บทที่ 834 เจ้ารีบโตไว ๆ นะ
บทที่ 834 เจ้ารีบโตไว ๆ นะ
หากภายในห้องนี้มีกระจก กู้เสี่ยวหวานคงจะได้เห็นใบหน้าที่แดงก่ำและดวงตาสีดำขลับที่เป็นประกายของตนเองได้อย่างแน่นอน
รูปลักษณ์ดังกล่าวของกู้เสี่ยวหวานเด่นชัดในสายตาของฉินเย่จืออย่างเป็นธรรมชาติ
ฉินเย่จือก้มศีรษะลง และบังเอิญเผชิญหน้ากับกู้เสี่ยวหวานในขณะนี้
ปลายจมูกของพวกเขาสัมผัสกันอย่างแผ่วเบา พวกเขาสามารถเห็นเงาสะท้อนของกันและกันในดวงตาได้ กู้เสี่ยวหวานรู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าตนเองกำลังจะล้มลง จึงร้องอุทานออกมาเสียงดัง จากนั้นนางก็ถูกดึงเข้าไปในอ้อมแขนของฉินเย่จืออีกครั้ง
การกระทำของทั้งสองในขณะนี้เต็มไปด้วยความคลุมเครือมากกว่าเมื่อก่อน
เนื่องจากตอนนี้เกือบจะเข้าสู่ฤดูร้อน พวกเขาจึงไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าที่หนามากนัก กู้เสี่ยวหวานสามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและสัมผัสที่อ่อนโยนจากฝ่ามือบริเวณเอวของนาง
ทั้งสองเผชิญหน้ากัน ท่าทางที่คลุมเครือเช่นนั้นทำให้หัวใจของกู้เสี่ยวหวานเต้นระรัว และหายใจเร็วขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
รู้สึกเหมือนเลือดทั้งหมดพุ่งพล่านไปทั่วศีรษะ ทำให้นางสูญเสียความสามารถในการคิดและต่อต้านโดยสิ้นเชิง
ลมหายใจอุ่นของฉินเย่จือกระทบใบหน้าของนาง แต่มันไม่คงที่เหมือนเมื่อก่อน มันดูเร่งรีบเล็กน้อย
กู้เสี่ยวหวานไม่มีความคิดอื่นใด นางทำได้เพียงจ้องมองดวงตาสีดำคู่นั้นที่ล้ำลึกราวกับท้องทะเล
กู้เสี่ยวหวานมองไปที่ดวงตาคู่นั้นอย่างหลงใหล ดวงตาของฉินเย่จือนั้นงดงามจริง ๆ
แต่เป็นความงดงามที่นางไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต
ดวงตาเรียวยาว แม้แต่คิ้วเรียวสวยของเขายังเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
แม้จะสวยงามราวกับคิ้วของสตรี แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความงดงามของบุรุษ
ไม่ใช่ครั้งแรกที่กู้เสี่ยวหวานได้สัมผัสร่างกายของฉินเย่จือ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองกอดกันอย่างแนบชิด
ฝ่ามืออันทรงพลังของฉินเย่จือที่ประคองเอวของนางไว้ ทำให้นางรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร่างกายที่ส่งมาจากฝ่ามือของเขาอย่างชัดเจน หัวใจของนางเต้นระรัวจนไม่สามารถควบคุมได้ ฝ่ามือและเสื้อผ้าของฉินเย่จือก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ โดยเฉพาะมือหนาทรงพลังของฉินเย่จือยังคงประคองอยู่ที่เอวของนาง
จิตวิญญาณของกู้เสี่ยวหวานไม่ใช่เด็กอายุสิบเอ็ดขวบ นางเป็นหญิงสาวที่โตแล้วเมื่อชาติก่อน ดังนั้นจึงรู้เกี่ยวกับความรักระหว่างชายและหญิง ในขณะนี้นางลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองยังอายุสิบเอ็ดขวบ นางรู้สึกถึงความใจสั่นที่ฉินเย่จือมอบให้
มันเกินที่ตนเองจะควบคุม
หัวใจของกู้เสี่ยวหวานเต้นแรงราวกับเล่นรถไฟเหาะในชาติก่อน
ฉินเย่จือจ้องมองที่กู้เสี่ยวหวานอย่างตั้งใจด้วยดวงตาดำขลับราวกับน้ำหมึก เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และขยับออกห่างจากแก้มของกู้เสี่ยวหวาน กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกว่าแรงกดดันจากด้านบนลดลงเล็กน้อย
ฉินเย่จือถอยห่างออกไปเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาท่าทางเดิมไว้ ตอนนี้ดวงตาที่สดใสของเขาจับจ้องไปที่แก้มและริมฝีปากสีแดงระเรื่อของกู้เสี่ยวหวาน
เมื่อมองไปที่ริมฝีปากและกลิ่นหอมจาง ๆ ของร่างกายผู้หญิงตรงหน้า ทุกสิ่งล้วนดึงดูดใจของเขา
ตราบใดที่เขาเปิดปากเบา ๆ เขาสามารถกลืนริมฝีปากสีแดงสดใสนั้นได้
อย่างไรก็ตาม…
เมื่อมองไปยังใบหน้าที่ยังไม่ถึงวัยแต่งงานของลูกแมว หัวใจที่เต้นรัวทั้งหมดก็กลายเป็นคำสาปที่ทรมานเขาในขณะนี้
หัวใจของเขาเต้นแรงมากแค่ไหน และเขาก็ทำสิ่งใดไม่ถูก
นางยังเด็กเกินไป และเขาไม่ต้องการทำให้นางหวาดกลัว
เป็นครั้งแรกที่ฉินเย่จือรู้สึกพ่ายแพ้
ถูกอายุทำให้พ่ายแพ้อย่างไร้ความปรานีและหนักหน่วง
การจ้องมองของฉินเย่จือนั้นอ่อนโยน หลังจากจ้องมองไปครู่หนึ่ง นางก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา คิ้วของนางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย และรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดเหล่านั้น
ฉินเย่จือลดศีรษะลงเล็กน้อยและกดจูบลงที่หน้าผากของกู้เสี่ยวหวานอย่างหนัก ราวกับประกาศอำนาจของตนเอง
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกเพียงว่ามีบางสิ่งบางอย่างโอบอุ้มนางไว้อย่างอ่อนโยน และความสั่นไหวในหน้าอกที่ไม่อาจควบคุมได้ นางวิงเวียนศีรษะ และรู้สึกกระวนกระวายจนเกือบลืมหายใจ
นางไม่เคยถูกผู้ชายจูบเลย แม้ว่าจะเป็นการจูบที่หน้าผากเท่านั้น
ดวงตากลมโตราวกลับผลองุ่นปิดลงด้วยความหวาดกลัว
ลมหายใจร้อนกระทบใบหน้าแผ่วเบา ใบหน้าหล่อเหลาของฉินเย่จืออยู่ใกล้แค่เอื้อม ความเสน่หาในดวงตาของเขา เสียงทุ้มลึกดังขึ้นใกล้หูทำให้หัวใจเต้นแรง
“หวานเอ๋อร์ เจ้ารีบโตไว ๆ นะ”
ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานปิดแน่น แพขนตาหนาสั่นไหวเล็กน้อย นางเข้าใจความคิดของฉินเย่จือในทันที
ห้องทั้งห้องเงียบสนิท
……
เมื่อกู้ซินเถาออกไปจากร้าน นางขึ้นรถม้าและนั่งลง แก้มของนางแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น
ตลอดทางกลับไปยังบ้านตระกู้ หัวใจของนางเต็มไปด้วยความสุข
ในขณะนี้กู้ฉวนลู่และซุนซื่อกำลังรออยู่ที่ห้องโถง
เพราะพวกเขาต้องการทราบว่าเรื่องของกู้ซินเถาเป็นอย่างไรบ้าง เขาจึงไม่แม้แต่จะไปที่ร้านอาหาร และรีบกลับบ้านโดยหวังว่าจะรอข่าวดีจากกู้ซินเถา
ตอนนี้เจียงหย่วนเป็นผู้กอบกู้ครอบครัวของพวกเขา
กู้ฉวนลู่และซุนซื่อนั่งรอบนเก้าอี้อย่างใจจดใจจ่อ
โดยเฉพาะซุนซื่อ ใบหน้าของนางแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น หัวใจของนางปั่นป่วนเพราะกลัวว่ากู้ซินเถาจะไม่พบเจียงห่ยวน และนางก็กลัวว่าถ้าพบเจียงหย่วน เขาจะปฏิบัติไม่ดีกับลูกสาวตนเอง
อย่างไรก็ตาม หากกู้ซินเถาสามารถเอาชนะใจเจียงหย่วนได้อีกครั้ง จากนี้ไปกู้ซินเถาจะต้องทำงานหนักขึ้นในอนาคต และอย่าปล่อยให้คนเจ้าชู้อย่างเขาหนีไปอีก
ทันทีที่นางคิดว่ากู้ซินเถาได้รับความโปรดปรานจากเจียงหย่วน และได้แต่งงานเข้าตระกูลเจียงในอนาคตจะได้สวมเสื้อผ้าที่ดีและไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า ซุนซื่อก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนก้นแทบไม่ติดเก้าอี้ นางจึงตัดสินใจยืนขึ้นและเดินไปที่ลานบ้าน จากนั้นเดินไปรอบ ๆ นางคิดว่าเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูของกู้ซินเถา จะได้สามารถเปิดประตูได้ด้วยตัวเองทันที
กู้ฉวนลู่ก็ไม่ต่างกัน ตั้งแต่เขารู้ที่อยู่ของเจียงหย่วนและนำเรื่องนี้มาบอกกู้ซินเถา เขาก็รอข่าวดีอยู่ที่บ้าน
รอจนทนไม่ไหว เขารู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก แต่นี่อาจมีเรื่องที่ดีเช่นกัน
พวกเขาทั้งสองใช้เวลาด้วยกันด้วยความเสน่หา
ขณะที่ทั้งสองกำลังกระวนกระวาย ก็มีเสียงเคาะประตูเบา ๆ จากด้านนอก
ซุนซื่อดีใจ นางรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที และกู้ฉวนลู่ก็ลุกขึ้นจากที่นั่งเดินไปที่ประตู และกลับมาพร้อมกับใบหน้าที่มีความสุข กู้ฉวนลู่มีความสุขมาก
สำเร็จแล้ว
สำเร็จแล้ว
เช่นเดียวกับซุนซื่อ เมื่อเห็นใบหน้าที่เขินอายและมีความสุขของลูกสาวแล้ว หัวใจของนางก็เต็มไปด้วยความสุข
“ซินเถา ได้เจอนายน้อยเจียงหรือไม่” ซุนซื่อระงับความตื่นเต้นของนางและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทา