159 ทากัตซูกิ มาโกโตะ พบเพื่อนร่วมชั้นอีกครั้ง
“เคโกะ-จัง!” (อายะ)
ซา-ซังตะโกนในท่าทางที่สงบ และผู้หญิงที่นอนอยู่ที่นั่นขยี้ตาของเธออย่างง่วงๆ
“ฮึนน…”
ปล่อยเสียงที่งัวเงีย คาวาคิตะ-ซังยืดตัว
เมื่อผมได้คุยกับเธอในวิหารแห่งน้ำ เธอผมบลอนด์ แต่ตอนนี้เธอกลับไปที่สีผมจริงของเธอ สีดำ
ตาทรงอัลมอนด์และภาพลักษณ์จิตวิญญานที่แข็งแกร่งยังไม่เปลี่ยน
“เอ๋…อายะ? อะไร งั้นนี่ก็เป็นฝัน หือห์” (เคโกะ)
“นั่นไม่ใช่! เคโก-จัง ชั้นซาซากิ อายะจริงๆ! ตัวจริง! ชั้นมาเพื่อเจอเธอ” (อายะ)
“เอ๋ ไม่มีทางน่า! ตัวจริงเหรอ?!” (เคโกะ)
ตาของคาวาคิตะ-ซังเปิดกว้างและเธอวิ่งมาที่ที่เราอยู่
มีปลอกคอที่มีเครื่องประดับที่ซับซ้อนอยู่บนคอของเธอ
(งั้นนั่นก็เป็นปลอกคอสัญญาทาส หือห์…) (มาโกโตะ)
คนที่ถอดมันได้เป็นแค่คนที่ถูกเลือกบางคนในสมาคมทาส
วิธีที่จะเอามันออกเห็นได้ชัดว่าเป็นความลับที่อยู่ระดับสูงสุด
อย่างไรก็ตาม มันเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ราคาแพงสุดขีด ดังนั้นมันใช้แค่กับทาสที่คุ้มค่ากับมัน
(ฟูจิ-ยังบอกชั้นว่าคาวาคิตะ-ซังถูกปฏิบัติเป็นทาสที่มีราคามากที่สุดในการประมูลครั้งนี้) (มาโกโตะ)
เธอเป็นคนต่างโลกและมีสกิลหายาก นักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่
มากกว่านั้น เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่าของฮีโร่แห่งแสง ซากุไร-คุง
ระหว่างพวกนั้น เธอค่อนข้างเป็นคนสวย
ขุนนางน่าจะน้ำลายสอกับการได้มีโอกาสที่จะได้ตัวเธอ
“เฮ้ อายะ เธอโอเคมั้ย? เธอไม่ได้อยู่กับเราเมื่อเราถูกส่งตัว” (เคโกะ)
“เห็นมั้ย ชั้นถูกโยนไปที่อื่นน่ะ ทากัตซูกิ-คุงเจอชั้น” (อายะ)
คาวาคิตะ-ซังมองมาทางนี้กับคำพูดของซา-ซัง
“โอ้ ทากัตซูกิ? หืมม บรรยากาศรอบตัวนายได้เปลี่ยนไปนะ” (เคโกะ)
“ฮ-เฮ้ นั่น มันเป็นซักพักแล้วนะ คาวาคิตะ-ซัง” (มาโกโตะ)
คาวาคิตะ-ซังยิ้มเมื่อเธอสังเกตว่าผมเป็นคนรู้จัก
ผมอยากจะทักทายเธอให้เท่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ผมจบที่การพูดตะกุกตะกัก
“ไม่ใช่ว่านั่นโล่งใจเหรอ อายะ? เธอสามารถที่จะจับชายที่เธอชอบในโลกนี้ได้อย่างถูกต้อง” (เคโกะ)
“ดะ ดะ เดี๋ยว เคโกะ-จัง?!” (อายะ)
“ธ-เธอสองคน เธอเสียงดังไปแล้ว” (มาโกโตะ)
นี่ไม่ใช่เวลามาคุยกันแบบที่คุยกันในห้องเรียนนะ
““ชั้นขอโทษ””
พวกเธอเงียบทันที
“ชั้นจะช่วยเธอเดี๋ยวนี้แหละ เคโกะ-จัง!” (อายะ)
ซา-ซังกลับไปที่การพูดเสียงเบาและกำหมัด
“อา โอเค มิชิโอะมาก่อนหน้านี้และพูดว่าเขาจะ ‘ช่วยชั้น’ แต่…” (เคโกะ)
ฟูจิวาระ มิชิโอะ; ชื่อของฟูจิ-ยัง
เขาได้พูดว่าเขาเป็นเพื่อนวัยเด็กกับคาวาคิตะ-ซัง และจากวิธีที่เธอเรียกเขา พวกเขาต้องสนิทกันจริงๆ
“พูดจากใจแล้ว การที่ชั้นตกเป็นทาส เป็นของหวานที่ชั้นสมควรเป็น ขุนนางที่เห็นว่าเป็นคนซื้อชั้นค่อนข้างเป็นผู้มีอำนาจที่ทรงพลัง ดังนั้น…ไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเธอเอง” (เคโกะ)
การตอบของคาวาคิตะ-ซังเย็นชา
“ม-ไม่มีทาง! เป็นทาสนั้นไม่ได้นะ!” (อายะ)
“ยังไงซะ มันจริงที่ว่ามันคิดไม่ได้ในเวลาของเราในญี่ปุ่น เมื่อเรามาที่โลกนี้ เพื่อนร่วมชั้นของเรารวมถึงชั้นด้วยได้ถูกปฏิบัติอย่างดี ดันนั้นมันทำให้ชั้นลืมตัว เห็นมั้ย และดังนั้น ชั้นจบที่การไปติดกับการพนัน และถึงเวลาที่ชั้นรู้ตัว ชั้นได้แบกหนี้ที่ไม่น่าเชื่อ และผลของมันก็อย่างที่เธอเห็นน่ะ” (เคโกะ)
คาวาคิตะ-ซังหัวเราะในการไม่เห็นด้วยกับตัวเอง
(เข้าใจแล้ว เธอจบที่การขายตัวเธอเองเพราะหนี้…) (มาโกโตะ)
ฟูจิ-ยังได้เว้นรายละเอียดเหล่านั้นไว้
“ตอนนี้เมื่อชั้นมาคิดดูแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับแฟนของเธอ โอกาดะ-คุงล่ะ? ทำไมเค้าไม่พยายามจะช่วยเธอล่ะ?!” (อายะ)
ซา-ซังเปลี่ยนหัวเรื่อง
ใช่ ผมคิดว่าเธออยู่ด้วยกันกับคิตะยามะและโอกะดะในเวลาที่อยู่ในวิหารแห่งน้ำ
“เค้าเหรอ? เค้าได้เลิกกันนานมาแล้ว เพราะรู้มั้ยล่ะ ตั้งแต่ทันทีที่เรามาที่นี่ แค่เพราะเราเป็นคนต่างโลก ผู้หญิงจะมาหาเค้ามากเท่าที่เค้าหวัง ดังนั้นเขาจะนอกใจชั้นต่อหน้าชั้นเลย นั่นมันอะไรหน่ะเรื่องฮาเร็มนั่น?! ผู้ชายทุกคนที่พูดนั่นสมควรตาย!” (เคโกะ)
คาวาคิตะ-ซัง! เธอเสียงดังเกินไปแล้ว!
“ทากัตซูกิดูเหมือนจะเป็นพวกซื่อสัตย์ ดังนั้นชั้นคิดว่าควรจะโอเค แต่เธอต้องดูเค้าดีๆนะ เข้าใจมั้ย?” (เคโกะ)
คาวาคิตะ-ซังวางมือไว้บนไหล่ของซา-ซังและแนะนำเธอด้วยสายตาที่จริงจัง
“อืม…ใช่ เธอพูดถูก~” (อายะ)
เรามาที่นี่กังวลเกี่ยวกับคาวาคิตะ-ซัง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างซา-ซังเป็นคนที่ถูกกังวล
และซา-ซังเลี่ยงสายตาเธอเหมือนเธอรู้สึกกระอักกระอ่วน
ผมก็ทำแบบเดียวกันด้วย…
คาวาคิตะ-ซังขมวดคิ้วของเธอ
“อย่าบอกนะว่า…เฮ้ ทากัตซูกิ นายเป็นแฟนกับแค่อายะ ใช่มั้ย?” (เคโกะ)
“เอ๋?”
“หึ้ห์?”
โว้ห์ ตาของคาวาคิตะ-ซังน่ากลัว!
“จริงๆแล้ว ทากัตซูกิคุงมีแฟนอีกสองคนนอกจากชั้น” (อายะ)
ซา-ซังพูดมันออกมา?!
คาวาคิตะ-ซังดูมาทางนี้ดั่งเธอเห็นบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อ
“นายเป็นเหมือนกันเหรอ?! ชั้นได้มองนายผิดไป! ชั้นคิดว่านายเป็นชายที่ซื่อสัตย์ซะอีก!” (เคโกะ)
จริงเหรอ?
แต่ผมไม่เคยพูดกับเธอเลยซักนิดในชั้นเรียนนะ!
“น่า น่า ทากัตซูกิ-คุงทำตัวเค้าเองดีที่สุดในฐานะฮีโร่ของประเทศแห่งน้ำ” (อายะ)
ซา-ซังพูดอะไรแปลกๆต่อ
“เธอจะบอกว่ามันโอเคที่จะมีแฟนหลายคนตราบใดที่นายเป็นฮีโร่เหรอ…?” (เคโกะ)
ใช่ ใช่ การตอบสนองของคาวาคิตะ-ซังนั้นปรกติ
แต่ซากุไร-คุงอยู่ในสถานการณ์ที่แปลกนะ
“หรือเหมือนกับ ทากัตซูกิคุงมีค่าสถานะที่ตำและสกิลที่น่าตั้งคำถามมากกว่า ดังนั้นเค้าได้ถูกทิ้งไว้ข้างหลังที่วิหารแห่งน้ำ ใช่มั้ย? เธอซีเรียสเหรอที่บอกว่าเค้าเป็นฮีโร่น่ะ?” (เคโกะ)
“ยังไงซะ หลายอย่างได้เกิดขึ้น” (มาโกโตะ)
ผมอธิบายง่ายกับอะไรที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้
◇◇
“หืออห์ งั้น นั่นเกิดขึ้น…” (เคโกธ)
“ลำบาก ใช่มั้ยล่ะ?” (อายะ)
คาวาคิตะ-ซังถอนหายใจดั่งเธอทึ่งในเรื่องราวของผม
เมื่อเธอได้ถูกบอกว่าทั้งตัวผมได้ไหม้ ใช้เวทมนตร์ทำลายตัวเอง และได้ถูกสาปให้กลายเป็นหิน เธอมองผมต่างออกไป
ซา-ซังอธิบายสิ่งนี้อย่างมีความสุข
“ชั้นคิดว่าคนเดียวในกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นของเราที่สู้กับลอร์ดปีศาจจริงจังคือกลุ่มของซากุไร เรียวซูเกะซะอีก…” (เคโกะ)
