บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่ – ตอนที่ 36 Evaluate

บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองที่ด้านในห้องชั้นบนสุดของอาคารเรียน เหล่าอาจารย์ตัดสินทั้งสามคนที่เอริซาเบธได้ตามตัวมาเพื่อประเมินการสอบรอบพิเศษที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นกันบ่อยๆ สักเท่าไหร่นักก็ได้พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ

 

“นี่เป็นการสอบนะ… เธอจะประกาศให้พวกเขาเตรียมตัวสักหน่อยไม่ได้หรือไงน่ะ…”

 

โดยอาจารย์คนที่พูดขึ้นมาเป็นคนแรกนั้นคือชายหนุ่มร่างเล็กผมสีขาวยาวที่มัดเป็นหางม้าต่ำลงมา ในชุดเครื่องแบบเหมือนแพทย์พยาบาลสวมทับด้วยเสื้อกาวน์สีขาวสะอาด

 

“ฮะฮะ เอริซาเบธเขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วไม่ใช่หรอครับ อีกอย่างพวกเราก็ได้เห็นแล้วด้วยว่าคนที่มาสอบทั้งสามคนค่อนข้างจะตั้งสติกันได้เร็วพอตัวอยู่นะครับ”

 

ซึ่งอาจารย์อีกคนหนึ่งที่มีเส้นผมสีเทายาวในชุดเครื่องแบบและผ้าคลุมสีเทาที่ประดับด้วยลวดลายสีน้ำตาลเล็กน้อยก็หัวเราะออกขึ้นมา ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาดันแว่นของตนเองและเอ่ยปากพูดขึ้นมาอีกคน ทำให้เอริซาเบธนั้นได้หันกลับมายิ้มมองพวกเขาและพูดหยอกเล่นขึ้นมา

 

“คิดมากหน่า~ ว่าแต่ไหงอาจารย์ชายเดี๋ยวนี้เขาไว้ผมยาวกันหมดแล้วล่ะ? แฟชั่นใหม่ของกลุ่มอาจารย์ชายหรอ?”

 

“แต่ผมของฉันมันก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ… / แต่ผมก็ไว้ผมทรงนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนะครับ?”

 

อาจารย์ผมสีขาวที่มัดไว้เป็นหางม้าต่ำนั้นเหลือบมองเส้นผมสีเทายาวสลวยของคนที่นั่งข้างๆ เล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นมาในจังหวะเดียวกันกับอีกฝ่าย แถมประโยคที่พวกเขาพูดขึ้นมานั้นก็ยังคล้ายๆ กันอีกด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้ทั้งคู่หันมามองกันอย่างด้วยความแปลกใจในทันที

 

“แหม เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ~ ตอนนี้เรามาดูพวกนากาคุงเขาสอบกันดีกว่า~ แล้วก็ถึงจะอยากให้พวกเขาสอบผ่านก็เถอะ แต่ว่าเอาใจช่วยได้อย่างเดียวนะคะ อย่าเผลอตะโกนบอกอะไรพวกเขาล่ะ~”

 

“เฮ้อ… เธอเก็บไว้เตือนตัวเองเถอะ…”

 

“สามคนนั้นชื่อว่านากามูระ พรีมูล่า แล้วก็โมโกะงั้นสินะครับ… มาจากหมูบ้านโมริโกะ…? หมู่บ้านริมชายแดนที่ติดกับทะเลมรกตนั่นน่ะหรอครับ?”

 

อาจารย์ผมสีเทาเปิดแฟ้มเอกสารในมือและหยิบเอาเอกสารขอสมัครเข้าเรียนของพวกนากาขึ้นมาอ่านดู ซึ่งนั่นมันก็ทำให้เขาเอ่ยปากถามเอริซาเบธขึ้นมาอย่างแปลกใจ

 

“แล้วนี่พวกเขามีดีอะไรให้นักประดิษฐ์เร่ร่อนชื่อดังอย่างคุณเอริกะคนนั้นสนใจจนออกใบรับรองให้แถมยังพามาส่งด้วยตัวเองอีก… —-!?”

 

ทันใดนั้นเองอาจารย์ผมสีเทาก็ได้ชะงักไป เมื่อเขาหยิบเอาเอกสารแผ่นสุดท้ายขึ้นมาดูและพบว่ามันคือแผ่นกระดาษที่ประดับไว้ด้วยลวดลายและตราประทับสีน้ำเงินบ่งบอกได้ว่ามันคือเอกสารที่ถูกออกโดยทางวังหลวงไม่ผิดแน่

 

และมันยังมีถึงสามแผ่นด้วยกัน แสดงให้เห็นว่าทั้งสามคนที่มาเข้าสอบในครั้งนี้นั้นมีเอกสารแนะนำตัวจากวังหลวงเป็นของตัวเองกันทุกคน

 

“…ท่าทางว่าการสอบพิเศษครั้งนี้คงจะน่าสนใจกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาสินะครับ”

 

“อืม…นั่นสินะ…”

 

ทันใดนั้นเอง อาจารย์อีกหนึ่งคนที่ยืนดูพวกเขาคุยเล่นกันอยู่อย่างเงียบๆ ตรงมุมห้องก็ได้ขยับตัวไปที่หน้าต่างเพื่อที่จะได้เฝ้ามองดูการสอบครั้งนี้อย่างตั้งใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งพวกเขาก็เหลือบไปมองดูเล็กน้อยแต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

 

ในจังหวะเดียวกันทางด้านสนามสอบนั่นเอง นากาที่ยืนแอบอยู่ในซอกเล็กๆ ระหว่างตัวตึกจำลองของสนามสอบนั้นก็หดหัวกลับมาด้วยสีหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูก หลังจากที่เขาชะโงกหน้าไปดูด้านนอกอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งนั่นก็ทำให้โมโกะต้องถามออกมาอย่างสงสัย

 

“เป็นไงบ้างนากาเห็นใครบ้างหรือเปล่า?”

 

“จะว่าเห็นมันก็เห็นแหละ แต่ว่าว่าเธอลองดูเองสิ…”

 

คำตอบของนากานั้นก็ทำให้โมโกะแอบชะโงกหน้าออกไปดูบ้าง ซึ่งเธอก็พบว่าบริเวณใจกลางของสนามสอบที่ถนนทั้งสองเส้นได้ตัดไขว้กันนั้นได้มีนักเรียนหญิงร่างสูงโปร่งที่ชื่อว่าเซซิลกำลังปักหลักยืนอยู่อย่างมั่นคงและยังจับดาบคาตานะในฝักดาบที่ห้อยไว้บริเวณเอวของเธอด้วยท่าทีสงบนิ่ง

 

ซึ่งท่าทางของอีกนั้นก็ราวกับว่ากำลังท้าให้พวกเธอออกไปสู้ตรงๆ อย่างไรอย่างนั้น

 

“กับดักชัดๆ….”

 

“แล้วพวกเราจะเอายังไงกันดีล่ะ?”

 

“นี่ๆ สนใจแผนที่หนูคิดขึ้นมามั้ยอ่ะ!”

 

ทันใดนั้นเองพรีมูล่าที่แอบชะโงกหน้าออกไปดูเช่นกันก็ได้กระตุกชายเสื้อของทั้งสองคนเบาๆ และพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ซึ่งนั่นก็ทำให้โมโกะมองพรีมูล่าอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินอะไรแบบนั้นออกมาจากปากของเด็กสาวสมองกลวงโตแต่ตัวตรงหน้า

 

“นี่! มองหนูแบบนั้นหมายความว่าไงอ่ะ!!”

 

“ไม่เอาน่าโมโกะ นานๆ ทีพรีมูล่าจะพูดอะไรฟังดูมีสมองขึ้นมาบ้างนะ ลองฟังดูก่อนก็ไม่เสียหายนี่”

 

แน่นอนว่าพรีมูล่าที่ได้ยินแบบนั้นเข้าไปก็พองแก้มออกมาด้วยความไม่พอใจทันที แต่ว่าเธอก็เริ่มที่จะบอกแผนการที่เธอคิดขึ้นมาได้กับทั้งสองคนเมื่อเห็นว่าพวกเขาสนใจที่จะฟังเธอจริงๆ

 

ซึ่งแผนการที่พรีมูล่าพูดขึ้นมานั้นก็ทำให้ทั้งนากาและโมโกะทำหน้าประหลาดๆ ออกมา

 

“เอาจริงดิ…”

 

“เอ๋~ แต่หนูว่าแผนนี้น่าจะได้ผลนะ”

 

“มันก็น่าจะได้ผลจริงๆ นั่นล่ะ… งั้นเอาเป็นว่าทำตามแผนของพรีมูล่าละกันนะโมโกะ หรือว่าเธอมีแผนอะไรอื่นล่ะ?”

 

“หึ้ย— เอาก็เอา! แต่ถ้าฉันเป็นอะไรไปพวกนายต้องรับผิดชอบด้วยนะ!”

 

ถึงแม้ว่าโมโกะจะมีท่าทีลังเลหลังจากที่ได้ยินแผนของพรีมูล่าเข้าไป แต่ว่าเธอก็ตัดสินใจที่จะยอมทำตามแผนการนั้นเพราะยังไงซะตอนนี้พวกเธอก็ไม่มีแผนอื่นอยู่ดี

 

“เดี๋ยวหนูคอยดูโมโกะจังให้เอง!”

 

“ถ้างั้นก็ลงมือเลย!!”

 

ทันทีที่นากาได้ยินว่าโมโกะยอมตกลงทำตามแผนของพรีมูล่าแล้ว เขาก็พูดขึ้นมาก่อนจะปีนขึ้นไปบนแท่นดินที่พวกเขาหลบกันอยู่ และกระโจนพุ่งตัวไปตามแท่นดินพวกนั้นตรงไปทางเซซิลที่ยืนอยู่กลางสี่แยก

 

ส่วนพรีมูล่านั้นก็ได้วิ่งออกไปทางด้านหนึ่งพร้อมๆ กัน โดยปล่อยให้โมโกะยืนทำใจสักพักระหว่างรอเวลาที่จะทำตามแผนที่เธอเสนอขึ้นมา

 

“โผล่มาสักที…”

 

ทางด้านเซซิลที่เห็นการเคลื่อนไหวด้านบนแท่นดินก็พูดขึ้นมาและเปลี่ยนการตั้งท่าของตัวเองเล็กน้อยให้เหมาะสมกับการตั้งรับนากาที่อยู่สูงกว่าตน

 

“ทางนี้!!”

 

ทันใดนั้นเองโมโกะก็ได้พุ่งตัวออกมาจากซอกเล็กๆ ที่เธอหลบอยู่และตะโกนเรียกความสนใจของเซซิลไปและยังลั่นไกปืนกลเบาทั้งสองกระบอกที่เธอถือเอาไว้ออกมาพร้อมๆ กันในทันที

 

ปังปังปังปังปัง!

 

“มาพร้อมกันทั้งสองคนเลยงั้นหรอ… เจ้าควาย ทางตึกเรียน…”

 

ฟวับ!! โคร๊ม!!

