บทที่ 812 ในที่สุดก็หย่ากันแล้ว
บทที่ 812 ในที่สุดก็หย่ากันแล้ว
“หวานเอ๋อร์ พวกเราจะตัดส่วนไหนก่อนดี?” ฉินเย่จือกวาดสายตามองหลิวชิงซานตั้งหัวจรดเท้า ราวกับถามว่าวันนี้เราจะกินอะไรดี
หลิวชิงซานหวาดกลัวถึงขีดสุด…
ทันใดนั้น ก็มีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งลอยฟุ้งทั่วอากาศ กู้เสี่ยวหวานยกผ้าเช็ดหน้าปิดปากและจมูกของตนเองโดยไม่รู้ตัว เมื่อก้มศีรษะลงก็พบว่ากางเกงของหลิวชิงซานเปียกปอน
หลิวชิงซานประหวั่นพรั่นพรึงจนอั้นปัสสาวะไว้ไม่อยู่!
กู้เสี่ยวหวานเย้ยหยันในใจ และหันไปมองฉินเย่จือที่อยู่ด้านข้าง
หลิวชิงซานผู้นี้เป็นคนอย่างไร เพียงแค่ใช้สายตาก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน!
เป็นอันธพาลไม่ใช่หรือ? แต่การกระทำของกู้เสี่ยวหวานโหดร้ายยิ่งกว่า
เลวกว่าคนอื่นงั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นกู้เสี่ยวหวานผู้นี้ก็เลวร้ายยิ่งกว่าเขา!
กู้เสี่ยวหวานไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและเอ่ยว่า “ท่านอา ท่านอาเป็นอะไร ไป?”
หลิวชิงซานจะกล้าพูดอะไรได้อย่างไร ตอนนี้เขากลัวจนหัวหดไปหมดแล้ว
ครั้นกู้เสี่ยวหวานพูดถึงการหลิงฉือ เขาจึงคิดว่าเด็กหญิงคนนั้นเพียงพูดมันเพื่อความสนุกเท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่าเด็กคนนี้จะพูดจริงทำจริง!
หลิวชิงซานจะเอ่ยปากออกไปได้อย่างไร ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความกลัวและส่งเสียงร้อยโหยหวน “ข้าจะลงชื่อ ข้าจะลงชื่อเดี๋ยวนี้ ได้โปรดอย่าเฉือนเนื้อข้า อย่าเฉือนเนื้อข้าเลยนะ!”
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินว่าหลิวชิงซานยอมแล้ว นางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ครั้นมองไปที่ฉินเย่จือ ดวงตาของฉินเย่จือเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และแอบยกนิ้วให้กูเสี่ยวหวาน นางจึงคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลิวชิงซานแล้ว อาโม่ก็เดินไปหยิบพู่กันกับหมึกที่เตรียมไว้และวางหนังสือหย่าไว้ตรงหน้าของหลิวชิงซาน จากนั้นก็กระชากมือของหลิวชิงซานอย่างแรง
หลังจากมองตัวหนังสือหย่าอย่างละเอียดแล้ว เขาก็หยิบพู่กันขึ้นมาด้วยมือสั่นระริก ในที่สุดก็ลงชื่อตรงด้านล่างของกระดาษ
“หลิวชิงซานและกู้ฟางสี่ยุติความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาด้วยความสมัครใจ นับตั้งแต่นี้ไป การแต่งงานของทั้งสองเป็นโมฆะ หากท่านยังมาก่อความวุ่นวายให้ท่านอาของข้าอีกก็อย่าหาว่าพวกเราหยาบคาย! ข้าได้ยินมาว่า ท่านเป็นคนเดียวในครอบครัวที่เหลืออยู่ อย่าได้ทำให้ข้าโกรธเคือง ไม่เช่นนั้นตระกูลหลิวของท่านจะไร้ผู้สืบทอด!” กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างตรงไปตรงมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ทันทีที่หลิวชิงซานได้รับฟังประโยคนี้ พู่กันในมือก็ร่วงตกลงบนพื้น เขายกมือขึ้นกุมส่วนล่างของร่างกายที่เปียกชื้น ความเปียกแฉะบนกางเกงคือปัสสาวะที่กลั้นเอาไว้ไม่อยู่เพราะความหวาดกลัว
ครั้นเห็นว่าหลิวชิงซานได้ลงนามแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็คร้านที่จะสนใจอีกฝ่าย เมื่อรับหนังสือหย่าคืนมาและตรวจดูอย่างละเอียดแล้วจึงเอ่ยว่า “อาโม่ ไล่เขาออกไป!”
จากนั้นนางก็หมุนกายกลับไปโดยไม่แม้แต่จะชายตามองอีกฝ่ายและเดินออกไป โดยมีฉินเย่จือเดินตามไปไม่ห่าง
ทันทีที่ได้รับคำสั่ง อาโม่ก็หิ้วคอเสื้อของหลิวชิงซานและโยนเขาออกไปให้พ้นนอกประตู “ไสหัวไปให้พ้น!”
หลิวชิงซานล้มคะมำ ร่างกายของเขากระแทกพื้นอย่างรุนแรง ส่งผลให้เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเสียงดัง!
หลิวชิงซานนอนหมดสภาพอยู่บนพื้น ร้องคร่ำครวญอยู่เป็นเวลานาน เมื่อความเจ็บปวดบรรเทาลงจึงพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น เขาตวัดสายตามองไปยังสวนกู้ด้วยความโทสะ “กู้เสี่ยวหวาน เจ้ารอก่อนเถอะ ข้าจะกลับมาแก้แค้นแน่”
จากนั้นเขาเดินกะโผกกะเผกหายลับไปในความมืด
กู้เสี่ยวหวานถือหนังสือหย่าด้วยรอยยิ้ม และมุ่งหน้าไปยังห้องของกู้ฟางสี่ด้วยความตื่นเต้น ตอนนี้เสียงร้องไห้หยุดลงแล้ว และเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย
กู้ฟางสี่นั่งฟังกู้เสี่ยวอี้และกู้หนิงผิงพูดคุยอย่างมีความสุขเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ความสุขและความทุกข์ฉายชัดในแววตาเป็นครั้งคราว
เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานเดินเข้ามา เสียงพูดคุยจึงหยุดชะงักลง และทุกคนก็มองไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างประหม่า
กู้เสี่ยวหวานเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มใบหน้า และหยุดลงข้าง ๆ กู้ฟางสี่
กู้ฟางสี่หวาดกลัวมากจนไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ ทำได้เพียงจ้องมองหลานสาวด้วยความงุนงง
กู้เสี่ยวหวานมอบสิ่งของในมือให้กู้ฟางสี่ จากนั้นกล่าวเคล้ารอยยิ้ม “ท่านอาดูสิ ดูข้างล่างของกระดาษสิ”
กู้ฟางสี่มองกระดาษในมือด้วยสายตาสั่นระริก แม้ว่านางจะอ่านไม่ออก แต่ก็ยังจำชื่อของหลิวชิงซานได้ขึ้นใจ
ลายมือของหลิวชิงซานนั้นบิดเบี้ยว แต่โชคดีที่ยังพอมองออกอยู่บ้าง
และด้านข้างกันยังมีรอยประทับลายนิ้วมือสีแดงสด ซึ่งเป็นรอยนิ้วมือของหลิวชิงซานที่อาโม่บีบแขนเขาจนกระดูกหัก
กู้ฟางสี่ลูบหนังสือหย่าในมือของตนเอง กู้เสี่ยวหวานบอกนางเกี่ยวกับเนื้อหาในหนังสือหย่าแล้ว
นับตั้งแต่ที่เขาลงชื่อและประทับลายนิ้วมือ ความสัมพันธ์ระหว่างนางและเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป!
ไม่เกี่ยวกันอีกแล้ว!
นับตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป กู้ฟางสี่จะไม่ต้องถูกหลิวชิงซานทำร้ายอีกต่อไป…
กู้ฟางสี่ถือหนังสือหย่าไว้ในมือ หยาดน้ำตาขนาดเท่าเม็ดถั่วหยดลงบนหนังสือหย่าไม่ขาดสาย
กู้ฟางสี่เกรงว่าหนังสือหย่าฉบับนี้จะถูกทำลาย นางจึงกอดมันไว้ในอ้อมแขนทันที
นางส่งเสียงหัวเราะและร้องไห้ในคราวเดียวกันราวกับเด็กน้อย
ในตอนนี้ ดวงตาที่เคยเศ้ราหมองของนางเปล่งประกายด้วยความหวัง
เมื่อป้าจางได้ยินว่าหลิวชิงซานได้ลงนามในหนังสือหย่าแล้ว นางก็หลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ “ดีแล้ว ดีแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้ว!”
นางยังคงเช็ดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด
กู้ฟางสี่ตื่นเต้นมาก จึงโผเข้าไปกอดกู้เสี่ยวหวานและกล่าวขอบคุณ!
นางมีความสุขมากจริง ๆ หลายปีมานี้นางต้องทนทุกข์มามากมาย
ในที่สุดก็แลกมาด้วยหนังสือหย่าฉบับนี้ กู้ฟางสี่ทั้งร้องไห้และหัวเราะอย่างตื่นเต้น
จากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ชีวิตของนางเปลี่ยนเป็นเหมือนคนละคน เมื่อก่อนนางมีชีวิตที่มืดมนและมองเห็นอนาคตเพียงริบหรี่ แต่ตอนนี้นางกลับได้รับข่าวดีอย่างไม่คาดฝัน
จากนี้ไป นางและหลิวชิงซานจะไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป
การแต่งงานของของนางและเขาได้ยุติลงแล้ว
การแต่งงานของของนางและเขาได้ยุติลงแล้ว
กู้ฟางสี่พึมพำสองประโยคนี้ราวกับต้องมนตร์สะกด มันเปิดใจของนางและทำให้เดินออกมาจากความเหน็บหนาวและสิ้นหวังในวันวาน
กู้ฟางสี่ตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ นางเดินไปรอบ ๆ ห้องและเมื่อเดินมาถึงเตียง นางก็กระโดดไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้น ดึงผ้านวมทั้งหมดบนเตียงลง และตะโกนด้วยเสียงแหลม “ข้าไม่ต้องการสิ่งนี้ ข้าไม่ต้องการสิ่งนี้อีกต่อไปแล้ว!”
นั่นคือผ้านวมของหลิวชิงซาน นางรู้สึกว่ามันสกปรก สกปรกเหลือเกิน