“เพราะทั้งหมดซากุไร-คุงเป็นคนจริงจังไง…” (อายะ)
ดูเหมือนเพื่อนร่วมชั้นคนอี่นก็เห็นที่ของซากุไร-คุงเป็นที่ที่พิเศษด้วย
ยังไงซะ เพราะทั้งหมดปรกติแล้วคุณจะจไม่สามารถทำบางอย่างที่มีปัญหา เหมือนกับช่วยโลกหลังจากที่มาที่อิเซไก
“โอ้ ยังไงซะ เข้าใจแล้ว ชั้นจะทิ้งอายะไว้ให้นายดูแลนะ ทากัตซูกิ บอกมิชิโอะว่ามันเป็นความผิดชั้นและไม่ต้องบังคับตัวเค้าเอง” (เคโกะ)
มันไม่ได้ดูเหมือนว่าคาวะคิตะ-ซังได้ทำตัวเข้มแข็ง ขณะที่เธอพูดนี่ด้วยรอยยิ้ม
ช่างเป็นสาวที่กล้าหาญ
“แต่…” (อายะ)
ดูเหมือนซา-ซังยังไม่ยอมรับนี่
แล้วก็ ผมไม่มีแผนจะกลับไปมือเปล่า
“คามาคิตะ-ซัง เห็นได้ชั้นว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคตใกล้ๆนี้ในประเทศแห่งไฟ ขึ้นอยู่กับว่ามันคืออะไร มันอาจจะลากตลาดทาสเข้าไปด้วย” (มาโกโตะ)
ผมอธิบายภาพของฟูเรีย-ซัง
“…หลายคนจะตายในเมืองหลวงของประเทศแห่งไฟ? …จริงเหรอ?” (เคโกะ)
ดูเหมือนคาวาคิตะ-ซังก็ทำสีหน้าไม่สบายใจด้วย
“การคาดการณ์ของเจ้าหญิงของเราไม่เคยผิด” (มาโกโตะ)
“เข้าใจแล้ว… พูดถึงแล้ว เจ้าหญิงคนนั้นก็เป็นแฟนของนายด้วยมั้ย?” (เคโกะ)
“เอ๋?” (มาโกโตะ)
หัวเรื่องกลับมา?
“มันโอเค เคโก-จัง ฟู-จัง {ยัง}ไม่ใช่แฟนของทากัตซูกิ-คุง” (อายะ)
“เข้าใจแล้ว… ดังนั้นมันเป็นเรื่องของเวลา อายะ ทำเต็มที่นะ” (เคโกะ)
“ใช่ แต่สาวๆรอบๆทากัตซูกิ-คุงทั้งหมดน่ารักนะ รู้มั้ย~” (อายะ)
“มันโอเค อายะ เธอก็น่ารักด้วย” (เคโกะ)
“เดี๋ยว ซา-ซังและคาวาคิตะ-ซัง?!” (มาโกโตะ)
ได้โปรดเธออย่าเบี่ยงเบนจากการสนทนาด้วยตัวเองและดำเนินหัวเรื่องไปโดยพลการได้มั้ย?
ทิศทางนั้นไม่งามเลย
“และนั่นเป็นอย่างนั้น มีโอกาสสูงที่จะอันตรายถ้าเธออยู่ที่นี่ คาวาคิตะ-ซัง” (มาโกโตะ)
ผมบังคับรถไฟกลับไปที่ราง
“แม้ว่านายบอกชั้นอย่างนั้น ชั้นมีนี่ ดังนั้นชั้นหนีไม่ได้” (เคโกะ)
เธอชี้ไปที่ปลอกคอทาสของเธอ
“มันจริงที่ว่า ตราบใดที่เธอมีปลอกคอทาส เธอจะไม่สามารถขยับตัวได้แม้ว่าเธออยากจะหนี และแม้ว่าเธอจะซ่อน ตำแหน่งของเธอจะถูกระบุทันที ใช่มั้ย?” (มาโกโตะ)
นี่เป็นความรู้ที่ผมได้ยินมาจากคนอื่น แต่ผลของมันควรจะเป็นอย่างนั้นส่วนใหญ่