 

ทันทีที่สิ้นเสียงของเซซิล แท่นดินที่อยู่เยื้องไปด้านหน้าของโมโกะก็ได้ระเบิดออกอย่างรุนแรงก่อนที่มันจะเอนล้มลงมาขวางทางกระสุนของโมโกะเอาไว้ให้เซซิลได้ทันท่วงที

 

“นี่ว่าใครเป็นควายกันคะ!?”

 

ซึ่งนั่นก็เป็นฝีมือของรีซาน่าที่ใช้ขวานศึกเล่มใหญ่ในมือของเธอฟาดเข้ากับแท่นดินที่ว่านั่นเอง

 

“มีคนอื่นแอบอยู่จริงๆ ด้วยสินะ!”

 

ปังปังปังปังปัง!

 

“หว๊ายๆๆๆ”

 

โมโกะที่เห็นว่าคู่ต่อสู้คนที่สองได้โผล่ออกมาจากที่ซ่อนแล้วแบบนั้นก็หันปืนทั้งสองกระบอกในมือไปยิงใส่อีกฝ่ายในทันที ซึ่งรีซาน่าที่ถูกกราดยิงใส่แบบนั้นก็ต้องรีบกระโดดเข้าไปหลบอยู่หลังแท่นดินที่ถล่มลงมาตามเซซิลไปอย่างรวดเร็ว

 

ปังปังปังปังปัง!

 

ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะก้มลงไปหลบอยู่หลังซากแท่นดินที่ถล่มลงมาไปแล้ว แต่ว่าโมโกะก็ยังคงลั่นไกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องเพื่อกดดันไม่ให้พวกเธอหนีออกมาจากบริเวณนั้นได้ ทำให้รีซาน่าที่เห็นแบบนั้นได้แต่เอ่ยปากถามเซซิลขึ้นมาอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี

 

“อ—เอาไงต่อดีคะคุณเซซิล!? ไหนเมื่อกี้อัลเบิร์ตบอกว่าปืนอีกกระบอกที่เธอพกมาด้วยน่าจะเป็นแค่อาวุธสำรองนี่คะ!?”

 

“ก็คิดเอาเองสิ…!”

 

“อ–เอ๋!?”

 

เซซิลนั้นได้ตอบปัดกลับมาสั้นๆ ก่อนที่เธอจะออกตัวพุ่งไปตามแนวของซากแท่นดินที่ถล่มลงมาเพื่อที่จะเข้าไปปะทะกับนากาที่ใช้ดาบเหมือนกันอย่างรวดเร็ว

 

ทางด้านโมโกะที่กำลังยิงกดดันอยู่นั้นไม่ได้คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเลือกที่จะไม่สนใจเธอ และใช้วิธีย่อตัวลงต่ำเพื่อพุ่งเข้าใส่นากาที่อยู่อีกด้านแบบนั้น เธอจึงได้แต่ร้องเตือนนากาออกมาเสียงดังในทันที

 

“ยัยนั่นไปทางนั้นแล้วนากา!!”

 

“พรีมูล่า!!”

 

“ได้เลยยย~”

 

ทันใดนั้นเองพรีมูล่าก็ได้ล้มตัวลงมานอนกับพื้นจากเบื้องหลังของแท่นดินที่อยู่สุดถนนด้านหลังนากา และลั่นไกปืนยาวในมือของเธอส่งกระสุนน้ำแข็งลอดผ่านใต้ขาของนากาเข้าหาเซซิลที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างแม่นยำ

 

ปั้ง!!

 

“…!!”

 

เป๊ง!!

 

ถึงแม้ว่าเซซิลจะสามารถตวัดดาบคาตานะของเธอออกมาฟันกระสุนน้ำแข็งจนมันแตกกระจายหายไปได้อย่างทันท่วงที แต่ว่านั่นก็ทำให้เธอเสียจังหวะไปและเปิดโอกาสให้นากาได้พุ่งตัวเข้าประชิดเพื่อฟาดดาบเปื้อนเลือดในมือของเขาเข้าใส่เธอจากด้านบนอย่างรวดเร็ว

 

“เสร็จล่ะ!!”

 

“—ชิ!”

 

เคล๊ง!!

 

แต่ว่าเซซิลที่เสียจังหวะไปแบบนั้นก็ยังสามารถที่จะตวัดคาตานะของเธอขึ้นมากันดาบของนากาได้ทันท่วงที

 

ซึ่งนากาที่เห็นแบบนั้นก็เอามืออีกข้างของตนมาจับด้ามดาบเอาไว้และออกแรงกดลงไปจนทำให้เซซิลต้องปักหลักออกแรงต้านดาบของนากาอยู่กับที่

 

“คุณเซซิลคะ!”

 

รีซาน่าที่เห็นเซซิลกำลังจะเสียท่าก็ได้รีบย่อตัวลงต่ำและพุ่งเข้าไปช่วยเหลือเธอในทันที แต่ว่าด้วยขนาดตัวของเธอที่ใหญ่กว่าคนทั่วไปมากนั้นก็ทำให้ร่างกายของเธอบางส่วนโผล่พ้นซากของแท่นดินไป

 

“ยัยโง่เอ่ย…! อย่าเพิ่งเข้ามา!!”

 

“เอ๋ะ!?”

 

“เสร็จฉันล่ะ —!?”

