เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่255 ถามหาแม่ของเด็ก
“เดิมทีลูกไม่ชอบขี้หน้าเธอ แต่เพื่อให้เด็กๆ มีครอบครัวที่สมบูรณ์ ลูกจึงตัดสินใจพยายามคบหากับเธอ แต่ความจริงแล้วในระยะเวลาเพียงไม่นานเธอก็นอกใจ ผู้หญิงที่ไม่รู้จักพอคนนั้นสวมเขาให้ลูก”
ภีมพลเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างนิ่งๆ เขาครุ่นคิด
“ภีม ที่ลูกประสบอุบัติเหตุรถชนก็เพราะเธอ ลูกเห็นเธอเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับชายอื่น จึงไล่ตามเธอและถ่ายหลักฐานบางอย่าง แต่ไม่คาดคิด……”
“สรุปเลยแล้วกัน ภีม มันไม่ใช่เรื่องที่ดี ลืมไปแล้วก็ให้ลืมไป”คะนึงนิตย์กล่าวด้วยความเจ็บปวดหัวใจ “ญาณีต่างหากที่เป็นคู่หมั้นของลูก ถ้าไม่ใช่เพราะจู่ๆ เด็กสองคนนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ลูกทั้งสองคนคงจะได้แต่งงานกันไปนานแล้ว”
ภีมพลเย็นลงเล็กน้อย เขาจิบชาไปหนึ่งอึก
“ลูกทั้งสองเติบโตมาด้วยกันชอบพอกันมาตั้งแต่วัยเด็ก มีความทรงจำดีๆ มากมายร่วมกัน ลูกสองคนรู้จักคุ้นเคยกันดีกว่าใครๆ ลูกให้วริศจัดเตรียมงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ และลูกก็บอกว่าจะแต่งงานกับเธอ”
“ผมยังไม่อยากแต่งงาน”ภายในเสียงทุ้มต่ำของเขาเจือไปด้วยความหนักแน่นจากในหัวใจ
“เกิดเรื่องแย่ๆ แบบนี้ขึ้น แต่งงานให้ได้ปิติยินดีกันไม่ดีเหรอ?นี่คือความรักของคนทั้งสอง ในภายภาคหน้าธุรกิจก็จะสามารถเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไปได้”คะนึงนิตย์ยกยิ้มอ่อน กล่าวปลอบเขา “ เรื่องในอดีตก็ให้มันผ่านไปเถอะลูก ลูกไม่เคยให้สัญญาอะไรกับแม่เลย งานแต่งงานจะล่าช้าไม่ได้แล้วจริงๆ”
คืนนี้ภีมพลนอนไม่หลับ
เขาจำเรื่องยิบย่อยเกี่ยวกับแม่ของเด็กไม่ได้เลย สำหรับเขาแล้วเขาก็ไม่คุ้นเคยกับญาณีเช่นกัน
ในขณะที่หัวสมองขาวโพลน คะนึงนิตย์ก็ปล่อยข่าวเรื่องการแต่งงานออกไปแล้ว
และการเตรียมงานแต่งก็อยู่ในการจัดการอย่างจริงจัง……
สื่อเริ่มทยอยกันเสนอข่าวแล้ว ซึ่งเป็นการกดดันภีมพล
เช้าวันรุ่งขึ้น
เอเมอรัลด์เบย์
เด็กๆ รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ขวัญข้าวดื่มนมถั่วเหลืองเข้าไป “พี่ชาย พี่ว่าป๊าปี๊ทานอะไรได้หรือเปล่า?”
“ไม่รู้สิ รู้แต่ว่าป๊าปี๊ช่างน่าสงสาร”
“ในหนังสือบอกว่าคนที่สูญเสียความทรงจำจะมีแต่ความไม่ไว้วางใจ และเอาตัวเองไปห้อมล้อมด้วยวงจรอุบาทว์”
“แล้วที่พวกเราพูดไป ป๊าปี๊จะสงสัยมั้ย?”
“เขาน่าจะเชื่อการตัดสินใจของเขาเองล่ะมั้ง”
“ป๊าปี๊!”ขวัญข้าวสายตาเฉียบคม เธอเห็นชายหนุ่มที่หน้าประตูในแวบเดียว
ภีมพลเดินมาหาพวกเขา “อรุณสวัสดิ์”เขาได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่เหล่านั้นทั้งหมดแล้ว
“อรุณสวัสดิ์”
เด็กๆ ยังคงรู้สึกได้ถึงระยะห่าง ออร่าที่มีแต่กำเนิดของป๊าปี๊จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
นอกจากนี้เขาจำได้เพียงว่าเด็กๆ เป็นลูกของเขา และความรู้สึกที่เขาเคยดูแลมาก่อนก็คือศูนย์
และเมื่อเย็นวานคุณแม่ก็บอกเขาว่า ที่เด็กสองคนนี้เกิดมาก็ด้วยกลอุบายของหญิงผู้นั้น
เรื่องนี้ทำให้ภีมพลปวดหัว เขายังถูกหลอกด้วย?
แชมป์และขวัญข้าวเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร ทำไมไม่ยอมมานั่งล่ะ เขาลังเลที่จะพูดบางอย่างก่อนที่จะหันหลังกลับและเดินจากไป
นี่ทำให้เด็กน้อยทั้งสองสับสนงงงวย
“ป๊าปี๊เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยจริงๆ”
“ความจำเสื่อมแล้วก็เป็นอย่างนี้แหละ……”แชมป์กังวล “ช่วยให้ความทรงจำเขากลับมายังไงดีล่ะ?”
ระหว่างทางไปบริษัท ภีมพลนั่งอยู่ในรถแลมบูกินี เขาหันสายตาออกไปมองนอกหน้าต่าง “กันต์ธี หม่ามี้ของแชมป์และขวัญข้าวชื่อว่าอะไร?”
“……”กันต์ธีเหงื่อเย็นไหลไปทั่วหลัง สามารถเลี่ยงคำถามนี้ได้หรือเปล่า?แต่ว่าคุณนายสั่งกำชับไว้แล้ว
“ดูเหมือน… ดูเหมือนว่าจะชื่อนภาลัยครับ”
“แม้แต่ชื่อคุณก็ไม่แน่ใจอย่างนั้นเหรอ?”
“เธอเป็นแค่แม่ของเด็กๆ อีกทั้งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณมากนัก และผมเองก็ไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ เลยไม่เคยได้เห็นหน้า ผมก็ไม่มั่นใจจริงๆ ครับ”
“ฉันเรียกเธอว่านภาใช่ไหม?”ภีมพลคุ้นกับชื่อนี้
“ประทานโทษครับ ผมก็ไม่รู้จริงๆ”
“……”
เขาไม่ได้ถามอะไรต่อ นภา……ชื่อนี้ฝังลึกอยู่ในความคิดของเขา เธอเป็นใคร?
รถแลมบูกินีมาจอดอยู่ที่หน้าประตูทีเอ็ม กรุ๊ป
ขณะนี้เองที่ญาณีกำลังเข้าไปในลิฟท์ เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง เธอมองดูตัวเองบนกระจกภายในลิฟต์ เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและสง่างาม
เธอตั้งตารอทุกๆ เช้าให้มาถึง เพราะว่าจะได้เจอเขาที่เธอรัก
จะแต่งงานแล้ว เธอรู้สึกเหมือนราวกับฝัน อารมณ์ดีออกจากข้างในหัวใจ
ไม่ว่าเมื่อไหร่ มุมปากก็โค้งด้วยรอยยิ้มเสมอ
เมื่อภีมพลเดินเข้าไปในห้องท่านประธานบริษัท วริศกำลังจะออกมาพอดี “สวัสดีครับ คุณภีม”
“คุณมานี่”เขานั่งลงบนเก้าอี้ทำงานและมองไปที่วริศ “นภาลัยที่คุณรู้จักเป็นคนยังไง?พูดความจริงไม่อย่างนั้นผมจะไล่คุณออก !”