เพราะนั่น พวกเราไม่สามารถจะลักพาตัวคาวาคิตะ-ซังไปที่ไหนได้
“อออุ…เราทำอะไรเกี่ยวกับมันไม่ได้ ถ้าเราแค่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่างน้อยๆ เราจะสามารถคิดบางอย่างได้… ทำอะไรบางอย่างได้มั้ย ทากัตซูกิ-คุง?” (อายะ)
“ยังไงซะ ทางเลือกเดียวคือขอให้เจ้าหญิงดูอนาคตอีกครั้งเมื่อเธอดีขึ้น…” (มาโกโตะ)
ไม่ เดี๋ยว
มีวิธีที่แน่นอนกว่านั้น
(โนอาห์-ซามะ เออร์-ซามะ…) (มาโกโตะ)
ผมเรียกพวกเธอในใจผม
(ท่านรู้มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในประเทศแห่งไฟ?) (มาโกโตะ)
……
ไม่มีคำตอบ
นั่นหายาก
ยังไงมันก็ไม่เหมือนกับว่าพวกเธอตอบตลอด
ผมควรจะลองอีกครั้งภายหลัง
“ซา-ซัง ชั้นจะสืบนี่ดูอีกครั้ง มันอันตรายที่จะอยู่ที่นี่นานเกินไป เราควรจะไปได้แล้ว” (มาโกโตะ)
เพราะทั้งหมดเราได้คุยประมาณ 1 ชั่วโมงแล้ว
“โอเค เคโกะ-จัง เราจะมาใหม่ โอเคมั้ย?” (อายะ)
ซา-ซังจับมือของคาวาคิตะ-ซัง ดั่งเธอไม่เต็มใจจะจากกันไป
“อา ใช่ มีอย่างนึง แม้ว่าชั้นไม่คิดว่ามันเกี่ยวข้องอะไร แต่…ชั้นได้ยินบางอย่างแปลกๆมาจากพ่อค้าทาส” (เคโกะ)
ดูเหมือนคาวาคิตะ-ซังจำบางอย่างได้ขณะที่เรากำลังไป
“เห็นว่ามีกลุ่มคนที่ซื้อทาสถูกๆจำนวนมาก ชั้นพูดว่าถูก แต่มันใช้เงินนิดหน่อยเพื่อซื้อทาสและใช้งานพวกเค้า ดังนั้นแม้ว่าพวกเค้าซ่อนชื่อของเค้า มันจะถูกรู้ในที่สุดว่าใครเป็นขุนนางที่ซื้อมัน แต่มันดูเหมือนว่าตัวตนของกลุ่มนั้นไม่มีใครรู้อย่างสมบูรณ์ นั่นทำไมพ่อค้าทาสพูดว่ามันน่าจะเป็นคนรวยที่มาจากต่างประเทศ แต่…ชั้นเห็นมัน…” (เคโกะ)
คาวาคิตะ-ซังลดเสียงของเธอที่นี่
“มีกึ่งปีศาจปนมาอยู่ในกลุ่มคนที่มาที่นี่ช่วงนี้ มากกว่านั้น กึ่งปีศาจจากศาสนาเทพเจ้าชั่วร้าย ชั้นเป็นนักเวทย์ ดังนั้นชั้นบอกความต่างระหว่างมานาของผู้ศรัทธาศานาเทพธิดาได้ และศาสนาเทพเจ้าชั่วร้ายได้ถึงจุดนึง” (เคโกะ)
“เข้าใจแล้ว นั่นน่าประทับใจ เคโกะ-จัง” (อายะ)
“กึ่งปีศาจและศาสนาเทพเจ้าชั่วร้ายต้องหมายถึง…โบสถ์นั้น หือห์…” (มาโกโตะ)
ประเทศแห่งน้ำ ประเทศแห่งแสง ประเทศแห่งไม้ และแม้แต่ที่นี่ หือห์
นี่กลิ่นตุๆ
“มันได้กวนใจชั้นระหว่างที่ชั้นได้ฟังเรื่องราวของอายะและทากัตซูกิ มีพวกโบสถ์งูอะไรนั่นทำเชื่องชั่วร้ายในเงามืด ใช่มั้ย? มากกว่านั้น จากเรื่องราวของนาย พวกเขาส่วนใหญ่เป็นกึ่งปีศาจ ข้อมูลนี้มีประโยชน์มั้ย?” (เคโกะ)
“ขอบคุณ คาวาคิตะ-ซัง ข้อมูลของเธอช่วยได้มาก” (มาโกโตะ)
ผมขอบคุณเธอและดึงซา-ซังที่ไม่เต็มใจจะออกไป และออกมาจากเต็นท์
◇◇
ยังมีเวลานิดหน่อยก่อนจะตะวันขึ้น
ผมได้ถูกจับโดยซา-ซัง (ในรูปแบบฮาร์พี) และเราบินอยู่บนท้องฟ้า
“เฮ้ ทากัตซูกิ-คุง นายคิดยังไงกับอะไรที่เคโกะ-จังพูด?” (อายะ)
“โบสถ์งูซื้อทาสเยอะ ความเป็นไปได้ปรกติคือพวกเค้าพยายามจะใช้ทาสเพื่อก่อกบฏ” (มาโกโตะ)
“แต่นั่นการเคลื่อนไหวเดียวกันกับประเทศแห่งแสง” (อายะ)
ในประเทศแห่งแสง พวกเขากระตุ้นการเลือกปฏิบัติของชนชั้นที่กึ่งสัตว์ได้รับเพื่อก่อกบฏ
ครั้งนี้พวกเขาใช้ทาสเพื่อก่อกบฏในประเทศแห่งไฟ?
“แต่ถ้าเราพูดถึงทาส คนที่มีพลังการต่อสู้สูงนั้นแพงในประเทศแห่งไฟ” (อายะ)
“แล้วก็ มันดูเหมือนพวกเขาได้การปฏิบัติที่ดีกว่าถ้ายิ่งราคาสูง” (มาโกโตะ)
หลังจากที่พักอยู่ไม่กี่วันในประเทศนี้ เราได้เริ่มเข้าใจว่ามันทำงานยังไง
ในประเทศนี้ คนที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่กว่า
และดังนั้น แม้ว่าพวกเขาถูกเรียกว่าทาส ทาสต่อสู้เหมือนพนักงานส่วนตัวมากกว่า
ยังไงซะ แต่อิสระของพวกเขามีจำกัดถึงระดับนึงนะ
ทาสต่อสู้เองก็พูดบางอย่างที่สมองกล้ามเนื้ออย่าง ‘ชั้นไม่สนใจตราบใดที่ชั้นกินจนเต็มท้องและสู้ได้’ และนั่นเป็นวิธีที่ประเทศทำงาน
ขุนนางจะใช้อำนาจทางทหาร และให้พวกเขาสู้ในบริเวณที่มีมอนสเตอร์หนาแน่น และจะส่งตัวเขาไปในตำแหน่งที่มีโจรหรือที่ที่ความสงบเรียบร้อยของประชาชนต่ำเพื่อหาเงิน
พูดถึงแล้ว ลูกค้าวีไอพีเห็นว่าเป็นประเทศแห่งน้ำ โรเซส
เพราะทั้งหมดทหารของโรเซสไม่แข่แกร่ง…
หลักๆคือฮีโร่ที่ถูกแต่งตั้งของพวกเขา
“ชั้นไม่คิดว่ามันมีจุดประสงค์อะไรที่โบสถ์งูได้ซื้อทาสที่อ่อนแอมากมายนะ” (อายะ)
“ใช่” (มาโกโตะ)
ยังไงซะ เผื่อไว้ ผมจะบอกเจ้าหญิงโซเฟียและฟูจิ-ยัง
“กลับไปที่โรงแรมกันเถอะตอนนี้” (มาโกโตะ)
“ใช่ เกี่ยวกับเรื่องนั้น นายยังมีเวลาอีกนิดหน่อยมั้ย?” (อายะ)
ซา-ซังได้บินไปทางตรงกันข้ามกับโรงแรม ข้างนอกกำแพงของเมืองหลวง
เราได้มุ่งหน้าผ่านทะเลทราย และเราลงพื้นในที่สุ่ม
ท้องฟ้าได้เริ่มส่องแสง แต่รอบข้างยังมืดอยู่
“ซา-ซัง?” (มาโกโตะ)
“ตอนนี้ มาเดทกันต่อเถอะ” (อายะ)
ซา-ซังกลับไปที่รูปร่างมนุษย์ และห่อมือของเธอรอบคอผม
มันทำให้หัวใจผมเต้นข้ามจังหวะ
“เห็นมั้ย เราได้อยู่ตามลำพัง ไกลเท่าที่ตาเห็น” (อายะ)
“ใช่ อยู่ลำพังในทะเลทรายทำให้รู้สึกเหมือนเราเป็นแค่สองคนในทั้งโลก—” (มาโกโตะ)
ผมกำลังจะพูดมากกว่านี้ แต่เสียงเตือนที่ดัง ดังขึ้นมาในหัวผม
ตรวจจับ
ตาของซา-ซังเปลี่ยนหลังจากทีเห็นสีหน้าของผม
ซา-ซังและผมรู้สึกถึงการจ้องมาจากข้างหลัว
ที่ที่ซา-ซังและผมหันไปดูในเวลาเดียวกัน…
มีกิ้งก่าสีแอชประมาณร้อยตัวได้มองมาทางนี้
…เลียปากของพวกมัน
“น-นั่นอะไรน่ะ?!” (อายะ)
“ม-มังกรทราย!!” (มาโกโตะ)
มันพรางตัวมันเองในทรายด้วยเกล็ดของมัน และมันยากที่จะบอกความต่างจากไกลๆ
แม้ว่ามันพรางตัวมันเอง มันมีพลังการต่อสู้ที่สูงผิดปรกติ
มังกรกินเนื้อที่ดุร้ายที่อาศัยอยู่มากมายในประเทศแห่งไฟ
เป็นไปได้มั้ยว่านี่คือรังของมังกรทราย
*ช่าาาาา!*
มังกรที่ใกล้ที่สุดกระโดดใส่เรา
“อ้าา เห้อ! มาขวางทางเราเรอะ!” (อายะ)
ตะโกนในเสียงที่หงุดหงิด ซา-ซังยกหมัดของเธอขึ้นและเผชิญหน้ากับมัน
“ซา-ซัง!” (มาโกโตะ)
นั่นมังกรนะ!
มากกว่านั้น ค่อนข้างแข็งแกร่งด้วย—คือที่ผมกำลังจะพูดแต่…
*《ปั้ง!》*
มังกรทรายได้ถูกต่อยคาง และมันหมุนไปมากกว่า 10 ครั้งในอากาศประมาณ 100 เมตร
มังกรทรายตัวอื่นได้ตามทางที่บินไปด้วยตา มันน่ารักนิดหน่อย
(เธอล้อเล่นรึเปล่านี่?!) (มาโกโตะ)
นั่นแข็งแกร่งเท่ามังกรดินที่เราเจอในลาเบรินทอสนะ?!
““““คิ้ช่าาาาา!””””
เห็นพี่น้องถูกกำจัด พวกมันขึ้นเสียงในความโกรธและโจมตีเราทั้งหมดทีเดียว
“ซา-ซัง! มา ถ—” (มาโกโตะ)
“ทากัตซูกิ-คุง อยู่ข้างหลังชั้นไว้!” (อายะ)
“อ-โอเค…” (มาโกโตะ)
ช่างเป็นหลังที่พึ่งพาได้
ในทะเลทรายนี้ที่ไม่มีสปิริตน้ำ ผมได้ถูกปกป้องเหมือนเจ้าหญิงพีช
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา มังกรทรายทั้งหมดได้ถูกปราบ!
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord