เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์ – ตอนที่ 153 ทากัตซูกิ มาโกโตะ ได้รับคำแนะนำ

เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์

153 ทากัตซูกิ มาโกโตะ ได้รับคำแนะนำ

“จริงๆแล้ว…มันดูเหมือนเพื่อนร่วมชั้นของเราได้อยู่ในเมืองหลวงในฐานะทาส” (ฟูจิ)

ที่ฟูจิ-ยังพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักเป็นบางอย่างที่คาดไม่ถึง

(ทาส…ทาส หือห์…) (มาโกโตะ)

ทาสไม่ได้หมายถึงสิ่งที่ผิดปรกติในทวีปตะวันตก

อย่างไรก็ตาม ผมไม่ค่อยได้เจอทาส

เหตุผลมันเป็นเพราะโรเซสไม่มีระบบทาส

ผมคิดว่าผมได้ยินมาจากที่ไหนซักแห่งว่านี่เป็นนโยบายจากราชวงศ์โรเซส

(ชั้นเกลียดการมีทาสน่ะ เห็นมั้ย~ มาโกะ-คุง) (เออร์)

อ้า เออร์-ซามะ

ท่านได้ฟังอยู่ หือห์

ดูเหมือนมันเป็นเรื่องของความชอบของเทพธิดา เออร์-ซามะ

ในประเทศทางศาสนาอย่างโรเซส ความต้องการของเทพธิดาจะมีอิทธิพลอย่างแน่นอน

(ช-ชั้นก็เกลียดการมีทาสด้วย จะบอกให้นายรู้ไว้!) (โนอาห์)

โนอาห์-ซามะ…ท่านไม่ต้องแข่งขัน

อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติแล้วมันไม่มีทาสในโรเซส

งั้น แล้วประเทศอื่นล่ะ

ไฮแลนด์ เกรทคีธ คาเมลอน คัลลิรัน; พวกมันทั้งหมดมีระบบทาส

วัตถุประสงค์ของทาสนั้นหลากหลาย: แรงงาน ทหาร และ ความสุข

มันไม่ได้มอบภาพลักษณ์ที่ดี

“แล้ว…ฟูจิ-ยัง ใครเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นทาสล่ะ?” (มาโกโตะ)

ผมถามอย่างลังเล

เพื่อนร่วมชั้นที่ผมสนิทด้วยมีเพียงฟูจิ-ยังและซา-ซัง และยังมีซากุไร-คุง ดังนั้นผมไม่คิดว่าเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นของผม

แต่กลุ่มเพื่อนของฟูจิ-ยังกว้างนะ…

“…คาวาคิตะ เคโกะ-โดโนะ-เดสุ โซ” (ฟูจิ)

ฟูจิ-ยังพูดชื่อของเพื่อนร่วมชั้น

หืม…

(นั่นคือใคร?) (มาโกโตะ)

ผมคิดว่าผมได้ยินชื่อนั้นมาก่อน…หรืออาจจะไม่?

“เอ๋?! เคโกะ-จัง?!” (อายะ)

คนที่พูดมาจากนอกห้องคือซา-ซัง

มันดูเหมือนเธอเดินผ่านมาแค่ตอนนั้นพอดี

“ซา-ซัง เธอรู้สึกโอเคแล้วเหรอตอนนี้?” (มาโกโตะ)

“ช-ใช่ ขอโทษที่อยู่บนเตียงเมื่อวานนะ ที่สำคัญกว่านั้น! นั่นมันอะไรที่บอกว่าเคโกะ-จังเป็นทาสน่ะ?! ฟูจิวาระ-คุง!” (อายะ)

ซา-ซังได้สั่นไหล่ของฟูจิ-ยังด้วยพลังที่เหลือเชื่อ

“ด-ได้โปรดใจเย็น ซาซากิ-โดโนะ เคโกะ-โดโนะดั้งเดิมแล้วอาศัยอยู่ในไฮแลนด์ แต่มันดูเหมือนว่าเธอถูกหลอกโดยขุนนางนิสัยไม่ดี และจบที่การแบกหนี้ก้อนโต… เธอได้ตกไปเป็นทาส และชั้นได้บังเอิญเจอเธอในสินค้าที่จะถูกลงรายชื่อในตลาดทาสเร็วๆนี้” (ฟูจิ)

