เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์ – ตอนที่ 77 ทากัตซูกิ มาโกโตะ จำได้

เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์

77 ทากัตซูกิ มาโกโตะ จำได้

ผมมีความฝัน

แปลก, มันไม่ใช่ที่ของโนอาห์-ซามะ มันเป็นฝันจริงๆ

—ห้องในอพาร์ทเม้นท์ระดับล่างในฮิกะชิชินากาว่า

ห้องที่ไม่มีของเยอะและขาดคุณสมบัติที่โดดเด่น ห้องของผม

“เฮ้, ทากัตซูกิ-คุงพ่อแม่นายไม่อยู่ตลอดเลยนะ”

ในเวลานั้นผมอยู่โรงเรียนมัธยมต้น…

ความฝันเมื่อผมเล่นเกมกับซา-ซังตามลำพังด้วยกัน

“ทั้งพ่อแม่มีงานน่ะ, พวกเขากลับมาบ้านดึกๆ ทุกวัน ขอบคุณสิ่งนั้น, ชั้นเล่นเกมมากเท่าที่ต้องการได้” (มาโกโตะ)

“…ไม่ใช่ว่านั่นเหงาเหรอ?” (อายะ)

“ไม่ค่อยอ่ะ มันเป็นแบบนี้ตลอด, ชั้นชินกับมันแล้ว” (มาโกโตะ)

แม้ว่าพ่อแม่จะอยู่, เราไม่มีอะไรให้พูดกัน

การอยู่คนเดียวทำให้ผมผ่อนคลายมากกว่า

“ในที่ของเธอ, เธอมีน้อง 3 คน, ใช่มั้ย?” (มาโกโตะ)

“สี่, พวกเขาหนวกหู” (อายะ)

“แต่เธอเข้ากันได้ดี, ใช่มั้ย? ชั้นเป็นลูกคนเดียว, ดังนั้นชั้นไม่เข้าใจความรู้สึกนั้นเลยนะ” (มาโกโตะ)

“ยังไงซะ พวกเราก็เข้ากัน แต่เมื่อไม่นานมานี้ พวกเค้าติดชั้นงอมแงม, กระนั้นตอนนี้, พวกเค้าไม่เล่นเกมกับชั้นแล้วหลังๆ” (อายะ)

ซา-ซังพองแก้มเหมือนเธอไม่ชอบมัน

“นั่นทำไมเธอมาที่ห้องชั้น, หือห์ ไม่มีเพื่อนสาวที่เล่นเกมด้วยได้เหรอ?” (มาโกโตะ)

“ชั้นมี, แต่…ชั้นไม่มีสาวไหนเล่นเกมแอ็คชั่นกับชั้นที่ชั้นชอบ” (อายะ)

“แต่ชั้นไม่เก่งแอ็คชั่นเกมด้วยนะ” (มาโกโตะ)

“ไม่ใช่ว่านั่นโอเคเหรอ? ชั้นเป็นเพื่อนนายในอาร์พีจีด้วย, ทากันซูกิ-คุง” (อายะ)

“อือ, ใช่” (มาโกโตะ)

ผมเรียนรู้ไม่นานมานี้ว่าการอยู่ด้วยกันแบบนี้มันสนุก

ซา-ซังเคี้ยวป๊อกกี้ที่ข้างผม

ซา-ซังชอบของหวาน, ดังนั้นเธอนำขนมมากับเธอตลอด

ตัวผมชอบมันฝรั่งทอดกับของเค็มๆ

พวกเราแบ่งขนมกันขณะที่เรากิน

“ว่าแต่, ทากัตซูกิ-คุง, นายไม่ใช้เวลามากไปในการสู้กับหัวหน้าเหรอ? เอาอาวุธและเกราะพวกนั้น, และซื้อไอเท็มทั้งหมด” (อายะ)

“จริงอ่ะ? ไม่ใช่นี่ปรกติเหรอ?” (มาโกโตะ)

“เออ๋? มันไม่โอเคที่จะสู้พวกมันซักครั้งเพื่อยืนยันว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหนเหรอ? ถ้านายถูกฆ่า, นายก็เลือกเล่นต่อได้” (อายะ)

“ชั้นเกลียดวิธีเล่นแบบนั้น” (มาโกโตะ)

“เข้าใจแล้ว” (อายะ)

ผมพยายามที่สุดที่จะไม่รับเกมโอเวอร์ในอาร์พีจี

นั่นดูเหมือนจะหงุดหงิดซา-ซัง

ยังไงซะ, ทั้งหมดนี่ซา-ซังชอบแอ็คชั่นเกมที่สไตล์การเล่นโฟกัสไปที่การเล่นต่อ

“เฮ้ เฮ้, เมื่อกำจัดหัวหน้านี้แล้ว, แต่ไปเป็นเกมชั้นนะ, โอเคมั้ย?” (อายะ)

“เข้าใจแล้ว” (มาโกโตะ)

ซา-ซังนำเกมมาที่บ้านผม

เราสลับกันเล่นเกมที่เราอยากเล่น

มันเป็นกฎที่เราใช้ตั้งแต่ปีหนึ่งของโรงเรียนมัธยมต้น

ในเกม, ผมมาตลอดทางจนถึงหน้าหัวหน้า

[มันมีหัวหน้าในห้องนี้! คุณพร้อมมั้ย?]

ใช่

ไม่←

ในหน้าจอมันมีนางเอกสาวดู-อนิเมะน่ารักอยู่พูดกับตัวละครหลัก

ตาของเธอกับนมใหญ่ นางเอกมีเนื้อที่เปิดเผยเยอะในชุดที่เร้าใจของเธอ

หืมม, ถ้าให้ผมเลือก, ผมไม่ชอบเกมที่เน้นไปทางภาพตัวละครมากขนาดนั้น

“ทากัตซูกิ-คุง เธอชอบตัวละครแบบนี้เหรอ?” (อายะ)

“…ไม่” (มาโกโตะ)

“แต่สาวคนนี้น่ารัก จริงๆแล้วนายชอบ, ใช่มั้ย” (อายะ)

ห่า, เธอแหย่ผม

เธอเตรียมตัวกับการตอบโต้แล้ว, ใช่มั้ย?

“หืม, ชั้นชอบสาวที่ไม่มีหน้าอกมาก” (มาโกโตะ)

ผมมองที่ซา-ซัง

หน้าอกของซาซังในปีสองของมัธยมต้น ธรรมดามาก

แม้จะเป็นปีแรกในโรงเรียนมัธยมปลาย, มันก็ไม่ใหญ่ขนาดนั้น

“…ทำไมมองมาทางนี้ล่ะ?” (อายะ)

“เพราะชั้นชอบมันที่เล็กๆ” (มาโกโตะ)

ผมยิ้ม มันสำคัญดังนั้นผมพูดมันสองครั้ง

“อยากโดนตบหรอ, ทากัตซูกิ-คุง

“ชั้นต่อต้านความรุนแรง” (มาโกโตะ)

เพราะผมเสร็จการตอบโต้แล้ว, ผมกลับไปที่การท้าทายหัวหน้า

เพราะผมเตรียมการณ์เสร็จสมบูรณ์, ผมกำจัดมันโดยไม่มีอันตราย

ผมเซฟเกม, และจบเกมที่ผมเล่นอยู่

“งั้น, ครั้งนี้, ที่ชั้นเอามาวันนี้คือ วา****เนะ” (อายะ)

“โออ้! ที่มันเพิ่งออกเมื่อวานนี่?” (มาโฏโ๖ะ)

“น้องชั้นซื้อมัน วันนี้ชั้นมาที่บ้านเธอ, ดังนั้นชั้น {ยืมมัน} กับเค้า” (อายะ)

“…ชั้นสงสารน้องชายเธอ” (มาโกโตะ)

มันดูเหมือนมันเกิดขึ้นเมื่อคุณมีญาติที่โตกว่า

มันเป็นฉากธรรมดาในเวลาของเราเมื่อตอนมัธยมต้น

ช่างย้อนวันวาน

อ้าา, ภาพมันเริ่มพร่ามัวแล้ว

ผมรู้สึกว่าผมจะตื่นเร็วๆนี้

ทำไมผมเห็นความฝันแบบนี้

…เมื่อผมคิดเกี่ยวกับมัน, นางเอกนั่นดูเหมือนลูซี่นิดหน่อย

ผมคิดสิ่งนี้ก่อนที่จะตื่น

“…”

ผมตื่น

นี่เป็นห้องของฮีโร่ (ผม) ในปราสาทโรเซส

ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อวาน

เตียงมันคิงไซส์…นั่นมันคือที่เรียกใช่มั้ย?

มันใหญ่

เตียงนี่ใหญ่เท่าห้องผมในโลกเดิมของผม

“ทากัตซูกิ-คุง! ชั้นเจอร้านเครปอร่อยๆ!”

ซา-ซังปรากฏตัวระหว่างที่ผมขยี้ตาอยู่บนเตียง

เธอชอบของหวานของเธอเหมือนเคย

ผมมองซา-ซังผู้ที่ไม่เปลี่ยนไปมาจากที่อยู่ในฝัน

เธอจริงๆแล้วเกิดใหม่เป็นมอนสเตอร์นะ

ใช่, ผมจำอะไรสำคัญได้จากความฝัน

ผมได้ไล่ตามการพัฒนา-ตัวเองหลังๆ

แต่นั่นมันไม่ถูก

เราคือปาร์ตี้

นั่นทำไมเราต้องมุ่งเป้าไปที่สภาพที่ดีที่สุดในฐานะปาร์ตี้

เราต้องซื้ออุปกรณ์ที่ดีที่สุดและหาไอเท็มให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

นั่นคือสไตล์การเล่นของผม!

“ซา-ซัง, ไปช้อปปิ้งกัน!” (มาโกโตะ)

“หืม?” (อายะ)

สีหน้าที่งงเป็นสัตว์ตัวน้อยของเธอไม่เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่เวลามัธยมต้น

◇◇

“อะไรน่ะ ชั้นนึกว่ามันเป็นการชวนมาเดทซะอีก” (อายะ)

“มันเหมือนการเดทนะ, ไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?” (มาโกโตะ)

“เอ๋? นายคงไม่มาร้านอาวุธในการเดทหรอก, ทากัตซูกิ-คุง!” (อายะ)

ซา-ซังพองแก้มของเธอ

มันค่อนข้างกลับกลอก, หือห์

“งั้น, ชอบอะไรล่ะ?” (มาโกโตะ)

ดาบ, ขวาน และหอก

ร้านอาวุธในเมืองหลวงมีตัวเลือกมากมายเทียบกับมักกาเรน

ถ้าผมใช้ชื่อของฮีโร่, ราชวงศ์โรเซสจะเป็นจ่ายมัน

ไม่ใช่ว่านั่นมันดีเหรอ?!

“หืมมม…ชั้นไม่ดีกับพวกดาบ…” (อายะ)

ซา-ซังพูดด้วยสีหน้าซับซ้อน

“เอ๋?” (มาโกโตะ)

ผมฟังเธอว่าทำไมมันเป็นแบบนั้น, และมันดูเหมือนว่า, นอกจากผมผู้ชื่นชอบสิ่งแฟนตาซีโดยพื้นฐาน, สาวมัธยมญี่ปุ่นอย่างซา-ซังไม่รู้สึกสบายถ้าแกว่งบางอย่างอย่างมีดหรือดาบ

ยังไงซะ แน่นอนว่ามันจะเป็นอย่างนั้น

มันช่วยไม่ได้เมื่อเธอใช้ชีวิตในลาเบรินทอส, มันไม่เหมือนว่าเธออยากใช้อาวุธดาบเพื่อตัดมอนสเตอร์

แล้ว, ซา-ซังส่วนใหญ่ลุยมือเปล่า

“แต่มันมีเวลาที่เธอแตะต้องตัวมอนสเตอร์ด้วยมือเปล่าไม่ได้เหมือนตอนยักษ์ต้องห้ามนะ” (มาโกโตะ)

“ใช่…” (อายะ)

พวกเราสองคนถอนหายใจลึกๆ

“งั้น, มาลองดูร้านชุดเกราะและไอเท็มมั้ย?” (มาโกโตะ)

“โอเค โทษทีนะ, ทากัตซูกิ-คุง” (อายะ)

“มันโอเค มันไม่มีประโยชน์ที่จะบังคับตัวเธอให้ใช้อาวุธที่เธอไม่ถนัด” (มาโกโตะ)

ซา-ซังซื้อชุดเซ็ทสมบูรณ์สำหรับการใช้ศิลปะการต่อสู้, และเครื่องประดับที่มีพลังป้องกันทางเวทมนตร์

ผมซื้อไอเท็มรักษาที่จะไม่หนัก

ในนามของราชวงศ์โรเซส

◇◇

“มาโกโตะ-ซัง, อายะ-ซัง, กลับมาแล้วเหรอ”

เมื่อเรากลับมาที่ห้องในปราสาทโรเซส, เราพบกับเจ้าชายเลนเนิร์ด

“ผมฝึกเวทมนตร์กับลูซี่-ซังวันนี้น่ะ” (เลนเนิร์ด)

“ลูซี่สร้างปัญหาให้เธอมั้ย…?” (มาโกโตะ)

เธอบอกว่าเธอจะไปฝึกเวทมนตร์ทั้งวัน, ดังนั้นผมเลยไม่ห่วง, แต่เวทมนตร์ของเธอคงไม่เตลิดเปิดเปิง, ผมหวังว่าน่ะ

ลูกบอลไฟของลูซี่สามารถเผาดอกไม้ในสวนทั้งหมดได้

“ฮ่าฮ่า! มันโอเค แค่ว่า เธอดูเหมือนจะมึนมานา ดังนั้นเธอพักอยู่ในห้องเธอ” (เลนเนิร์ด)

หืมม, เธอทำงานหนักไป

มาเช็คสภาพเธอภายหลังดีกว่า

“ว่าแต่, ทั้งสองคนไปช้อปปิ้งเหรอ?” (เลนเนิร์ด)

“ใช่, เราซื้อของมากมายอย่างชุด, ไอเท็ม, และพวกนั้น!” (อายะ)

ซา-ซังพูดด้วยความยินดีแต่คนที่จ่ายเงินคือเด็กชาย(ราชวงศ์) ที่อยู่ตรงหน้าเธอนะ

“แต่จริงๆแล้วชั้นอยากหาอาวุธนะ” (มาโกโตะ)

เมื่อผมพูดอย่างนั้น, หน้าเจ้าชายเลนเนิร์ดสว่างขึ้น

“งั้น, มาลองดูห้องสมบัติของตระกูลราชวงศ์มั้ย? ถ้ามันเป็นฮีโร่มาโกโตะ-ซังและอายะ-ซัง มันไม่มีปัญหาถ้าใช้มัน” (เลนเนิร์ด)

จริงเหรอ?!

“ว้าว, ชั้นอยากไปดู, ชั้นอยากไปดู!” (อายะ)

ซา-ซังกระโดดอยู่กับที่

“ถ้าอย่างนั้น มันเป็นทางนี้” (เลนเนิร์ด)

ผมควรจะปรึกษากับเจ้าชายเลนเนิร์ดตั้งแต่แรกเริ่ม!

พวกเราถูกนำไปที่ห้องสมบัติที่ใต้ดินของปราสาท

◇◇

เปิดประตูเหล็กบานใหญ่, เราเข้ามาในห้องที่มืด

“มันค่อนข้าง…ฝุ่นเยอะ” (อายะ)

“ใช่…แต่มานาของอาวุธและชุดเกราะในห้องนี้ยอดเยี่ยมมาก ของแต่ละชิ้นแต่ละชิ้นเป็นอาวุธเวทมนตร์

ห้องที่ทำจากหินที่มีอาวุธผิวเผินดูเหมือนพวกมันเรียกกันตามยถากรรม และแพงขนาดที่ซื้อบ้านได้

“มันโอเคถ้าจะดูอย่างอิสระ, แต่โปรดบอกผมก่อนจับอะไรก็ตาม โดยเฉพาะที่ห่อผ้ากับล่ามโซ่ที่ถูกผนึกคืออาวุธที่ {ต้องสาป} ดังนั้นระวังด้วย” (เลนเนิร์)

“ด-ได้” (อายะ)

ซา-ซันเกือบจะจับอันนึงแล้ว!

ผมก็ควรระวังด้วย

ผมดูไปรอบๆซักพัก

“เจ้าชายเลนเนิร์ด, ดาบนี่อะไร?” (มาโกโตะ)

“มันคือดาบศักดิ์สิทธิ์, ดาบน้ำแข็ง อยากลองใช้มันมั้ย?” (เลนเนิร์ด)

“น-นี่มันดาบน้ำแข็ง…” (มาโกโตะ)

ดาบน้ำแข็งที่ผมหวัง…

“ผมจับได้มั้ย?” (มาโกโตะ)

“เอาเลย, เอาเลย” (เลนเนิร์ด)

เจ้าชายเลนเนิร์ดมอบคำโอเคเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ผมนำดาบออกจากฝัก

ใบมีดที่ยาวและเรียวได้ส่องแสงออกสีฟ้าและมันงดงาม

งั้นนี่มันดาบศักดิ์สิทธิ์, หือห์…หนัก

“ทากัตซูกิ-คุง, นายโอเคมั้ย?” (อายะ)

“ใช่, ขอบคุณ” (มาโกโตะ)

เธอหนุนผมผู้ที่เซ

“มัน…หนักไปหน่อยเหรอ?” (เลนเนิร์ด)

เจ้าชายเลนเนิร์ดหัวเราะคิดคัก

“ดูเหมือนมันไม่เหมาะกับชั้น” (มาโกโตะ)

ผมคืนมันที่ที่หยิบมันมา

ฮ่าาห์…ผมไม่สามารถเอาดาบน้ำแข็งที่ผมหามานาน

“เจ้าชาย, นี่อะไรเหรอ?” (อายะ)

ซา-ซังดูเหมือนจะเจอบางอย่าง

“นั่นมันคือค้อน, ซา-ซัง?” (มาโกโตะ)

รูปร่างมันเหมือนอันที่ช่างไม้ใช้, แต่เหมือนกับค้อนปิโกะปิโกะมากกว่า

ดูผิวเผินมันดูเหมือนทำมาจากทองแดง, แต่มันยังดูเหมือนมันทำจากทองที่ออกสีชมพู

ซา-ซังชอบมันเพราะสีเหรอ?

“ว้ะ?!” (เลนเนิร์ด)

เจ้าชายเลนเนิร์ดแสดงใบหน้าที่ตกใจ

“มีอะไรเหรอ?” (มาโกโตะ)

“อ-อายะ-ซัง! ถือค้อนนั้นได้ด้วยมือเดียวเหรอ?” (เลนเนิร์ด)

“เอ๋? อะไรเหรอ?” (อายะ)

ซา-ซังเหวี่ยงค้อนซ้ายและขวา

นั่นก็อาวุธเวทมนตร์เหรอ?

ขอชั้นดูแปปนึงซิ” (มาโกโตะ)

“โอเค, แต่มันหนักนิดหน่อยนะ, รู้มั้ย?” (อายะ)

“งั้นเหรอ, มาดูกัน—อุอ๊าาาาา!” (มาโกโตะ)

เธอโยนมาให้ผมด้วยมือเดียว, ทันทีที่ผมรับมัน, มันลากผมไปกับพื้น, ผมต้องปล่อยมัน

ค้อนหล่นไปที่พื้น ทำห้องสั่นนิดหน่อย

น-นี่มันอะไร

“ม-มาโกโตะ-ซัง, นั่นเป็นค้อนของเทพเจ้าผู้ดุ้รายมันถูกใช้โดยฮีโร่ซา-มะบางคนเมื่อ 1,000ปีก่อน, แต่เพราะน้ำหนักที่เหลือเชื่อ, มันเป็นอาวุธที่ไม่มีคนใช้มาเป็น 1,000 ปี” (เลนเนิร์ด)

“…ไม่ใช่ว่ามันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?” (มาโกโตะ)

แม้ว่ามันดูเล็ก, น้ำหนักดูเหมือนว่ามันน่าจะไปไกลถึง 100 กิโล

“ชั้นจะแสดงรูปแบบที่แท้จริงของอาวุธนั่นให้ดู, โอเคมั้ย? …อืม หมุนตรงนี้, และ…” (เลนเนิร์ด)

เจ้าชายเลนเนิดหมุนตรงมุมของด้ามจับ, และ…

“ว้าา” “โอออ้”

ค้อนเปลี่ยนเป็นค้อนใหญ่อย่างบ้าคลั่งขนาด 2 เมตร

เข้าใจแล้ว, อาวุธที่สามารถเปลี่ยนไซส์ได้อิสระ, หือห์

มันไม่ใช่แค่อยู่ในระดับแค่ 100 กิโล

ซา-ซาเหวี่ยงมันด้วยมือเดียวเหรอ…?

“เฮฮฮ๋, นั่นน่าสนใจ ดีไซน์มันน่ารักด้วย” (อายะ)

“น่ารัก?” (มาโกโตะ)

เธอเหวี่ยงค้อนขนาดยักษ์เหมือนที่เธอทำเมื่อกี้นี้

โว้, นั่นอันตราย

“ถ-ถ้าเธอชอบมัน, เธอเอามันไปได้ ผมจะบอกเน่-ซามะด้วยตัวเอง” (เลนเนิร์ด)

เลนเนิร์ดชะงักนิดหน่อยด้วยสิ่งนี้

ทำฮีโร่กลัวเธอ ผมจะคิดยังไงกับมันดี?

“เธอจะทำยังไง, ซา-ซัง?” (มาโกโตะ)

“ใช่, ชั้นจะรับมันไว้” (อายะ)

ค้อนได้หดลง

“เมื่อมันขนาดเล็กลง, มันเปลี่ยนเป็นไซส์เครื่องประดับได้, และมันเบาลง เมื่อไม่ได้ใช้เป็นอาวุธ, โปรดพกพามันไปแบบนั้น” (เลนเนิร์ด)

“โอเค~” (อายะ)

โฮ่ห์, นั่นสะดวก

แต่จำนวนคนที่ใช้ได้มีจำกัดจริงๆ

มันเยี่ยมเลยที่ซา-ซังชอบมัน

◇◇

“ลูซี่, เธอโอเคมั้ย?” (มาโกโตะ)

“มาโกโตะ…?”

ซา-ซังและผมไปตามทางของเรา, และเมื่อผมคิดว่าจะไปฝึกเวทมนตร์, ผมเจอกับลูซี่ที่เดินเซ

ชุดของเธอดูเหมือนจะเปิงกว่าปรกติ

ไม่ใช่ว่าเธอโชว์ไหล่เยอะไปเหรอนี่

“ชั้นได้ยินมาว่าเธอใช้มานาเยอะไปแล้วมึนมานา” (มาโกโตะ)

“ใช่…ชั้นนอนไปซักพัก ชั้นโอเคแล้ว” (ลูซี่)

เธอมองผมด้วยตาที่ลอย

เธอได้ครึ่งหลับครึ่งตื่น

“ทำกลางๆหน่อย” (มาโกโตะ)

“แต่นายฝึกตลอดเวลานะ, มาโกโตะ” (ลูซี่)

เธอพองแกมและบ่น ‘มมมมุ’

“ชั้นจะกลับไปที่ห้องและฝึก อยากมาด้วยมั้ย, ลูซี่?” (มาโกโตะ)

ผมมีบางอย่างอยากจะพูดกับลูซี่ด้วย

“ห้องมาโกโตะ?! อ-โอเค, ชั้นจะไป” (ลูซี่)

ทำไมเธอตกใจล่ะ?

มันแค่ห้องที่ยืมมานะ, รู้มั้ย?

◇◇

“ลูซี่, อยากเรียนสกิลก่อนฝึกเวทมนตร์มั้ย?” (มาโกโตะ)

“เอ๋, ทำไม?” (ลูซี่)

“ในเวลาที่มอนสเตอร์ต้องห้ามโผล่มา, นักเวทย์กลายเป็นไร้พลัง, ใช่มั้ย? ถ้าเธอเรียนสกิลอย่างโล่งจิต, ชั้นคิดว่ามันจะมีประโยชน์ครั้งต่อไปที่เราสู้แบบนั้นอีก” (มาโกโตะ)

หรือเหมือนกับ, มันไม่จำกัดแค่ลูซี่มากกว่า, นักเวทย์ของอาณาจักรและนักผจญภัยก็ควรจะเรียนรู้มันด้วย

ผมควรปรึกษากับเจ้าหญิงโซเฟียหรือเจ้าชายเลนเนิร์ดเกี่ยวกับเรื่องนี้

“มาโกโตะ…โล่งจิตเป็นสกิลหายากนะรู้มั้ย?” (ลูซี่)

“เอ๋?” (มาโกโตะ)

จริงเหรอ?

“มันมีสกิลรักษาสภาวะจิตใจหลากหลาย, แต่สกิลที่นายมีเป็นระดับเหนือกว่า ถ้านายอยากเรียนรู้ซักอัน, มันคงจะเป็นสกิลสงบใจ” (ลูซี่)

“เข้าใจแล้ว, งั้นมันมีหลายอย่าง, หือห์ แล้ว, ชั้นใช้ [โล่งจิต] ตลอดทั้งวัน, แต่ชั้นรู้สึกเหมือนสมาธิไม่ตกเลย” (มาโกโตะ)

“…เธอใช้มันทั้งวันเหรอ?” (ลูซี่)

เธอมองผมเหมือนคนบ้า

“ชั้นคิดว่ามันมีผลแบบเดียวกับสกิล [สมาธิ]…เข้าใจแล้ว, งั้นใช้สกิลระหว่างฝึกอาจจะมีผลมากกว่าเดิม?” (ลูซี่)

“ชั้นไม่ได้ใส่ใจมันมาก, แต่มันน่าจะเป็นแบบนั้น” (มาโกโตะ)

แต่ผมแค่ใช้สกิลเพราะความไม่สบายใจที่เห็นเพื่อนร่วมชั้นไปทีละคนในเวลาที่อยู่ในวิหารแห่งน้ำนะ…

บางทีมันอาจจะมีผลที่ผมไม่รู้

“ใช่, มันอาจจะเป็นแบบที่นายบอก, มาโกโตะ ชั้นได้ฝึกเวทมนตร์มาแบบ-เดียว, แต่มันอาจจะดีกว่าถ้าชั้นเรียนสกิล [สงบใจ] และ [สมาธิ] ก่อน! ขอบคุณ, มาโกโตะ” (ลูซี่)

“ไม่มีปัญหา” (มาโกโตะ)

ด้วยสิ่งนี้, ครั้งต่อไปที่มอนสเตอร์ต้องห้ามโจมตีเรา, ผมสามารถสู้ด้วยกันกับลูซี่ได้

ซา-ซังก็ได้อาวุธด้วย

ใช่มันดูเหมือนมีหลายอย่างที่เราทำได้

“งั้น, มาฝึกเถอะ” (มาโกโตะ)

“โอเค!” (ลูซี่)

◇◇

“…ฟฟฟฟี้” (ลูซี่)

“เธอหลับ, หือห์” (มาโกโตะ)

เราทำเต็มที่ซักพักหนึ่ง แต่บางที่การฝึกสกิลทำให้เธอง่วง?

ลูซี่หลับไปที่เตียงของผม ผมห่มผ้าห่มให้เธอและปล่อยให้เธอนอนไปแบบนั้น

ทั้งหมดนี่ผมจะรู้สึกไม่ดีถ้าผมปลุกเธอ

ลูซี่ดูเหมือนจะหลับอย่างสบาย

ผมรู้สึกว่าผมจะอยู่ในอารมณ์ประหลาดถ้าผมมองใบหน้าที่หลับของเธอต่อไป, ดังนั้นผมฝึกต่อ

“สปิริต-ซัง, สปิริต-ซัง” (มาโกโตะ)

ผมปลดโล่งจิตและใช้เวทมนตร์สปิริต

—{ฟุฟุ}

ผมได้ยินเสียงอีกครั้ง

นี่มันนั่น?

นี่มันเสียงของสปิริตเหรอ?

เวทมนตร์สปิริตพัฒนาเหรอ?

ใช้…ผมบอกไม่ได้…

พวกเราอยู่ในห้อง, ดังนั้นผมใช้เวทมนตร์ใหญ่ไม่ได้

…ผมง่วง

ผมในจุดหนึ่งก็หลับไปที่เตียงเช่นกัน

TLN ขอบคุณสำหรับเงิน 23 บาท

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอท https://discord.gg/dru8M3ZY

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน

เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์

เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์

Status: Ongoing
นักเวทย์ที่อ่อนแอที่เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์ – นักเวทย์ที่อ่อนแอที่สุดในเพื่อนร่วมชั้น – Clearing an Isekai with the Zero-Believers Goddess – The Weakest Mage among the Classmates (WN)สุดในเพื่อนร่วมชั้น – CLEARING AN ISEKAI WITH THE ZERO-BELIEVERS GODDESS – THE WEAKEST MAGE AMONG THE CLASSMATES (WN)มาโกโตะ ทากัตซูกินั้นเป็นนักเรียนมัธยมธรรมดาและผู้เล่นอาร์พีจีฮาร์ดคอร์ อย่างไรก็ตาม, ทิ้งคำว่า “ธรรมดา” เมื่อทั้งชั้นเรียนรถพังและกระดอนมาอยู่ต่างโลก! เทพเจ้าผู้แข็งแกร่งปกครองดินแดนที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และมอนสเตอร์และคนมาใหม่ทุกคนถูกให้พรด้วยสแตทที่แข็งแกร่งและสกิลที่พิเศษ แต่, ไม่ค่อยจริง สแตทของมาโกโตะออกมาน่าสงสาร, และสกิลเขาอ่อนแอสุดๆเทียบกับเพื่อนร่วมชั้น…เขาติดอยู่กับการเป็นนักเวทย์ฝึกหัด แย่ไปกว่านั้น, เขามีชีวิตอยู่ได้แค่อีกสิบปียังโชคดี, มาโกะโตะได้พบกับเทพธิดาเล็กๆชื่อว่าโนอาห์, ผู้ที่มาปรากฏในฝันของมาโกโตะและขอให้เขาเป็นผู้ศรัทธาคนแรก ด้วยความช่วยเหลือของพรจากโนอาห์และอาวุธศักดิ์สิทธิ์,มาโกโตะมุ่งมั่นที่จะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะช่วยเทพธิดาออกมาจากดันเจี้ยนที่เธอติดอยู่ ด้วยการฝึกที่หนักหน่วง และ การใช้สกิลที่อ่อนแออย่างแหวกแนว มาโกโตะพิสูจน์ว่า, แม้จะเล่นในความยากระดับฮาร์ดคอร์ นักเล่นอาร์พีจีก็ทำไดในท้ายที่สุด!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท