167 เงาของการทำลายล้าง
“อ-โอลก้า-ซามะ…ท่านจะสู้ต่อมั้ย?”
ผู้ประกาศถามอย่างประหม่า
ฮีโร่โอลก้าได้ส่ายหัวของเธอด้วยตาที่ไม่มีโฟกัส
(ยังไงซะ เพราะทั้งหมดการโจมตีของดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ภาคภูมิใจของเธอไม่ได้ผล และทั้งหมดเธอได้ถูกส่งบินไป…)
ถ้าเธอท้าทายเธอเพิ่มไปกว่านี้ เธอจะค่อนข้างมีพลังใจที่เข้มแข็ง
แต่ผมรู้สึกว่าเกราลท์-ซังจะโจมตีต่อด้วยมือเปล่าถ้าจำเป็นนะ
แล้วก็ ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญงอไปแล้ว
…ดาบศักดิ์สิทธิ์จะซ่อมทันเมื่อถึงเวลาที่ต้องสู้กับลอร์ดปีศาจรึเปล่า
“ง-งั้นตอนนี้! สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ในการแข่งขันจัดแสดงพิเศษนี้…ไม่ การดวลนี้ได้จบไปในชัยชนะของผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ซาซากิ อายะ!”
ผู้ประกาศได้ประกาศชัยชนะของซา-ซัง
“““อุโโโโโโโโโโโโออออ้!!”””
เสียงเชียร์ดุจฝ่าผ่าได้มาจากคนดู
ผมได้กังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการประท้วงเกิดขึ้น เพราะการเอาชนะฮีโร่ไฟได้ แต่คนของประเทศแห่งไฟฉลองชัยชนะของซา-ซังเหมือนปรกติ
ยังไงมันก็โอเคตราบใดที่แข็งแกร่งเหรอ
มันง่ายที่จะรู้สึกเข้าใจมัน
“อายะ! เธอทำได้แล้ว!” (ลูซี่)
“ชั้นชนะ ลู-จัง!” (อายะ)
ซา-ซังและลูซี่ยกมือขึ้นแตะกัน
เจ้าหญิงโซเฟียยังตกตะลึงอยู่
ฟูเรีย-ซังได้เล่นกับซุย
เธอไม่กังวลเลยซักนิด
เธอต้องสังเกตสายตาของผม เธอมองมาทางนี้แล้วพูดปิดตาครึ่งหนึ่ง
“เพราะทั้งหมดชั้นเห็นอนาคตแล้วไงล่ะ” (ฟูเรีย)
“อา อย่างนั้นเหรอ” (มาโกโตะ)
แน่นอนว่าเธอจะไม่กังวลถ้าอย่างนั้น
ผมกำลังจะพูด ‘มันถึงเวลาที่พวกเราต้องกลับแล้ว’ แต่ฟูเรีย-ซังได้จับไหล่ผมด้วยกำลังที่เหลือเชื่อกระทันหัน
“เดี๋ยว อัศวินของชั้น มีบางอย่างแปลกไป” (ฟูเรีย)
“? แปลก? อะไรเหรอ?” (มาโกโตะ)
เพราะฮีโร่โอลก้าขยี้เวทีเป็นชิ้นๆ พนักงานได้ทำความสะอาดมัน
และการประกาศได้ดัง เริ่มพิธีให้รางวัล และพิธีแต่งตั้งฮีโร่ที่ถูกแต่งตั้งของประเทศแห่งไฟ ได้มีแผนที่จะทำที่เวที แต่เพราะเวทีได้พังไปแล้ว มันจะถูกจัดในปราสาทเกรทคีธวันหลังแทน
ผู้คนในคนดูได้คุยกันและกำลังจะจากไป
มีแม้แต่คนที่ฉลองตรงนี้เดี๋ยวนี้เลย
ช่างสงบสุข
ไม่มีอะไรที่แปลกเป็นพิเศษ
“มีอะไรเหรอ ฟู-จัง?” (อายะ)
“เจ้าหญิงโซเฟีย กลับกันเถอะ” (ลูซี่)
ซา-ซังและลูซี่ก็มาทางนี้ด้วย
“เฮ้ เจ้าหญิง แค่อะไรกัน…” (มาโกโตะ)
“เวรเอ้ย ชั้นทำเละ ชั้นพลาดนี่! เราต้องวิ่งหนีในทันที!” (ฟูเรีย)
ฟูเรีย-ซังไม่ตอบคำถามผม และบอกนี่กับพวกเราด้วยความกระวนกระวาย
ลูซี่และซา-ซัง และผม มองหน้ากันและเอียงหัวของเรา
มันผ่านเที่ยงมาแล้วเป็นตอนประมานบ่าย 2
ข้างนอกยังร้อนอยู่และพระอาทิตย์นั้นพราวตา
ท้องฟ้าสีฟ้าที่ไม่มีเมฆเลย
ทันทีที่ผมกำลังจะถามว่าฟูเรีย-ซังได้กระวนกระวายเกี่ยวกับเรื่องอะไร…
{จู่ๆ ท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นมืด}
“โอ้ เมฆเหรอ?” (ลูซี่)
ลูซี่มองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ผมก็ถูกดึงไปโดยนั่นและมองขึ้นไป และเงามืดได้เข้ามาในสายตาผม
แสงของพระอาทิตย์ที่ส่องลงมาถูกกั้นโดยบางอย่าง
“เฮ้ย! นั่นอะไร?!”
“นั่นไม่ใช่เมฆ ใช่มั้ย?”
“หิน…?”
“ไม่มีทาง ไม่มีทางที่หินก้อนใหญ่นั้นจะระ…”
ผู้คนในสถานที่จัดงานทั้งหมดได้ชี้ไปที่เงามืดบนท้องฟ้า
บางอย่างได้ปรากฏบนท้องฟ้ากระทันหัน
“มาโกโตะ! ไอนั่นมันหล่นมาที่นี่!” (ลูซี่)
เสียงของลูซี่ได้ทำให้ผมกลับมามีสติ
“ลูซี่ นั่นอะไรน่ะ?!” (มาโกโตะ)
“ชั้นไม่รู้ อยู่ๆมันโผล่ออกมา!” (ลูซี่)
ใช่ สิ่งนั้นแน่นอนว่ามันไม่อยู่ที่นั่นเมื่อกี้นี้
อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่ามีสิ่งที่เหมือนหินก้อนใหญ่ได้ลอยอยู่เหนือหัว
ไม่ ถ้าคำพูดของลูซี่พูดถูก งั้นมันจะหล่นลงมาที่นี่
(มันยังไกลอยู่ แต่…ชิ้นนั้นมันเป็นมวลค่อนข้างใหญ่ ใช่มั้ย…?) (มาโกโตะ)
ไม่ใช่ว่ามันมีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายกิโลเมตรเหรอ
แทนที่จะเรียกมันว่าก้อนหิน มันเหมือนกับเกาะได้หล่นล่งมาหาเรามากกว่า
ปราสาทลาพูต้า*น้ำมันหมดเหรอ?
TLN: Castle in the sky (1986) หนังของค่ายสตูดิโอจิบลิ
(มาโกโตะ! หยุดเล่นตลกได้แล้วแล้วทำที่ฟูเรีย-จังพูด! วิ่ง!) (โนอาห์)
โนอาห์-ซามะ เกิดอะไรขึ้น
(มาโกโตะ-คุง! อธิบายทีหลัง วิ่ง! นี่เป็นบางอย่างที่พวกที่บูชาเทพเจ้างูชั่วร้ายทำ…) (เออร์)
เออร์-ซามะได้พูดด้วยความตื่นตกใจที่ไม่เหมาะกับเธอ
เราต้องทำอะไรตอนนี้แล้ว ดูเหมือนว่า
ผมได้สบตากับตาแก่อัศวินผู้คุ้มกัน และเรากำลังจะเริ่มเดินกับเจ้าหญิงโซเฟียที่อยู่ตรงกลาง
แต่ตอนนั้นเอง…
“{เฮ้ยา นั่น พวกนายกลัวกันมั้ย พวกแมลง}”
เสียงได้ถูกขยายด้วยเวทมนตร์สะท้อนมาจากเวที
มันต่างจากผู้ประกาศก่อนหน้า เสียงนี้มีความหนืดบางอย่างอยู่กับมัน
“ดูซิ ทากัตซูกิ-คุง!” (อายะ)
ที่ที่ซา-ซังชี้ไป เป็นที่ที่ผู้ประกาศอยู่มาจนถึงตอนนี้ ผู้ชายในผ้าคลุมสีดำได้ยืนอยู่ที่นั่น เขาจับอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ใช้ขยายเสียง
ผู้คนรอบๆรวมถึงผู้ประกาศได้เว้นระยะจากผู้บุกรุกที่โผล่มากระทันหัน
ผู้รักษาความปลอดภัยควรจะจับกุมเขาทันที!
“ไอเวร แกเป็นใครวะ?!”
อัศวินประเทศแห่งไฟได้ล้อมเค้าแล้ว
อา คนที่ตะโกนเมื่อกี้นี้ เป็นอัศวินผู้บังคับใช้กฏหมายที่มาด้วยกันก่อนการปราบโบสถ์งู
ชายในผ้าคลุมสีดำยิ้มอย่างกว้าง
“ชื่อของชั้นคือไอแซค ลูกชายของผู้ปกครองผู้ยิ่งใหญ่อิบลีส-ซามะ และอาร์คบิชอปของโบสถ์งู”
โอ้ ชื่อที่คุ้นเคย
“เค้าอีกแล้วเหรอ? เค้าเป็นชายที่ดื้อดึงจริงๆนะ ไม่ใช่เหรอ มาโกโตะ?” (ลูซี่)
“เค้าเป็นชายที่ได้ทำการโจมตีคามิคาเซ่ และควบคุมมอนสเตอร์ในประเทศแห่งแสงเหรอ ทากัตซูกิ-คุง?” (อายะ)
“ใช่ เค้าเป็นตัวการหลักเบื้องหลังเหตุการณ์ที่ประแห่งไม้ด้วยเหมือนกัน…เห็นว่า” (มาโกโตะ)
ช่างเป็นคนทำงานหนัก
แต่เราไม่ต้องการผู้ก่อการร้ายที่ทำงานหนักนะ
“จับเค้า!”
อ๊ะ ทันทีที่เขาแนะนำตัวเขา ชายจากโบสถ์งูได้ถูกจับ
“ป-ปล่อยชั้นนะ!”
ชายดูเหมือนจะต่อต้าน แต่เขาถูกกดลงด้วยจำนวน
เขามาที่นี่เพื่อทำอะไร?
“แม้ว่านายจะจับชั้นได้ มันได้สายไปแล้ว! อุกกาบาตเหนือหัวได้ถูกเรียกโดยเราโดยเวทมนตร์อัญเชิญ! โดยใช้อายุขัยของทาสหลายร้อยคน! โดยการใช้อุกกาบาตที่ผ่านมา เราได้เปลี่ยนทิศทางของมันมาที่ใกล้ที่สุดซึ่งก็คือประเทศแห่งไฟ! ในไม่นาน เมืองหลวงของประเทศแห่งไฟจะถูกลบไปจากทวีปนี้!”
ชายโบสถ์งูได้ถูกพันด้วยเชือกหนาไปแล้ว ตะโกนด้วยเวทมนตร์ขยายเสียง
(ชายคนนี้พูดบางอย่างที่อุกอาจเมื่อกี้นี้) (มาโกโตะ)
ให้อุกกาบาตตกมาที่เมืองหลวง?
เวทมนตร์แบบนั้นเป็นไปได้ด้วยเหรอ?
เหมือนการพิสูจน์ว่าผมไม่ได้ได้ยินผิด คนดูที่ขาดความรู้สึกถึงอันตรายจนถึงตอนนี้ ได้เริ่มกรีดร้องทั้งหมดทีเดียว และวิ่งหนี
ผมสามารถได้ยินเสียงกรีดร้องและเสียงร้องไห้ของเด็กได้จากไกลๆ
ความผวาครั้งใหญ่
“เรียกผู้คนข้างนอกเมืองหลวงมา! เรียกนักเวทย์จากปราสาท! รวมถึงคนที่ไม่ได้เข้างานด้วย!” (ทาริสก้า)
นายพลทาริสก้าได้สั่งลูกน้องของเขา
ข้างหลังของเขา ผมสามารถเห็นที่ดูเหมือนเป็นราชาอพยพ
“ฮีโร่-โดโนะ เราควรจะทำอะไรดี?”
ตาแก่อัศวินผู้คุ้มกันได้ถามด้วยสีหน้าที่กระวนกระวาย
“ชั้นอยากให้นายพาเจ้าหญิงโซเฟีย…แล้วก็สหายของชั้นไปที่นอกเมืองหลวง” (มาโกโตะ)
“รับทราบ! …แล้วนายจะทำอะไรล่ะ ฮีโร่-โดโนะ?”
เขาได้ยอมรับคำขอของผมอย่างพึ่งพาได้ และจากนั้น เขาส่งสีหน้าที่กังวลมาทางผม
“มันมีบางอย่างที่กวนใจชั้น ชั้นจะไปคุยกับนายพล ชั้นจะตามหลังไป” (มาโกโตะ)
“พูดอะไรน่ะ อัศวินของชั้น?! เราต้องวิ่งหนีด้วยกัน!” (ฟูเรีย)
“ฮีโร่มาโกโตะ! ไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนั้น…” (โซเฟีย)
ฟูเรีย-ซังและเจ้าหญิงโซเฟียได้เข้ามาใกล้ผม
“น่า น่า มันจะโอเค ชั้นจะเจอเธอทีหลัง” (มาโกโตะ)
เวลานั้นมีค่ามากกว่าที่จะมาเถียงกันตรงนี้ ดังนั้นผมดันทั้งสองคนไปที่ตาแก่อัศวินผู้คุ้มกัน และคะยั้นคะยอให้พวกเขาอพยพจากสถานที่จัดงาน
นั่นเป็นกลุ่มราชวงศ์ของโรเซสสำหรับคุณล่ะ อัศวินของเพราะเทศแห่งไฟให้ลำดับความสำคัญกับพวกเธอ
พวกเขาควรจะโอเคกับนั่น
(อีกอย่างที่ชั้นกังวลคือฟูจิ-ยัง…) (มาโกโตะ)
ความวุ่นวายในสถานที่จัดงานไม่มีสัญญานว่าจะสงบลง และแทนเรื่องนั้น ความวุ่นวายได้แพร่ไปทั้งเมือง
หินก้อนยักษ์เหนือหัวดูเหมือนจะมุ่งหน้ามาหาเราอย่างช้าๆ
พวกเขาควรจะโอเค…ผมมั่นใจน่ะ
ฟูจิยังจะรู้อย่างไวว่าบางอย่างเกิดขึ้น และรวมข้อมูลและทำตามนั้น
ผมจะเชื่อว่าเขาสามารถจะหนีได้อย่างถูกต้อง
ผมยืนยันว่าตาแก่ไปแล้วตอนนี้ และไปที่นายพลทาริสก้าอยู่
“เฮ้ เฮ้ ทากัตซูกิ-คุง มันคืออะไรที่กวนใจนายน่ะ?” (อายะ)
“มาโกโตะ มันโอเคสำหรับนายที่จะไม่หนีเหรอ?” (ลูซี่)
ซา-ซังและลูซี่โหม่มามองผมจากทั้งสองข้าง
เดี๋ยว…
“ทำไมพวกเธอสองคนยังไม่หนี?!” (มาโกโตะ)
ผมอยากให้ทุกคนอพยพไปกับตาแก่นะ รู้มั้ย?!
“เอ๋ เพราะทากัตซูกิ-คุงยังอยู่” (อายะ)
“ถ้านายยังอยู่ ชั้นจะอยู่ข้างนาย” (ลูซี่)
“เฮ้ นั่น…” (มาโกโตะ)
ถ้าเธอพูดบางอย่างแบบนั้น มันจะทำให้ผมมีความสุข!
รอบยิ้มที่อ้วนปี๋จะโผล่ขึ้นมาบนหน้าผม ดังนั้นผมใช้โล่งจิตเพื่อให้หน้าผมปรกติ
“แล้วก็ ถ้าสถานการณมันบังคับ ชั้นแบกทั้งทากัตซูกิ-คุงและลู-จัง แล้ววิ่งหนีได้! ปล่อยให้ชั้นเอง!” (อายะ)
“อ๊ะ นั่นอาจจะเป็นความคิดที่ดี” (มาโกโตะ)
ด้วยกำลังขาของซา-ซัง เราจะออกไปจากเมืองหลวงได้ในพริบตา
