เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 229 ไวศิษฎ์โดดเด่นมาก
เธอหลงลืมความเจ็บปวดในช่องท้อง ลืมไปว่าตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บอยู่เช่นกัน
เธอเฝ้าเขาด้วยจิตใจรอคอย รอให้เขาพ้นจากขีดอันตราย
“อ๊ะ แย่แล้ว!” หมออุทานขึ้นมาทันที “คุณภีมอยู่ในอาการโคม่า!”
ญาณีตอบโต้อย่างเชื่องช้าสักครู่ เธอเหลือบตามองพร้อมน้ำตาคลอและเห็นว่าหมอกำลังยุ่ง และมีคนหยิบเครื่องมือขึ้นมา “คุณช่วยหลบทางหน่อยครับ”
เธอลุกขึ้นเดินถอยหลัง 2-3 ก้าว หมอหลายคนรีบเข้าล้อมโต๊ะผ่าตัดจนบังทัศนวิสัย
เธอกุมหัวใจไว้ ถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “อาการโคม่าหมายความว่ายังไงคะ?”
“ร่างไร้สติน่ะครับ”
“…”
“เขาอาจจะเสียชีวิตได้”
“…” ญาณีตกใจอย่างยิ่ง เธอกลั้นหายใจ ดวงตาของเธอทั้งบวมและแดงก่ำ
ประตูห้องฉุกเฉินเปิดอีกครั้ง คนในตระกูลกงพลีที่รออยู่ด้านนอกก็ล้อมพวกเขาไว้ทันที
“หมอ ลูกชายของฉันเป็นยังไงบ้าง? เขาพ้นขีดอันตรายแล้วหรือยัง?” คะนึงนิตย์อ้อนวอน
“นี่เป็นประกาศการเจ็บป่วยร้ายแรง ที่ครอบครัวจำเป็นต้องเซ็นครับ” หมอยื่นปากกาให้เธอ
“ไม่…” คะนึงนิตย์ไม่ยอมรับความจริงข้อนี้และถามด้วยอารมณ์ “กรินทร์อยู่ที่ไหน!?ให้กรินทร์ออกมาเจอฉัน! เขาคือหมอเทวดาไม่ใช่เหรอ? เขาเก่งมากนี่คะ เขามาจากเมืองไนร์ก้าทำไม? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”
หมอกรินทร์?
จู่ๆ หมอก็นึกถึงอะไรบางอย่าง แล้วรีบกลับเข้าไปในห้องฉุกเฉินทันที
ประตูปิดลงอีกครั้ง
ทุกคนที่อยู่ด้านนอกจุดประกายความหวังอีกครั้ง
“คุณนายคะ” ผ้าไหมประคองเธอ “นั่งพักก่อนดีกว่านะคะ น่าจะมีข่าวดี คุณภีมยังมีชีวิตไม่เป็นอะไรมาก ก่อนหน้านี้…ไฟยังทำอะไรเขาไม่ได้เลย”
คะนึงนิตย์ไม่สามารถฟังคำพูดที่ปลอบโยนได้ เธอรู้สึกเศร้าใจอย่างสุดซึ้ง
ในห้องเล็กๆ ด้านใน กรินทร์เตรียมขวดยาด้วยความเร็ว เขาโฟกัสกับมันจนไม่ได้ยินเสียงใดๆ รอบตัว เขาถือขวดและหันไปที่ห้องฉุกเฉินซึ่งเขาได้พบกับหมอที่ประตู
“หมอกรินทร์ แย่แล้วค่ะ คุณภีมเข้าสู่ภาวะโคม่า! สถานการณ์วิกฤติ!”
กรินทร์ผลักเธอออกไปและรีบเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
ด้านนอกห้องฉุกเฉิน
คะนึงนิตย์เสียใจมากจนทรุดตัวลง “ลูกเอ๋ย ถ้าลูกฟื้น แม่สัญญาว่าจะไม่บังคับลูกอีก ขอแค่ลูกยังมีชีวิตอยู่… แม่ก็จะอยู่ด้วย…”
“คุณนาย พักก่อนดีไหมคะ?” ผ้าไหมพูดกับเธอ “ฉันจะพยุงคุณไปพักก่อน คุณเหนื่อยมามากแล้ว”
เธอส่ายหัวทั้งน้ำตา “ไม่ ฉันอยู่เฝ้าเขาที่นี่…”
ทีเอ็ม กรุ๊ป ในห้องทำงานของประธาน
วริศเพิ่งได้รับโทรศัพท์และรู้ว่าคุณภีมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ในนิวยอร์ก
ดูเหมือนหัวใจจะเต้นผิดจังหวะ ฟาด
ข่าวนี้ต้องระงับไว้ มิฉะนั้นบริษัทจะไม่มั่นคง
ดังนั้นในช่วงเวลานี้ วริศต้องเป็นคนเลือกเสาหลักให้กับของบริษัท
เขาสามารถเลือกได้ก็จริง แต่ในขณะเดียวกัน เขากังวลมากเกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณภีม และต้องการไปหาอีกฝ่ายที่นิวยอร์ก แต่ไม่สามารถออกไปได้ เขาจึงทำได้เพียงกังวลอยู่ที่นี่เท่านั้น
ในโรงพยาบาลที่นิวยอร์ก
ไวศิษฎ์ซื้ออาหารกลางวันซึ่งเขาคัดสรรมาอย่างดีให้นภาลัย รวมถึงโจ๊ก ไข่อบ ซุปที่มีคุณค่าทางโภชนาการและขนม
เขาเพิ่งเดินเข้าไปในวอร์ดพร้อมกับกระเป๋า เมื่อเห็นเธอลุกขึ้นจากเตียง
“คุณทำอะไรน่ะ?” เขารีบวางของลงแล้วก้าวเข้าไปช่วยเธอ “หมอบอกว่าคุณต้องนอนพักมากกว่านี้”
“ฉันไม่เจ็บท้องแล้ว” นภาลัยนั่งที่ขอบเตียง ลืมตาขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันจะออกจากโรงพยาบาล”
“ไม่ได้ครับ”
“คุณบอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้เหรอ?” เธอถามด้วยรอยยิ้ม “คุณไม่มีงานที่ต้องทำเหรอ?ถึงมาเฝ้าฉันแบบนี้ แล้วทีมของคุณทำยังไงล่ะ? ไม่ต้องแข่งแล้วเหรอ?”
หลังจากพูดจบ เธอวางแผนที่จะสวมรองเท้า
“คุณออกจากโรงพยาบาลไม่ได้จริงๆ” ไวศิษฎ์จับแขนของเธอเพื่อไม่ให้เธอก้มตัวและย้ำอีกครั้งว่า “อยู่โรงพยาบาลคุณต้องเชื่อฟังหมอ”
“ฉันกำลังจะออกจากโรงพยาบาลแล้วนี่ไง ฉันไม่ชอบโรงพยาบาล!” เธอขมวดคิ้ว
เขาถอดรองเท้าของเธอออก “ผมบอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้สิ” เขาจับขาเธอกลับไปที่เตียงแล้วยกผ้าห่มขึ้นคลุม “นอนลง!”
“นี่คุณ…” นภาลัยกังวล มองดูเขาอย่างประชดประชัน “อย่าบังคับกันนักเลย ตกลงไหม?”
เขาจ้องมองที่เธอโดยไม่พูด
“ฉันจะออกจากโรงพยาบาลจริงๆ ฉันไม่ชอบโรงพยาบาล อีกอย่างฉันรู้ร่างกายของตัวเองดี ฉันไม่เจ็บแล้วจริงๆ”
ไวศิษฎ์เข้าใจบางสิ่งบางอย่าง เขาโกรธและจ้องเธออย่างเย็นชา “คุณรู้ตัวไหมว่าเพิ่งแท้งลูกไป?”