ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 887 หลุดพ้นความจน

ตอนที่ 887 หลุดพ้นความจน

หลี่ว์ซู่พาหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ไปลาดตระเวนรอบๆ ดินแดนใหม่ของเขา

ที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลี่ว์ซู่มี “อาณาเขต” เป็นของตนเอง

หมู่บ้านชิงหลงเลือกทำเลที่ตั้งได้ดีมาก ด้านหลังติดหน้าผา ด้านหน้าเป็นถนนเล็กๆ ขรุขระที่ปกป้องได้ง่ายแล้วยากต่อการโจมตี คนทั่วไปถ้าคิดจะบุกเข้ามาก็เป็นเรื่องยาก ที่แห่งนี้นี่เองที่ผู้มีพลังระดับ 3 และกลุ่มคนเร่ร่อนสามารถต้านการโจมตีจากด้านหน้าของทหารอู่เว่ยได้ ไม่เพียงเท่านี้ยังมีเส้นทางลับมากมายในภูเขานี้และมีกลุ่มโจรดักซุ่มจำนวนมาก

เท่าที่หลี่ว์ซู่เห็น โจรป่าบางคนมีประสบการณ์การต่อสู้มากกว่าทหารอู่เว่ยซะอีก

แต่ไม่ว่าจะมีแผนการดีเพียงไร หัวหน้าหมู่บ้านนี้ไม่มีทางคาดคิดว่าศัตรูในครั้งนี้จะบินมา…

เมื่อหัวหน้าบาทหลวงบินมาพร้อมกับผ้าพันคอสีชมพู ทั้งหมู่บ้านต่างตกตะลึงกัน…จากนั้นก็กลายเป็นการสังหารหมู่แบบถล่มยับ

หัวหน้าบาทหลวงมี 2 ท่าไม้ตาย ท่าแรกคือการควบคุม อีกท่าหนึ่งคืออาวุธของเขา หลี่ว์ซู่เองเคยประสบกับ 2 ท่านี้มาก่อน แต่ในตอนนั้นฟรานซิสโกมีพลังแค่ระดับ 2 พลังของเขาจึงไม่น่ากลัว

ตอนนี้หัวหน้าบาทหลวงใช้แสงสีเงินในการควบคุมทุกคนให้อยู่กับที่และฟันกระบี่เพียง 5 ครั้งก็สังหารคนไปกว่า 400 กว่าคน เป็นภาพที่น่ากลัวมาก

ดังนั้นหลี่เฮยทั่นจึงรู้สึกตั้งแต่ต้นว่าสมองหัวหน้าคนใหม่ของเขาคงมีปัญหา ที่รอให้คนอื่นมาล้อมแต่พอคิดดูแล้วไม่ใช่ว่าสมองหลี่ว์ซู่มีปัญหาแต่ตัวเขาเองต่างหากที่มีปัญหา…

พลังระดับหนึ่ง…มีเพียงไม่กี่สิบคนภายใต้ดินแดนของจอมทัพสวรรค์ทักษิณ แล้วพวกเขาเหล่านั้นต่างเป็นเจ้าพระยาหรือขุนนางชั้นสูง

ใครจะไปคิดว่าผู้มีพลังระดับหนึ่งจะมาที่หมู่บ้านชิงหลง แล้วลูกน้องของหัวหน้าคนใหม่ท่านนี้มีพลังระดับ 1 แล้วตัวหัวหน้าล่ะจะมีพลังขนาดไหน ไม่อยากจะคิดเลย…

คำถามคือเก่งขนาดนี้จะมาที่นี่ทำไม คิดๆ ดูแล้ว สมองของเขาน่าจะมีปัญหาอยู่บ้าง…

ตอนนี้หัวหน้าบาทหลวงยืนอยู่บนลานกว้างของหมู่บ้าน ตรงกลางของลานมีธงปักอยู่ บนธงเขียนว่าผดุงยุติธรรมแทนสวรรค์ หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าสี่คำนี้มันดูจอมปลอมเกินไป ทำเพื่อหาเงินทั้งนั้นเขียนอะไรไร้สาระ หลี่ว์ซู่จึงพูดกับหลี่เฮยทั่นว่า “เปลี่ยนตรงนั้นซะ”

หลี่เฮยทั่นตกใจ “เปลี่ยนเป็นอะไรครับ”

“หลุดพ้นความจนมุ่งสู่ความร่ำรวย!” หลี่ว์ซู่พูดด้วยความมั่นใจ

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ “…”

ที่จริงเธอไม่ประหลาดใจเลย นี่สิถึงจะเป็นนิสัยของหลี่ว์ซู่ มาวิเคราะห์ดูแล้วมันดูเหมือนเรากลัวการรวมตัวของชาวเมืองและชนบท

แต่โจรในหมู่บ้านชิงหลงคนอื่นๆต่างหงุดหงิดใจ นี่ไม่ใช่สิ่งที่โจรป่าทำกัน พูดน่าเกลียดหน่อยก็คือ พวกเขายังไม่รังเกียจตัวเองแต่หัวหน้าคนใหม่กลับคิดจะหลอกตัวเอง หลี่ว์ซู่ตวาด “มีชาวบ้านคนไหนไม่รู้ว่าพวกนายทำอะไรไหม”

หลี่เฮียทั่นพูดเตือนเขาเสียงค่อย “ไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นเราทุกคน…”

“ใช่ๆๆๆ เราทุกคน” หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าเขาเป็นหัวหน้าที่ดียอมรับคำเสนอแนะจากผู้อื่น

ครั้งที่แล้วหมู่บ้านชิงหลงจึงเปลี่ยนสโลแกนจากผดุงความยุติธรรมแทนสวรรค์เป็นหลุดพ้นความยากจนมุ่งสู่ความร่ำรวย…

หลี่ว์ซู่ให้หลี่เฮยทั่นพาเขาและหลี่ว์เสี่ยวอวี๋พาเดินหมู่บ้าน ที่เขาเหลือไว้คนเอาไว้ 1 ใน 10 ก็เพราะหลี่ว์ซู่ไม่ชอบมากคนมากความ คนอื่นต่างวิ่งหนีเมื่อเห็นหัวหน้าบาทหลวงมีแค่ 1 ใน 10 นี่ที่กล้าเข้ามาสู้

โดยเฉพาะหลี่เฮยทั่นที่ต้องการต่อสู้ชี้เป็นชี้ตายกับหัวหน้าบาทหลวงให้ได้…

หลี่ว์ซู่ไม่กังวลว่าโจรที่เหลือไว้นี้จะต่อต้านเขา ที่จริงพลังของโจรพรุ่งนี้ต่อให้มาเป็นพันคนหัวหน้าบาทหลวงพ่อฆ่าตายหมด นี่ยังไม่ได้ให้แอนโทนี่และจอห์นสันออกโรงนะ

หากนับจำนวนโจรป่าในจักรวาลหลี่ว์ ไม่มีสักแห่งที่มีผู้มีพลังระดับ 1 หนึ่งคนและระดับ 2 สามคน พลังการต่อสู้เช่นนี้โดยทั่วไปแล้วไม่มาเป็นโจรป่า แค่ไปหาจอมทัพสวรรค์ก็ได้ตำแหน่งที่ปรึกษามาง่ายๆ แล้ว ในบรรดาเมืองนับร้อยภายใต้การควบคุมของกองทัพสวรรค์ เป็นเจ้าเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย…

แต่ทุกตำแหน่งคือตำแหน่งที่ตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ…

ไอ้ตอนนี้เอง หลี่ว์ซู่ยกมือขึ้น เส้นทางลับบนยอดเขาก็ถูกปิดตายลง หินขนาดยักษ์ถูกยกขึ้นมาและเรียงซ้อนกันจนกลายเป็นกำแพงเมืองที่แน่นหนา

เดิมทีที่ตั้งหมู่บ้านชิงหลงก็อันตรายพอสมควรแต่ตอนนี้เหมือนกลายเป็นเสมือนป้อมปราการเส้นทางที่เหมาะกับการปีนในอดีตต่างถูกปิดตายจนหมด เดิมทีด้านหน้ามีความลาดตระเวน 2 แห่ง ตอนนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงหินไปแล้ว และมีการออกแบบบันไดไว้บนกำแพงหินด้วย

ที่จริงทุกคนในหลี่ว์นเวิร์สต่างเป็นผู้บำเพ็ญ หลี่เฮียทั่นยังไม่เคยเห็นการใช้งานองค์ประกอบเดียวได้เต็มศักยภาพเช่นนี้ เขาจึงตะลึงในความสามารถของหลี่ว์ซู่ แม้แต่โจรป่าคนอื่นก็ต่างตกใจด้วยความกลัว

วัยรุ่นคนนี้ช่างน่าลึกลับอย่างที่คิดไว้จริงๆ!

ที่จริงหลี่ว์ซู่และหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ปรึกษากันแล้วว่าจะจงใจสร้างภาพลักษณ์ปลอมให้กับเขาเพื่อให้ทุกคนเชื่อมั่น

โจรป่าพรุ่งนี้ปกติแล้วจะโยกย้ายถิ่นบ่อย หมู่บ้านนี้เบื่อแล้วก็ย้ายไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง ใครเป็นหัวหน้าจึงไม่สำคัญ สำคัญที่มีของกินมีเหล้าและปลอดภัยไหม

แต่ตอนนี้ปลอดภัยมาก ใครกล้าทำอะไรกับโจรป่าที่มีพลังระดับ 1…

หลี่เฮยทั่นไม่รู้ว่าทำไมถึงแม้ว่าเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์สังหารหมู่ไปแต่เห็นหัวหน้าคนใหม่ทำงานเช่นนี้ก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาไม่มากก็น้อย

การดื่มน้ำเป็นปัญหาดั้งเดิมของหมู่บ้านนี้เพราะที่ตั้งอยู่บนสถานที่อันตราย ปัญหาเรื่องแหล่งน้ำจึงไม่ได้รับการแก้ไข จะดื่มน้ำต้องไปหาบน้ำ ทางออกไปหนึ่งลี้ แต่หัวหน้าคนใหม่จัดการขูดคูน้ำให้น้ำไหนเข้ามาในหมู่บ้านเลย

แต่พอมีคูน้ำสายนี้แล้วหมู่บ้านชิงหลงดูดีขึ้นมาก…

มีสิ่งเดียวที่กังวลคือพวกเขาจะทำอย่างไรถ้าหัวหน้าคนนี้อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย กลัวจะอยู่กันไม่เป็นสุข…

แต่หลังจากเห็นหลี่ว์ซู่สร้างป้อมปราการของหมู่บ้านใหม่ เขาพูดกับเหล่าฝูงชนใต้ธง “หลุดพ้นความยากจนมุ่งสู่ความร่ำรวย” ว่า “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกเราจะไม่ปล้นสะดม ฉันจะแบ่งงานให้พวกนายทำ รอจนทัพอู่เว่ยขนโจรจากหมู่บ้านอื่นส่งหัวคนมา พวกเราค่อยมาคุยกันว่าจะหาเงินอย่างไร”

หลี่เฮยทั่นคิดว่าหัวหน้าคนใหม่นี้พูดจาแปลกไป ส่งหัวคน? แต่มันเป็นรูปธรรม ผู้บัญชาการพลังระดับ 2 ของทัพอู่เว่ยพากลุ่มโจรป่าพลังระดับ 3 กลุ่มหนึ่งมาโจมตี แต่ก็ไม่ได้มาส่งหัวคน…

แต่ศึกใหญ่รออยู่ข้างหน้า ทำไมหัวหน้าให้พวกเขาเตรียมหม้อใบใหญ่ เอาหม้อใบใหญ่มาทำอะไร แล้วยังให้ต้มน้ำมันหมู ส่วนเนื้อกลับวางเอาไว้ไม่กิน จะเอาน้ำมันไปทำอะไร…

ก๊กโจรก๊กอื่นๆ ต่างตกใจ เมืองอวิ๋นอานสงบสุขมาเกือบ 7 ปี ขนาดทหารเสื้อขนดำยังไม่สนใจเข้ามาโจมตีเมืองนี้ แต่ด้วยเวลาเพียง 1 วันหมู่บ้านชิงหลงก็เปลี่ยนธงหัวหน้าเสียแล้ว มันเกิดอะไรขึ้น!

ทุกคนต่างเคยชินกับการหาเงินเงียบๆ กดขี่ชาวเมืองอวิ๋นอาน เบ่งบารมีได้กินดีอยู่ดี สภาพแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว แต่อยู่ๆ ก็มีคนต่างถิ่นเข้ามาแล้วสังหารหัวหน้า

ตอนนั้นไม่มีใครหนีรอดออกมาจากหมู่บ้านชิงหลง บางคนก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนระหว่างกลับหมู่บ้าน แต่ไม่นานนักก็ได้เห็นธงถูกเปลี่ยนออกแล้วแทนที่ด้วยธงใหม่ที่เขียนว่าหลุดพ้นความยากจนมุ่งสู่ความร่ำรวย…

ดังนั้นทุกคนจึงไม่เข้าใจว่าข้างบนเกิดอะไรขึ้น…

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

Status: Ongoing

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น!

ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย

ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท