เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 173 รักเขามากกก
เบญญาชอบนภาลัยเป็นพิเศษ เป็นเหมือนแฟนคลับของเธอ แล้วเบญญาจะยอมให้เธอได้รับความอัดอั้นตันใจได้อย่างไร?
ถ้าเธอใช้ฐานะลูกสาวของนายกเทศมนตรีโจมตีภีมพล ก็สามารถทำให้เขาเดือดร้อนได้! เพราะธุรกิจและการเมืองนั้นเชื่อมโยงกัน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้
นภาลัยจับมือเธอ และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณที่เธอเป็นห่วงฉันมากขนาดนี้ ฉันไม่ทันระวังตัวเลยชนประตู เพราะตอนกลางคืนตอนที่ฉันลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำไม่ได้เปิดไฟ บางทีน้ำตาลในเลือดอาจจะต่ำ จนทำให้ฉันเป็นลมหมดสติไป”
“เธอเป็นหมอ แต่ปล่อยให้น้ำตาลในเลือดของตนเองต่ำได้อย่างไร?” เบญญาอยากจะคุยกับเธออย่างจริงจัง “เป็นผู้หญิงต้องรู้จักทะนุถนอมตัวเอง!”
“ฉันรู้แล้ว” นภาลัยถอนหายใจเบา ๆ “วันนี้ฉันทาคอนซีลเลอร์ปกปิดแล้ว”
เธอกล่าวตามตรงว่า “ปกปิดไม่ได้หรอก เพราะใบหน้าของเธอบวมแล้ว!”
นภาลัยยื่นมือออกไปกอดเธอ ปลอบโยนด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะ เธออย่าโมโหอีกเลย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับภีมพล เขากับญาณีเป็นแค่เพื่อนร่วมงานธรรมดาเท่านั้น อย่าทำให้เป็นเพราะเรื่องของฉันแล้วทำให้คุณเสียสุขภาพ เป็นผู้หญิงต้องรู้จักทะนุถนอมตัวเองด้วย!”
“ฉันว่าเธออยู่เนี่ยนะ!” เบญญาผลักเธอออกไปด้วยความจำใจ “ไม่ใช่เธอมาว่าฉัน! ฉันสบายดี ไม่จำเป็นต้องทะนุถนอมอะไร!”
“ฉันรู้ ฉันจำไว้แล้ว” นภาลัยยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย “ตอนนี้เวลาก็สายแล้ว ฉันต้องกลับก่อน พรุ่งนี้ภีมพลก็กลับมาแล้ว”
“บังเอิญวันนี้ฉันมีธุระเหมือนกัน” เบญญาถอนหายใจด้วยความจำใจ “คุณพ่อให้ฉันกลับไปทานอาหารเย็นที่บ้าน และใกล้จะถึงเวลาแล้วเช่นกัน”
พวกเธอสองคนโบกมือลา
นภาลัยนั่งแท็กซี่กลับไปที่รีพัลส์เบย์ วิลล่า เธอนั่งเบาะหลัง ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปใบหน้าตนเอง แก้มขวาบวมมากจริง ๆ สาเหตุเป็นเพราะฟันโยก
หลังลงจากรถแล้ว เธอเดินเข้าไปในลานของรีพัลส์เบย์ วิลล่า
คะนึงนิตย์ยืนอยู่ตรงหน้าต่างในห้องรับแขก มองเธอที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความเย็นชา
“คุณนายนิตย์” หลังจากเดินเข้ามาในห้องรับแขกแล้ว นภาลัยกล่าวทักทายเธอ
สีหน้าของคะนึงนิตย์เย็นชา เธอไม่ตอบ ดูเหมือนว่าคะนึงนิตย์ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเธอ
นภาลัยเดินขึ้นชั้นบนทันที เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพที่เห็นบนหน้าจอขนาดใหญ่ ที่ด้านนอกของห้างสรรพสินค้าเมื่อสักครู่ ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าตนเองรู้สึกอย่างไร? อิจฉาริษยา?
เมื่ออยู่ต่อหน้าเบญญาแล้ว เธอสามารถสงบได้
แต่หลังจากสงบสติอารมณ์และคิดทบทวนแล้ว เธอเกิดความคิดบางอย่าง เพราะอย่างไรเสียเธอเป็นผู้หญิง
บางทีสำหรับภีมพลแล้ว ไม่มีใครสามารถแทนที่ญาณีได้เช่นกัน
หลังจากล้างเครื่องสำอางแล้ว เธอก็ทายาบนใบหน้าที่บวม
จากนั้นเธอเดินไปที่ห้องวิจัยยา เพื่อพัฒนาและปรุงยารักษาโรคกระเพาะให้ภีมพล
ห้องรับแขกชั้นล่าง แสงแดดอบอุ่นสาดส่องเข้ามา
คะนึงนิตย์นั่งอยู่บนโซฟา ส่วนผ้าไหมนั่งอยู่ข้างหน้าและกำลังทายาให้เธอ
หลังจากถอดถุงมือแล้ว แขนขวาฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี และสามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตาเปล่า
“คุณนายนิตย์” ผ้าไหมรู้สึกมั่นใจอย่างกะทันหัน “ทาที่หน้าด้วย อีกไม่กี่วันคงจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่”
คะนึงนิตย์ชื่นชมผิวทุกส่วนบนแขนที่ฟื้นฟูอย่างช้า ๆ และรู้สึกตื่นตระหนก
รอยแผลเป็นสิบเอ็ดปี ภายใต้ความพยายามของผู้หญิงคนนี้ ตอนนี้รอยแผลของเธอเริ่มฟื้นฟูแล้วจริง ๆ
นิวยอร์ก ในปราสาทที่สวยงาม
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว คุณเอ็ดยืนส่งแขกคนสุดท้ายขับรถออกไปจากปราสาท
กลางคืนที่มืดมิด สาวใช้ชาวฟิลิปปินส์เหล่านั้นทำงานและอาบน้ำเสร็จแล้ว แต่ญาณีที่สวมชุดราตรีสวยงามยังคงนั่งอยู่ริมสระว่ายน้ำ
เธอถือแก้วไวน์แดงอยู่ในมือ และมองน้ำประกายระยิบระยับอยู่ภายใต้แสงจันทร์ ตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจมาก
ความเจ็บปวดตรงหัวใจได้กระจายไปทั่วร่างกาย
เธอเงยหน้าขึ้นและดื่มไวน์รวดเดียวหมด เธออยากจะเมา เพื่อจะได้ลืมเขาไปชั่วขณะ
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอเห็นภีมพลกำลังขึ้นรถ เธอพยายามสงบสติอารมณ์ ตอนนี้เวลาใกล้เที่ยงคืนแล้ว เขาออกไปทำอะไร?
เธอเฝ้ามองเขาขับรถออกไป ความเจ็บปวดและความหดหู่กลับมาอีกครั้ง
ญาณีบอกตนเองว่าอย่าปล่อยให้นภาลัยรักษาป้านิตย์จนหายเป็นปกติ มิเช่นนั้นเธอจะสูญเสียผู้ชายคนนี้อย่างสมบูรณ์
ความรักมักทำให้คนเสียสติ และทำให้คนคลั่งไคล้ นี่คือความอัศจรรย์ของความรัก
แต่ถ้าได้มันมาโดยที่ไม่คำนึงว่าจะใช้กลอุบายอะไร แล้วนั่นยังเรียกว่าความรักไหม?
ญาณีไม่รู้ เธอรู้เพียงแค่ว่าชาตินี้เธอขาดภีมพลไม่ได้ เธอมีชีวิตอยู่เพื่อเขา เธอรักเขาจนเป็นทุกข์
ภีมพลออกไปเลือกซื้อของขวัญให้ภรรยา เมื่อสักครู่เขาเพิ่งกล่อมลูก ๆ หลับ มิฉะนั้นเขาก็ไม่วางใจที่จะออกไปข้างนอก
นิวยอร์กตอนกลางคืนคึกคักเป็นพิเศษใน แสงไฟสว่างไสวไปทั่ว และการจราจรคับคั่งไปทุกหนทุกแห่ง
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เวลาประมาณตีห้า ท้องฟ้าเริ่มสว่าง
เสียงกริ่งประตูดังขึ้น ปลุกญาณีให้ตื่นขึ้นมา “ใครมาตั้งแต่เช้า?” เธอรู้สึกง่วงมาก ดังนั้นเธอจึงลุกขึ้นด้วยความมึนงง และเดินไปเปิดประตู