เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 169 คำปฏิเสธ
สาวใช้คนฟิลิปปินส์ผมทองอดใจไม่ไหวจนพูดออกมา “ใช่ค่ะ คุณภีมต้องสวมแหวนให้คุณในงานเลี้ยงเพื่อแสดงความหมายนิจนิรันดร์ ดังนั้นคุณเลือกชุดราตรีที่ชอบมาชุดหนึ่งเถอะค่ะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณหนูอลิซจะเข้าสู่วงการออกเครื่องประดับอย่างเต็มตัวแล้วค่ะ”
นัยน์ตาญาณีเปล่งประกายขึ้นมาแวบหนึ่ง นี่คือสิ่งที่คุณเอ็ดพูดว่าต้องการขอความช่วยเหลือเรื่องหนึ่งที่พูดในโทรศัพท์นั่นนะเหรอ?
“ส่วนแหวนวงนี้ที่พวกคุณเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ก็จะถูกประมูลราคาสูง คุณเอ็ดยังตั้งใจจ่ายเงินค่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับพวกคุณเป็นเงินก้อนโตอีกด้วยค่ะ”
ทันใดนั้นญาณีรู้สึกตนเองสูงส่งขึ้นมา!
“คุณญาณีอย่ามัวแต่อึ้งอยู่เลยค่ะ รีบเลือกชุดราตรีเถอะค่ะ เมื่อเลือกชุดราตรีได้แล้วค่อยจัดการเรื่องแต่งหน้า งานเลี้ยงฉลองในค่ำคืนนี้มาตรฐานสูงมาก คนมีชื่อเสียงทั่วทุกมุมโลกต่างมากันหมด ทรงผมกับชุดราตรีต้องเขาเซทกัน นอกจากคุณหนูอลิซ คืนนี้คุณก็คือตัวเอกที่สะดุดตาที่สุดค่ะ”
“โอเคค่ะ ฉันจะเลือกเดี๋ยวนี้” ญาณีไม่ได้ดีใจแบบนี้มานานมากแล้ว
ภายในอาคารสถาปัตยกรรมทางด้านตะวันออกสักมุมหนึ่งของปราสาท ห้องรับแขกที่จัดงานได้อย่างมีสไตล์
ภีมพลได้รับการต้อนรับตามมาตรฐานสูงที่สุดของคุณเอ็ด ทางด้านนอกมีบอดี้การ์ดคอยรับใช้ นักธุรกิจทั้งสองต่างเจรจาปรึกษาหารือกันอย่างเปิดเผยอยู่ในห้องนั่งเล่น
มีกลิ่นหอมของชาจางๆ ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ
เอ็ดนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่สั่งทำขึ้นโดยเฉพาะสนนราคาอยู่ที่ห้าสิบล้าน เขาแต่งตัวอย่างเรียบร้อยสะอาดสะอ้านและมีผ้าห่มสีฟ้ายาวปิดถึงหัวเข่า
ผู้ชายอายุ 50 กว่า มองดูยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลย
เขานำกล่องสีม่วงใบเล็กอันวิจิตรกล่องหนึ่งวางไว้บนโต๊ะวางถ้วยชา “คุณภีม คุณลองดูนี่หน่อยครับ”
ภีมพลหยิบกล่องนั้นขึ้นมา ข้อนิ้วมือที่แบ่งชัดเจนค่อยๆ เปิดออก แหวนวงหนึ่งสะท้อนเข้าตาซึ่งมันได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่นเป็นพิเศษ
ความรู้สึกแรกคือสวยมาก
ระหว่างที่เขาชื่นชมอยู่ แหวนเพชรมีการฝังเป็นพิเศษ เป็นรูปหัวใจที่มีรูปลักษณ์อันแสนโรแมนติก การออกแบบสง่างามเฉพาะตัว ซึ่งสามารถได้รับความชื่นชอบจากเด็กสาวได้เป็นอย่างมาก
“รู้สึกเป็นไงบ้าง?” เอ็ดตั้งหน้าตั้งตารอคอยคอมเม้นท์ของเขาอย่างเต็มที่ “นี่คือฝีมือในการออกแบบของลูกสาวของผมเอง”
จากฝีมือเด็กสาวที่มีอายุ 18 ปีเนี่ยนะ? ภีมพลแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง
เขานำแหวนที่อยู่ในกล่องออกมาอย่างระแวดระวัง
เพชรเม็ดงามน้ำดีสิบเม็ดล้อมเพชรเม็ดหลัก เหมือนเจ้าบ่าวประสานมือกับเจ้าสาว เพื่อนำพาหญิงสาวอันเป็นที่รักประคองอยู่ในอุ้งมือ ให้ความรู้สึกสวยงามอย่างที่สุด และไม่รู้สึกเกินจริงสักนิด
ถึงแม้แนวคิดจะบ้านๆ มาก แต่ก็ได้รับการตอบรับจากหญิงสาวที่ดีมาก
“มีแค่วงนี้วงเดียว ใช่มั้ยครับ?” ภีมพลคาดเดา
“ตอนนี้ใช่ครับ” ใบหน้าเอ็ดประดับรอยยิ้มแห่งความชื่นชม “นี่เป็นผลงานแรกของลูกสาวผมเอง เธออยากจะสร้างแบรนด์ขึ้นมาเอง เพื่อสั่งทำแหวนโดยเฉพาะบุคคล สุภาพบุรุษทุกท่านสามารถใช้บัตรประจำตัวประชาชนได้เพียงครั้งเดียวในสั่งทำแหวนหนึ่งวงเป็นพิเศษ”
“ความคิดนี้ไม่เลวทีเดียว แถมยังออกแบบได้พิเศษมากๆ” ภีมพลที่เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการเครื่องประดับออกปากรับประกันแล้ว “วัยรุ่นก็ต้องมีความฝัน ในฐานะคนเป็นพ่อ คุณก็ควรจะสนับสนุนเธอ”
เอ็ดได้ยินคำพูดนี้ มีความสุขมากอยู่ในใจ
“อยากจะเรียนเชิญคุณช่วยมาถ่ายวิดิโอโปรโมตให้กับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของผมได้มั้ยครับ? คืนนี้เลย” คุณเอ็ด พูดแผนของตนเองออกมา “อาศัยจังหวะที่สื่อมวลชนอยู่ที่นี่ โดยการนำแหวนวงนี้สวมให้กับญาณี และแสดงละครขอแต่งงานอันโรแมนติก ทุกคนล้วนรู้สึกว่าพวกคุณสองคนเหมาะสมกันมาก คู่หนุ่มหล่อสาวสวย แต่ผมทราบดีว่าคุณแต่งงานแล้ว ซึ่งมันเป็นเพียงแอมบาสเดอร์ของแบรนด์เท่านั้นเอง มันแค่เฟคนิวส์เท่านั้น พอผู้ชมซื้อก็จบเรื่องแล้วครับ”
“เรื่องการเป็นแอมบาสเดอร์ไม่มีปัญหาเลยครับ” ภีมพลยกหูแก้วเซรามิกขึ้นมา เขาจิบชาหนึ่งอึก
“ขอบคุณครับ!” เอ็ดดีใจมาก
ภีมพลวางแก้วชาลง นัยน์ตาเหล่มองเขาอย่างสงบนิ่ง “แต่ผมไม่อยากทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ในฐานะสามีคนหนึ่ง ผมไม่อยากให้ภรรยาของผมต้องถูกรบกวนจิตใจจากข่าวพวกนี้มากกว่าครับ”
“ผมคิดว่านายหญิงน้อยต้องเข้าใจแน่นอน แค่ถ่ายคลิปโปรโมตเท่านั้นเอง” เอ็ดคิดอย่างเปิดเผย “พวกคุณมีลูกด้วยกันแล้ว ความรู้ต้องมั่นคงต่อกันแน่นอน” ในเมื่ออยู่ต่างประเทศมาหลายปี ความคิดความอ่านจึงไปทางแนวคิดของชาวตะวันตก
“ไม่ใช่ว่าเธอไม่เข้าใจนะครับ” ภีมพลอธิบาย “ผมไม่ต้องการเอง เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอ”
“…” รอยยิ้มที่ประดับใบหน้าแข็งเอ็ดทื่อทันที
“ผมพูดแล้วว่า เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ไม่ติดปัญหาเลย จะให้ถ่ายคลิปโปรโมตก็ได้หมด” น้ำเสียงภีมพลอ่อนโยน “แต่ไม่ใช่ตอนนี้ และก็ไม่ใช่คืนนี้ด้วย เอาไว้คราวหน้าผมพาภรรยาของผมมาหาคุณ คุณบอกว่าให้ไปถ่ายที่ไหนก็ไปถ่ายที่นั่นแหละ คุณอยากจะถ่ายแบบไหนก็ถ่ายตามนั้นทั้งหมด ได้มั้ยครับ?”
“…” เอ็ดหมดคำพูดในการต่อรอง คนเขาพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว จะให้เกลี้ยกล่อมยังไงก็ไม่เหมาะไม่ควรแล้ว
มุมปากภีมพลเปื้อนรอยยิ้ม นัยน์ตาเผยรัศมีความจริงใจออก เขาพูดว่า “ผมรักเธอ ก็เพื่อต้องการช่วยปฏิเสธข่าวอื้อฉาวทั้งหมดกับเธอ และหวังว่าคุณจะเข้าใจนะครับ”
เอ็ดตกใจมาก ผู้ชายที่มีข่าวอื้อฉาวกับผู้หญิงเป็นศูนย์ เมื่อเวลาเผชิญหน้ากับความรู้สึกจะรักมั่นถึงขนาดนี้