เราได้ลองมันมาครั้งนึงแล้ว และมันเป็นความเร็วที่ค่อนข้างมาก
ถูกแบกมันไม่สบายเลยซักนิด มันเป็นวิธีการขนส่งที่แย่ที่สุด
มันเหมือนรถไฟเหาะที่ไม่มีมาตรการความปลอดภัย
“ฟุฟุฟุฟุ ไม่พอหรอก อายะ! เธอรู้มั้ย ชั้นได้เรียนเทเลพอร์ตจากหม่าม๊าในการฝึกดุจนรกกับเธอ!” (ลูซี่)
“เอ๋?! จริงเหรอ?” (มาโกโตะ)
“ว้าว น่าทึ่ง ลู-จัง!” (อายะ)
นั่นเป็นข่าวดี
ด้วยเทเลพอร์ตมันจะใช้พริบตาของจริงเพื่อหนี
(…หืมม?) (มาโกโตะ)
ผมได้สังเกตกระทันหัน
ผมได้อยู่ด้วยกันกับลูซี่มาเป็นเวลานาน
ถ้าเธอได้เรียนเทเลพอร์ต เธอจะอวดมันอย่างภาคภูมิใจตั้งแต่ที่พึ่งได้มา
“พูดถึงแล้ว มันใช้เวลานานเท่าไหร่ที่จะร่ายเทเลพอร์ตเสร็จ?” (มาโกโตะ)
“…ประมาณ 10 นาที?” (ลูซี่)
ว่าแล้ว
“…พูดถึง แล้วโอกาศสำเร็จล่ะ?” (มาโกโตะ)
“…10%?” (ลูซี่)
“ลู-จัง…” (อายะ)
เธอตอบมาด้วยเสียงที่น้อยเหมือนเปอร์เซนต์ของเธอ
ลูซี่ทำหน้าสลดใจ
“ยังไงซะ คิดแล้วว่ามันต้องเป็นบางอย่างแบบนั้น พร้อมการร่ายเผื่อไว้ แผนหลักของเราจะเป็นซา-ซังแบกเรา” (มาโกโตะ)
“ปล่อยให้ชั้นเอง!” ซา-ซังพูดระหว่างที่ปั้มหมัดของเธอ
ลูซี่ได้เริ่มร่ายอย่างกระอักกระอ่วน
พูดถึงแล้วแม่ของลูซี่เห็นได้ชัดว่าสามารถเทเลพอร์ตข้ามประเทศได้โดยไม่ต้องร่าย
แม่มดสีแดง-ซามะเป็นสัตว์ประหลาดจริงจังเลย
ลูซี่ของเราจะอยู่ระดับนั้นซักวันนึงมั้ย?
แต่โรซาลี-ซังอายุมากกว่าร้อยปี
ผมน่าจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วเมื่อลูซี่แก่ขนาดนั้น
ระหว่างที่ผมคิดอย่างนั้น…
“ยิง!”
เสียงตะโกนถูกได้ยิน
เมื่อผมมองขึ้นไปผมเห็นเส้นแสงได้มุ่งหน้าไปที่หินใหญ่
มันน่าจะเป็นนักเวทย์ของประเทศแห่งไฟที่ยิงเวทมนตร์ไปที่อุกกาบาต
หรืออาจจะเป็นอาวุธต่อต้านมอนสเตอร์
“นั่นไม่โดน ใช่มั้ย?” (อายะ)
“ม่าย ส่วนใหญ่ยังไปไม่ถึงเลย” (ลูซี่)
“เธอสองคนมีตาที่ดีจริงๆ” (มาโกโตะ)
ซา-ซังและลูซี่เห็นได้แม้แต่ทิศทางของเวทมนตร์
แม้ว่าผมมีมองไกล…
มันไกลมากจนผมไม่เห็น
ทำไมสเปคของสมาชิคผมสูงจัง?
“อะไรกันนี่? ไม่ใช่ว่านั่นฮีโร่-ซามะและฮีโร่ของประเทศแห่งน้ำ มาโกโตะ-ซามะเหรอ?”
“มันค่อนข้างเป็นปัญหาแล้วตอนนี้ ไม่ใช่เหรอ?” (มาโกโตะ)
คนที่เห็นเราและมาหาเราคืออัศวินผู้บังคับใช้กฏหมาย
“ใช่ พอมาคิดว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้…ถ้ามันเป็นมอนสเตอร์ มันจะไม่สำคัญถ้ามอนสเตอร์เป็นหมื่นตัวมา เราจะไม่สะดุ้ง แต่มันไม่มีบันทึกในอดีตสำหรับเวทมนตร์แบบนี้…”
“การจะปล่อยอุกกาบาตตกลงมา ศัตรูได้คิดมันมาอย่างดี นายมีความคิดว่าจะหยุดมันยังไงมั้ย?” (มาโกโตะ)
ผมพยายามจะถามเผื่อไว้ แต่เวทมนตร์ที่พวกเขายิงไม่หยุดต้องเป็นวิธีหยุดของพวกเขา
และมันไม่ได้ดูเหมือนจะมีผลมาก
“ไม่ เสียใจที่ต้องพูด เราไม่มีวิธีดีๆเลย และตอนนี้เราได้ลองหลายๆอย่าง…ดังนั้นได้โปรดรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว”
“งั้น ให้ชั้นได้เจอนายพลทาริสก้าได้มั้ย? มีบางอย่างที่ชั้นอยากจะพูดกับเค้า” (มาโกโตะ)
“กับนายพล…? แต่…”
ผมอาจจะเป็นฮีโร่ของประเทศแห่งน้ำ แต่บางทีมันอาจจะยากที่จะไปพบกับตำแหน่งสูงสุดทางทหารของต่างประเทศ
ผมอย่างน้อยผมอยากบอกบางอย่างกับเขา
“รับทราบ ฮีโร่-โดโนะ โปรดมาทางนี้”
เขาดูเหมือนจะลังเล แต่ดูเหมือนอย่างน้องเขาจะตอบคำขอของผม
◇◇
ผมได้ถูกพามาที่ส่วนหนึ่งของโคลีเซียม
ที่นั่นได้กลายเป็นห้องบัญชาการทางทหารบางอย่าง
ทีมที่มอบคำสั่งอพยพให้กับผู้คนของเมืองหลวง
ทีมได้เขียนแผนที่จะจัดการกับอุกกาบาตที่เข้ามาหา
ทีมที่บอกผู้คนที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์
ทีมที่มอบการรักษาทางการแพทย์ให้กับผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บจากความวุ่นวาย
และคนที่อยู่ตรงกลางคือนายพลทาริสก้า
เขาได้ทำหน้าน่ากลัวขณะที่เขาฟังรายงานจากแต่ละทีม
ข้างของเขาฮีโร่โอลก้าได้ครวญอยู่
เธอโอเคมั้ย?
อัศวินผู้บังคับใช้กฎหมายได้เข้าหานายพลและกระซิบหาเขา
นายพลได้มองมาทางนี้ และทำสีหน้าสงสัยซักพักโดยที่ไม่เมินผม เขาได้มาหาเรา
“ขออภัย ในช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ที่ฮีโร่ที่ถูกแต่งตั้งของประเทศคนใหม่ มันได้ออกมาเป็นแบบนี้…” (ทาริสก้า)
สิ่งแรกที่นายพลทำคือขอโทษ
“แต่มันไม่มีเวลาจะคุยสบายๆนะ เราจะทำบางอย่างเกี่ยวกับวิกฤตของประเทศแห่งไฟ ดังนั้นพวกคุณรีบอพยพได้แล้ว ซาซากิ อายะ-โดโนะอยู่ในสภาพที่เธอได้รับสิทธิ์ที่จะเป็นฮีโร่ของประเทศแห่งไฟแล้ว ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่” (ทาริสก้า)
อัศวินใกล้ๆ ได้ทำท่าทางด้วยมือของเขาเหมือนจะพูดว่าเขาจะนำทางเรา
ดูเหมือนคนจากประเทศอื่นควรจะวิ่งหนีทันที
นั่นในตัวมันเองเป็นวิธีปรกติที่จะจัดการกับมัน
ในทันทีนั้นคำได้ลอยมากลางอากาศ
[คุณจะช่วยประเทศแห่งไฟเกรทคีทจากวิกฤตและให้พวกเขาติดค้างคุณ?]
ใช่
ไม่
ผู้เล่นอาร์พีจี-ซัง!
วิธีที่พูดมัน!
ไม่ใช่นิสัยคุณแย่ลงหรอหลังๆ?
(ยังไงซะ มันต้องพูดความรู้สึกของชั้นออกมา) (มาโกโตะ)
นั่นหมายถึงนิสัยของผมแย่ลงเหรอ?
ไม่ ไม่ ไม่มีทางที่จะเป็นอย่างนั้น (ผมคิด)
(จริงอ่ะ~~?) (โนอาห์)
โนอาห์-ซามะ ท่านฟังอยู่เหรอ?
ไม่ดีเลย ผมถูกเบี่ยงเบนความสนใจ
ผมเผชิญหน้ากับนายพลอีกครั้ง
“นายผล มันโอเคที่เราจะทำบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งนั้นบนท้องฟ้ามั้ย?” (มาโกโตะ)
ผมชี้ไปที่อุกกาบาตบนฟ้าแล้วบอกคำนี้กับเขา
“…มีแผนอะไรบางอย่างเหรอ?” (ทาริสก้า)
นายผพลได้ยินผมและสายตาของเขาคมขึ้น