ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 751 ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างพ่อและลูกสาว

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 751 ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างพ่อและลูกสาว

บทที่ 751 ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างพ่อและลูกสาว

แต่หลังจากค้นหาทั่วทั้งบ้านแล้ว นอกจากอาหารก็ไม่มีเงินแม้แต่เหรียญเดียว

กู้ฉวนลู่รู้สึกคับข้องใจ และท้ายที่สุดเขาก็จุดตะเกียงน้ำมันในบ้านของกู้เสี่ยวหวาน และปล่อยให้ไฟลุกไหม้เผาบ้านหลังนั้น

นอกจากนี้ ยังนับว่าเป็นเรื่องที่ดีอีกด้วย โดยกล่าวว่าวิญญาณชั่วร้ายจะถูกเผาไปกับบ้านหลังนี้โดยธรรมชาติ

ทุกคนในหมู่บ้านล้วนเชื่อในคำพูดของเขาทั้งหมด

เคราของกู้ฉวนลู่เกือบจะตั้งขึ้นด้วยความโกรธเคือง

คนที่โต๊ะอาหารยังคงพูดถึงว่าบ้านของกู้เสี่ยวหวานสร้างได้ดีเพียงใด สวยงามขนาดไหน และงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ในวันนี้เป็นอย่างไร คนผู้นั้นไม่ใช่เพิ่งผ่านไป แต่เขาไปที่ภูเขาโดยตั้งใจเพื่อไปดูงานมงคลของคนอื่น จากนั้นก็จากไป

ยิ่งกู้ฉวนลู่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไร หัวใจพลันรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเท่านั้นราวกับว่าเขากินของแสลงเข้าไป

ซุนซื่อยังคงถูกจองจำในห้องคุมขัง ช่วงนี้เขาจึงรับหน้าที่เป็นทั้งบิดาและมารดาให้กับลูก ๆ เขาเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด

ดูเหมือนว่าตนเองคงต้องพาซุนซื่อออกมาให้เร็วที่สุด!

แต่เขาจะทำอย่างไร? กู้ฉวนลู่รู้สึกอึดอัดใจมากที่เจียงหย่วนไม่ปรากฏตัวที่ร้านอาหารเลยสักครั้ง ไม่เพียงแต่ไม่มาที่ร้านอาหารเท่านั้น แต่ดูเหมือนเขาก็จะไม่ไปที่ร้านจิ่นฝูด้วยเช่นกัน

ไม่รู้ว่าเจียงหย่วนเปลี่ยนไปหรือไม่!

หากแต่มันเร็วเกินไป

ตกกลางคืน… กู้ฉวนลู่อ้างว่าเกิดเรื่องวุ่นวายที่บ้าน จึงขอตัวกลับก่อน

ครั้นกลับมาถึงบ้าน ภายในห้องโถงมืดสนิท ไม่มีผู้ใดจุดตะเกียงให้ความสว่างเลยแม้แต่น้อย

กู้ฉวนลู่รู้สึกโมโหโกรธเคือง เขาจำต้องใช้แสงจันทร์ในการนำทาง ย่างก้าวของเขารวดเร็ว เมื่อมองเห็นทางได้ไม่ชัดเจน ดังนั้นเขาจึงพยายามไม่ให้ตกจากขั้นบันได

กู้ฉวนลู่ตรงปรี่มาที่ลานหลังบ้านด้วยความโกรธ ทันทีที่เขาเข้าไปในลานก็เห็นว่าห้องของกู้ซินเถาสว่างไสว แต่ห้องของกู้จือเหวินยังมืดสนิทและไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหน

อารมณ์ของกู้ฉวนลู่กำลังคุกรุ่น ดังนั้นเขาย่างสามขุมไปยังห้องของกู้ซินเถาอย่างไม่รีรอ

กู้ซินเถารู้สึกหดหู่และทุกข์ใจ นางนอนอยู่บนเก้าอี้เอนกาย และถอนหายใจด้วยความทุกข์ใจ

ความคับข้องใจที่นางประสบที่หน้าบ้านของตระกูลเจียงในวันนี้ทำให้นางเกือบทุบตีคนรับใช้คนนั้นจนแทบสิ้นลม

กู้ซินเถาเป็นหญิงสาวที่มีรูปโฉมงดงาม แม้ว่าครอบครัวของนางจะมีฐานะปานกลาง แต่ในเมืองนี้อาจถือได้ว่าไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับคนชั้นสูง หากแต่สูงส่งมากกว่าผู้คนชั้นล่าง ทำไมต้องเอาหน้าร้อนไปแนบก้นเย็นของคนอื่นด้วย นางคิดแล้วก็เศร้าใจ

นางเกลียดชังเจียงหย่วนเข้ากระดูกดำ เกลียดจนอยากจะฉีกเขาให้แหลกเป็นชิ้น ๆ

ยามตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความคิด พลันก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นกู้ฉวนลู่ก็เปิดประตูเดินเข้ามาด้วยใบหน้าถมึงทึง

ทันทีที่เขาย่างกรายเข้ามา ริมฝากก็พ่นวาจาที่เต็มไปด้วยความโกรธเคืองออกมา “มืดขนาดนี้ เจ้าไม่รู้วิธีจุดตะเกียงที่บ้านหรือ!”

เมื่อกู้ซินเถาเห็นใบหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียดของบิดา นางก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย

ครั้นเห็นว่าลูกสาวนั่งตัวแข็งทื่อไม่ขยับกาย กู้ฉวนลู่ก็โกรธจัดพลางชี้ไปที่กู้ซินเถา และตะโกนลั่นด้วยความโกรธ “นังเด็กสารเลว เจ้าได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่!”

เมื่อกู้ซินเถาได้ยินสิ่งนี้น้ำตาก็หลั่งรินลงมา

ตั้งแต่ซุนซื่อถูกคุมขัง สถานะของนางในตระกูลกู้ก็ลดต่ำลงเรื่อย ๆ

ยามที่บิดาไม่พอใจก็ตำหนินาง

ยามพี่ชายไม่พอใจก็กล่าวโทษนาง

เมื่อทั้งสองไม่พอใจ พวกเขาทั้งคู่ก็จะชี้หน้าสาปแช่งนาง แล้วถ้านางเกิดความไม่พอใจล่ะ นางไม่กล้าแม้แต่จะบอกพวกเขาด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับการชี้หน้าสาปแช่ง

นางทำได้เพียงไประบายความทุกข์กับซุนซื่อภายในห้องขังเท่านั้น

หลังจากนั้นไม่นาน กู้ซินเถาก็ตาสว่างขึ้นมา

ในครอบครัวนี้ มีเพียงท่านแม่เท่านั้นที่มีความรู้สึกรักนางอย่างแท้จริง

หัวใจของท่านพ่อให้ความสำคัญกับกู้จือเหวินที่สุด เขาจะสอบจวี่เหรินและกลายเป็นขุนนางระดับสูงในอนาคต ดังนั้นท่านพ่อจึงฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่พี่ชายของนาง

ยามปกติท่านพ่อมักจะไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกับพี่ชายของนางเสมอ แต่เมื่อท่านพ่อมาที่นี่กลับมีเพียงสีหน้าเย็นชาเท่านั้น

ท่านพ่อและท่านพี่ปฏิบัติต่อนางราวกับกระสอบทราย ถ่มน้ำลายใส่ยามไม่พอใจ

แม้แต่เจียงหย่วนก็หลีกเลี่ยงและปฏิเสธที่จะมาพบนาง เป็นไปได้หรือไม่ว่าหลังจากที่เขาอยู่ในเมืองหลวงมากว่าครึ่งปี เขาจึงลืมนางไปแล้ว? ไม่รู้ว่าความหมายที่แท้จริงคืออะไรกันแน่

ซุนซื่อที่จริงใจต่อนางยังคงถูกขังอยู่ในห้องขัง ดังนั้นกู้ซินเถาจึงต้องการช่วยซุนซื่อออกมาให้เร็วที่สุด ในเวลานั้นเมื่อมีซุนซื่อ ความลำบากใจของนางเมื่ออยู่ที่บ้านจะดีขึ้น

ซุนซื่ออยากหลุดพ้นจากห้องขังอันอุดอู้ แต่กู้ฉวนลู่ไม่พยามยามที่จะช่วยนางเลย กู้ซินเถาจึงไม่สามารถพึ่งพาเขาได้ ดังนั้นนางต้องหาหนทางด้วยตัวเองและไปพบเจียงหย่วนให้ได้

แรงกดดันมหาศาลโถมเข้าใส่ร่างกายของกู้ซินเถา จนแทบทำให้นางเสียสติ

วันนี้กู้ซินเถารู้สึกอึดอัดจนอยากตาย เมื่อเห็นว่ากู้ฉวนลู่ไม่สนใจและเอาแต่ดุด่าตัวเอง ยิ่งกู้ซินเถาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไร นางก็ยิ่งรู้สึกเศร้าขึ้นมากเท่านั้น นางลุกขึ้นจากเก้าอี้เอนอย่างฉับไว ยืนยืดตัวตรงอย่างสง่างามพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม และกล่าวว่า “ท่านพ่อ ทำไมถึงท่านถึงเอาแต่ดุด่าว่ากล่าวข้าเช่นนี้ ท่านพ่อไม่เคยสนใจข้าด้วยซ้ำ! นายน้อยเจียงกลับมานานแล้ว แต่ข้ายังไม่ได้พบเขาเลย ท่านไม่ได้ว่างแผนให้ข้าไปเจอเขาอย่างนั้นหรือ?”

กู้ซินเถาร้องห่มร้องไห้อย่างโศกเศร้า แต่โชคดีที่กู้ฉวนลู่ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้าง เมื่อเห็นกู้ซินเถายืนร้องไห้ด้วยความเสียใจ จึงเกิดความรู้สึกผิดขึ้นในใจเล็กน้อย เขารู้ว่าการที่ซุนซื่อไม่อยู่บ้านในช่วงเวลานี้ทำให้นางต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส

กู้ฉวนลู่รุดขึ้นหน้าด้วยความเสียใจ ตบไหล่กู้ซินเทาแผ่วเบาและเอ่ยปลอบโยน “ซินเถา ข้าขอโทษ แม่ของเจ้าไม่อยู่ที่นี่ในช่วงเวลานี้ อารมณ์ของข้าจึงแปรปรวนไปหมด! เจ้าเห็นใจข้าเถอะนะ”

สิ่งที่กู้ฉฮวนลู่กล่าวล้วนเป็นเรื่องไร้สาระ

กู้ซินเถาลอบถอนหายใจอย่างเย็นชา หากแต่สีหน้ายังเรียบนิ่ง นางพยักหน้าราวกับว่าเข้าใจทุกสิ่ง แต่แท้จริงแล้วในใจกลับตำหนิผู้เป็นบิดาจนไม่มีชิ้นดี

ซุนซื่อถูกคุมขังมาหลายเดือนแล้ว และกู้ฉวนลู่ก็ไม่เคยไปเยี่ยมนางเลยสักครั้ง นับประสาอะไรกับความคิดที่จะช่วยซุนซื่อออกมา

โชคดีที่ลวี่เทาเป็นญาติของเหลยต้าเซิ่ง ถ้าเขาไปหาเหลยต้าเซิ่งแล้ว ลวี่เทาจะต้องขายหน้าไม่มากก็น้อย แต่หากกู้ฉวนลู่ไม่ไปก็ไม่รู้ว่าในใจของเขาคิดอะไรอยู่กันแน่!

กู้ซินเถารู้สึกอึดอัดใจ หากแต่ไม่กล้าปริปากพูดออกมา

ในช่วงเวลานี้ อารมณ์ของกู้ฉวนลู่ฉุนเฉียวยิ่งนัก

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท