เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 730 จูเซี่ยฉือซิน

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 730 จูเซี่ยฉือซิน

บทที่ 730 จูเซี่ยฉือซิน

“ใครกันที่ทำแบบนี้กับลูกชายข้า?!” ซ่างหงพูดพลางกัดฟันแน่น ความเกลียดชังเผาไหม้ลึกเข้าไปในกระดูกและล้นออกมาจากแววตาของเขา

ซ่างเชียนเป็นลูกชายคนเดียวของเขา เมื่อพิจารณาจากอายุของเขา เมื่อซ่างเชียนเสียชีวิต เขาจะไม่มีผู้สืบทอดอีกต่อไป!

ในชั่วพริบตา ความพยายามทั้งหมดของเขาในชีวิตนี้ดูเหมือนจะไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง แม้กระทั่งตลอดการถูกจองจำ เขาก็ยังคงมั่นใจว่าจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับได้

แต่แม้ว่าตัวเองจะเป็นจอมวางแผนการที่สุดจะลึกล้ำ เขาก็ยังไม่มีอำนาจมากพอที่จะพาลูกชายกลับมาจากประตูยมโลก

สิ่งเดียวที่ทำให้เขามีชีวิตต่อไปคือความปรารถนาที่จะแก้แค้น เขาต้องฆ่าคนที่ฆ่าลูกชายของเขาให้ได้!

เพ่ยเหมียนหมานตอบว่า “เราไม่เห็นใครรอบ ๆ นี้เลย”

นางรู้สึกขอบคุณอย่างลับ ๆ ที่นางและเจิ้งตานได้อยู่กับพวกเขาตลอดเวลา ไม่อย่างนั้น ซ่างหงอาจคิดว่าเป็นฝีมือของพวกนาง

“ท่านพ่อ…” ซ่างเฉี่ยนเดินเข้าไปพยุงเขาทันที ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตา นางเองก็เสียใจเช่นกันที่เห็นพี่ชายของนางตายอย่างอนาถเช่นนี้

ซ่างหงขจัดความเศร้าโศกด้วยความยากลำบาก ร่างกายสั่นสะท้านเมื่อคุกเข่าลงข้างศพของลูกชายและเริ่มตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต

ในช่วงเวลานี้เขาไม่ใช่ผู้ตรวจการเมืองจันทร์กระจ่างที่มากเล่ห์และคาดเดาไม่ได้อีกต่อไป แต่เขาเป็นเพียงชายชราที่โศกเศร้าและน่าสงสารคนหนึ่ง

ซ่างเฉี่ยนสั่นเทาเมื่อเอื้อมมือไปสัมผัสศพของพี่ชาย แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเพราะความเศร้าโศกหรือความโกรธก็ตาม

พวกเขาสองคนตรวจสอบศพครู่หนึ่ง จากนั้นซ่างเฉี่ยนก็พูดอย่างสับสน “ท่านพ่อ ข้าไม่เห็นบาดแผลบนร่างของพี่ใหญ่เลย”

บาดแผลเล็ก ๆ ที่คอของซ่างเชียนนั้นยากต่อการตรวจพบ เนื่องจากมีเพียงแค่ชั้นผิวหนังที่หุ้มกระดูกของเขา

“ทำไมถึงไม่มีบาดแผล…?” ซ่างหงพึมพำกับตัวเอง เขาไม่เข้าใจว่าลูกชายของเขาเสียชีวิตได้อย่างไร

จากระยะไกลพวกเขาได้ยินเสียงกีบม้าควบเข้ามาใกล้มากขึ้น ซ่างหงเงยหน้าขึ้น คนร้ายกลับมาหรือไม่?

แม้แต่เพ่ยเหมียนหมานและเจิ้งตานก็อยากรู้อยากเห็น พวกเขาอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ทำไมถึงมีคนขี่ม้าผ่านมา?

พวกเขาเงยหน้าขึ้นและถูกแสงสีเหลืองพุ่งเข้ามากระแทกจนตาแทบจะบอด พวกเขาเห็นว่าเป็นกลุ่มทหารม้าจริง ๆ และส่วนใหญ่สวมชุดเกราะสีทอง

เจิ้งตานสูดลมหายใจด้วยความตกตะลึง แม้กองทัพผ้าคลุมสีชาดของตระกูลฉู่จะดูแข็งแกร่งจนน่าตกตะลึง แต่แรงกดดันที่ทหารม้าเหล่านี้แผ่นออกมานั้นแข็งแกร่งกว่าของกองทัพผ้าคลุมสีชาดซะอีก!

สีหน้าของซ่างหงเปลี่ยนไป “กองทัพพยัคฆ์สว่าง!”

“พยัคฆ์สว่าง?” ความสับสนของเจิ้งตานชัดเจน

เพ่ยเหมียนหมานก็ตกใจเช่นกัน แต่อธิบายอย่างรวดเร็วว่า “เจ้าไม่ได้มาจากเมืองหลวง ดังนั้นเจ้าอาจไม่รู้เรื่องนี้ กองทัพพยัคฆ์สว่างเป็นกองทัพส่วนตัวขององค์จักรพรรดิ พวกเขาขึ้นตรงต่อคำสั่งขององค์จักรพรรดิแต่เพียงผู้เดียว”

เจิ้งตานตกใจมาก “เจ้ากำลังพูดว่าจักรพรรดิมาด้วยตัวเองเหรอ?”

ซ่างเฉี่ยนส่ายหัว “ไม่ใช่ พระองค์จะเสด็จออกจากเมืองหลวงมาได้ยังไง? น่าจะเป็นผู้แทนพระองค์มากกว่า”

เมื่อกองทหารม้าเข้ามาใกล้มากขึ้น ในที่สุดกลุ่มของซ่างหงก็มองเห็นเค้าโครงหน้าของผู้มาใหม่ที่อยู่แถวหน้าได้

ผู้ชายหลายสิบคนที่อยู่แถวหน้าสวมชุดปักรูปม้ามีปีก และสวมหน้ากากโลหะ นี่เป็นภาพที่พวกเขาไม่คุ้นเคย

ทูตยุทธ์เสื้อแพร!

ความคิดเดียวกันนี้ผุดขึ้นมาในหัวของพวกเขาทุกคนแทบจะพร้อมเพรียงกัน สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ทูตยุทธ์เสื้อแพรเหล่านี้สวมเสื้อผ้าที่มีสีต่างจากกลุ่มที่เคยพาพวกเขาไป และดูเหมือนว่าจะทำจากวัสดุที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นไปอีก คนเหล่านี้จะต้องมีตำแหน่งสูงกว่าอย่างแน่นอน

ที่น่าแปลกใจที่สุดคือเสื้อผ้าของชายที่อยู่ด้านหน้านั้นแตกต่างจากชุดอื่น ๆ เสื้อผ้าของเขาย้อมด้วยสีแดงเข้ม และลวดลายบนเสื้อผ้าของเขาทอด้วยผ้าไหมสีทอง

ไม่มีหน้ากากปิดใบหน้าของเขา

เขาเป็นชายวัยกลางคน ผิวของเขาขาวราวกับไม่เคยต้องแสงแดด ด้วยดวงตาที่คมดุเหมือนเหยี่ยว ทำให้บุคลิกของเขาดูน่าเกรงขามอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเต็มไปกลิ่นอายอันเยือกเย็น

“จูเซี่ยฉือซิน!” การแสดงออกที่ขมขื่นแผ่ไปทั่วใบหน้าของซ่างหง เขาไม่คิดว่าชายคนนี้จะปรากฏตัว

หยาดเหงื่อหยดลงบนใบหน้าของเพ่ยเหมียนหมาน นางพูดเบา ๆ กับเจิ้งตานว่า “บุคคลนี้เป็นหัวหน้าผู้บัญชาการทูตยุทธ์เสื้อแพร…จูเซี่ยฉือซิน เขาไม่เหมือนหัวหน้าหวงฮุ่ยฮง แต่เป็นผู้ที่ควบคุมดูแลทูตยุทธ์เสื้อแพรทั้งหมด ระดับการบ่มเพาะของเขาลึกล้ำจนไม่อาจคาดเดาได้ เขาโค่นล้มขุนนางและเจ้าหน้าที่นับไม่ถ้วนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้แต่เด็กที่ร้องไห้งอแงอยู่ก็ยังต้องหยุดร้องไห้เมื่อเห็นใบหน้าของเขา”

จู่ ๆ เสียงที่ชัดเจนและอ่อนโยนของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น “เหมียนหมาน?”

เพ่ยเหมียนหมานมองไปทางกลุ่มด้วยความไม่เชื่อ นางเห็นร่างที่คุ้นเคยและสวยงาม และน้ำเสียงที่ตอบกลับนั้นก็เต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน “ชูเหยียน?”

หญิงสาวสวยยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาในชุดยาวสีฟ้าเยือกเย็น ผมยาวของนางปลิวไปข้างหลังขับเน้นใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของนาง จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากฉู่ชูเหยียน?

จู่ ๆ ก็มีผู้คนมากมายปรากฏตัวขึ้น ทุกคนสวมหมวกที่แวววาว ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็นนางในตอนแรก

เจิ้งตานถอนหายใจ ไม่น่าแปลกใจที่อาซูเต็มใจเสียสละตัวเองเพื่อตระกูลฉู่

แต่แล้วเมื่อนางคิดว่าซูอันได้เสนอตัวเองให้กับสำนักมารเพื่อเห็นแก่นาง และได้เสี่ยงตายปกป้องนางหลายครั้ง จู่ ๆ รอยยิ้มอบอุ่นก็เผยขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม

ซ่างเฉี่ยนจ้องไปที่ผู้หญิงในชุดยาวสีฟ้าด้วยความมึนงง แม้แต่ในเมืองหลวง นางก็ได้ยินชื่อเสียงเกี่ยวกับความงามของผู้หญิงคนนี้มาโดยตลอด แน่นอนว่าตอนนี้นางได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงงามล่มเมือง!

ไม่น่าแปลกใจที่มีนายน้อยจำนวนมากไล่ตามและแม้แต่พี่ชายของนางก็ดูจะชอบสาวงามนางนี้มากทีเดียว

เมื่อนึกถึงพี่ชาย นางก็เกือบจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

“ชูเหยียน ทำไมเจ้าถึงมากับพวกเขาได้?” เพ่ยเหมียนหมานมองดูนางด้วยความสับสน

ฉู่ชูเหยียนลงจากหลังม้าและเดินไปหานาง “ข้าได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลฉู่ในขณะที่อยู่ในเมืองหลวง ดังนั้นข้าจึงรีบเร่งเดินทางกลับไปที่เมืองจันทร์กระจ่าง แต่ระหว่างทางข้าได้ยินมาว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับอาซู และข้าบังเอิญเจอผู้บัญชาการจูเซี่ย ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจร่วมเดินทางมากับพวกเขา”

“เป็นเช่นนี้นี่เอง” เพ่ยเหมียนหมานรู้ว่าจูเซี่ยฉือซินเป็นบุคคลลึกลับ ถ้าไม่ใช่เพราะชื่อเสียงที่โดดเด่นของฉู่ชูเหยียนในเมืองหลวง เขาคงไม่สนใจนางเลย

“แล้วเจ้าล่ะ? เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” ฉู่ชูเหยียนกะพริบตาและถามด้วยความสงสัย

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท