เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 27 เขาเกิดความรู้สึกระแวงในตัวเธอ?
เธอตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาหมายความว่าอะไร
“คุณสามารถกลับไปที่หมู่บ้าน ไปทำเรื่องที่คุณอยากทำ และสามารถมาเยี่ยมลูกได้ตลอดเวลา” คล้ายกับว่าภีมพลได้พิจารณาใคร่ครวญมาอย่างรอบคอบแล้ว
นภาลัยเดาความคิดเขาไม่ออก เขาจะไล่เธอไป?
“ถ้าอย่างนั้น…หย่ากันมั้ย?” เธอถามเสียงเบา
ภีมพลเขกศีรษะเธอ เอ่ยสียงเย็น “วิเคราะห์คำถามอย่างไรกัน เมื่อครู่ผมพูดว่าจะหย่าหรอ”
“…” นภาลัยเหลือบตาขึ้นมองในอ้อมแขนเขา ก็เห็นเค้าโครงหน้าได้อย่างเลือนราง
ความจริงแล้วแบบนี้ก็ไม่มีอะไรที่ไม่ดี อยู่ที่นี่ทั้งวันก็ไม่มีเรื่องอะไรทำ ไม่มีประโยชน์
เช้าวันรุ่งขึ้น
นภาลัยตื่นแต่เช้าตรู่ เธอพบว่าตัวเองยังนอนอยู่ในอ้อมแขนเขา ส่วนเขาก็ยังคงรักษาท่าทางตอนเข้านอนเมื่อคืนเอาไว้เช่นกัน
เธอลุกขึ้นด้วยการอาศัยแสงสว่างในรุ่งอรุณอย่างระมัดระวัง โดยไม่ได้รบกวนให้เขาตื่น
หลังจากลงมาที่ชั้นล่างก็ไปยังห้องครัว
นภาลัยเพิ่งจะไป ภีมพลก็ตื่นขึ้นมา เปลี่ยนเสื้อผ้าไปยังห้องข้างๆ เขาฉีดสารอาหารเข้าหลอดเลือดดำให้ตัวเอง
แววตาลึกล้ำคู่หนึ่งไร้ซึ่งความทุกข์และความยินดี ให้เธอจากไป ความจริงแล้วก็มีเหตุผล
ในห้องอาหารชั้นล่าง ตกแต่งได้ทันสมัยและงดงาม
ตอนที่นภาลัยยกชามบะหมี่สองชามสุดท้ายออกมาจากห้องครัว เธอก็เห็นภีมพลขึ้นแลมโบกินี่ผ่านหน้าต่างบานใหญ่ คนขับรถปิดประตูให้เขาแล้วเดินอ้อมไปนั่งที่นั่งคนขับ ครู่หนึ่งรถก็เคลื่อนตัวออกไป
เธอตั้งใจต้มบะหมี่มะเขือเทศใส่ไข่สี่ชาม เขากลับ…
ไม่รู้ว่าทำไม ย้อนนึกถึงคำพูดเมื่อคืนของภีมพลแล้ว เธอรู้สึกกระสับกระส่ายอยู่บ้าง เขาจะแย่งลูกกับเธอมั้ย
ระหว่างทางไปบริษัท ภีมพลหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาต่อสายหาเบอร์หนึ่ง เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จับตาดูทุกการกระทำและความเคลื่อนไหวของคุณนายอย่างใกล้ชิด และรายงานความเคลื่อนไหวของวันนั้นทุกคืน”
หลังมื้อเช้า ป้าโสนก็ยื่นกระเป๋าหนังสือใบใหม่ให้กับเด็กๆ พลางเอ่ยด้วยความดีใจว่า “คุณชายแชมป์ คุณหนูขวัญข้าว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนอนุบาลแห่งใหม่แล้ว พวกคุณต้องเตรียมอะไรอีกมั้ยคะ ฉันขึ้นไปเก็บของเป็นเพื่อนพวกคุณแล้วกันค่ะ!”
“หม่ามี๊!” แชมป์วิ่งไปตรงหน้านภาลัย น้ำเสียงสดใสน่าฟัง “พรุ่งนี้แด๊ดดี้มีเวลาไปส่งพวกเราที่โรงเรียนอนุบาลแห่งใหม่มั้ยครับ”
“ไม่รู้แครับ ช่วงนี้แด๊ดดี้งานยุ่งมาก”
“ผมอยากให้แด๊ดดี้กับหม่ามี๊ไปส่งพวกเรา!” แชมป์เอ่ยอย่างแน่วแน่ “ตอนนี้พวกเราเป็นเด็กที่มีแด๊ดดี้แล้ว! ไม่สามารถให้เพื่อนใหม่หัวเราะเยาะเอาได้!”
ขวัญข้าวจับมือเธอแกว่งไปมา เอ่ยด้วยน้ำเสียงไพเราะ “หม่ามี๊ หม่ามี๊ก็ต้องไปส่งพวกเรานะคะ ไปส่งพร้อมกับแด๊ดดี้!”
นภาลัยลูบศีรษะเล็กๆของลูกๆ พลางพยักหน้ายิ้มๆ “จ้ะ รีบตามป้าโสนไปจัดกระเป๋าหนังสือเถอะจ้ะ!”
เด็กๆขึ้นไปข้างบนอย่างอารมณ์ดี เธอมองเงาร่างที่น่ารักของทั้งสองคนแล้ว ก็รู้สึกหนักอึ้งแปลกๆ
เธอลังเลครู่หนึ่ง และหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาต่อสายหาภีมพล
หลังจากรับสายแล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่พูดจา เธอเอ่ยเสียงเบาว่า “พรุ่งนี้เป็นวันแรกที่ลูกๆจะเข้าเรียน พวกเขาหวังว่าฉันกับคุณจะไปส่ง ดังนั้น…วันมะรืนฉันค่อยไปได้มั้ย”
“ผมไม่ได้ไล่คุณ” ภีมพลเอ่ยนิ่งๆ “ผมเพียงแค่ไม่อยากผูกมัดคุณเอาไว้อีก คุณมีอิสระ เข้าใจมั้ย คุณจะออกไปหรืออยู่ก็ได้”
“…” เธอเงียบ หมายความว่าแบบนี้หรอ
“เพียงแต่คุณสามารถทำเรื่องที่อยู่ในข้อตกลงได้ก็โอเคแล้ว” ภีมพลย้ำอีกครั้ง “ในฐานะที่คุณเป็นคุณนายนภา ต้องไม่มีข่าวฉาว ผมไม่ต้องการให้เกิดเรื่องที่ไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของตระกูลกงพลี ผมแคร์เรื่องนี้มาก”
เอ่ยจบ ภีมพลก็ตัดสายโทรศัพท์ไป
ทันใดนั้นนภาลัยก็มีลางสังหรณ์หนึ่ง เขาเกิดความรู้สึกระแวงในตัวเธอ?
ให้เธอไป เพื่อที่จะจับตาดูเธอได้ดียิ่งขึ้นหรอ
นภาลัยวิเคราะห์ด้วยความใจเย็น ความจริงแล้วเธอก็เข้าใจความเปลี่ยนแปลงทางสภาพจิตใจของเขา ภีมพลเป็นราชาเหนือผู้คนนับหมื่นในเมืองไนร์ก้า บนร่างแบกรับออร่าและภารกิจอันมากมาย เขาไม่สามารถประมาทเลินเล่อได้