 

กรึก…

 

ทันใดนั้นเองก็ได้มีเสียงของก้อนหินที่ขยับอย่างแผ่วดังขึ้นมา ซึ่งถึงแม้ว่าในตอนแรกโมโกะจะไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าพวกเธอเพิ่งจะเจอกับคู่ต่อสู้เพียงแค่สองเท่านั้น ยังเหลืออีกหนึ่งคนที่พวกเธอยังหาตัวไม่พบ

 

และเมื่อคิดได้แบบนั้น เธอก็รีบสะบัดตัวหันกลับไปด้านหลังและยกปืนในมือขึ้นมาไขว้กันไว้ตามสัญชาตญาณของตนในทันที

 

เคร๊ง!!

 

“—!!”

 

ซึ่งก็นับว่าโชคดีที่เธอเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตนแบบนั้น เพราะว่าในจังหวะเดียวกับที่เธอหันไป มีดของอัลเบิร์ตซึ่งเป็นคู่ต่อสู้คนสุดท้ายนั้นก็ได้พุ่งเข้ามากระทบกับปืนของเธอเข้าแทบจะทันที

 

“ใช้ได้นี่เธอน่ะ!”

 

และเมื่ออัลเบิร์ตเห็นว่าการโจมตีของตนพลาดเป้าไปแบบไม่คาดคิดเขาก็เอ่ยปากชมขึ้นมาเล็กน้อย แต่ว่าเขาก็ยังคงฟันมีดในมือเข้าใส่โมโกะอย่างต่อเนื่องโดยไม่คิดจะให้โมโกะได้ปลีกตัวถอยไปตั้งหลักได้ง่ายๆ

 

ซึ่งถึงแม้ว่าการต่อสู้ระยะประชิดนั้นจะไม่ใช่เรื่องที่เธอถนัดสักเท่าไหร่นัก แต่ว่าหลังจากการฝึกกับนากาเมื่อวานนี้ก็ทำให้เธอพอจะสามารถรับมืออัลเบิร์ตที่มีความเร็วใกล้เคียงกับนากาได้อยู่บ้าง

 

แต่ถึงแม้ว่าทางโมโกะนั้นจะพอรับมืออัลเบิร์ตได้โดยไม่มีปัญหามากนัก แต่ว่าทางนั้นนากานั้นกำลังจะเจอปัญหายุ่งยากเข้าให้ซะแล้ว

 

เพราะในชั่วพริบตาที่ไม่มีคนคอยยิงกดดันรีซาน่าเอาไว้ ก็ทำให้เธอได้ใช้จังหวะนั้นพุ่งเข้ามาใกล้พร้อมกับง้างขวานศึกขนาดยักษ์ในมือเข้าใส่นากาโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

 

“เห้ย—!?”

 

ผลัก!!

 

“อึ๊ก—!?”

 

ซึ่งนากาที่เห็นแบบนั้นก็ร้องขึ้นมาอย่างตกใจและรีบตวัดเท้าของเขาเข้าไปเตะใส่สีข้างของเซซิลที่อยู่ในวิธีขวานศึกด้วยเช่นกันให้กระเด็นออกไปทางด้านข้างก่อนที่ตัวเขาเองนั้นจะรีบโผตัวหลบไปทางด้านหน้าในทันที

 

ตู้ม!!

 

และด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลของสาวร่างยักษ์ตรงหน้านั้นเอง ทำให้ทันทีที่ขวานศึกของเธอกระแทกเข้ากับพื้นตรงหน้า มันก็เกิดระเบิดอย่างรุนแรงจนพื้นดินยุบลงไปเป็นหลุมขนาดใหญ่ แต่ว่ามันก็ทำให้ขวานศึกของเธอปักคาอยู่ตรงกลางหลุมนั้นเช่นกัน

 

ปั้ง!

 

พรีมูล่าที่ยังคงนอนซุ่มอยู่ที่เดิมนั้นได้ลั่นไกปืนเข้าใส่รีซาน่าที่กำลังกำขวานศึกซึ่งปักคาอยู่บนพื้นแน่นในทันที หวังที่จะให้เธอหลบไปโดยทิ้งขวานศึกอันยักษ์นั้นไว้เบื้องหลัง

 

แต่ว่าทันใดนั้นเองใบขวานศึกที่เป็นสีดำในมือของรีซาน่าก็ก็ได้ค่อยๆ เปลี่ยนกลายเป็นสีแดงจากความร้อนที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเธอได้ใช้วิซของตนเองในการต่อสู้แล้ว

 

และเธอก็ได้ยกเอาขวานศึกที่ควรจะปักติดแน่นอยู่กับพื้นขึ้นมาด้วยท่าทีเหมือนกับว่าไม่ได้ออกแรงเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะเหวี่ยงมันไปยังทางที่กระสุนน้ำแข็งของพรีมูล่ากำลังพุ่งเข้ามา

 

“ฮึบ!!”

 

ฟวับ—ชู่ว—-

 

ถึงแม้ว่าตัวขวานของเธอนั้นจะไม่ได้เฉียดเข้าใกล้กระสุนน้ำแข็งเลยแม้แต่น้อย แต่ว่ากระสุนน้ำแข็งของพรีมูล่านั้นก็ถูกความร้อนที่ตัวขวานปล่อยมาทำให้มันละลายกลายเป็นน้ำธรรมดาไปในชั่วพริบตา

 

“หว๊า—”

 

ซึ่งพรีมูล่าที่เห็นแบบนั้นก็ร้องออกมาอย่างแปลกใจและรีบขึ้นลำกล้องกระสุนนัดต่อไปพร้อมกับลุกขึ้นมายืนเตรียมพร้อมในทันที

 

“เกือบไปแล้วนะคะคุณเซซิล!”