“ม-ไม่มีทางน่า!” (อายะ)

ซา-ซังทำหน้าที่ขมขื่นกับคำอธิบายของฟูจิ-ยัง

ฟูจิ-ยังยังมีสีหน้าที่เจ็บปวดด้วย

(น-นี่มันแย่แล้ว ชั้นพูดไม่ได้ว่าชั้นแม้แต่จำหน้าเธอก็ไม่ได้) (มาโกโตะ)

“ซ-ซา-ซัง เธอเป็นเพื่อนที่ดีกับคาวาคิตะ-ซังเหรอ?” (มาโกโตะ)

สำหรับตอนนี้ มาเนียนเป็นบทสนทนาก่อนเถอะ

“ใช่ เราเล่นด้วยกันนานๆครั้ง เธอมีนิสัยที่หยาบๆ แต่เธอเป็นสาวที่ดี” (อายะ)

“ใช่…ซาซากิ-โดโนะ และเคโกะเป็นเพื่อนกัน” (ฟูจิ)

เพื่อนของซา-ซัง หือห์

งั้นผมมองข้ามมันไม่ได้

“แล้วก็ นายอยากจะช่วยคาวาคิตะ-ซัง ใช่มั้ย?” (มาโกโตะ)

ด้วยการไหลของเหตุการณ์ มันควรจะเป็นแบบนั้น

“ใช่ เราต้องช่วยเธอ! แต่…วิธีไหนล่ะ?” (อายะ)

“ซา-ซัง ถ้าเธอเป็นทาส ไม่ได้หมายความว่ามันแก้ได้ด้วยเงินเหรอ? ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ ฟูจิ-ยัง?” (มาโกโตะ)

สำหรับเราคนต่างโลก มันไม่เข้ากับเราเลย แต่ในความรู้สึกกว้างๆ มันเป็นการค้ามนุษย์

งั้น ไม่ควรจะมีปัญหาด้วยทุนจำนวนมหาศาลที่ฟูจิ-ยังมี

“เกี่ยวกับเรื่องนั้น…มันไม่ใช่แค่นั้น” (ฟูจิ)

คำตอบของฟูจิ-ยัง ไม่ได้เป็นด้านบวก

เหตุผลก็คือ…ทาสคนต่างโลกมีมูลค่ามาก

เพราะสกิลที่ทรงพลังที่พวกเขามี

คาวาคิตะ-ซังยังมีสกิลหายากด้วย ทำให้มูลค่าของเธอขี่จรวด

“ตลาดทาสปรกติแล้วจะทำการประมูล และคนที่จ่ายเยอะสุดจะเป็นคนที่ได้เป็นเจ้าของ ยังไงก็ตาม ในกรณีของเคโกะ-โดโนะ มันได้ถูกตัดสินไปแล้วว่าเธอจะถูกเป็นเจ้าของด้วยตระกูลขุนนางตระกูลหนึ่ง เหตุผลที่พวกเขาแสดงตัวเธอให้สาธารนะมันเพื่อที่จะแสดงพลังของขุนนางนั้น” (ฟูจิ)

“นั่นมันอะไรกัน…” (อายะ)

ซา-ซังแสดความไม่พอใจกับที่ฟูจิ-ยังได้พูด

มันเป็นรสนิยมที่แย่อย่างแน่นอน

(แต่คาวาคิตะ…เคโกะ-ซัง หือห์ ไม่ดีเลย ชั้นจำเธอไม่ได้เลยซักนิด แต่ชั้นรู้สึกว่าเธออยู่ที่ไหนบางแห่งในความทรงจำของชั้นนะ) (มาโกโตะ)

(มาโกโตะ เธอจำกลุ่มสามคนในวิหารแห่งน้ำที่ล้อแสตทที่ต่ำติดดินของเธอไม่ได้เหรอ?) (โนอาห์)

(กลุ่มสามคน) (มาโกโตะ)

เมื่อพูดถึงคนที่ล้อผม มันจะเป็นคิตะยามะ โอกาดะ-คุง และ…อ้า! ผมจำได้แล้วตอนนี้!

สาวที่ดูเกเรที่อยู่ด้วยกันกับสองคนนั้น!

มันไม่ใช่ว่าเราไม่สนิท มันเป็นพวกที่ผมไม่เก่งในการจัดการด้วยอย่างสิ้นเชิงเลย!

สาวคนนั้น หือห์

เข้าใจแล้ว เธอจบที่การเป็นทาส

ไม่ว่ากรณีไหนๆ…

“ฟูจิ-ยัง นายสนิทกับคาวาคิตะ-ซังดีเหรอ?” (มาโกโตะ)

ซา-ซังเป็นพวกเข้าสังคม ดังนั้นพักเธอไว้ก่อน

คาวาคิตะเป็นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับโอตาคุชอบเล่นเกมแบบเรา

“เคโกะ-โดโนะ…บ้านของเธออยู่ระแวกบ้านชั้น และชั้นรู้จักเธอตั้งแต่อนุบาล… มันจริงที่ว่าชั้นไม่ได้คุยกับเธอเลยซักนิดตั้งแต่เมื่อชั้นเข้ามัธยมปลาย แต่ไม่มีทางที่ชั้นจะมองข้ามความจริงที่ว่าเธอเป็นทาสได้…” (ฟูจิ)

“เข้าใจแล้ว ฟูจิวาระ-คุงและเคโกะ-จังอยู่ด้วยกันตอนมัธยมต้นด้วย ใช่มั้ย? นายเลยเป็นเพื่อนวัยเด็กกัน!” (อายะ)

ซา-ซังทุบมือของเธอ

หืมม อย่างนั้นเหรอ

(ถ้าเป็นกรณีของชั้น ถ้าซากุไร-คุงได้เป็นทาส…ไม่ มันจะเป็นตรงกันข้ามกัน หือห์ โอกาสที่ชั้นเป็นทาสนั้นสูงกว่า) (มาโกโตะ)

ในเวลานั้น ซากุไร-คุงจะปรากฏตัวมาเพื่อช่วยผมอย่างกล้าหาญ

ใช่ มันน่ากลัวที่ผมจิยตนาการมันได้ง่ายๆเลย

เดี๋ยว นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องโง่ๆแบบนั้น

(ยังไงซะ ที่เราควรทำนั้นได้ถูกตัดสินใจแล้ว) (มาโกโตะ)

“งั้น ฟูจิ-ยัง มาวางแผนเพื่อช่วยคาวาคิตะ-ซังกันเถอะ” (มาโกโตะ)

“ใช่! ทากัตซุกิ-คุง มาช่วยเคโกะ-จังกันเถอะ! อ้า ทากัตซูกิ-คุง ชั้นมีบางอย่างอยากจะพูดกับนายภายหลังน่ะ…” (อายะ)

“เอ๋? โอเค เข้าใจแล้ว” (มาโกโตะ)

การปรึกษาจากซา-ซัง หือห์

มันจะเป็นเรื่องอะไรกัน?

“ด-เดี๋ยว ได้โปรด! ทักกิ-โดโนะและซาซากิ-โดโนะ คนที่ได้ถูกตัดสินให้เป็นเจ้าของของเคโกะ-โดโนะ เป็นขุนนางมีชื่อเสียงแม้ในเกรทคีท มากกว่านั้น พวกเขาเป็นคนที่ไม่ขาดเรื่องข่าวลือร้ายๆเลย การช่วยด้วยกำลังมีความเสี่ยง…” (ฟูจิ)

ฟูจิ-ยังรีบเตือนเรา

“ฟูจิวาระ-คุง นายไม่ควรจะกลัวความอันตรายเมื่อช่วยเพื่อน!” (อายะ)

ซา-ซังพูดอย่างแมนๆเหมือนเคย

“ฟูจิ-ยัง เมื่ออยู่ในปัญหา เราช่วยเหลือกัน ใช่มั้ย?” (มาโกโตะ)

“ทักกิ-โดโนะ ซาซากิ-โดโนะ…ชั้นซาบซึ้ง-เดสุ โซ” (ฟูจิ)

พวกเราพยักหน้า

“แต่เราจะช่วยเธอยังไง? ชั้นควรจะแอบแทรกซึมเข้าไปเพื่อลักพาตัวเธอมั้ย?” (อายะ)

ซา-ซันได้เสนอสิ่งที่รุนแรง

“นั่นจะเป็นไปไม่ได้ ทาสมีปลอกคอทาสที่ต้องการรหัสเวทมนตร์ 20 ตัวเลขเพื่อถอดมันออก คนที่รู้รหัสเวทมนตร์คือหัวหน้าของสมาคมทาส” (ฟูจิ)

“เข้าใจแล้ว งั้นนั่นจะไม่ได้ผล” (อายะ)

ซา-ซังไหล่ตกสลดใจ

“…ไม่ใช่ว่าความปลอดภัยของอิเซไกมันแน่นไปหน่อยเหรอ?” (มาโกโตะ)

มันเป็นแฟนตาซียุคกลาง ดังนั้นทำให้มันหลวมกว่านี้สินั่น!

“การบริหารทาสนั้นมันพูดว่าเข้มงวดที่สุดในโลกนี้ เพราะทั้งหมดพวกเขาจัดการกับ {ชีวิต} เป็นสินค้าของพวกเขา” (ฟูจิ)

“ฮ่าาห์…ชั้นไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเรื่องนั้นเลย” (มาโกโตะ)

ช่างเป็นโลกที่น่ารังเกียจ

“แล้วดังนั้น เพื่อช่วยเคโกะ-โดโนะ เราไม่มีทางเลือกนอกจากจะให้เจ้าของที่ถูกแต่งตั้งของเธอ มอบความเป็นเจ้าของมาให้เรา ใช่มั้ย” (ฟูจิ)

“แต่ขุนนางพวกนั้นเป็นขุนนางร้าย ใช่มั้ย?” (อายะ)

“…พวกเค้าได้ถูกพูดว่ามีความภาคภูมิใจที่เหลือเชื่อ แล้วก็ โลภมากด้วย” (ฟูจิ)

ไม่ได้ฟังดูเป็นคนดีเลยซักนิด…

ซา-ซังและฟูจิ-ยังได้ครวญ

(หืมม…) (มาโกโตะ)

ผมพยายามจะเรียบเรียงความคิดผม

วัตถุประสงค์: ช่วยเพื่อนร่วมชั้น

ศัตรู: ขุนนางชั่วร้าย

ถูกเคลียร์ด้วยวิธีธรรมดาไม่ได้

ถ้างั้น…

“เข้าใจแล้ว ฟูจิ-ยัง พูดอีกอย่าง มันนั่น ใช่มั้ย?” (มาโกโตะ)

“โฮ่ห์?” (ฟูจิ)

“ทากัตซูกิ-คุง นายมีความคิดที่ดีเหรอ?” (อายะ)

ฟูจิ-ยังและซา-ซังรอคำพูดต่อไปของผมด้วยความคาดหวัง

ด้วยเงื่อนไขที่มากขนาดนี้รวมกัน มีแค่อย่างเดียวที่ให้ทำ

“เงื่อนไขการเคลียณ์: ลอบสังหารขุนนางชั่วร้าย…ใช่มั้ย?!” (มาโกโตะ)

““……””

ความเงียบเข้าครอบงำ

โอ้?

“ไม่ใช่นั่น ทักกิ-โดโนะ” (ฟูจิ)

“นั่นผิดแล้ว ทากัตซูกิ-คุง” (อายะ)

(เธอเป็นไอโง่เหรอ มาโกโตะ?) (โนอาห์)

ผมได้ถูกตอบโต้โดยเพื่อนสองคนและโนอาห์-ซามะ

อ-เอ๋?

ผมผิด หือห์

ย-ยังไงซะ แน่นอน หือห์

ขอโทษ ผมได้คิดมันในมุมมองของเกม

มาคิดมันใหม่

แค่เมื่อผมคิดว่าจะเกาหัวของผมแล้วพูดว่า ‘ม่ายอ่ะ~ นั่นล้อเล่น’ …เสียงที่ใจดีสะท้อนมาจากสวรรค์

(มาโกะ-คุง~ ถ้ามีคนที่นายอยากฆ่า บอกชั้นก่อนโอเคมั้ย? ชั้นจะบอกเทพธิดาแห่งไฟ โซล-จัง ถ้าเราประสานงานกันก่อนหน้า ไม่ควรจะมีปัญหา☆) (เออร์)

“…เอ๋?” (มาโกโตะ)

เสียงเดิมของเออร์-ซามะ

ดั่งเธอคุยเรื่องทั่วไป

ด้วยน้ำเสียงที่เหมือนเธอพูดเกี่ยวกับภูมิอากาศ

(อ-อืม…เออร์-ซามะ?) (มาโกโตะ)

(หืม? มีอะไร มาโกะ-คุง?) (เออร์)

(ทำบางอย่าง…ได้มั้ย?) (มาโกโตะ)

(แน่นอน) (เออร์)

แน่นอน…

(ยังไงซะ แต่ต้องมี{การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม}นะ) (เออร์)

(เธอจะขออะไรบางอย่างไร้เหตุผลอีกครั้งใช่มั้ย? แค่บอกเธอตอนนี้แต่ห้ามขอให้เปลี่ยนศาสนานะ) (โนอาห์)

โนอาห์-ซามะตอบโต้เออร์-ซามะ

(แต่ชั้นอนุญาตการลอบสังหารได้ง่ายๆถ้ามาโกะ-คุงเปลี่ยนศาสนามาเป็นของชั้นนะ) (เออร์)

(…ไม่ นั่นมันค่อนข้าง…) (มาโกโตะ)

เทพธิดาแห่งน้ำ-ซามะเป็นผู้ปกครองถึงกระดูกเลย

มันเหมือนเธอได้ยินคำขอที่เห็นแก่ตัวของเด็กๆ

ดั่งซื้อของเล่นที่พวกเขาอยากได้

นั่นเป็นที่เธอตั้งความเป็นและความตายของคน

“ทักกิ-โดโนะ?” (ฟูจิ)

“ทากัตซูกิ-คุง” (อายะ)

ผมได้ทำสีหน้าที่น่ากลัวและแข็งอยู่กับที่ ดังนั้นสองคนเรียกผมในความกังวล

“อา ขอโทษ ขอโทษ ชั้นได้คิดว่ามันมีวิธีดีๆมั้ย” (มาโกโตะ)

(ชั้นจะเอาคำแนะนำของเออร์-ซามะเก็บไว้ก่อน โอเคมั้ย? ถ้าเป็นแบบนั้น ได้โปรดเก็บราคาไว้นอกเหนือจากการพูดนะ) (มาโกโตะ)

ผมบอกเออร์-ซามะในใจผม

(โอเค~☆) (เออร์)

(มาโกโตะ…ระวังกับการแลกเปลี่ยนกับเทพธิดาในศาสนาอื่น มันจะพาความล่มสลายมา) (โนอาห์)

(อ-โอเค โนอาห์-ซามะ) (มาโกโตะ)

มาระวังกัน

นี่เป็นไพ่ตายที่ทรงพลัง แต่ถ้าไม่ทำด้วยความระวัง ผมรู้สึกว่ามันอาจจะจบที่การกัดหลังผม

ผมมุ่งความสนใจไปที่สองคนตรงหน้าผมตอนนี้ก่อน

ฟูจิ-ยังและซา-ซังดูเหมือนจะขบคิดถึงความคิดด้วยเหมือนกัน

“เฮ้ เฮ้ มาลองถามโซฟี่-จังเป็นไง?” (อายะ)

“อา นั่นอาจจะดี” (มาโกโตะ)

ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอของซา-ซัง

มันอาจจะเป็นต่างประเทศ แต่เจ้าหญิงโซเฟียเป็นราชวงศ์ ดังนั้นผมไม่คิดว่าพวกเขาเมินคำขอของเธอได้

“นั่น…ไม่รู้จนกว่าเราจะลองมั้น แต่ขุนนางครั้งนี้เป็นบางคนที่เคลื่อนได้แม้แต่อำนาจทางทหารของประเทศแห่งไฟ ไม่มีรับประกันว่าพวกเขาจะปฏิบัติตาม…แล้วก็ ถ้าเราอาจจะสร้างการเสียดทาน มันอาจจะพาปัญหามาให้ราชวงศ์โรเซส…” (ฟูจิ)

“เข้าใจแล้ว…” (มาโกโตะ)

อำนาจของราชวงศ์โรเซสอ่อนแอมากในประเทศอื่น

“แล้วก็ ชั้นมีสายลับที่รวมข้อมูล” (ฟูจิ)

“ส-สายลับ…” (อายะ)

ตาของซา-ซังเปิดกว้าง

ใช่ ที่ฟูจิ-ยังได้ทำไม่ใช่ระดับของนักเรียนมัธยมปลาย

“พูดอีกอย่าง ได้ความอ่อนแอของอีกฝ่ายมาและนำนั่นไปที่โต๊ะเจรจา” (มาโกโตะ)

แบล็คเมล์รู้สึกเหมือนจะผิดกฎหมายด้วย แต่มันดีกว่าการลอบสังหาร

“ไม่ นั่นจะเป็นการเคลื่อนไหวที่แย่ ทักกิ-โดโนะ อีกฝ่ายเป็นขุนนางที่อยู่ตำแหน่งที่สูงกว่า ถ้าเราทำบางอย่างแบบนั้น มันจะชวนความไม่พอใจ ที่ชั้นได้สืบคือบางอย่างที่อีกฝ่านต้องการ สำหรับคนนั้น มันไม่เหมือนพวกเขาอยากได้เคโกะ-โดโนะไม่ว่ายังไง แต่เป็นเพียงชิ้นหนึ่งในของสะสม ถ้าเราพาบางอย่างที่คนนั้นต้องการมากกว่า พวกเขาควรจะยอมรับการแลกเปลี่ยน” (ฟูจิ)

“ข-เข้าใจแล้ว…” (มาโกโตะ)

“อย่างที่คาดกับฟูจิวาระ-คุง” (อายะ)

ซา-ซังและผมทำได้เพียงประทับใจ

ภาพที่เขาเห็นต่างจากมือใหม่อย่างผมโดยสิ้นเชิง

เราควรจะปล่อยนี่ให้ฟูจิ-ยัง?

“พูดถึงแล้ว ชื่อของขุนนางนั่นคืออะไร?” (มาโกโตะ)

“ลูกชายคนที่สามของตระกูลบุนนะหะบิน มาร์ติน บุนนะหะบิน เขาได้ก่อครอบครัวที่สร้างทหารเรือมากมาย ยังไงก็ตาม ตัวมาร์ติน-โดโนะเองไม่ได้อยู่ในเครือของทหาร และเป็นคนที่ใช้เงินเพื่อเติมเต็มความอยากของเขา” (ฟูจิ)

ตระกูลบุนนะหะบิน หือห์…ผมไม่คิดว่าผมได้ยินชื่อมันมาก่อน แต่สำหรับประเทศทางทหารเหมือนเกรทคีธ มันได้ถูกพูดว่าคุณต้องไม่แตะบางคนที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ

มันเป็นศัตรูที่มีปัญหา…

“มีน้อยอย่างที่ชั้นทำได้ แต่ชั้นจะคิดบางอย่าง” (มาโกโตะ)

“ใช่ ชั้นด้วย!” (อายะ)

ซา-ซังและผมพูดนี่ และฟูจิ-ยังขอบคุณพวกเราด้วย ‘มันจะช่วยอย่างยิ่งใหญ่’

แต่ตระกูลขุนนางที่โดดเด่น หือห์

มันจะไม่ง่ายๆเหมือนการเคลียร์ดันเจี้ยน

จากนั้น ผมจำบางอย่างได้กระทันหัน

“ว่าแต่ อะไรที่เธออยากพูดถึงล่ะ ซา-ซัง?” (มาโกโตะ)

ผมต้องถามนี่ก่อนผมจะลืมมัน

“ชั้นจะขอตัวตรงนี้นะ” (ฟูจิ)

“ไม่ มันโอเคที่นายจะอยู่ที่นี่ด้วย ฟูจิวาระ-คุง…นายเห็นมั้ย…” (อายะ)

ซา-ซังเกาแก้มของเธอและพูดมันด้วยความลังเลเล็กน้อย

“ชั่น…สงสัยว่าชั้นจะแข็งแกร่งขึ้นได้มั้ย…” (อายะ)

“ซา-ซัง…” (มาโกโตะ)

เธอได้ถูกกวนใจจริงๆ ที่ไม่สามารถจะทำอะไรได้กับฮีโร่ไฟ

“นั่นเป็นแค่เพราะชั้นเขาไปมีปัญหาสำหรับการเป็นฮีโร่ของโรเซส เธอเป็นเหยื่อที่นั่น ซา-ซัง แล้วก็ ยังไงข่าวลือที่แปลกๆที่ไปทั่วมันก็เกี่ยวกับชั้นคนเดียว” (มาโกโตะ)

“ใช่ แต่ถ้าชั้นไม่แพ้เธออย่างง่ายๆ ชั้นมันใจว่าชั้นจะเป็นความช่วยเหลือของนายได้ ทากัตซูกิ-คุง นั่นทำไมชั้นถึงอยากจะแข็งแกร่งขึ้น” (อายะ)

ซา-ซังพูดด้วยความเชื่อมั่น

“แต่ซาซากิ-โดโนะ แม้ว่าเธอแข็งแกร่งขึ้น เธอแค่หาเรื่องสู้ฮีโร่แห่งไฟไม่ได้นะ เธอเป็นบุคคลสำคัญของประเทศแห่งไฟ มันไม่มั่นใจว่าเราแค่ไปเจอเธอได้นะ รู้มั้ย?” (ฟูจิ)

“จริง จุดประสงค์คือสู้กับเธออีกครั้ง” (มาโกโตะ)

ผมพยักหน้ากับคำพูดของฟูจิ-ยัง

“นั่นโอเคถ้างั้น! ชั้นได้ยินมาจากโซฟี่-จัง ในประเทศแห่งไฟ การแข่งขันศิลปะการต่อสู้จะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน ฮีโร่แห่งไฟ โอลก้า จะมีงานแสดงการต่อสู้พิเศษ ไม่มีปัญหากับนั่นใชมั้ย?” (อายะ)

“โฮ่ห์…แต่ฮีโณ่แห่งไฟจะไม่เข้าร่วมในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้เหรอ?” (มาโกโตะ)

“ชั้นได้ยินเกี่ยวกับนั่น มันดูเหมือนว่าฮีโร่ไฟชนะ 3 ครั้งติดกัน มันจบที่การเอาความสนุกไปจากการแข่งขัน ดานนั้นการเข้าร่วมของเธอได้ถูกห้าม” (ฟูจิ)

“จริงเหรอ?” (มาโกโตะ)

เธอมีพลังการต่อสู้ที่บ้าจริงๆ

“ทากัตซูกิ-คุง! มันฟังดูเป็นไง?” (อายะ)

ซา-ซังถามผม แต่ตาของเธอได้อยู่ในโหมดต่อสู้แล้ว

(ทั้งหมดเพราะซา-ซังจะดื้อจริงๆในเหตุการณ์แบบนี้) (มาโกโตะ)

มันจะไม่มีเหตุผลที่จะพยายามหยุดเธอ

ยังไงซะ มีแค่สิ่งเดียวที่จะทำเมื่อพูดถึงการทำให้แข็งแกร่งขึ้น

ผมชำเลืองมองฟูจิ-ยังแล้วสบตากับเขา

ฟูจิ-ยังพยักหน้าเบาๆ

(เค้าต้องคิดเหมือนกันแน่) (มาโกโตะ)

“ฟูจิ-ยังดูเหมือนเวลาสำหรับ ‘นั่น’ ที่จะเป็นประโยชน์ได้มาแล้ว” (มาโกโตะ)

“ใช่แล้ว ชั้นคิดว่ามันจะไม่ได้เห็นแสงไฟแล้วซะอีก” (ฟูจิ)

“??”

ซา-ซัง เอียงหัวของเธอ ไม่สามารถจะตามการสนทนาของฟูจิ-ยังและผม

“ทากัตซูกิ-คุง ฟูจิวาระ-คุง นายหมายความว่ายังไงกับเรื่องนั้น?” (อายะ)

ผมตอบอย่างทรงพลังกับคำถามของซา-ซัง

“ซา-ซัง มาเพิ่มเลเวลของซา-ซังและตีเธอให้แรงๆกันเถอะ” (มาโกโตะ)

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord

เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์

เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์

Status: Ongoing
นักเวทย์ที่อ่อนแอที่เคลียร์อิเซไกกับเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์ – นักเวทย์ที่อ่อนแอที่สุดในเพื่อนร่วมชั้น – Clearing an Isekai with the Zero-Believers Goddess – The Weakest Mage among the Classmates (WN)สุดในเพื่อนร่วมชั้น – CLEARING AN ISEKAI WITH THE ZERO-BELIEVERS GODDESS – THE WEAKEST MAGE AMONG THE CLASSMATES (WN)มาโกโตะ ทากัตซูกินั้นเป็นนักเรียนมัธยมธรรมดาและผู้เล่นอาร์พีจีฮาร์ดคอร์ อย่างไรก็ตาม, ทิ้งคำว่า “ธรรมดา” เมื่อทั้งชั้นเรียนรถพังและกระดอนมาอยู่ต่างโลก! เทพเจ้าผู้แข็งแกร่งปกครองดินแดนที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และมอนสเตอร์และคนมาใหม่ทุกคนถูกให้พรด้วยสแตทที่แข็งแกร่งและสกิลที่พิเศษ แต่, ไม่ค่อยจริง สแตทของมาโกโตะออกมาน่าสงสาร, และสกิลเขาอ่อนแอสุดๆเทียบกับเพื่อนร่วมชั้น…เขาติดอยู่กับการเป็นนักเวทย์ฝึกหัด แย่ไปกว่านั้น, เขามีชีวิตอยู่ได้แค่อีกสิบปียังโชคดี, มาโกะโตะได้พบกับเทพธิดาเล็กๆชื่อว่าโนอาห์, ผู้ที่มาปรากฏในฝันของมาโกโตะและขอให้เขาเป็นผู้ศรัทธาคนแรก ด้วยความช่วยเหลือของพรจากโนอาห์และอาวุธศักดิ์สิทธิ์,มาโกโตะมุ่งมั่นที่จะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะช่วยเทพธิดาออกมาจากดันเจี้ยนที่เธอติดอยู่ ด้วยการฝึกที่หนักหน่วง และ การใช้สกิลที่อ่อนแออย่างแหวกแนว มาโกโตะพิสูจน์ว่า, แม้จะเล่นในความยากระดับฮาร์ดคอร์ นักเล่นอาร์พีจีก็ทำไดในท้ายที่สุด!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท