ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 856 มันเทศถูกขโมย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 856 มันเทศถูกขโมย

บทที่ 856 มันเทศถูกขโมย

ท่าทางอึดอัดของแม่สื่อหลี่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องโกหก และด้วยความสุขที่เห็นเงินมากมาย แม่สื่อหลี่ที่ดูร่าเริง ตอนนี้ดูไม่เหมือนว่านางกำลังเสแสร้ง

มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นคือฮูหยินจ้าวได้ไปสู่ขอกู้เสี่ยวหวานให้กับจ้าวจื่อชงลับหลังจ้าวสวิ่น

ฮูหยินจ้าวเกิดมามีฐานะดี จากนั้นเมื่อนางแต่งงานเข้าตระกูลจ้าว ชีวิตก็ดียิ่งขึ้นไปอีก นางจะมาชอบหญิงสาวจากชนบทอย่างกู้เสี่ยวหวานได้อย่างไร?

เป็นไปได้หรือไม่ว่า นางได้ยินบางอย่างเกี่ยวกับหญิงคนนั้นเช่นกัน และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงมีความคิดอื่นเหมือนตัวเอง

หงซื่อตกใจและขุ่นเคือง แม่สื่อหลี่ก็ตกใจมาก คิดว่าการที่ตัวเองปฏิเสธทำให้นางไม่มีความสุข

อย่างไรก็ตาม นางไม่กลัวฮูหยินจ้าวเจ้าอารมณ์ แล้วนางจะกลัวอนุคนนี้ได้อย่างไร

แม่สื่อหลี่หันกลับมาสบตา และเมื่อมองไปที่หงซื่ออีกครั้ง สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปในทันที “นายหญิง ข้าพูดในสิ่งที่ควรพูดไปแล้ว ไม่ว่าท่านจะให้เงินเท่าไร ข้าก็จะไม่ยอมรับเรื่องนี้ หวังว่าท่านจะยกโทษให้ข้า ยกโทษให้ข้า” หลังจากพูดจบโดยไม่รอให้หงซื่อได้ตอบ แม่สื่อหลี่ก็รีบออกไปทันที

ไม่ว่าหงซื่อจะพูดไล่หลังอย่างไร นางไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง

เมื่อเห็นร่างของแม่สื่อหลี่หายลับไป หงซื่อทำได้เพียงลืม ๆ มันไป

หากแต่นนางรู้สึกกระวนกระวายในใจ หากเป็นยายแก่ที่ต้องการสู่ขอก็ไม่เป็นไร แต่ถ้า…

เมื่อนึกถึงความพยายามของจ้าวสวิ่นที่จะหยุดนางในคืนนั้น หัวใจของหงซื่อก็สั่นไหวอย่างไม่มีสาเหตุ

……

ในพริบตาเดียว เดือนสิบก็มาถึง และในที่สุดก็ถึงเวลาที่กู้เสี่ยวหวานจะเก็บเกี่ยวมันเทศ

ปีนี้เก็บเกี่ยวมันเทศได้สองถึงสามพันชั่งต่อหนึ่งหมู่

เมื่อทุกคนขุดขึ้นมา ไม่ใช่แค่กู้เสี่ยวหวาน แม้แต่ฉินเย่จือก็ตกใจ

ผลผลิตของมันเทศนี้สูงเกินไปจริง ๆ

แค่ปลูกพื้นในพื้นที่สิบหมู่ก็ได้ผลผลิตหลายหมื่นชั่ง เพียงแค่คิดก็มีความสุขแล้ว

หลังจากเก็บเกี่ยวมันเทศก็ยังไม่สามารถนำไปเก็บในโกดังได้ในทันที เพราะมันยังมีความชื้นจากดินอยู่

มันต้องนำไปตากแดดเป็นเวลาสองวัน เมื่อโคลนบนมันเทศแห้งก็ปัดดินออกแล้วจากนั้นก็สามารถนำไปเก็บได้

เมื่อแดดดีก็วางมันไว้ข้างนอกเพื่อตากแดด และก่อนที่ฟ้าจะมืดก็เอาของทั้งหมดเก็บเข้าไป และทำทุกอย่างทีละขั้นตอน

เช้านี้ตามปกติ ป้าจางหยิบมันเทศมาสองสามหัว ก่อนจะทำโจ๊กมันเทศเป็นมื้อเช้า จากนั้นก็นำผักดองที่กู้เสี่ยวหวานดองไว้ออกมา ผัดผักดองกับเนื้อใส่ใบมันเทศ และไข่ไก่สำหรับแต่ละคน

อาหารวันนี้อร่อยยิ่งนัก

กู้เสี่ยวหวานเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และพาเสี่ยวอี้ไปเดินเล่นที่ลานหลังบ้าน ซึ่งถือเป็นการออกกำลังกาย

ป้าจางและกู้ฟางสี่กำลังยุ่งอยู่ในครัว

ในบางครั้งก็มีเสียงร้องเพลงและเสียงหัวเราะก็ดังมาจากข้างนอกซึ่งทำให้บรรยากาศอบอุ่น

ทันใดนั้น เสียงเร่งรีบก็ทำลายความเงียบสงบในยามเช้า

“เสี่ยวหวาน เสี่ยวหวาน ท่านแม่ ท่านแม่ มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น”

กู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ ที่อยู่ในลานหลังบ้านต่างตกตะลึงทันทีเมื่อได้ยินเสียงตะโกนอย่างเร่งรีบของฉือโถว

ป้าจางและกู้ฟางสี่ก็รีบออกจากห้องครัว

ป้าจางยังคงถือตะหลิวอยู่ในมือ นางอาจจะกำลังทำอาหารอยู่ และตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงตะโกนอย่างเร่งรีบ จึงรีบวิ่งออกมาจากในครัวทันที

ก่อนที่กู้เสี่ยวหวานจะวิ่งออกไป ก็เห็นฉือโถววิ่งออกมาจากข้างใน

เขาหายใจเหนื่อยหอบและมีเหงื่อผุดซึมเต็มหน้าผาก เมื่อเขาเห็นกู้เสี่ยวหวาน จึงเอ่ยออกมาอย่างร้อนรน “สะ… เสี่ยวหวาน สะ… เสี่ยวหวาน” เพราะหอบหายใจ จึงทำได้แต่เอ่ยตะกุกตะกัก

เมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของฉือโถว หัวใจของกู้เสี่ยวหวานก็เต้นไม่เป็นจังหวะ แต่นางยังคงปลอบโยนเขาอย่างใจเย็น “พี่ฉือโถว ไม่ต้องรีบ ค่อย ๆ พูดเถอะ”

“ใช่แล้ว ฉือโถว ใจเย็นก่อนเถอะแล้วค่อยพูด” เมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของฉือโถว ป้าจางก็ตื่นตระหนกมากเช่นกัน

ฉือโถวหายใจเข้าอย่างเต็มปอดและก่อนที่เขาจะสงบลง ก็พูดอย่างกระวนกระวายใจว่า “เสี่ยวหวาน มันเทศถูกขโมยไป”

“ใครขโมยอะไรไปนะ” ป้าจางสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ

แสงในดวงตาของกู้เสี่ยวหวานมืดมนลง

ฉินเย่จือไปเมืองรุ่ยเสียนแล้ว และตอนนี้นางเป็นคนเดียวที่สามารถตัดสินใจได้

กู้เสี่ยวหวานคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างใจเย็น จากนั้นมองไปที่ป้าจางและคนอื่น ๆ ที่ดูตื่นตระหนก และพูดด้วยรอยยิ้ม “พวกท่านอยู่บ้านและเตรียมอาหารเช้าเถอะ ข้าจะไปดูเอง”

หลังจากพูดจบ นางก็เดินตามฉือโถวไป

เมื่อมาถึงโกดังที่เชิงเขา ของทุกอย่างในโกดังหลังแรกถูกขนออกไปวางไว้ข้างนอกด้วย คิดว่าน่าจะเพื่อตากแดดให้แห้ง

เมื่อมาถึงโกดังด้านหลัง จะเห็นว่ากลอนประตูของโกดังหายไป และประตูถูกเปิดแง้มอยู่ คงไม่ใช่ฉือโถวและอาโม่ที่เป็นคนเปิดแน่

ฉือโถวยืนอยู่ที่ประตู ชี้ไปที่โกดังและพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า “เสี่ยวหวาน นั่นแหละ เราเอามันออกมาจากโกดังแรก และเมื่อเราไปที่โกดังที่สอง เราพบว่าแม่กุญแจถูกเปิดอยู่และสิ่งของส่วนใหญ่ข้างในหายไป”

สิ่งของส่วนใหญ่หายไป

ใบหน้าของอาโม่แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา และสามารถเห็นความโกรธของเขาได้ในขณะนี้

กู้เสี่ยวหวานวิ่งเข้าไปในโกดังโดยไม่ได้คิดถึงมัน เมื่อวานนี้พวกเขาเพิ่งจะนับถุงในโกดังไป

“ในแต่ละโกดังมีมันเทศสองร้อยถุง เรานับจำนวนมันเทศที่เก็บได้จากโกดังแรก แต่ในโกดังที่สอง เราไม่จำเป็นต้องนับด้วยซ้ำและเห็นว่าถุงเกือบครึ่งหายไป” อาโม่พูดอย่างใจเย็นและขมวดคิ้วแน่น

กู้เสี่ยวหวานกวาดสายตาไปรอบ ๆ นางตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่งตอนที่เก็บไปเมื่อวานนี้ ตอนนี้นางแค่มองก็เห็นว่าที่ที่เคยวางถุงนั้นว่างเปล่าทั้งหมด

ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานเย็นชา แต่ก็สามารถเห็นความโกรธในดวงตาของนางได้

กู้เสี่ยวหวานกัดฟันกรอด มันเทศหนึ่งร้อยถุงถูกขโมยในชั่วข้ามคืน และมันหายไปอย่างเงียบเชียบ

ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานแดงก่ำ นางอยากจะฉีกร่างของโจรคนนั้นออกเป็นชิ้น ๆ

มันเทศหนึ่งร้อยถุง เกือบหนึ่งหมื่นชั่ง เดิมทีในปีนี้นางวางแผนที่จะเก็บไว้หนึ่งร้อยถุง ซึ่งทั้งหมดนี้จะใช้สำหรับการเพาะปลูกในปีหน้า และอีกครึ่งหนึ่งนางวางแผนที่จะใช้มันเทศทั้งหมดเป็นอาหารจานใหม่สำหรับร้านจิ่นฝูในปีนี้

นอกจากนี้ยังสามารถกินมันเทศสดจนถึงปีหน้าก็ยังได้

แต่ตอนนี้มันถูกขโมยไปแล้วส่วนหนึ่ง

และยังไม่รู้เลยว่า เหตุใดคนผู้นั้นถึงขโมยมันไป

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท