“เจ้าพูดเรื่องจริงหรือ?” อนุภรรยาอู๋มองดูสาวใช้ตัวน้อยที่คุกเข่าต่อหน้า ใบหน้าเขียวปั๊ด คำพูดของเยี่ยนมี่เอ๋อร์และผู้หญิงสามคนนั้นเสียดแทงเข้าไปในใจของนางอย่างไร้ความปรานี ไม่ได้เชิดหน้าชูตามาหลายปีดีดัก เกิดมาต่ำต้อย หากไม่ใช่เพราะนางไม่มีเรี่ยวแรง ถ้วยน้ำชานั้นก็จะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“ที่บ่าวพูดทุกถ้อยคำเป็นเรื่องจริง ไม่กล้าโป้ปดมดเท็จแต่อย่างใดเจ้าค่ะ!” สาวใช้ตัวน้อยยังรู้ว่าคำพูดเหล่านี้ระคายหูอนุภรรยาอู๋ แต่ก็ไม่กล้าจะปกปิดอะไร นางเป็นสาวใช้ที่อยู่ข้างกายเยี่ยนมี่เอ๋อร์ซึ่งอนุภรรยาอู๋ให้แทรกตัวไปเป็นสายลับ นางไม่รู้ว่าอนุภรรยาอู๋วางแค่ตัวเองคนเดียวหรือยังมีอีกหลายคน ในกรณีที่คนอื่นพูดแตกต่างจากนาง ใครจะรู้ว่าอนุภรรยาอู๋ที่มักจะโหดร้ายจะปฏิบัติต่อตัวเองอย่างไร
แม้อนุภรรยาอู๋จะไม่ใช่เจ้านายที่แท้จริงของตระกูลซั่งกวน แต่เลื่อนตำแหน่งเป็นอนุภรรยามาหลายปีก็ยังไม่มีลูก ทว่านางได้เข้ามาดูแลกิจการภายในของตระกูลซั่งกวนมากว่าสิบปี เจ้านายที่แท้จริงไม่เห็นนางอยู่ในสายตาได้ แต่พวกบ่าวไพร่กลับไม่กล้าทำให้นางขุ่นเคืองเลยสักนิด ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ทำให้นางขุ่นเคืองเล่า!
“สะใภ้ใหญ่ตัวดีหยิ่งยโสโอหัง! นางคิดว่าแต่งกับคุณชายใหญ่แล้วนางจะต้องเป็นนายหญิงในอนาคตของตระกูลซั่งกวนแน่ๆ ใช่ไหม!” อนุภรรยาอู๋โกรธจนแทบระเบิด ฮูหยินใหญ่ซั่งกวนหมางเมินนาง หวงฝู่เยวี่ยเอ้อเกลียดนางเข้ากระดูกดำ ถ้าไม่ใช่ตนที่จัดการเรื่องภายในของตระกูลซั่งกวน หวงฝู่เยวี่ยเอ้อคงจะวางยาพิษตัวเองไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ตอนนี้แม้แต่เยี่ยนมี่เอ๋อร์ที่เพิ่งแต่งเข้ามาได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนเต็มก็ยังลบหลู่ตัวเองเช่นกัน นางจะกล้ำกลืนฝืนทนให้ผ่านช่วงนี้ไปได้อย่างไร?
สาวใช้ตัวน้อยฉลาดมากที่ไม่พูด หากนางกล้าพูดอะไรในยามนี้ ใครจะรู้ว่าอนุภรรยาอู๋จะระเบิดอารมณ์โกรธใส่ตัวเองหรือไม่ มีเพียงแม่นมซึ่งอยู่ข้างหลังอนุภรรยาอู๋เท่านั้นที่กระแอมไอแล้วถามว่า “สะใภ้ใหญ่บอกว่าจะให้คุณหนูเลี่ยนเยี่ยนออกมา ไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม?”
“บ่าวได้ยินชัดเจน สะใภ้ใหญ่บอกว่าคุณหนูอู๋เรียนรู้กฎเสร็จแล้วสามารถออกไปข้างนอกได้เจ้าค่ะ!” สาวใช้ตัวน้อยไม่กล้าพูดอะไรส่งเดชสักคำ หากมีข้อผิดพลาดสักเล็กน้อย อนุภรรยาอู๋ก็คงจะโมโหมาก
“เจ้าเคยเห็นเลี่ยนเยี่ยนไหม?” อนุภรรยาอู๋สูดหายใจเข้าลึก ระงับอารมณ์ที่บ้าคลั่งไว้ หลานสาวที่ไม่เป็นโล้เป็นพายที่สุดคนนั้น แม้ความโกรธจะยังไม่จางหายไป แต่จะทำอย่างไรได้เล่า? ตระกูลอู๋ก็มีหลานสาวเพียงคนเดียวนี้ที่พอจะมีฝีมืออยู่บ้าง ส่วนคนอื่นๆ เลวร้ายยิ่งกว่านางด้วยซ้ำ! นางจะไม่ยอมปล่อยเลี่ยนเยี่ยนไปโดยเปล่าประโยชน์เช่นนี้ได้
“เคยเห็นครั้งหนึ่ง แต่บ่าวไม่ได้คุยกับคุณหนูอู๋ กลัวว่าจะมีใครเห็นได้เจ้าค่ะ!” สาวใช้ตัวน้อยเคยพบกับอู๋เลี่ยนเยี่ยน
ดูเหมือนจะมีจิตใจดี แต่ไม่ได้หยิ่งยโสอย่างที่เคยเป็นมาก่อน ก้มหน้าก้มตา ดูเหมือนจะเรียนรู้กฎได้ดี ไม่ได้จงใจเล่นแง่อะไร
“นางดูเป็นอย่างไรบ้าง?” อนุภรรยาอู๋ครุ่นคิดสักพัก แล้วถามประโยคนี้ออกมา ไม่รู้ว่านางได้รับความทุกข์ทรมานจากน้ำมือของเยี่ยนมี่เอ๋อร์หรือไม่ หากได้รับความเดือดร้อนก็จะดี
“ดูจิตใจดี แต่ก็ซีดเซียวไปหน่อยเจ้าค่ะ!” สาวใช้ตัวน้อยกล่าวอย่างระมัดระวัง แม่นมจ้าวรับคำแนะนำจากเยี่ยนมี่เอ๋อร์ แม้จะเข้มงวดมาก แต่ก็ไม่ได้แข็งกร้าวเกินไป ตราบใดที่อู๋เลี่ยนเยี่ยนปฏิบัติตามกฎอย่างว่าง่าย ก็จะไม่ทำให้นางอึดอัดใจ ถ้าไม่เชื่อฟัง ยังจะวางท่าเป็นคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์อย่างในอดีตนั่น แม่นมจ้าวจะไม่ลงโทษทางร่างกาย แต่จะให้นางคัด ‘เตือนหญิง’ คัดไม่ดีพอก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้กินหรือนอน บัดนี้อู๋เลี่ยนเยี่ยนคัดลอกหลายร้อยรอบแล้ว ได้เรียนรู้วิธีปฏิบัติตัว
“เอาล่ะ! ข้าเข้าใจแล้ว เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!” อนุภรรยาอู๋ขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้ถามต่อ แม่นมที่อยู่ข้างหลังนางให้เงินสาวใช้ตัวน้อยไปหกเหรียญอีแปะ แล้วส่งนางออกไป
“แม่นมเจียง เจ้าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?” อนุภรรยาอู๋ยังคงเคารพแม่นมคนนี้มาก นางอยู่ข้างกายอนุภรรยาอู๋มากว่าสิบปีแล้ว ได้ช่วยนางแก้ปัญหาหลายอย่าง
“ข้าคิดว่าคุณหนูหวงผู้นั้นร้ายกาจมาก นางพูดแบบนั้นเหมือนจงใจ แต่ไม่รู้ว่านางอยากยั่วยุท่านกับสะใภ้ใหญ่ให้ขัดแย้งกันหรืออยากใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงความหวังดีต่อท่านกันแน่ คุณหนูหวงผู้นี้ทะเยอทะยานไม่น้อย ตั้งเป้าถึงตำแหน่งภรรยารอง อนุภรรยาเล็งไปที่นางจะเหมาะสมมากกว่าเจ้าค่ะ” แม่นมเจียงเป็นขิงแก่มากประสบการณ์ แค่คำพูดของสาวใช้ตัวน้อย ก็ทำให้นางเข้าใจเจตนาของหวงเซียวเซียงได้
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าว่าข้าติดต่อกับคุณหนูหวงสักหน่อยดีหรือไม่? นางเก่งกาจรอบด้าน เป็นคนรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง แม้บางครั้งจะเป็นเพราะติดต่อกับคนที่ฐานะไม่สูงส่ง จึงมีวิสัยทัศน์แคบกว่า ใช้ถ้อยคำที่เข้มงวดน้อยกว่า แต่ยังปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ ถ้าข้าให้ความช่วยเหลือนางตอนนี้ นางจะต้องขอบคุณอย่างแน่นอน หากนางแต่งเข้ามาได้ก็คงจะดีมาก!” ในบรรดาผู้หญิงทั้งสามคนหวงเซียวเซียงเป็นคนเดียวที่อนุภรรยาอู๋มองแล้วถูกชะตาด้วย
“อนุภรรยารอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นดีกว่าเจ้าค่ะ” แม่นมเจียงค้านว่า “คุณหนูหวงดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด แต่น่าเสียดายที่นางใจใหญ่เกินไป หากพูดไม่เข้าหู ใจใหญ่แบบนี้ จะไม่สำเร็จเอาได้ ถ้าคุณหนูเลี่ยนเยี่ยนเชื่อฟังมาตั้งแต่แรก ไม่คิดอยากเป็นภรรยารองของคุณชายใหญ่จนเกินตัว บางทีอาจจะได้เป็นอนุภรรยามาตั้งนานแล้ว จะไม่ทำให้ท่านลงแรงคิดมากขนาดนั้น เสียเงินลงทุนไปมากหลายปี ทำลายตำแหน่งในใจของคุณหนูใหญ่ การส่งนางไปไว้บนเตียงคุณชายใหญ่ ก็ล้มเหลว ในขั้นสุดท้าย ข้าคิดว่าสู้ไปแสดงเจตนาดีกับคุณหนูอวี้ที่หัวเดียวกระเทียมลีบจะดีกว่าเจ้าค่ะ!”
“อวี้เมิ่งเหยา ผู้หญิงคนนั้นดูท่าทีจะสำรวมตน เมื่อเห็นนางก็รู้ว่าจิตใจว้าวุ่น” อนุภรรยาอู๋ไม่ชอบอวี้เมิ่งเหยาเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เสแสร้งจนเกินงาม สายตาที่มองผู้คนมักจะดูหมิ่นดูแคลน เหมือนว่ายกเว้นนางแล้ว ทุกคนต่างล้วนเป็นมลทิน เป็นคนบาปไปเสียหมด ไม่เคยคิดว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไรกันแน่
“อนุภรรยาจะพลาดโอกาสเพียงเพราะความชอบไม่ได้นะเจ้าคะ” แม่นมเจียงพูดชักชวนว่า “แม้คุณหนูหวงจะดูเป็นคนใจกว้างและเคารพทุกคน แต่นางไม่ใช่เด็กที่มีฐานะต่ำต้อย เมื่อนางปีนขึ้นเตียงคุณชายใหญ่แล้ว หากต้องการได้ที่นั่งของภรรยารอง เมื่อถึงเวลานั้น นางจะทิ้งคนที่ช่วยนางไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน และแม้แต่ฆ่าคนปิดปากเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ส่วนคุณหนูอวี้คนนี้ ค่อนข้างจะเป็นแสงสว่างของอนุภรรยา ต่อให้นางจะได้ตำแหน่ง ก็ยังต้องพึ่งพาท่านเพื่อยืนหยัดในตระกูลซั่งกวนให้มั่นคง ในเวลานั้น ท่านจะใช้โอกาสนี้เพื่อให้นางพูดถึงประโยชน์ของคุณหนูเลี่ยนเยี่ยน ถ้าคุณหนูเลี่ยนเยี่ยนทำให้คุณชายใหญ่ยกโทษให้ได้ พร้อมกับมีลูกชายลูกสาวด้วย จะดีกว่าอะไรทั้งหมดเจ้าค่ะ!”
“เจ้าพูดเข้าท่า!” อนุภรรยาอู๋พยักหน้าแล้วพูดว่า “เจ้าให้คนไปดูว่าใครรับใช้อวี้เมิ่งเหยา เปลี่ยนเป็นคนของเราเข้าไป แล้วเอ่ยเรื่องนี้กับอวี้เมิ่งเหยา ถ้านางรู้จักดูทิศทางลม นางย่อมจะไม่ยอมทิ้งโอกาส เริ่มเข้ามาใกล้ชิดข้าเอง ถ้านางไม่สนใจ ข้าก็ไม่ต้องเสียเวลากับนาง!”
“บ่าวทราบแล้ว จะไปจัดการเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” แม่นมเจียงผงกศีรษะ เข้าใจความหมายของอนุภรรยาอู๋ อนุภรรยาอู๋แสดงความโปรดปรานต่ออวี้เมิ่งเหยาได้ แต่ก็ทำได้เพียงบอกเป็นนัยเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องยอมลดศักดิ์ศรี กลับกันให้ผู้หญิงคนนั้นดันตัวเองขึ้นมา
“หวงเซียวเซียงคนนั้นก็จะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ ไม่ว่านางตั้งใจจะแสดงความหวังดีกับข้าก็ตาม หรืออยากให้ข้ากับสะใภ้ใหญ่เกิดช่องว่างขึ้นก็ดี ไหนๆ นางลงมือทำแล้ว ก็ไม่อยากให้ผิดหวัง แจ้งให้สาวใช้ทางใต้ที่รับใช้นางรู้ข่าว ให้ส่งผลไม้สดหนึ่งถาดไปให้คุณหนูหวงในตอนเย็น บอกว่าข้าให้นางเป็นพิเศษคนเดียว!” อนุภรรยาอู๋เชี่ยวชาญในการเอาชีวิตรอดจากครอบครัวใหญ่ ฉะนั้นจะสร้างศัตรูตามใจชอบไม่ได้ และละทิ้งโอกาสที่จะรวบรวมพรรคพวกไม่ได้เช่นกัน
“บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” แม่นมเจียงพยักหน้า แม้เรือนทางใต้จะต้อนรับแขกผู้มีเกียรติมาตลอด แต่แขกที่ไม่ได้รับเชิญทั้งสามนั้น คุณชายใหญ่กลับเหินห่างโดยไม่ได้ตั้งใจ และฤดูกาลนี้ไม่มีผลไม้สดอีกด้วย
“ยังมีคุณหนูสื่อผู้นั้นที่อารมณ์ร้อนไม่ใช่คนดีสักเท่าใด ทั้งไร้ความคิดและสมอง ข้าคิดว่านางจะเป็นคนแรกที่ก่อปัญหา หาคนจับตาดูนางอย่างใกล้ชิด แล้วรายงานการเคลื่อนไหวของนางให้ข้าทราบด้วย!” อนุภรรยาอู๋ไม่ชมชอบสือหย่าฉีมากที่สุด ผู้หญิงคนนี้ไม่มีการศึกษาก็ไม่ว่ากัน เสียตรงที่แม้แต่เสแสร้งก็ทำไม่เป็น ถ้าบอกว่าคนที่ไม่มีโอกาสชนะที่สุดก็คือนาง…หากตระกูลซั่งกวนมีอนุภรรยาเช่นนี้ จะไม่อับอายจนแทรกแผ่นดินหนีหรอกหรือ!
“บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ” แม่นมเจียงรู้ว่าอนุภรรยาอู๋ไม่ชื่นชอบสือหย่าฉี ในความเป็นจริงจะมีสักกี่คนที่ชอบคนที่ไม่สงวนท่าทีและละเมอเพ้อพก ทั้งยังเอาแต่ใจด้วยเล่า? เกรงว่านางคงไม่เข้าใจว่าการปรนเปรอตามใจคืออะไร
“ยังมีเลี่ยนเยี่ยนอีก? นางถูกสะใภ้ใหญ่ขังไว้ด้วยข้ออ้างว่าเรียนรู้กฎ จนถึงป่านนี้เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่ไม่ได้ปรากฏตัว ข้ากังวลมากว่าสะใภ้ใหญ่จะทำกลอุบายอะไรหรือใช้โอกาสนี้มาระบายอารมณ์ใส่นางหรือไม่ ข้าคิดว่าผ่านเดือนนี้ไป นางน่าจะมีสติมากขึ้นกระมัง!” อนุภรรยาอู๋พูดอย่างไม่แน่ใจ
“ข้าคิดว่าคุณหนูเลี่ยนเยี่ยนก็ควรจะออกมาเหมือนกันเจ้าค่ะ!” แม่นมเจียงเห็นด้วยว่า “ถ้านางไม่ออกมาอีก ต่อให้จะไม่ได้รับโทษทัณฑ์ใดๆ ก็ตาม อาจจะถูกกักขังไว้จนโง่งม! ต้องรู้ไว้ว่าแม่นมและสาวใช้ที่อยู่รอบตัวสะใภ้ใหญ่นั้นร้ายกาจนัก คุณหนูเลี่ยนเยี่ยนไม่ควรเรียนรู้กฎ นิสัยก็จะหายไปด้วย เมื่อถึงเวลานั้นนางจะไม่ฟังแม้กระทั่งคำพูดของอนุภรรยา ในทางกลับกันจะทำตามทุกอย่างที่สะใภ้ใหญ่สั่งซึ่งจะไม่เป็นการดีนะเจ้าคะ!”
“ข้าก็กังวลเรื่องนี้เหมือนกัน นางถูกยกยอและเอาแต่ใจมาตั้งแต่เด็กจนไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ แต่จะดีจะชั่วก็ยังมีนิสัยเดิมอยู่บ้าง ถ้าแม้จะล้างนิสัยแบบนี้ออกไป ข้าก็กลัวว่าจะคาดหวังนางไม่ได้!” อนุภรรยาอู๋พยักหน้า นางก็วิตกกังวลปัญหานี้มาก พลางกล่าวว่า “เรื่องนี้ต้องแก้ไขโดยเร็วที่สุด ข้าจะขอร้องนายท่านในตอนเย็น พูดขอร้องวิงวอนนายท่านอะไรบางอย่างว่ากฎยังคงต้องเรียนรู้ แต่ก็ต้องให้นางออกมาสูดอากาศระบายอารมณ์ได้บ้าง”
“บ่าวคิดว่าไม่เหมาะสมเจ้าค่ะ” แม่นมเจียงส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ทราบว่านายท่านคลายโกรธในเรื่องนั้นหรือยัง ท่านอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับนายท่านโดยตรง อนุภรรยา นายท่านไม่ได้มาห้องของท่านนานแล้ว ถ้าไปรบกวนนายท่านอีกครั้ง กลัวว่านายท่านจะเร่งให้เร็วขึ้น ให้สะใภ้ใหญ่ขึ้นครองอำนาจแต่เนิ่นๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านจะได้ไม่คุ้มเสียนะเจ้าคะ!”
“แล้วเจ้าหมายความว่าอย่างไร?” อนุภรรยาอู๋ขมวดคิ้ว ซั่งกวนฮ่าวมาหานางที่ห้องน้อยลงเรื่อยๆ เดือนละครั้งก็แทบจะไม่ได้มา หลังจากเหตุการณ์ครั้งที่แล้ว นับประสาอะไรจะมาที่ห้องของนาง แม้จะคุยกับนางก็ไม่มีแก่ใจจะไต่ถาม ทำให้นางหมดหวังอย่างสิ้นเชิง
“คุณหนูหวงเป็นคนเริ่มเอ่ยถึงคุณหนูเลี่ยนเยี่ยนในวันนี้หรือ? มีคนหาทางให้นางได้ระบายอารมณ์ เอ่ยถึงเรื่องนี้ในระหว่างอาหารค่ำ ก็ถือได้ว่าเป็นหนี้น้ำใจนางนะเจ้าคะ” แม่นมเจียงเสนอความเห็นว่า “ไหนๆ นางก็ล่วงเกินสะใภ้ใหญ่เพราะเรื่องนี้ ถ้าพูดถึงอีกครั้งก็คงไม่เป็นไรกระมังเจ้าคะ”
“เยี่ยมเลย!” อนุภรรยาอู๋พยักหน้าแล้วพูดว่า “ตอนนี้เจ้าไปทำเรื่องนี้ ต้องระวังและเป็นความลับ อย่าให้ฮูหยินและนายท่านรู้เข้า ถ้านายท่านรู้ว่าข้าติดต่อกับผู้หญิงเหล่านั้นยังไม่รู้ว่าจะเดือดดาลเป็นไฟมากแค่ไหน!”
“บ่าวทราบเจ้าค่ะ!” แม่นมเจียงรู้ว่าอนุภรรยาอู๋มีข้อห้ามอะไรบ้าง จึงพยักหน้าแล้วเตรียมกำลังคนไป
อนุภรรยาอู๋ถอนหายใจ จนถึงตอนนี้ นางไม่มีทางถอยแล้ว หัวหน้าตระกูลซั่งกวนไม่เคยอยู่ได้นาน นางไม่คิดว่าซั่งกวนฮ่าวจะเป็นข้อยกเว้น เมื่อซั่งกวนฮ่าวจากไป ต่อให้หวงฝู่เยวี่ยเอ้อจะฝังตัวเองทั้งเป็นก็จะไม่มีใครพูดอะไร ในปีนั้นมีคนขออ้อนวอน ฮูหยินรองที่มีชื่อเสียงผู้นั้นก็ยังต้องถูกฝังไปตามประเพณีตกตายตามกันไปเท่านั้น…
เพียงแต่จนถึงบัดนี้นางยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางถึงไม่ท้องมีลูกสักทีเล่า? หลังจากพบหมอนับไม่ถ้วน ต่างก็บอกว่าตนเป็นปกติ ไม่มีอะไรผิดปกติ! ถ้ามีลูกชายอยู่ข้างๆ ทำไมนางจะต้องเหนื่อยเช่นนี้ด้วยเล่า!
อนุภรรยาอู๋ส่ายหัวดิกไม่คิดเรื่องนี้อีก ดื่มชาเย็นชืดรสขมไปคำหนึ่ง เส้นทางนี้ไม่ว่าจะไปทางไหน นางก็ต้องเดินต่อไปโดยไม่หันหลังกลับ…
—————————