 

เซซิลที่กำลังลูบสีข้างของเธอที่โดนนากาเตะเข้าใส่อย่างจังก็หันไปจ้องเธออย่างดุร้าย เพราะว่าถ้าไม่ได้นากาช่วยเตะเธอออกมาแบบนั้นเธอก็คงจะโดนบี้แบนไปด้วยแรงช้างสารของหญิงสาวร่างยักษ์ไปซะแล้ว

 

“เอาไว้จัดการหมอนั่นเสร็จแล้วเธอจะเป็นรายต่อไป…”

 

“เอ๋! ไหงงั้นล่ะคะ…”

 

ซึ่งเซซิลก็ไม่อยู่ฟังคำท้วงของรีซ่าน่า เธอได้พุ่งตัวเข้าหานากาพร้อมๆ กับที่ดวงตาของเธอได้เปลี่ยนเป็นสีแดงฉานบ่งบอกว่าเธอกำลังเร่งพลังวิซในร่างของตน พร้อมๆ กับที่ใบดาบคาตานะของเธอนั้นได้มีเปลวไฟลุกโชนขึ้นมา

 

“แบบนั้นก็สวยเซ่! เข้ามาเลย!!”

 

ทางด้านนากาที่ได้ยินเซซิลพูดขึ้นมาเหมือนกับว่าเธอมั่นใจว่าจะสามารถจัดการเขาได้ง่ายๆ แบบนั้น ก็ทำให้เขาพุ่งเข้าใส่เธอชนิดที่ว่าไม่เกรงกลัวคาตานะติดไฟของเธอเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหลังจากนั้นเสียงประดาบของทั้งคู่นั้นก็ดังขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย

 

ส่วนทางด้านรีซาน่านั้นก็เหมือนว่าจะยังไม่เข้าใจว่าเซซิลกำลังโกรธเธอเรื่องอะไรอยู่กันแน่ จึงได้แต่หันไปทางพรีมูล่าที่กำลังหลบอยู่หลังแท่นดินโดยโผล่หัวสีชมพูๆ ของเธอออกมาแอบมองนิดหน่อย ก่อนจะยกขวานศึกในมือของเธอขึ้นและพุ่งเข้าใส่พรีมูล่าในทันที

 

“เอาล่ะ! เตรียมใจไว้ได้เลยค่ะคุณพรีมูล่า!!”

 

“ด—เดี๋ยวใจเย็นๆ ก่อนค่ะพี่รีซาน่า พวกเราค่อยๆ คุยกันก็ได้—!?”

 

ซึ่งรีซาน่าที่เห็นพรีมูล่าได้สะดุ้งตกใจจนพูดออกมาอย่างลนลานนั้นก็ย่ามใจและยกขวานในมือของเธอขึ้นเหนือหัว หวังที่จะใช้มันจัดการพรีมูล่าให้เสร็จสิ้นในทีเดียว โดยที่ไม่ทันได้สังเกตเห็นปลอกกระสุนของพรีมูล่าที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นเลยแม้แต่น้อย

 

“เสร็จฉันล่ะ!”

 

แกร๊ก!!

 

“เอ๋ะ–?”

 

ทันใดนั้นเองขาของรีซาน่าที่กำลังออกแรงพุ่งไปข้างหน้าอยู่ก็ได้ถูกกระชากตรึงไว้กับพื้นจนแทบจะทำให้เธอล้มกลิ้งลงไป และเมื่อเธอก้มลงไปดูก็พบว่าบริเวณรอบกายของเธอนั้นได้เต็มไปด้วยปลอกกระสุนของพรีมูล่า

 

ในขณะที่ขาของเธอนั้นก็กำลังถูกน้ำแข็งที่ถูกสร้างขึ้นมาจากน้ำในตัวกระสุนจับยึดเอาไว้กับพื้นอย่างแน่นหนา

 

และดูเหมือนว่าน้ำแข็งของพรีมูล่านั้นจะแข็งยิ่งกว่าเมื่อตอนที่เธอใช้แผนเดียวกันนี้กับนากาที่หมู่บ้านโมริโกะอยู่พอสมควร เพราะว่าในตอนนั้นนากาเพียงแค่สะบัดขาไม่กี่ครั้งน้ำแข็งของเธอก็แตกกระจายซะแล้ว

 

แต่ว่าในครั้งนี้ถึงแม้ว่าน้ำแข็งของเธอจะเจอแรงช้างสารของรีซาน่าที่สามารถระเบิดพื้นให้กลายเป็นหลุมได้เข้าไปแต่ว่ามันก็ไม่เกิดรอยร้าวขึ้นมาเลยสักนิด

 

“ฮิฮิ~ ใช้ได้ผลทุกทีสิน๊า~ เอาล่ะ!!”

 

ซึ่งพรีมูล่าก็หัวเราะออกมาพลางมองดูรีซาน่าที่กำลังใช้ด้ามขวานของตนทุบน้ำแข็งออกทีละน้อย และหยิบเอาด้ามมีดสีเงินของเธอขึ้นมาถือเอาไว้

 

ก่อนที่เธอจะค่อยๆ เดินเข้าหาหญิงสาวร่างยักษ์ตรงหน้าอย่างช้าๆ และส่งพลังวิซเข้าใส่ด้ามมีดในมือทำให้มีใบดาบน้ำแข็งที่แผ่ไอเย็นอย่างรุนแรงงอกออกมา และใช้มันฟาดเข้าใส่รีซาน่าในทันที

 

เคล๊ง!!

 

ซึ่งรีซาน่าที่กำลังลนลานใช้ด้ามขวานของเธอทุบน้ำแข็งที่เกาะเท้าของเธออยู่นั้น ก็ยังสามารถที่จะยกขวานในมือขึ้นมารับดาบน้ำแข็งของพรีมูล่าได้ทันท่วงที

 

และเมื่อเป็นแบบนั้นทั้งสองก็กะพริบตามองกันเงียบๆ สักพัก ก่อนที่พรีมูล่าจะสะบัดดาบน้ำแข็งฟันเข้าใส่รีซาน่าจากมุมอื่นดูบ้าง

 

เคล๊ง!!

 

ถึงแม้ว่าพรีมูล่าจะเปลี่ยนไปฟันที่จุดอื่นแล้วก็ตาม แต่ว่ารีซาน่านั้นก็ยังสามารถที่จะเบี่ยงขวานในมือไปปัดป้องดาบน้ำแข็งได้อีกครั้ง

 

ซึ่งพรีมูล่าที่เห็นแบบนั้นก็เผยรอยยิ้มสนุกสนานออกมา และฟันเข้าใส่หลายๆ จุดอย่างต่อเนื่องในทันที

 

เคล๊ง!! เคล๊ง!! เคล๊ง!! เคล๊ง!!

 

 

ทางด้านอาจารย์ผมสีเทาที่เฝ้าดูการสอบของพวกนากาอยู่นั้นก็ได้ลุกขึ้นไปเกาะขอบหน้าต่างเพื่อมองดูดาบน้ำแข็งของพรีมูล่าให้ชัดๆ ในทันที

 

“หืม— วิซธาตุน้ำแข็ง… แล้วยังเป็นธาตุน้ำแข็งของแท้ที่ไม่ใช่ธาตุรองอีกด้วย นี่คุณเอริกะไปเอาของหายากแบบนี้มาจากไหนกันครับเนี่ย”

 

ซึ่งคำพูดของเขานั้นก็ทำให้อาจารย์สาวผมสีม่วงอีกคนหนึ่งในห้องได้หันมามองเขาด้วยสายตาเชิงตำหนิ

 

“อย่าพูดเหมือนกับว่าเด็กๆ เป็นสิ่งของสิคะอาจารย์โนล”

 

“อ่ะ—ขอโทษทีครับ”

 

“แต่ก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจความรู้สึกของคุณนะคะ เพราะเด็กที่มีวิซธาตุน้ำแข็งเป็นหลักแบบนั้นหาได้ง่ายๆ ซะที่ไหนกันล่ะคะ”

 

“ใช่มั้ยล่ะครับ ตอนที่เอริซาเบธบอกว่าเด็กคนนั้นใช้วิซธาตุน้ำแข็งได้ผมก็นึกว่าเธอแค่พูดเล่นหรืออย่างมากก็เป็นแค่วิซธาตุรองซะอีก เพราะว่าถ้าเป็นอย่างนั้นขอแค่ฝึกมามากพอใครๆ ก็ใช้คริสตัลยิงกระสุนน้ำแข็งกันได้ทั้งนั้นล่ะครับ”

 

เมื่อได้ยินแบบนั้นอาจารย์สาวผมสีม่วงก็เหลือกตามองเขาอย่างหน่ายๆ เพราะคำว่า ‘ฝึกมามากพอ’ ของเขานั้นไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะทำได้ง่ายๆ เลยแม้แต่นิดเดียว

 

ในขณะที่อาจารย์ผู้มีเส้นผมสีเทาที่มีชื่อว่า โนล คนนั้นก็หันไปมองดูน้ำแข็งที่ยึดเท้าของรีซาน่าไว้กับพื้นอีกครั้งและพูดขึ้นมาต่อ

 

“ดูนั่นสิครับ เด็กคนนั้นปล่อยให้น้ำแข็งที่เธอเตรียมไว้ในกระสุนละลายลงไปแล้วล่อให้คู่ต่อสู้ของเธอเข้ามาติดกับ เสร็จแล้วก็เปลี่ยนมันให้กลายเป็นน้ำแข็งอีกครั้งโดยใช้เพียงแค่คริสตัลสำหรับฝึกซ้อมซะด้วยซ้ำ แค่เห็นแบบนี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าเธอมีวิซธาตุน้ำแข็งเป็นหลักจริงๆ”

 

“นั่นสินะ… ในเมื่อเธอมีวิซธาตุน้ำแข็งแบบนี้ก็คงจะผ่านเกณฑ์แน่ๆ อยู่แล้ว… งั้นเราไปดูอีกสองคนที่เหลือกันเถอะ…”

 

ในระหว่างที่อาจารย์โนลและอาจารย์สาวผมสีม่วงคนนั้นกำลังยืนคุยกันอยู่ อาจารย์อีกคนหนึ่งที่มีผมสีขาวนั้นก็ได้พูดขึ้นมาเหมือนกับว่าเขากำลังเบี่ยงความสนใจของอาจารย์อีกสองท่านไปยังคนอื่นๆ ดูบ้าง

 

“อื้ม… ทางด้านเด็กผู้ชายที่ชื่อนากามูระนั่นก็ไม่เบาเหมือนกัน วิชาดาบของเขาแทบจะเทียบเท่ากับเซซิลอยู่แล้ว ผมเห็นเขาสู้กับเซซิลมาได้สักพักโดยแทบไม่พลาดท่าเลยซะด้วยซ้ำ ผมว่าผมให้เขาผ่านในด้านนี้ได้อยู่นะครับ”

 

“งั้นก็เหลือแต่เด็กผู้หญิงหูแมวที่ชื่อว่าโมโกะสินะคะ… ถึงเธอจะมีปืนกลรุ่นใหม่ของเมืองแพนเทร่าใช้แถมยังยิงพร้อมกันได้ทั้งสองกระบอกก็เถอะ แต่ว่าฉันดูแล้วก็ไม่คิดว่าเธอจะมีวิซมากพอขนาดจะใช้มันพร้อมๆ กันแบบนั้นได้นานหรอกนะคะ แถมอัลเบิร์ตก็ยังไม่ได้เอาจริงอีกด้วย…”

 

 

เคล๊ง! เคล๊ง!

 

ทางด้านโมโกะที่กำลังสู้กับอัลเบิร์ตอยู่นั้นก็ต้องขอบคุณที่เธอได้ฝึกซ้อมอย่างหนักกับนากาเมื่อวานนี้จนทำให้เธอสามารถรับมืออัลเบิร์ตที่รุกไล่เข้ามาอย่างต่อเนื่องได้

 

เป๊ง—!!

 

“—!!”

 

และแล้วในที่สุดโมโกะก็สามารถหาจังหวะใช้ปืนในมือปัดแขนข้างซ้ายที่อัลเบิร์ตใช้ถือมีดให้กระเด็นขึ้นไปข้างบนได้สำเร็จ และเธอก็รีบใช้จังหวะนั้นในการหันปืนในมืออีกข้างยิงเข้าใส่อัลเบิร์ตในทันที

 

แต่ก่อนที่เธอจะได้ลั่นไกออกมา อัลเบิร์ตก็ใช้มือข้างขวาของเขาฟาดไปที่ปลายกระบอกปืนของเธอให้มันสะบัดไปทางอื่นในทันที

 

ปึ๊ก! ปัง!

 

“—!”

 

“คิดว่าฉันมีมือแค่ข้างเดียวหรือไงหะ!? จบกันแค่นี้ล่ะ เสียเวลาจริงๆ!!”

 

อัลเบิร์ตพูดขึ้นมาก่อนจะขยับมือของเขาฟาดไปที่ข้อมือของโมโกะจนทำให้ปืนของเธอหลุดมือและหล่นลงไปกับพื้น อีกทั้งเขายังฟาดมีดที่ถูกปัดขึ้นไปสูงก่อนหน้านี้เข้าใส่เธอจากด้านบนด้วยเช่นกัน

 

“หึ้ย—!”

 

ปึ๊ก!!

 

“—!?”

 

แต่โมโกะที่ไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ นั้นก็รีบเอามือข้างที่ยังถือปืนอยู่ขึ้นมาขวางท่อนแขนของอัลเบิร์ตที่กำลังเหวี่ยงมีดลงมาจากด้านบนและก้าวถอยหลังไปตามสัญชาตญาณของตน

 

ซึ่งนั่นก็ทำให้มีดของอัลเบิร์ตที่ยื่นตามตัวเธอออกไปจนสุดแขนนั้นได้พุ่งลงมาเฉียดผ่านจมูกของเธอไปเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ปากกระบอกปืนของเธอนั้นได้จ่ออยู่ที่ใบหน้าของเขาเต็มๆ

 

“แฮ่ก—แฮ่ก—”

 

ซึ่งทั้งสองคนก็ยืนจ้องหน้ากันอยู่สักพัก ก่อนที่แววตาของอัลเบิร์ตที่เคยมองเธออย่างดูแคลนนั้นจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“หึ… ตอนแรกฉันก็นึกว่าเธอจะเป็นเหมือนพวกผู้ใช้ปืนห่วยๆ ทั่วไปที่โดนเข้าประชิดได้ก็หมดปัญญาจะทำอย่างอื่นซะอีก ต้องขอโทษที่ดูถูกเธอไปก่อนหน้านี้ด้วยละกัน”

 

ถึงแม้ว่าเมื่อมองดูจากสายตาของคนอื่นแล้วจะเหมือนกับว่าโมโกะนั้นได้พลาดท่าจนเสียปืนในมือไปหนึ่งกระบอกและกำลังจะพ่ายแพ้ แต่ว่าเธอก็สามารถพลิกสถานการณ์ให้กลับมาได้เปรียบได้ในชั่วพริบตา

 

แต่ความจริงแล้วในตอนนี้ตัวโมโกะเองนั้นกำลังรู้สึกสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ซะด้วยซ้ำ เนื่องจากสิ่งที่เธอทำลงไปทั้งหมดนั่นก็แค่ปล่อยให้สัญชาตญาณของตนช่วยชี้นำเพียงเท่านั้นเอง

 

และในขณะนี้เธอก็เริ่มที่จะรู้สึกหมดแรงแล้วเช่นกัน เพราะว่าตั้งแต่ที่อัลเบิร์ตโผล่มานั้น เขาก็รุกไล่เธอในระยะประชิดซะจนเธอแทบจะไม่มีเวลาได้พักหายใจเลยแม้แต่นิดเดียว

 

“แต่ว่าถ้าเกิดนี่เป็นการต่อสู้จริงๆ เธอก็คงจะตายไปแล้วล่ะ”

 

“—!?”

 

ทันใดนั้นเองอัลเบิร์ตก็ได้พูดขึ้นมาในจังหวะเดียวกับที่โมโกะได้สังเกตเห็นกลไกอะไรบางอย่างตรงด้ามจับมีดที่จ่อหน้าเธออยู่ และเธอยังได้เห็นรูขนาดเล็กๆ ที่บริเวณปลายใบมีดเช่นเดียวกัน ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอตัดสินใจที่จะลั่นไกปืนกลเบาในมือของเธอในทันที

 

กริ๊ก—ปั้ง!! ปั้ง!!

 

แต่ว่านั่นก็ไม่ทันการซะแล้ว เพราะว่าอัลเบิร์ตนั้นทำเพียงแค่เอียงคอของตนเล็กน้อย และการกระทำของเขานั้นก็ทำให้กระสุนวิซของโมโกะพลาดเป้าไปอย่างไม่น่าเชื่อ

 

ในขณะที่ตัวเขาเองก็ใช้นิ้วโป้งของตนกดลงบนปุ่มกลไกที่ด้านข้างของด้ามมีด ทำให้มันส่งกระสุนวิซธาตุลมออกมาจากรูเล็กๆ ที่ปลายใบมีดเข้าใส่โมโกะเช่นเดียวกัน

 

พึ๊บ—!!

 

ถึงแม้ว่าโมโกะจะสามารถเอียงตัวไปด้านหลังเพื่อหลบกระสุนวิซสีเขียวที่พุ่งออกมาจากใบมีดที่จ่อหน้าของเธอได้อย่างฉิวเฉียด แต่ว่านั่นก็แทบจะทำให้เธอหงายหลังล้มลงไปกับพื้น

 

ส่วนทางด้านอัลเบิร์ตนั้นเขาก็ได้หมุนตัวเพื่อสลายแรงถีบจากการยิงกระสุนออกมาเมื่อสักครู่และใช้จังหวะเดียวกันนั้นเตะตวัดขาของโมโกะที่กำลังเสียหลักอยู่ให้ล้มลงไปกับพื้นเข้าจริงๆ

 

ปั๊ก!

 

และเมื่อหมุนตัวจนครบรอบแล้วเขาก็ใช้แรงส่งจากการหมุนตัวยื่นฝ่ามือของเขาไปกระแทกไหล่ของโมโกะที่กำลังพยายามยันตัวเองลุกกลับขึ้นมายืนให้ล้มลงไปอีกครั้งหนึ่ง

 

ตุ๊บ!!

 

ก่อนที่เขาจะคว้าแขนของโมโกะขึ้นมาเพื่อล็อกเธอเอาไว้กับพื้นในทันที

 

“โอ๊ย–!?”

 

“โมโกะจัง!?”

 

ทันทีที่มีเสียงร้องของโมโกะดังแว่วขึ้นมา พรีมูล่าที่กำลังเล่นสนุกอยู่กับการพยายามฟันให้โดนรีซาน่านั้นก็รีบหันไปมองในทันที ซึ่งเธอก็พบว่าโมโกะนั้นได้พลาดท่าโดนคู่ต่อสู้ของเธอจับกดเอาไว้กับพื้นซะแล้ว

 

และเมื่อพรีมูล่าเห็นแบบนั้นเข้า เธอก็เลิกที่จะเล่นสนุกและฟันเข้าใส่รีซาน่าที่ถูกน้ำแข็งล็อกขาเอาไว้อีกครั้งในทันที โดยที่รีซาน่านั้นก็รีบเอาขวานของเธอเข้ารับดาบน้ำแข็งอีกครั้งเช่นเดียวกัน

 

แต่ว่าทันใดนั้นเองพรีมูล่าก็กลับปล่อยมือของเธอออกจากดาบน้ำแข็ง ก่อนจะหยิบเอาปืนยาวของเธอขึ้นมาอีกครั้งและเล็งไปทางอัลเบิร์ตในทันที

 

“หนูฝากเจ้านี่ไว้ก่อนนะ!!”

 

“อ—เอ๋ะ!?”

 

รีซาน่านั้นได้ส่งเสียงออกมาอย่างแปลกใจ เมื่อเธอพบว่าดาบน้ำแข็งที่พรีมูล่าปล่อยมือไปแล้วนั้นไม่ได้ร่วงหล่นลงสู่พื้น เพราะว่าตัวน้ำแข็งบนใบดาบนั้นได้แผ่ขยายออกมาและค่อยๆ กลืนกินขวานศึกคู่ใจของเธอไปทีละเล็กละน้อย

 

ซึ่งเมื่อเห็นแบบนั้นเข้าเธอก็รีบสะบัดขวานของเธออย่างรุนแรงก่อนที่มันจะกลายเป็นแท่งไอติมไป

 

แต่ว่าดาบน้ำแข็งของพรีมูล่านั้นก็ยังคงยึดติดอยู่กับด้ามขวานของเธอแน่น จนทำให้เธอได้แต่ลองเร่งพลังวิซธาตุไฟของตนขึ้นมาเพื่อหวังที่จะใช้มันละลายน้ำแข็งที่เกาะกุมตัวขวานอยู่ออกไป

 

ซึ่งมันก็เหมือนจะได้ผล เพราะว่าดาบน้ำแข็งของพรีมูล่าบนขวานของเธอรวมไปถึงน้ำแข็งที่ยึดเท้าของเธอเอาไว้กับพื้นนั้นก็ได้ค่อยๆ ละลายลงไปอย่างช้าๆ

 

ส่วนทางด้านอัลเบิร์ต เมื่อเขาเห็นว่าโมโกะที่ถูกจับกดเอาไว้กับพื้นนั้นทำได้เพียงแค่พยายามดิ้นไปมาเพื่อที่จะหลุดจากการจับกุมของเขาก็ทำให้เขาเผยแววตาดูถูกออกมาอีกครั้ง และง้างมีดในมือขึ้นในทันที

 

“จบกันแค่นี้แหละ!!”

 

“—!!”

บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่

บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่

Status: Ongoing
เมื่อคำสัญญาจากอดีตได้หวนคืนกลับมาเพื่อทวงคืนสิ่งที่ถูกหยิบยืมไป การเดินทางของคนถูกทิ้งกลุ่มหนึ่งเพื่อจะช่วยเหลือมนุษยชาติจึงได้เริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท