เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 131 ให้เวลาแค่สิบวัน
“ไม่ใช่คุณแม่ แต่เป็นคุณหมอรมิตาต่างหาก” แชมป์รีบเตือน “เธอต้องจำไว้ให้ดีนะ”
“ใช่” กรินทร์กังวล “ห้ามเผยความลับเด็ดขาด ไม่งั้นทุกอย่างจะล้มเหลว”
“อืม” ขวัญข้าวพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “หนูจะจำไว้ค่ะ”
กรินทร์ลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ “งั้นฉันขอตัวก่อนนะ ที่เหลือฝากพวกเธอด้วยละกัน ฉันจะรอข่าวดีจากพวกเธอนะ”
“วางใจเถอะ พวกเราจะพูดให้คุณยายยอมเอง”
5 นาทีต่อมา…
ในห้องนั่งเล่นเรียบง่ายและหรูหราชั้นบนเงียบเสียจนได้ยินเสียงเข็มตกลงพื้น
ผ้าไหมนั่งยองๆ อยู่ข้างคะนึงนิตย์ จับมือเธอราวกับเป็นลูกสาวและโน้มน้าวใจอย่างอดทน “คุณนาย ไม่อยากสวมชุดกระโปรงเต้นแล้วเหรอคะ? คุณนายชอบเต้นมากตอนยังวัยรุ่น”
“รมิตาเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?” คะนึงนิตย์เกินความรู้สึกขัดแย้งภายในจิตใจ “ฉันไม่ชอบความผิดหวังหลังจากที่คาดหวัง สำหรับฉันแล้ว…มันคือความสิ้นหวัง” อันที่จริงเธอรู้สึกอยากจะมีมันเช่นกัน เพียงแต่เธอไม่กล้าพอ
ในขณะนั้นเอง เด็กๆ เดินมาถึงหน้าประตูห้อง
“คุณยาย”
คะนึงนิตย์เหลือบมอง ผ้าไหมเองก็ยืดตัวขึ้น ก่อนที่เด็กๆ จะวิ่งกรูเข้าไปอย่างมีความสุข
ผ้าไฟรีบไปหยิบขนมทันที
“คุณยาย เมื่อกี้เราได้ยินสิ่งที่พี่ผ้าไหมพูดกับคุณยายโดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว”
“คุณยาย ทำไมถึงไม่ยอมรับการรักษาล่ะ? เดี๋ยวนี้การแพทย์ก้าวหน้าไปมาก ทุกอย่างสามารถเป็นไปได้” ขวัญข้าวเอียงศีรษะเล็กน้อย “คุณยายร่างกายแข็งแรง ถ้ารักษาหาย คุณยายอาจจะได้เป็นนางฟ้าเลยนะคะ”
คะนึงนิตย์ฟังแล้วไม่ชอบใจสักเท่าไร เธอยังห่างจากคำว่านางฟ้าอีกเยอะ!
เธอมันเป็นปีศาจที่มีแผลเป็นน่าเกลียดเต็มตัวต่างหาก!
แต่เมื่อต้องเผชิญกับเด็กไร้เดียงสาและร่าเริง เธอที่ปกติมักจะใจร้ายกลับพูดอะไรไม่ออก เธอจึงเงียบเป็นเวลาเนิ่นนาน
ชอบเด็กทั้งสองคน แต่ยอมรับนภาลัยไม่ได้
เธอมักจะคิดอยู่เสมอว่าหากเป็นลูกที่เกิดจากญาณี ทุกอย่างคงจะสมบูรณ์แบบ
“พวกเธอคิดว่ายายควรจะรักษาเหมือนกันใช่ไหม?” ไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆ เธอก็ถามกลับแบบนี้
คำพูดนั้นทำให้ผ้าไหมที่กำลังยกจานขนมตกใจ คุณนายตั้งใจจะรักษา!
เธออดไม่ได้ที่จะเร่งความเร็วของฝีเท้าและเกลี้ยกล่อมต่อไปอย่างนุ่มนวล “คุณนายคะ ยังไงว่างๆ ก็ลองทำดูดีไหมคะ!”
“เธอพาเด็กๆ ลงไปเล่นเถอะ ฉันขอเวลาคิดทบทวนอีกหน่อย”
คิดทบทวนถือว่ามีความหวัง
ดังนั้นแชมป์และขวัญข้าวจึงโบกมือลาคุณยายและลงไปชั้นล่าง
คะนึงนิตย์กลับไปที่ห้องของตนเอง เธอล็อกประตูและเดินไปนั่งที่ระเบียง
โต๊ะเครื่องแป้งว่างเปล่า มีแค่หวีไม้จันทน์วางอยู่
การใช้สกินแคร์ดูแลผิวและเครื่องสำอางดูเหมือนจะเป็นอดีตไปแล้ว
เธอเปิดลิ้นชักหยิบอัลบั้มภาพออกมา เปิดดูด้วยอารมณ์ซับซ้อน คนในรูปใส่ชุดเต้นรำสวยหรูอยู่ในห้องซ้อมเต้น…
รอยยิ้มบนใบหน้านั้นสวยงามและเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เธอเปิดดูรูปทีละภาพ ก่อนจะโทรไปที่เบอร์ของกรินทร์ด้วยตนเอง
เธอกล่าวว่า “พารมิตามาที่นี่ ฉันจะเตรียมห้องไว้ให้ ให้เวลาพวกเธอแค่สิบวันเท่านั้น ถ้าไม่เห็นผลภายในสิบวัน ฉันจะคิดว่าพวกเธอคือมิจฉาชีพ และพวกเธอจะต้องชดใช้ให้ฉัน!”
รอยยิ้มสวยงามบนใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ
สิบวัน?
แม้ว่ากรินทร์จะคิดว่าเวลานี้มันน้อยไปหน่อย แต่ในที่สุดเขาก็ตอบตกลง “ได้ครับ”
วิธีของแชมป์และขวัญข้าวใช่ได้ผล!
อย่างน้อยทัศนคติของเธอเปลี่ยนแปลงไปเกือบ 180 องศาก็ว่าได้ ส่วนเรื่องของเวลา…จะเป็นเวลาสิบวัน ยี่สิบวันหรือสองสามเดือนค่อยว่ากันในภายหลัง ตอนนี้ไปรีพัลส์เบย์ก่อน
ช่วงเย็น
กรินทร์เก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่บรรจุเสร็จแล้วเข้าไปในรถเสร็จ จึงพานภาลัยขึ้นรถ
รถแล่นไปทางรีพัลส์เบย์
“แบบนี้ยังจำฉันได้ไหม?” นภาลัยมองเสื้อผ้าของตนเอง ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายหน้ากากอันละเอียดอ่อนบนใบหน้าของเธอ
“ผมดูไม่ออก” กรินทร์พูด “ขอแค่เขาคิดไม่ถึงว่าคุณจะทำแบบนี้ เขาก็ไม่สงสัยคุณแล้ว”