เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 58 สถานการณ์ของตระกูลรุจิพร
“คุณผู้หญิงคะ ทานข้าวแล้วค่ะ”จนกระทั่งคนรับใช้เข้ามาพูดเตือนเธอ
เธอถึงได้ดึงสติกลับมา“โอเค”
หันตัวเดินมาถึงยังห้องอาหารที่แสนหรูหรา แม่ภรภัทรดูอารมณ์ดีอย่างมาก สวมใส่ชุดสุภาพสตรีท่าทางสง่างาม……
“เขม์เอ๋ย ได้ยินพ่อของลูกบอกว่าเขาพาลูกไปเจอกับลูกค้ามาแล้ว แล้วเลือกลูกให้เป็นทายาทผู้สืบทอดบริษัทต่ออีกด้วย”
“หนูทราบแล้วค่ะ หนูจะพยายามค่ะ”
“อย่าทำให้พ่อผิดหวังนะ อันไหนที่พอจะแบ่งเบาได้ก็แบ่งเบาไปซะนะ”ภรภัทรพูดเสนอความคิดให้กับเธอ“สายงานการแสดงเอาไว้ก่อนก็ได้ เอาบริษัทเป็นสำคัญก่อน”
ในเวลานี้เอง ก็มีเด็กผู้ชายอายุ12ขวบคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องอาหาร“แม่ ผมฉี่ แม่ เปียก……” เครื่องแต่งกายที่สง่างามก็ไม่อาจปกปิดหน้าตาที่พิการทางสติปัญญาได้
ไม่รอให้ภรภัทรเปิดปากพูด คนรับใช้ก็รีบพาเขาออกจากห้องอาหารทันที“คุณชายคะ เดี๋ยวดิฉันจะช่วยเปลี่ยนให้ท่านเองค่ะ!”
เขมินทราที่แสนสวยเจิดจรัสนั่งลงบนเก้าอี้รับประทานอาหารสีขาว เธอสีหน้านิ่งสงบ
ภรภัทรยกฟัวกราส์หนึ่งจานมาวางเอาไว้ตรงหน้าของเธอเป็นพิเศษ“กินเยอะๆหน่อยสิ นี่เป็นของที่ลูกชอบมากที่สุดเลยนะ”
“พ่อล่ะคะ?”
“ที่บริษัทมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ เขาก็เลยไปจัดการ ไม่นานก็กลับมาแล้ว”ภรภัทรพูด“ไม่ต้องรอแล้ว พวกเรากินกันก่อนเลยเถอะ”
หลังจากทานอาหารค่ำแล้ว เขมินทราก็มายังห้องรับแขก
อิษวัตที่อายุ12ขวบเดินถือแก้วชาหนึ่งแก้วมาทางเธอ“พี่ เชิญดื่มชาฮะ”
เขมินทราสองมือกอดอกเหยียดมองลงหาเขา“ฉันไม่ดื่ม”น้ำเสียงไม่สูง แต่กลับเย็นชาเล็กน้อย
เด็กชายถือแก้วชาจ้องมองเธอตาไม่กะพริบ“พี่สวยจริงๆ!เหมือนกับนางฟ้าเลย”
เขมินทราครุ่นคิด ก่อนที่จะรับแก้วชามา คิดในใจ น้องชายที่พิการแบบนี้ พ่อจะยกบริษัทให้กับเขาได้ยังไง?
ทีเอ็ม กรุ๊ป ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืน!
อาคารสูงตระหง่านแสงไฟสว่างไสว ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหล่าบรรดาวัยรุ่นทุกคนต่างใฝ่ฝัน
พนักงานของหลายแผนกต่างทยอยกันเลิกงานแล้ว
แต่แผนกออกแบบยังคงยุ่งวุ่นวายกันอยู่ ทุกคนต่างเหมือนกับพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้น
ญาณีออกจากรีพัลส์เบย์ วิลล่าแล้วก็มาถึงที่บริษัท เธอจัดระเบียบแบบร่างการออกแบบอยู่หลายรอบ พูดคุยเสวนาอยู่หลายครั้ง……
เพราะว่ามีญาณีเป็นหัวหน้า เหล่าบรรดานักออกแบบทุกคนก็เลยมีพลังงานเต็มเปี่ยม วันที่กำหนดส่งงานใกล้เข้ามาแล้ว ทุกคนมีความมั่นใจอย่างมาก
ช่วงบ่ายภีมพลก็มาที่บริษัทแล้วเหมือนกัน
ภายในห้องทำงานท่านประธานที่เรียบง่ายและทันสมัย วริศรายงานสถานการณ์กับเขา“คุณญาณีย้ายไปที่แผนกออกแบบแล้วครับ ช่วงหลายวันมานี้เธอได้นำพาให้ทุกร่วมแรงกันทำงานอย่างหนักจนถึงช่วงดึก มีบางครั้งที่เธอยังอยู่ทำงานตลอดทั้งคืนอีกด้วยครับ”
ตรงกระจกหน้าต่าง ภีมพลที่กำลังยืนเอามือไขว้หลังนิ่งเงียบ เขาดึงสายตาที่เย็นชากลับ“นายว่าอะไรนะ?”
เหม่อลอยไม่ได้ยิน!
วริศพูดซ้ำอีกหนึ่งรอบ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว ว่าญาณีทำงานอย่างสุดชีวิต
เพื่อตัวเธอเอง แล้วก็เพื่อเขาด้วยสินะ
“ประธานครับ วันนี้คุณญาณีไปที่รีพัลส์เบย์ วิลล่ามาครับ” วริศพูดรายงาน สังเกตเห็นว่าประธานไม่ได้อารมณ์แปรปรวน
ภีมพลลมหายใจคงที่ เธอจะไปไหน เขาไม่สนใจทั้งนั้น
ภีมพลเอาแต่รู้สึกโทษตัวเองที่ระเบิดโมโหใส่แชมป์ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ในฐานะที่เป็นพ่อ เขาทำเกินไปแล้ว
เด็กอายุแค่หกขวบ ไม่ควรคุยกับเขาดีๆหรือไง?
เด็กเกิดมาล้วนแต่เป็นเหมือนกับผ้าขาว ในฐานะที่เป็นพ่อมีหน้าที่สั่งสองชี้นำเขา
แถมแชมป์ก็ช่วยเหลือบริษัทไว้ตั้งมากมายอีกด้วย
ณ เอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า
นภาลัยขึ้นไปชั้นบนเป็นเพื่อนลูกๆ ภีมพลยังไม่กลับมา
“หม่ามี๊ ก็ออกแบบผลงานเหมือนกันใช่ไหม”แชมป์แววตาขอร้องอ้อนวอน“ผมกับขวัญข้าวต่างก็เชื่อในความสามารถของหม่ามี๊ฮะ!”
“หม่ามี๊ พวกเราเชื่อในตัวหม่ามี๊”
“ทำไมเหรอ?”นภาลัยพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง“หม่ามี๊ไม่ใช่พนักงานในบริษัทของเขาสักหน่อย แล้วเขาก็ไม่ได้ให้เงินหม่ามี๊ด้วย ชีวิตของคุณนายของตระกูลที่มั่งคั่งร่ำรวยนี้มันยุ่งยากลำบากหรือไง?”
“ผมแค่ไม่อยากให้คนอื่นมาเรียกหม่ามี๊ว่าสาวบ้านนอกอีกแล้ว อยากให้ทุกคนได้เห็นความสามารถของหม่ามี๊”แชมป์ความหลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอกอยู่เล็กๆ
นภาลัยกลับไม่แยแสสนใจ“เรียกไปเถอะ เรียกแล้วไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย มีคนตั้งมากมายที่เรียกหม่ามี๊ว่าหัวหน้าหมู่บ้าน!หม่ามี๊ภาคภูมิใจจะตาย!”
“หม่ามี๊……”
“ไม่ต้องพูดแล้ว หม่ามี๊ไม่ออกแบบแน่นอน”นภาลัยรู้ว่าภีมพลกำลังปกป้องตัวเองอยู่
ในเมื่อทั้งสองคนต่างไม่มีความเชื่อใจซึ่งกันและกันแล้ว มันมีอะไรต้องพูดกันอีกเหรอ?
“หม่ามี๊ ดึกขนาดนี้แล้วป่าปี๊ยังไม่กลับมาอีก เขายังโกรธอยู่ใช่ไหม?”แชมป์นอนไม่หลับด้วยความเป็นกังวลใจ
“ไม่หรอก”เธอลูบหน้าผากของลูก พูดอย่างยิ้มแย้มเล็กน้อย“ป่าปี๊ไม่ใช่คนที่คิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้น เขาแค่งานยุ่งเท่านั้น ลูกนอนเถอะ”
จากนั้น เธอก็เล่านิทานให้ลูกฟัง กล่อมพวกเขาจนหลับไป
ตอนที่ภีมพลกลับมาก็ประมาณสี่ทุ่มแล้ว ลัมโบร์กินี่มาจอดตรงลานบ้าน พ่อบ้านปวิธหยิบเสื้อโค้ทกันลมตัวหนึ่งเดินออกมาจากห้องรับแขก คลุมให้กับเขาตอนที่เขาลงมาจากรถ“คุณภีม”