อร์รู้ว่าสิ่งที่รอเขาอยู่คือการบั่นหัว เขากำลังจะตาย มันจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กสองคนนี้หลังจากเขาถูกประหารชีวิต เขาทำได้เพียงฝากความหวังไว้กับเหมียวซื่อ เขามองเหมียวซื่ออย่างลึกซึ้ง แล้วคุกเข่าลง “ข้าน้อยทำมันเพียงผู้เดียว นางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันเรื่องนี้!”

“ใช่แล้ว! ข้าไม่รู้เรื่องนี้ ข้าไม่รู้เลยสักนิด!”

ว่านฟางไม่รู้เรื่องจริง ๆ

นางไม่คาดคิดว่าความหวังทั้งหมดของนางที่อยู่ที่เหมียวเอ้อร์ ตอนนี้สถานการณ์กลับตาลปัตร นางมองเห็นเหมียวเอ้อร์ที่มีผมกระเซิง หนวดเคราบนใบหน้ารุงรัง นางก็รู้สึกสะอิดสะเอียน

เหมียวเอ้อร์ที่อยู่ตรงหน้าทั้งดำทั้งผอม ไม่เหลือความน่าชื่นชมที่นางเคยมีเมื่อเห็นเขาเป็นครั้งแรก

เพราะเหมียวเอ้อร์อยากจะโดดเด่นอยู่เสมอ เขาจึงไม่แต่งงานจนกว่าจะสอบผ่าน เขาเข้าร่วมการสอบอยู่เรื่อย ๆ หากแต่ก็สอบไม่ผ่าน เขาจึงยอมพ่ายแพ้และแต่งงานตอนอายุเกือบสามสิบปี เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว เขาได้แต่งงานกับเซี่ยชิวเฉ่าเป็นครั้งแรก และปีถัดมาเขาก็เจอกับเหมียวซื่อ…

ภายในร้านจิ่นฝู

ในขณะนั้น เหมียวเอ้อร์สวมชุดยาวยืนอยู่ด้านหลังร้านจิ่นฝู กำลังดีดลูกคิดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา คนอื่น ๆ เรียกเขาว่าคุณชายเหมียวด้วยความเคารพ เนื่องจากเขาเป็นลูกคนที่สองจึงเรียกเขาว่าเหมียวเอ้อร์

แซ่เดิมของเหมียวซื่อคือแซ่ว่าน และมีชื่อเพียงตัวอักษรเดียวคือฟาง ตอนนั้นนางอายุเพียงแค่สิบหกหรือสิบเจ็ดปีเท่านั้น และตอนนั้นเองเป็นช่วงเวลาที่หัวใจของนางกำลังแตกหน่อ

หลังจากเข้าไปในร้านจิ่นฝู นางก็เห็นเหมียวเอ้อร์ผู้ซึ่งเป็นเหมือนดวงดาวที่โดดเด่นในแวบแรก

ครอบครัวของว่านฟางเป็นครอบครัวที่ยากจน และนางไม่สามารถกินอาหารมื้อใหญ่ได้ตลอดทั้งปี นี่เป็นครั้งแรกที่นางเข้ามาในร้านอาหารดี ๆ เช่นนี้

เมื่อเห็นเหมียวเอ้อร์ยืนอยู่หลังโต๊ะ ดีดลูกคิดพลางหยอกล้อกับแขกด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ว่านฟางก็รู้สึกชื่นชมเขาขึ้นมาทันที

ต่อมานางพบว่าเหมียวเอ้อร์เป็นคนทำบัญชีของร้านจิ่นฝู และก็ได้ยินมาว่าเดิมทีเขาเป็นคนมีการศึกษาและเป็นบัณฑิต ว่านฟางรู้สึกประทับใจยิ่งขึ้น ครอบครัวของว่านฟางเป็นครอบครัวยากจน หากนางสามารถแต่งงานกับเหมียวเอ้อร์ได้ ชีวิตนางก็จะต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ต่อมานางก็พบว่าเขามีภรรยาแล้ว พวกเขาแต่งงานกันมานานกว่าหนึ่งปี แต่ก็ยังไม่อาจให้กำเนิดบุตรได้ ดังนั้นนางจึงมีแผนการขึ้นในใจ

ร้านจิ่นฝูเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมืองหลิวเจีย ถ้าไม่มีเงินก็อย่าแม้แต่จะคิดย่างกรายเข้าไป แต่ถ้านางสามารถเป็นภรรยาของเหมียวเอ้อร์ได้ นางก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าอาหารและเสื้อผ้าอีกต่อไป

ด้วยเงินทองและชื่อเสียง คนอื่น ๆ จะเรียกตนเองว่าเหมียวซื่อ

ช่างเป็นเกียรติยิ่งนัก

ว่านฟางตกอยู่ในภวังค์ของตนเองมากจนเอาแต่คิดว่าจะปีนขึ้นไปบนเตียงของเหมียวเอ้อร์ได้อย่างไร เหมียวเอ้อร์ไม่มีลูก ดังนั้นนางจะให้กำเนิดลูกแก่เขา และนางจะต้องให้กำเนิดลูกชายเท่านั้น

ในที่สุด เมื่อนางได้ติดต่อกับเหมียวเอ้อร์ สวรรค์ก็ปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี เพียงหนึ่งครั้งนางก็ตั้งครรภ์ และยังเป็นลูกชายอีกด้วย

เหมียวเอ้อร์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

อย่างไรก็ตาม หลังจากหัวเราะอย่างพอใจ เขาก็ลังเลอีกครั้ง เพราะเซี่ยชิวเฉ่าก็ตั้งครรภ์เช่นกัน

ตอนนี้เหมียวเอ้อร์อยู่ที่เมืองหลิวเจียและถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เขาจะให้คนอื่นรู้ได้อย่างไรว่าเขามีลูกนอกกฎหมายหรือว่าเขาให้กำเนิดลูกกับคนอื่นก่อนภรรยาของเขา ถ้าหลี่ฝานรู้เรื่องนี้จะต้องเลิกจ้างตนเองอย่างแน่นอน

ดังนั้นเหมียวเอ้อร์ยังคงรอ

เมื่อลูกของเซี่ยชิวเฉ่าเกิด แต่เขาไม่ได้ตั้งตารอเด็กคนนี้จริง ๆ เดิมทีเคยคิดว่าจะใช้เหตุผลเจ็ดประการ*[1] เพื่อหย่ากับเซี่ยชิวเฉ่า แต่เมื่อนางตั้งครรภ์ อีกทั้งยังเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำสิ่งไร้หัวใจได้

ในเวลานั้น ว่านฟางพยายามอดทนอย่างเต็มที่เพื่อแสดงให้เห็นว่านางไม่ต้องการสถานะอะไร นางเป็นคนนอกและเลี้ยงลูกอย่างใจเย็น

เหมียวเอ้อร์รู้สถานการณ์ดีและรู้สึกเสียใจต่อว่านฟาง ดังนั้นหลังจากกลับถึงบ้าน เมื่อเขาเห็นเซี่ยชิวเฉ่าก็ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตา

ในที่สุด การตั้งครรภ์ก็ผ่านพ้นไป เซี่ยชิวเฉ่าไม่มีชีวิตที่ดีเช่นนั้น นางให้กำเนิดเด็กผู้หญิง นั่นทำให้เหมียวเอ้อร์ไม่มีความสุข และโดยไม่คำนึงถึงเซี่ยชิวเฉ่า เขาไปหาว่านฟางในตอนกลางคืนและบอกนางเกี่ยวกับเรื่องนี้

เมื่อว่านฟางได้ยินว่าเซี่ยชิวเฉ่าให้กำเนิดลูกสาว นางก็มีความสุขมากจนแทบจะคุกเข่าลงและขอบคุณสวรรค์ ว่านฟางยับยั้งความตื่นเต้นและปลอบโยนเหมียวเอ้อร์ที่ไม่สบายใจอย่างไม่เห็นแก่ตัว

เมื่อเหมียวเอ้อร์เห็นว่าผู้หญิงคนนี้อ่อนโยนมาก และนางก็ให้กำเนิดลูกชายแก่เขาโดยไม่สนใจสถานะอะไร เมื่อสมเหตุสมผลเช่นนี้แล้วยังต้องพูดอะไรอีก!

ความคิดชั่วร้ายพลันเกิดขึ้น เขาไม่ได้พูดอะไรกับว่านฟางอีก ก่อนจะกลับบ้านไปด้วยใบหน้ามืดมิด

วันรุ่งขึ้น ว่านฟางได้ยินข่าวว่าเซี่ยชิวเฉ่าตกเลือด และเด็กก็ไม่หายใจ

ว่านฝางไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางแค่คิดว่าสวรรค์กำลังช่วยนางให้ปราศจากสิ่งกีดขวาง ในสามเดือน ว่านฟางรู้สึกว่าวันดี ๆ ของนางกำลังจะมาถึง

สามเดือนต่อมา เหมียวเอ้อร์แต่งงานกับว่านฟาง และถึงกับโกหกว่าเด็กที่อายุเกือบหนึ่งขวบนั้นเพิ่งเกิดมา และพาลูกชายคนโตกลับบ้าน

สองปีต่อมา ว่านฟางได้ให้กำเนิดลูกชายอีกหนึ่งคน คราวนี้ตำแหน่งของนางในตระกูลเหมียวมั่นคงเท่ากับภูเขาไท่

เดิมทีทุกอย่างเหมือนกับว่าสวรรค์ได้ปูทางให้ว่านฟาง และขจัดอุปสรรคทั้งหมดออกไป ว่านฟางรู้สึกว่าตอนนี้นางใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมาก

มีรายได้คงที่ทุกเดือนและได้ประโยชน์จากร้านอาหารในช่วงเทศกาล บางครั้งเหมียวเอ้อร์จะพาตนเองไปที่ร้านจิ่นฝูเพื่อทานอาหารสองสามมื้อ เมื่อมองไปที่คนรับใช้ที่คอยปรนนิบัติตนเอง ว่านฟางก็รู้สึกว่าที่ชีวิตของนางเป็นเช่นนี้เพราะชาติก่อนนางศรัทธาในพระพุทธเจ้าและทำความดีมามาก

แต่บัดนี้เมื่อมองดูสถานการณ์กำลังเผชิญ นางคงไม่ได้ศรัทธาพระพุทธเจ้ามากหรอก แต่ศรัทธาพระพุทธเจ้าผิดองค์มากกว่า

ต่อจากนี้ชีวิตของนางจะเปลี่ยนไปในทางที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

นี่ไม่ใช่สิ่งที่นางคิดเอาไว้

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หัวใจของเหมียวซื่อก็ยิ่งเศร้า นางก้าวไปข้างหน้าและทุบตีเหมียวเอ้อร์ “ไอ้สารเลว แม้แต่ภรรยาและลูกสาวของตัวเองเจ้ายังไม่เว้น! เจ้ายังเป็นคนอยู่หรือไม่!”

*[1] เหตุผล 7 ประการที่สามีสามารถหย่ากับภรรยาได้

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท