บทที่ 1006 มีแผนการอะไร
บทที่ 1006 มีแผนการอะไร
“ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องราวของกู้เสี่ยวหวานผู้นั้น ฮูหยินจ้าวไปสู่ขอนางให้ลูกชายด้วยตนเองที่บ้าน แต่ถูกนางปฏิเสธโดยสิ้นเชิง นับประสาอะไรกับตำแหน่งนางบำเรอ” ฮูหยินเจียงสงสัยเล็กน้อย
มามาเหลิ่งพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ฮูหยิน ตราบใดที่ข้าวยังสุก ใครจะสนว่าหม้อนั้นจะดีหรือไม่”
คำพูดของมามาเหลิ่งสัมผัสหัวใจของฮูหยินเจียงในทันที
ฮูหยินเจียงเข้าใจได้ในทันที รอยยิ้มอธิบายไม่ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง
ทุกคนในครอบครัวกำลังยุ่งอยู่กับบางสิ่งอย่างลับ ๆ และแม้แต่ฉินเย่จื่อก็เริ่มปิดบังบางอย่างจากนาง
กู้เสี่ยวหวานไม่มีเวลาสนใจ ช่วงนี้กิจการของร้านจิ่นฝูไม่ดี กู้เสี่ยวหวานอยู่ในร้านจิ่นฝูเพื่อจัดการกับลูกค้าทุกวัน และนางก็วิ่งวุ่นวายอยู่ตลอดทั้งวัน
จนกระทั่งวันหนึ่งที่กู้เสี่ยวหวานลุกขึ้นและบอกว่าจะไปร้านจิ่นฝู ทุกคนต่างก็พยักหน้าด้วยความกะตือรือร้น
“รีบไปเถอะ!” ทุกคนยิ้มอย่างมีความหมาย
กู้เสี่ยวหวานตกลง และเข้าไปในเมืองหลิวเจียกับอาโม่
ครั้นเห็นท่าทางลึกลับของอาโม่ นางจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับทุกคน แต่อาโม่ยังแสร้งทำเป็นสับสน คลี่ยิ้มขลาดเขลาพลางเกาหัว และบอกว่าตนเองไม่รู้อะไรทั้งนั้น
เมื่อกู้เสี่ยวหวานมาถึงร้านจิ่นฝู ลูกค้ากลุ่มแรกที่นี่กลายเป็นบุคคลที่คุ้นเคย และไม่สามารถถูกเกลียดชังได้อีกต่อไป
หลิวเทียนฉือและกู้ซินเถามาปรากฏตัวที่ร้าน
ข้างกายหญิงทั้งสองมีชายรูปร่างไม่สูงเดินอยู่ระหว่างคนทั้งสอง มองแล้วดูไม่ค่อยเหมาะสมยิ่งนัก
ทันทีที่พวกเขาเข้ามา ลูกจ้างภายในร้านก็ปรี่เข้าไปทักทายพวกเขาทันที “นายน้อยเจียง แม่นางหลิว”
อีกคนที่ไม่ได้รับความสนใจยืนอยู่ด้านขวามือของเจียงหย่วนคือกู้ซินเถา
ลูกจ้างภายในร้านไม่ได้เอ่ยทักทายกู้ซินเถา และการแสดงออกของกู้ซินเถาดูไม่น่ามองยิ่งนัก
กู้เสี่ยวหวานอยู่บนชั้นสอง และบังเอิญมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างล่าง นางเห็นเจียงหย่วนยืนอยู่ตรงกลาง ด้านขวาของเขาคือหลิวเทียนฉือ ซึ่งแต่งตัวดูดี ผิวพรรณขาวผ่องเป็นยองใย และคนทางซ้ายเองก็แต่งตัวดูดีไม่แพ้กัน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับหลิวเทียนฉือแล้ว กู้ซินเถานั้นเหมือนสาวใช้
นอกจากนี้ยังมีสาวใช้สองนางอย่างเสี่ยวเถาและเสี่ยวเหอยืนอยู่ด้านหลัง
รูปลักษณ์ของเสี่ยวเหอนั้นแปลกหูแปลกตา และนางเคยพบเห็นแค่ไม่กี่ครั้ง
หลิวเทียนฉือเงยหน้าขึ้นสบตากับกู้เสี่ยวหวานที่มองลงมาจากชั้นสอง
เมื่อกู้เสี่ยวหวานยืนอยู่บนที่สูง กลิ่นอายของนางที่มองมาทำให้หลิวเทียนฉือผงะไป และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
นางเคยเห็นกลิ่นอายอันน่าดึงดูดเช่นนี้จากรอบกายฮองเฮาเท่านั้น แต่ตอนนี้นางกลับเห็นมันจากเด็กจากชนบทที่อายุน้อยกว่านาง ไฟแห่งความริษยาในใจของนางตอนนี้เปรียบดั่งไฟลามทุ่ง มันแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลิวเทียนฉือ
เมื่อนึกถึงวิธีที่ฮูหยินเจียงจับมือนางอย่างให้ความสำคัญก่อนจากไป หลิวเทียนฉือก็ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจมากขึ้น
เมื่อมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน จากนั้นมองไปที่กู้ซินเถาผู้ประจบสอพลอและกำลังหยอกล้อกับเจียงหย่วน นางได้แต่สาปแช่งในใจอย่างเดือดดาล
วันนี้ขอให้พ่ายแพ้กันทั้งคู่
ครั้นนึกถึงชื่อเสียงของกู้เสี่ยวหวานที่จะถูกทำลายในเมืองหลิวเจียตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และทุกวันเมื่อพบหน้ากัน อีกฝ่ายจะต้องก้มลงทักทายนาง มันเหมือนกับราดน้ำผึ้งลงบนใจของนาง ความหอมหวานกระจายอยู่ทุกที่
กู้เสี่ยวหวานไม่เคยออกมาต้อนรับคนเหล่านี้เมื่อพวกเขามาที่นี่ร้าน
พวกเขาจองห้องรับรองที่ใหญ่ที่สุดบนชั้นสามของร้านจิ่นฝู
ลูกค้าทั่วไปจะไม่ต้องการห้องรับรองนี้ เพราะราคาการใช้ห้องค่อนข้างสูง แต่สิ่งอำนวยความสะดวกภายล้วนครบครัน
เมื่อลูกจ้างภายในร้านเดินนำเจียงหย่วนและคนอื่น ๆ เข้าไปในห้องรับร้อง ภายในโถงขนาดใหญ่ภายในมีโต๊ะกลมขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับแขกได้ประมาณสิบคน
ทางขวามือมีห้องทำงานเล็ก ๆ หนึ่งห้อง ภายในห้องทำงานมีภาพเขียนพู่กัน และภาพวาดของจิตกรชื่อดังแขวนอยู่ ทั้งยังมีที่ให้ฝึกคัดลายมือและอ่านหนังสือด้วย
ด้านซ้ายเป็นห้องรับแขกซึ่งมีไว้ค่อยรับรองแขก
ข้างในมีเตียงขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่พักชั่วคราวสำหรับแขก
กู้เสี่ยวหวานอยู่ภายในห้องรับรองชั้นสอง ซึ่งกำลังฟังรายงานของลูกจ้างในร้านเกี่ยวกับการต้อนรับพวกเขา
กู้เสี่ยวหวานเห็นว่าพวกเขาเชิญกลุ่มสหายขึ้นมาเล่นที่ชั้นบน แต่โชคดีที่ประตูปิดอยู่และอยู่ห่างจากห้องโถงชั้นล่างค่อนข้างมาก กู้เสี่ยวหวานเห็นว่าพวกเขาไม่ได้รบกวนลูกค้าคนอื่น ๆ ดังนั้นนางจึงปล่อยพวกเขาไป
ในขณะนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น และเมื่อนางลุกขึ้นไปเปิดประตูก็พบว่าคนผู้นั้นคือกู้ซินเถา
นวลหน้าของกู้ซินเถาขึ้นสีแดงก่ำ อาจเป็นเพราะนางดื่มสุราเข้าไป
เมื่อเห็นว่าเป็นกู้เสี่ยวหวานที่มาเปิดประตู กู้ซินเถาก็พูดอย่างมีความสุข “เสี่ยวหวาน เจ้าอยู่ที่นี่เองหรือ! เหล้าในร้านอาหารของเจ้ารสชาติดีจริง ๆ กลิ่นของมันหอมมาก”
กู้เสี่ยวหวานเห็นว่าแก้มของกู้ซินเถาแดงปรั่งและดวงตาหวานเยิ้ม จึงเอ่ยเตือนอย่างไม่พอใจ “กู้ซินเถา เจ้าเป็นผู้หญิง การที่เจ้าดื่มเหล้าจนมีสภาพเช่นนี้ หากเกิดอะไรขึ้นมาจะทำอย่าง ไร?”
คาดไม่ถึงว่ากู้ซินเถาจะนิ่งเงียบไม่ได้ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวาย เอาแต่จ้องมองกู้เสี่ยวหวานและพูดว่า “ข้าหวังว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น”
กู้เสี่ยวหวานผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็เห็นกู้ซินเถาเดินส่ายหัวซวนเซไปด้วยรอยยิ้ม
ด้านหลังคือสาวใช้ของหลิวเทียนฉือซึ่งแอบอยู่ทางด้านหลัง จากนั้นก็เข้ามาช่วยพยุงกู้ซินเถาออกไป
เมื่อได้ยินเสียงคนจากไป กู้เสี่ยวหวานก็คิดว่าเรื่องคงจบลงแล้ว
ตราบใดที่พวกเขาไม่รบกวนคนอื่น ตราบใดที่พวกเขากินแล้วจ่ายค่าอาหาร กู้เสี่ยวหวานก็ไม่สนใจพวกเขา
ทันใดนั้นก็มีกลิ่นหอมฉุนโชยมาตามลม กลิ่นนั้นมีกลิ่นหอมที่ค่อนข้างแปลกประหลาด
กู้เสี่ยวหวานเงยหน้าขึ้น และเห็นอาโม่รีบเข้ามาพร้อมกับถือบางอย่างไว้ในมือ ก่อนจะยัดใส่ปากของกู้เสี่ยวหวานและบังคับให้นางกลืนลงไป
หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานกลืนเข้าไป นางได้ยินเสียงกรอบแกรบมาจากกลอนประตู และเห็นใบมีดบาง ๆ ที่สอดมาจากด้านนอกเพื่อสะเดาะกลอนออกทีละนิด ๆ
กู้เสี่ยวหวานตระหนกตกใจ อาโม่กำลังจะก้าวไปข้างหน้า แต่กู้เสี่ยวหวานส่งสัญญาณว่าไม่ต้อง
จากนั้นก็ฟุบนอนบนโต๊ะและแสร้งว่าตนเองหมดสติไป
เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานแสร้งทำเป็นสลบไป อาโม่เข้าใจว่านางหมายถึงอะไร และรีบซ่อนตัวที่ด้านหลังเพื่อดูว่าคนเหล่านี้ต้องการทำอะไร
ประตูถูกผลักเปิดออก และผู้ที่เข้ามาคือสาวใช้ที่ไม่คุ้นเคยข้างกายหลิวเทียนฉืออย่างเสี่ยวเหอ
————————————-