เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 51 ยุ่งเรื่องคนอื่น
“คุณอย่ามาชอบฉันจะดีที่สุด ถึงยังไงฉันก็ไม่มีทางชอบคุณแน่นอน!”นภาลัยปากแข็งดื้อดึง
ภีมพลยกโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง“คุณวางใจได้ ผมเองก็ไม่มีทางชอบคุณเหมือนกัน!”
“ก็ดี”เธอพูดขึ้น“เรื่องนี้ พวกเราสองคนมีความคิดเห็นพ้องต้องกัน”
“แต่ว่าพวกเด็กๆยกให้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของผม”คลิกโทรศัพท์ เป็นภาพนิ่งอีกหนึ่งภาพ“ถ่ายรูปหมู่ไปสิบภาพก็ถือว่าเติมเต็มความปรารถนาของพวกเขาแล้ว”
จู่ๆนภาลัยก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมา หยุดฝีเท้าลงแววตาสงสัย“วันนี้ที่คุณพาฉันออกมาก็เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของพวกเขาเหมือนกันเหรอ?”
“แล้วคุณคิดว่าอะไรล่ะ?”ภีมพลใบหน้าไร้เดียงสา
“……”เธอรู้สึกอึดอัด จู่ๆก็รู้สึกคับข้องใจอยู่ไม่น้อย
ทั้งสองคนสบตากัน
คนขับรถรีบร้อนลนลานเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เพื่อลูกเลยแท้ๆ ทำไมถึงไม่เต็มใจยอมรับล่ะ?
ถ้าภีมพลไม่ชอบคุณนาย แล้วจะไปนั่งรถไฟเหาะแทนเธอได้ยังไง? ในโลกนี้ยังมีเรื่องไหนที่เขาปฏิเสธไม่ได้อีกเหรอ?
ความเงียบสงัดแผ่ซ่านออกมาระหว่างทั้งสองคน……
คิ้วที่เรียวเล็กทั้งสองข้างของนภาลัยขมวดเข้าหากันในทันที ในใจรู้สึกเจ็บปวด โทษที่เธอคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว ตอนที่ออกมายังรู้สึกซาบซึ้งใจไม่น้อยอยู่เลย!
ภายในบาร์ลอฟท์แห่งหนึ่งในละแวกแถวนั้น
เน้นโทนสีดำขาวเทาเป็นหลักให้กลิ่นอายและอารมณ์อีกแบบหนึ่ง ใครบอกว่าบาร์จะต้องมีดิสโก้ มีการเต้นรำที่ร้อนแรง?
ที่นี่คลาสสิก โรแมนติก
ญาณีเดินเข้าไป เธอสั่งค็อกเทลมาหนึ่งแก้ว เลือกมุมที่สงบเงียบมุมหนึ่งนั่งลงไป เพลงเศร้าคลาสสิกบรรเลงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง
“สุราชั้นดีผสมกาแฟ ฉันแค่ดื่มไปแก้วเดียว หวนคิดถึงเรื่องที่ผ่านพ้น……”
“รู้ทั้งรู้ความรักก็เหมือนกับสายน้ำไหล จะไปบีบบังคับให้เขารักใครได้อย่างไร?”
เพลงของเติ้ง ลี่จวินดังก้องอยู่ในหูของเธอ เพลงนี้มันช่างเข้ากับสถานการณ์มาก ฟังแล้วทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจอยู่ไม่น้อย
จนกระทั่งมีเสียงดังเพล้งที่ชัดแจ๋วดังขึ้นมา!!
เสียงแก้วแตกดึงดูดสายตาของแขกทุกคน!ทำให้ทุกคนหดตัวลงเล็กน้อย
“คนเขาเป็นแค่พนักงานขายเหล้าคนหนึ่งเท่านั้น คุณจะลงไม้ลงมือทำไม?!”เห็นเด็กหนุ่มอายุประมาณ20กว่าๆกำลังชี้ไปที่หนุ่มวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมที่อยู่บนโซฟาด้วยท่าทางยโสโอหัง“คนเขาพูดชัดเจนขนาดนั้น คุณกลับไม่ยอมจบไม่ยอมสิ้น?!”
เนื้อไขมันที่หน้าของชายวัยกลางคนเด้งกระเพื่อมอยู่หลายที!
เขาโยนพนักงานบริการหญิงที่กำลังรู้สึกตกใจออกไปจากอ้อมกอด ก่อนจะลุกขึ้นซัดกำปั้นออกไป“อยากตายนักใช่ไหม!ถึงกล้ามายุ่งกับเรื่องของฉัน!”
เด็กหนุ่มวัยรุ่นปราดเปรียวว่องไว แต่ละท่วงท่าก็ดูไม่เหมือนกับไม่เคยฝึกฝนมาก่อน!
ก็เป็นแบบนี้ พวกเขาทั้งสองคนทะเลาะตบตีกันเพราะว่าผู้หญิงคนเดียว!
เสียงโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาดดังขึ้นมา!ทั้งสองคนล้มลุกคลุกคลานไปทั่ว สถานที่ตรงนั้นโกลาหลวุ่นวายไปหมด!
ยามรักษาความปลอดภัยของบาร์รีบเข้ามาไกล่เกลี่ยอย่างรวดเร็ว ถึงขนาดที่มีคนแจ้งตำรวจในทันทีอีกด้วย!
ญาณีตอนที่เห็นใบหน้าของชายหนุ่มวัยรุ่นอย่างชัดเจนแล้วนั้น เธอก็รู้สึกลนลานอยู่ภายในใจทันที รีบลุกขึ้นเดินตรงเข้าไป“ศิษฎ์!ศิษฎ์!หยุดทะเลาะวิวาทได้แล้ว!”
เด็กหนุ่มพอได้ยินแบบนั้นก็หันมอง วินาทีที่กำลังเบี่ยงเบนความสนใจนั้น ชายวัยกลางคนก็ซัดกำปั้นเข้ามาที่ดั้งจมูกของเขา!
“ศิษฎ์!!”ญาณีตื่นตระหนกตกใจ
ไวศิษฎ์ถูกชกจนถอยหลังไปหลายก้าว!เลือดที่จมูกไหลออกมาในทันที!เขายื่นมือออกมากุมเอาไว้
“ศิษฎ์!!”ญาณีกระโจนเข้าไปประคองเขาเอาไว้“นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ในเวลานี้เอง พวกยามรักษาความปลอดภัยก็ดึงรั้งชายวัยกลางคนที่จะไล่ตามไปเล่นงานต่อเอาไว้ ญาณีดึงกระดาษทิชชูออกจากกระเป๋ามาเช็ดเลือดให้กับเขา
ยี่สิบนาทีผ่านไป……
ณ สถานีตำรวจ
“เรียกคนในครอบครัวให้มาประกันตัวด้วย บาร์เสียหายไปมูลค่าเป็นแสน จะต้องเจรจาเรื่องชดใช้ค่าเสียหาย”เจ้าหน้าที่ตำรวจสีหน้าเข้มงวด
“เป็นความรับผิดชอบของเขา!”ไวศิษฎ์โมโหอย่างมาก ชี้ไปที่ชายวัยกลางคนที่ร่างกายเปลือยเปล่าด้วยความขุ่นเคือง“เขาเอาแต่เกาะแกะพนักงานบริการหญิงไม่ยอมปล่อยสักที คนเขาเอือมระอาเต็มทนแล้ว ผมทนดูต่อไปไม่ได้ก็เลยเข้าไปช่วย!แถมเขาก็เป็นฝ่ายลงมือก่อนด้วย!”
ชายวัยกลางคนรู้สึกหมดความอดทนทั้งยังอยากที่จะต่อยคน“ยุ่งเรื่องชาวบ้านจริงว่ะ!อยากตายหรือไง!”
ตำรวจดึงรั้งเขาเอาไว้ ก่อนจะพูดตักเตือนขึ้น“ที่นี่เป็นสถานีตำรวจ!กรุณาสำรวมด้วย!”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็แยกกันสอบสวน ให้ไวศิษฎ์กับญาณีมาที่ห้องรอสอบสวนก่อน
ไวศิษฎ์ใช้กระดาษอุดจมูกของตัวเองไว้ เลือดหยุดไหลแล้ว ญาณีพูดโน้มน้าวให้เขาไปโรงพยาบาล เขาก็ไม่ยอม
ชายวัยกลางคนอยู่ในห้องสอบสวนยังคงทำตัวยโสโอหัง“ไอ้เด็กนี่มันเข้ามายุ่งเรื่องคนอื่น!บาร์มันก็เป็นที่ที่ไว้เที่ยวเล่นไม่ใช่หรือไง?”
ข้างนอก ญาณีมองเขาด้วยความรู้สึกเป็นห่วง ยื่นมือออกไปหาเขา“เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”
เขาเหมือนกับไม่ได้ยิน อุดจมูกอยู่แบบนั้นไม่พูดส่งเสียงอะไร แล้วก็ไม่หันมองเธอด้วยเช่นกัน สีหน้าดื้อรั้นตามประสาของเด็กวัยรุ่น
“เอามาให้ฉันเร็วเข้า”ญาณีรู้ ว่าถ้าตัวเองโทรศัพท์ไปหาภีมพล เขาจะต้องไม่รับสายอย่างแน่นอน