เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 95 วันที่มีความสุขที่สุด
“เป็นคู่รักที่รักใคร่กันมาก ทั้งที่ใช้เงินซื้ออาหารสำเร็จก็ได้ กลับจะทำด้วยตัวเอง”
“ความรักแบบนี้ช่างสวยงาม ในสังคมวัตถุนิยมแบบนี้เป็นอะไรที่หาได้ยากมาก”
เจ้าของร้านและภรรยาต่างอิจฉา
เป็นเพราะนภาลัยทำอาหารด้วยตัวเอง ภีมพลที่ไม่หิวก็ยังกินข้าวเป็นเพื่อนเธอ
ตั้งแต่รู้ว่าเธอช่วยเหลือเด็กสาวในตอนนั้น ภีมพลลดความระแวงที่มีต่อเธอไปไม่น้อย
คนจิตใจดีแบบนี้ ยังไงก็ไม่มีทางเป็นคนเลว
ไม่ว่าเธอจะมีตัวตนซ่อนอีกกี่ชั้นก็ตาม
“ตอนเย็นพานายไปทะเลทราย” เธอพูดไปพลางกินไป “ทะเลทรายที่นี่มีเอกลักษณ์ ทรายทั้งหมดจะเป็นสีน้ำเงิน ตกเย็นพระอาทิตย์ที่อยู่ด้านบนสวยเป็นพิเศษ”
“ได้ ฟังเธอทั้งหมด”
เธอเงยหน้าขึ้น รู้สึกประธานของเธอวันนี้เชื่อฟังเป็นพิเศษ!
วันนี้ภีมพลรู้สึกผ่อนคลาย ได้อยู่กับเธอในแต่ละวินาที เขารู้สึกเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ
ทะเลทรายสีน้ำเงิน ให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นงานเลี้ยงฉลองงานหนึ่ง
เธอเหมือนกับเด็กน้อยที่วิ่งเล่นอยู่บนหาดทรายและให้เขาถ่ายรูปให้เธอ
แถมภีมพลก็มีความอดทน เขาพยายามหามุมในการถ่ายแต่ละภาพ
ถ่ายไปเกือบสองร้อยรูป! เขาก็ไม่รู้สึกเหนื่อย
จากนั้นพวกเขาก็ช่วยกันใช้เม็ดทรายสร้างเป็นป้อมปราการ เดิมทีเรื่องพวกนี้มีเพียงแค่เด็กน้อยถึงจะทำกัน แต่นภาลัยไม่รู้ว่าเป็นอะไร จะลากภีมพลไปทำให้ได้
ตอนที่ภีมพลคุกเข่าร่างกายที่มีค่า มือใหญ่และหนาทุบไปที่ทราย ไปปลุกเรื่องบางอย่างที่เก็บซ่อนไว้อยู่ในใจของเขาสมัยเด็ก
ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยแม้แต่ได้เล่นทะเลทราย
ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าชีวิตของเขาช่างน่าสงสาร
“นายเป็นอะไร?” เธอยิ้มและหัวเราะ “ทำไมถึงดูไม่มีความสุข?”
เขายกริมฝีปากขึ้นฝืนยิ้มออกมา “ไม่ได้ไม่มีความสุข”
“ตอนเด็กเคยเล่นแบบนี้ไหม?” เธอลองถาม
ภีมพลไม่ยอมที่จะบอกความในใจของตัวเอง เพียงมองไปที่เธอ จากนั้นก็หลบสายตาและตั้งใจช่วยเธอสร้างป้อมปราสาท
“นายต้องสร้างให้ดีสักนิดนะ ฉันจะถ่ายรูป!”
นภาลัยต้องการเดินเข้าไปในใจของเขาไม่ใช่เรื่องที่ง่าย
ดังนั้น………เรื่องเพลิงไหม้จะถามเขายังไง?
อืม ไม่ผิด สิ่งที่นภาลัยทำวันนี้ทั้งหมด ต่างก็มีจุดมุ่งหมาย
ช่วงยามเย็น แสงจากพระอาทิตย์สาดส่องเข้ามาบนทะเลทรายอย่างงดงาม
เป็นเพราะว่าวิวแบบนี้ที่ดึงดูดพวกเขา ดังนั้นเลยถ่ายรูปไปอีกเยอะ
รอยเท้าเล็กใหญ่บนทะเลทราย คือสิ่งที่หลงเหลือเอาไว้ของพวกเขาในวันนี้
ตอนที่ออกมา เธอก็พลาดรถไฟเที่ยวสุดท้ายที่จะกลับเมืองเป็นที่เรียบร้อย!
วิ่งมาที่สถานีรถไฟ นภาลัยหอบหายใจ ช้าไปสิบนาที
แต่ภีมพลกลับดูนิ่ง “ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ค่อยกลับก็ยังได้”
เธอหันกลับมามองด้วยความรู้สึกผิด เวลาของเขาเป็นเงินเป็นทอง
อีกอย่างพวกเขาต้องหาห้องพักที่เหมาะกับพวกเขา
นภาลัยคุ้นเคยกับที่นี่ จึงให้เธอเป็นคนตัดสินใจ เข้ามาในที่พักข้างภูเขาน้ำตกแห่งหนึ่ง บรรยากาศค่อนข้างดี
“ขอโทษด้วย ตอนนี้เหลือเพียงห้องเดียวมีเตียงเดียว กว้าง4ฟุต โอเคไหม?” เถ้าแก่สวมชุดพื้นเมืองมองพวกเขา
นภาลัยหันกลับไปมองชายที่อยู่ข้างเธอ ให้เขาตัดสินใจ
เดิมทีก็เป็นสามีภรรยาอยู่ที่บ้านก็นอนด้วยกัน เพียงแต่ว่าเตียงนี้……..มันค่อนข้างแคบไปแล้ว!
ในขณะเดียวกันก็มีอีกคู่หนึ่งเดินเข้ามา เตรียมตัวที่จะเข้าพัก นภาลัยรีบยื่นบัตรประชาชน “พัก!”
ภีมพลจ่ายเงินจากนั้นก็รับบัตร ทั้งสองคนเดินขึ้นไปชั้นบน
ห้องพักค่อนข้างสวย ใช้ไม้ไผ่ในการสร้าง ที่นี่ไม่มีลิฟต์บันไดไม้ไผ่ช่วยส่งเสริมวัฒนธรรม
แสงไฟในนี้ต่างมาจากโคมไฟ
ห้องพักเล็กมาก ไม่มีโซฟา ค่อนข้างเรียบง่าย มีเพียงเตียงหนึ่งเตียงกว้างหนึ่งเมตรสองเซนติเมตร
แต่ว่าสะอาดมาก ภายในห้องก็มีกลิ่นอ่อนๆของมิ้นท์
วิวภายนอกหน้าต่างก็ไม่เลว สามารถมองเห็นไฟของบ้านนับหมื่นหลัง และได้ยินเสียงแมลงส่งเสียงร้อง
“เธอไปอาบน้ำก่อนเถอะ” ภีมพลเขาพูดด้วยเสียงนุ่มลึก “ในตู้มีผ้าคลุมอาบน้ำ”
“อืม”
เหมือนเล่นกับเด็กมาทั้งวันแบบนั้น เดินไปเกือบสองหมื่นกิโล มันค่อนข้างเหนื่อยเลยทีเดียว
รีบอาบน้ำและรีบนอนสักหน่อย
ภายในห้องน้ำ มีเสียงน้ำไหลลงมาประตูทรายที่พอมองเห็น ภีมพลเห็นเงาร่างที่สวยงามของเธอ
นึกย้อนถึงสิ่งที่ทำในวันนี้ เขารู้สึกเหมือนสนิทกับเธอมาก รู้สึกเหมือนตัวเองก็กลายไปเป็นเด็กอีกครั้ง
วัยเด็กเป็นสิ่งที่เขาภีมพลไม่เคยมีของพวกนี้มาก่อน
ตั้งแต่เด็กแม่ของเขาก็ให้เขาเรียนเสริม ตั้งแต่จำความได้คลาสเรียนทั้งหมดถูกเตรียมไว้แน่น………
แต่เขาเคยมีความสุขไหม?
ไม่มีวันไหนที่จะเหมือนวันนี้ที่มีความสุข