บทที่ 778 จัดระเบียบครัว
บทที่ 778 จัดระเบียบครัว
พนักงานของร้านหม้อไฟทั้งหมดสวมเสื้อสีแดง กางเกงขายาวสีดำ และผ้าพันคอหนาสีดำรอบคอ
มีโบว์ผูกเป็นผีเสื้อติดอยู่ที่หน้าอกอย่างสวยงาม
สิ่งนี้ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังสามารถใช้เช็ดเหงื่อเมื่อเหงื่อออก ขว้างหินก้อนเดียวฆ่านกสองตัว มันดูดีกว่าการมีผ้าขนหนูพาดไหล่นัก
ผ้าขนหนูที่ไหล่หลุดง่าย และดึงขึ้นเป็นครั้งคราวลำบากมาก
พวกเขาทั้งหมดเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบหกหรือสิบเจ็ดปี เมื่อสวมเสื้อผ้าแบบนี้ พวกเขาดูมีชีวิตชีวา และทำให้ผู้คนที่มองมาย่อมสบายตามากด้วย
เมื่อไปที่ห้องบนชั้นสอง ชื่อของห้องส่วนตัวจะถูกติดอยู่ที่ประตู
ชื่อของห้องที่หรูหรานี้ได้รับการคัดเลือกโดยกู้เสี่ยวหวาน
หลินเจียงเซียน ปี้อวิ๋นเทียน ซีเจียงเยว่ หลางเถาซาจุ้ยฮวาหยิน ฮ่วนซีซา หรู่เมิ่งหลิ่ง ชิ่นหย่วน ฯลฯ ทำเป็นป้ายไม้ที่มีลวดลายไม้แกะสลักและตอกไว้นอกประตูห้องส่วนตัว นอกจากความสวยงามแล้วยังทำให้คนเห็นได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อกู้เสี่ยวหวานหยิบชื่อออกมามากมาย กรามของหลี่ฝานแทบจะหล่นลงมาด้วยความตกใจ
เขาพูดว่าดีซ้ำแล้วซ้ำอีก
ทว่าการขโมยความรู้และภูมิปัญญาของคนสมัยใหม่และสมัยโบราณก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าโอ้อวด
หลังจากเข้าไปในห้องส่วนตัว ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้ภายใน โต๊ะบางตัวมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ กู้เสี่ยวหวานเตรียมหม้อขนาดเล็กสำหรับแขกแต่ละคน น้ำแกงมีตั้งแต่เผ็ดมากไปจนถึงไม่เผ็ด พวกเขาสั่งอะไรก็ได้ตามต้องการ
จานหมุนขนาดใหญ่วางอยู่บนโต๊ะ อยากกินอะไรก็หมุนจานตรงด้านหน้าเอา สะดวกอย่างยิ่ง
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ทางเดินบนชั้นสองและชั้นสามประดับด้วยโคมไฟสีแดง โดยจะมีการประดับไฟในตอนกลางคืนซึ่งงดงามมาก
เนื่องจากโคมไฟถูกจัดเรียงไว้อย่างหนาแน่น เกรงว่าทั่วทั้งร้านอาหารคงสว่างไสวยิ่ง
หลังจากดูห้องส่วนตัวแล้ว หลี่ฝานก็พากู้เสี่ยวหวานไปที่ห้องครัวอันเป็นส่วนสำคัญที่สุด
เมื่อจะรับประทานหม้อไฟ น้ำแกงมีความสำคัญอย่างมาก
ก่อนจะเข้าไปในครัวก็ได้กลิ่นหอมมากมายโชยมา
ห้องครัวมีขนาดใหญ่ ยกเว้นห้องใหญ่ที่ลานหน้าบ้านก็มีห้องแยกสามห้องเรียงกัน
เนื่องจากอาหารและน้ำแกงอยู่ในครัว ทั้งยังมีระยะห่างจากโถงอยู่บ้าง กู้เสี่ยวหวานจึงกลัวว่าฝนหรือหิมะจะตก
ที่ด้านข้างของบ้านชั้นเดียวที่หันหน้าไปทางลานมีหน้าต่างระแนงอยู่ โดยได้ติดกระดาษหน้าต่างที่ดีที่สุดไว้
ระหว่างกระดาษหน้าต่างที่ดีกับกระดาษหน้าต่างที่ไม่ดีย่อมมีความแตกต่างกันอยู่มาก
กระดาษหน้าต่างที่ดีจะสว่างกว่า แม้ว่าจะเป็นกระดาษ แต่ก็ยังสามารถให้แสงออกมาได้ประมาณหนึ่ง
ดังนั้นคนรวยจึงชอบกระดาษสว่างราคาแพง ซึ่งทำให้บ้านสว่างและสวยงามกว่า
เนื่องจากกำลังทำอาหารอยู่ภายใน หน้าต่างของห้องแยกแต่ละหลังจึงถูกเปิดออก และลมร้อนก็โชยออกมาจากหน้าต่างพร้อมกับกลิ่นหอมฉุน
กลิ่นหอมชวนน้ำลายสอมาก
เมื่อยืนอยู่นอกบ้านชั้นเดียวแล้วมองเข้าไปข้างใน จะเห็นว่านอกจากหน้าต่างแล้ว ด้านอื่น ๆ ก็มีเตาตั้งอย่างเป็นระเบียบ โดยด้านบนของเตาก็ขัดเงาเช่นกัน ถาดใหญ่ทุกใบถูกจัดวางอย่างเรียบร้อย และถาดใหญ่ยังเต็มไปด้วยผักและเนื้อสัตว์ทุกชนิด
นอกจากนี้ยังมีชายและหญิงที่ช่วยในครัว บางคนกำลังหั่นเนื้อสัตว์ต่าง ๆ บางคนกำลังทำความสะอาดผัก และบางคนกำลังฆ่าปลา
บางคนยังคงใช้ที่คีบ คีบอาหารใส่จานและวางบนรถเข็นอาหาร
พ่อครัวและคนข้างในต่างยุ่งกันหมด
ในห้องแยกที่อยู่ใกล้ด้านข้างที่สุด ใกล้กับผนังนั้นมีเตาสี่หรือห้าเตาเรียงกัน ผู้ชายคนหนึ่งกำลังจุดไฟที่นั่น และพ่อครัวสองคนกำลังปรุงน้ำแกงอย่างระมัดระวัง
แม้ในครัวจะยุ่งวุ่นวาย แต่ก็เป็นระเบียบ
กู้เสี่ยวหวานยืนดูเงียบ ๆ ที่ประตูสักครู่แล้วเดินเข้าไป คนตัวโตด้านหลังก็เดินตามเข้าไปเช่นกัน
สิ่งที่กู้เสี่ยวหวานใส่ใจมากที่สุดคือการปรุงน้ำแกง ดังนั้นนางจึงเดินเข้าไปในครัวและดูสิ่งที่ต้มอยู่ที่ก้นหม้อ
ก่อนหน้านี้กู้เสี่ยวหวานได้มอบน้ำแกงหลายสูตรให้กับหลี่ฝาน
คุณภาพการปรุงของน้ำแกงนี้จะส่งผลโดยตรงต่อรสชาติของหม้อไฟ ฉะนั้นจะเค็มหรือจืดเกินไปไม่ได้
ในหม้อทั้งห้ามีน้ำแกงไก่ น้ำแกงกระดูก น้ำแกงสองชนิดนี้เตรียมเพื่อเด็กหรือคนชราที่ไม่ชอบทานเผ็ด แล้วยังมีหม้อสำหรับน้ำแกงเผ็ดซึ่งใช้พริกขี้หนูและของเผ็ดอื่น ๆ ถ้าหากชอบกินเผ็ดก็สามารถเลือกน้ำแกงเผ็ดได้
กู้เสี่ยวหวานพอใจมาก นางพยักหน้า
พ่อครัวสองคนย่อมรับสมัครมาจากเมืองรุ่ยเสียน พวกเขาถูกเงินเดือนที่สูงของหลี่ฝานล่อลวงใจ ปรากฏว่ากู้เสี่ยวหวานมาชม ซึ่งพวกเขาเคยเห็นว่าหลี่ฝานสุภาพกับนางมาก จึงย่อมรู้แก่ใจว่าสถานะของเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา
ไม่มีพวกเขาคนไหนกล้าละเลยนาง
จากนั้น กู้เสี่ยวหวานก็ไปดูวัตถุดิบที่เตรียมไว้
แต่ละอย่างแบ่งกันชัดเจน มีขนาดพอดีคำ มองแวบแรกก็รู้สึกว่าน่าทานมาก
เนื้อปลาหั่นบาง เนื้อหั่นบาง ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นหมู เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ ตับหมู เลือดหมู ฯลฯ มีความสมบูรณ์ยิ่ง ทั้งมีเครื่องในหมูหลากหลายชนิดรวมถึงไข่ วัตถุดิบรวมกันก็มากกว่ายี่สิบอย่างแล้ว แต่ผักชนิดต่าง ๆ นั้นมีน้อยมาก ที่สำคัญคือช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ยกเว้นผักทนหนาวบางชนิดแล้วก็มีผักไม่มากนัก
ในการทานหม้อไฟ นอกจากการทานเนื้อแล้ว ผักเองก็สำคัญเช่นกัน!
เพียงแต่เมื่อเร็ว ๆ นี้หิมะตก และไม่มีผักสีเขียว ๆ แล้ว นางจะไปหาผักพวกนี้ได้จากที่ไหนกัน
กู้เสี่ยวหวานนึกถึงเรือนกระจกในชาติที่แล้ว และสงสัยว่านางสามารถสร้างเรือนกระจกด้วยตัวเองและลองปลูกผักได้หรือไม่ ถ้านางทำสำเร็จ นางจะสามารถกินผักสดได้ตลอดทั้งปี
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย หลังจากปีใหม่ เมื่อฤดูหนาวมาถึง นางจะเริ่มลองปลูกผักทั้งหมดที่มีในยุคนี้ เพราะนางได้ที่ดินคืนมาจากการเช่าหลายหมู่แล้ว จึงมีที่ดินสำหรับการเพาะปลูก
หลังจากออกมาจากครัว เสี่ยวเซิ่งจื่อวิ่งมาอย่างรวดเร็วและตะโกนอย่างตื่นเต้น “เถ่าแก่หลี่ แม่นางกู้ ฤกษ์งามยามดีมาถึงแล้ว เรากำลังจะเปิดร้านกัน!”
หลังจากได้ยิน กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ทุกคนจึงรีบไปที่ห้องโถงโดยพร้อมเพรียงกัน ที่ห้องโถง พนักงานที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเดินไปเปิดประตูทันที และหลี่ฝานก็เดินออกไปก่อน
เดิมทีกู้เสี่ยวหวานและหลี่ฝานได้คุยกันแล้ว แม้ว่าร้านหม้อไฟแห่งนี้จะเป็นหุ้นส่วนลับ ๆ ระหว่างกู้เสี่ยวหวานและหลี่ฝาน แต่หลี่ฝานก็ควรจะออกหน้าเป็นเถ้าแก่
กู้เสี่ยวหวานยังเด็กอยู่ นางจึงกลัวว่าหากนางโอ้อวดเกินไปจะเกิดเรื่องขึ้นอีก
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เสี่ยวหวานเปิดร้านหม้อไฟแล้ว ยินดีกับนางด้วยจริง ๆ นะคะ
ไหหม่า (海馬)